ยิ่งดูดาว ตัวตนยิ่งเล็กลง

ความฝันของคนเราย่อมไม่เหมือนกัน

บางคนเดินตามหาความฝันมาตลอดชีวิต แต่ก็ไม่เจอเสียที

ผมเป็นคนมีความฝันหลายอย่าง  บางเรื่องได้แต่ฝัน บางเรื่องก็เดินตามหาไปเรื่อย ๆ เจอมั่งไม่เจอมั่ง ความฝันประการหนึ่งของผมตั้งแต่เด็ก ๆ คือได้ดูดาว  เป็นการตามหาฝันที่ง่ายมาก เพียงแหงนหน้ามองท้องฟ้าในยามค่ำคืน  

ตอนเป็นวัยรุ่น เมื่อมีโอกาสได้มาออกค่ายสร้างโรงเรียนในชนบท  ตกกลางคืนไม่มีแสงไฟฟ้ารบกวน ชาวบ้านยังใช้ตะเกียงกันอยู่ เรามักจะมาปูเสื่อกลางสนามหญ้า นอนดูดาวกับเพื่อน  ตอนนั้นไม่ค่อยรู้เรื่องดาวอะไรมากนัก เพื่อนก็คอยชี้ให้ดูว่า ดาวลูกไก่เป็นกระจุกดาว ดาวจระเข้ ดาวหมีใหญ่  หน้าตาเป็นอย่างไร    บางคืนอาจเห็นดาวตกหรือผีพุ่งใต้สว่างเป็นสายยาว  และหากฟ้ามืดมิดจะเห็นทางช้างเผือกเป็นเหมือนเมฆดาวอันประกอบด้วยดาวฤกษ์นับล้าน ๆ ดวง ฟุ้งกระจายพาดผ่านกลางท้องฟ้า  เป็นภาพงดงามยิ่งนัก

จำได้แม่นว่า คืนหนึ่งเพื่อนรุ่นพี่บอกว่า ดาวบางดวงที่เราเห็นนั้น ในความจริง ตอนนี้มันอาจจะสลายตัวไปแล้วก็ได้ เพราะกว่าที่แสงสะท้อนจากดวงดาวนั้นจะเดินทางมาหาเรา มันใช้เวลาหลายสิบล้านปี

หลายปีต่อมาเมื่อต้องมาเป็นนักเขียนและนักข่าวที่ต้องทำงานคลุกคลีกับข้อมูลและข้อเท็จจริงตลอดเวลา  คำพูดนั้นได้กลับมาเตือนเราอีกครั้งหนึ่ง  ความจริงที่สายตาเห็น อาจจะไม่ใช่ความจริงเสมอไปก็ได้ เพราะขนาดดาวที่เราเห็นแท้ ๆ อาจจะไม่มีอยู่จริงก็ได้ ประสาอะไรกับข้อมูลที่เห็นต่อหน้าทุกวันว่า อย่าติดกับดักข้อมูลเหล่านั้นโดยไม่หมั่นตรวจสอบ

เป็นความรู้ใหม่อันตื่นตา ชวนให้หลงเสน่ห์ของการดูดาวมากขึ้นไปอีก  พอโตขึ้นมาหน่อย ก็ได้ติดสอยห้อยตามพรรคพวกที่มีกล้องดูดาวไปสำรวจจักรวาล

การดูดาวให้สนุกต้องปิดไฟทุกดวง อยู่ในความมืดมิด ครั้งหนึ่งผมแหงนหน้าขึ้นท้องฟ้าผ่านเลนส์ขนาด ๑๒ นิ้ว  เบื้องหน้าคือดาวเสาร์มีวงแหวนล้อมรอบ ราวกับไข่ดาวลอยอยู่ตรงหน้าลอยเด่นขึ้นมากับความมืดสนิทของจักรวาล เป็นความงามที่มิอาจอธิบายได้

เพื่อนคนหนึ่งเป็นพ่อค้าแต่บ้าดูดาวมาตั้งแต่เด็ก ความรู้จะแค่ระดับมัธยม บ้านของเขาแถวแปดริ้วเป็นห้องแถวชั้นล่างเปิดเป็นร้านขายของชำ แม้ความรู้จะแค่มัธยม แต่ข้างบนเป็นหอดูดาวมีอุปกรณ์ทันสมัยครบเครื่อง พอได้เวลาชักรอกให้หลังคาสังกะสีเปิดออก ให้เพื่อนได้ส่องกล้องดูดาวกันทั้งคืน เขาบอกว่า รู้สึกเป็นเหมือนนักบินอวกาศผู้สำรวจจักรวาลผ่านเลนส์ทุกค่ำคืน

ครั้งล่าสุดในเดือนเมษายนอากาศร้อนจัด แต่ผมกลับเย็นยะเยือกบนดอยอินทนนท์ เมื่อมาเยี่ยมชมหอดูดาวขนาดใหญ่ที่สุดในประเทศของสถาบันวิจัยดาราศาสตร์แห่งชาติ

หอดูดาวเฉลิมพระเกียรติ ๗ รอบ พระชนมพรรษาตั้งอยู่ ณ บริเวณสถานีทวนสัญญาณ ทีโอที (กม.44.4) อุทยานแห่งชาติดอยอินทนนท์ อำเภอจอมทอง จังหวัดเชียงใหม่ ที่ระดับความสูงจากระดับน้ำทะเลปานกลางประมาณ 2,457 เมตร เป็นพื้นที่ๆ มีภูมิประเทศและทัศนวิสัยที่เหมาะสมอย่างยิ่งต่อการศึกษาและสังเกตการณ์ทางดาราศาสตร์ ภายในได้ติดตั้งกล้องโทรทรรศน์ขนาดเส้นผ่านศูนย์กลาง 2.4 เมตร พร้อมระบบโดมอัตโนมัติซึ่งนับเป็นกล้องโทรทรรศน์ที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และเป็นหอดูดาวที่มีอุปกรณ์วิทยาศาสตร์ที่มีความทันสมัยที่สุดแห่งหนึ่งของโลก

คืนนั้นผมพาตัวเองเข้าไปในอาคารหอดูดาวทรงโดม  ตื่นเต้นกับเลนส์ขนาดเส้นผ่านศูนย์กลางเท่ากับกล้องโทรทรรศน์ฮับเบิลที่ลอยอยู่ในอวกาศ

เมฆหมอกไม่ค่อยเป็นใจนัก เราต้องรอกันหลายชั่วโมง จนเจ้าหน้าที่ได้ตรวจวัดระดับความชื้นว่าต่ำพอที่จะไม่ทำให้เกิดหยดน้ำบนเลนส์ได้ จึงใช้ไอแพดที่ดาวโหลดโปรแกรม ทำการเปิดหลังคาโดม เปิดฝาครอบเลนส์กล้องโทรทรรศน์และใช้ไอแพดปรับตำแหน่งกล้องเล็งไปทิศทางของดาวที่ต้องการค้นหา

คืนนั้นน้อง ๆ นักดาราศาสตร์หนุ่มใช้ไอแพดและกล้องโทรทรรศน์พาผมไปดูดาวพฤหัสที่เห็นดวงจันทร์ดาวบริวารหลายดวงเป็นจุดดำใหญ่ลอยเด่นอยู่เบื้องหน้า และพาท่องจักรวาลไปที่เรียกว่า Deep Sky คือไม่ได้ดูเฉพาะดาวเคราะห์อย่างเดียว แต่ดูลึกไปยังกาแล็กซี่ หรือเนบิวล่าที่อยู่ห่างไกลออกไป ไม่ว่าจะเป็น ดาวซิริอุสหรือดาวโจร ดาวส่องสว่างที่สุดในท้องฟ้า เนบิวล่าโอไรออน ในกลุ่มดาวนายพราน  กระจุกดาวลูกไก่ กาแล็กซี่แอนโดรเมดารูปวงรีลอยเด่นตัดกับความมืดมิดของจักรวาล

เราดูดาวไม่นานนัก ก็ต้องปิดกล้องเสียแล้ว เมื่อเครื่องตรวจวัดความชื้นเตือนว่าระดับความชื้นสูง อาจเกิดหยดน้ำสร้างความเสียหายแก่เลนส์ได้ การดูดาวจึงต้องยุติลงโดยปริยาย แต่เวลาสั้น ๆ นั้น ได้ทำให้ผมรู้สึกเลยว่า มนุษย์ไม่ได้โดดเดี่ยวเดียวดายในจักรวาลเลย

น่าดีใจที่ผู้ใหญ่หลายคนในบ้านเราได้ผลักดันอย่างเงียบ ๆ จนกระทั่งสามารถจัดตั้งสถาบันวิจัยดาราศาสตร์ขึ้นได้สำเร็จ ซึ่งถือว่าเป็นองค์กรอิสระที่ช่วยทำให้คนในประเทศได้หันมาสนใจดาราศาสตร์ โดยเฉพาะเยาวชนที่มีความตื่นตัวมากในการดูดาว

เยาวชนจากเชียงใหม่คนหนึ่งที่ได้คุยด้วย บอกว่า ชอบดูดาวมาแต่เด็ก เรียนรู้ว่าในกาแล็กซี่ทางช้างเผือกมี ดาวฤกษ์แบบดวงอาทิตย์นับแสนล้านดวง และในจักรวาลมีกาแล็กซี่นับแสนล้านกาแล็กซี่ จึงยิ่งชอบดูดาว เพราะทำให้รู้สึกว่าตัวเรานั้นเล็กกระจิดริดจริง ๆ

ผมเชื่อว่าการดูดาว ทำให้คนคิดเป็นวิทยาศาสตร์มากขึ้น หัดตั้งคำถามใหญ่ ๆ มากขึ้น และอาจจะได้คิดว่า เรื่องราวในจักรวาลนี้ มันยิ่งใหญ่ไพศาลกว่าเรื่องราวบนโลกมนุษย์ซึ่งยิ่งกว่าเศษเสี้ยวผงธุลีจริง ๆ

ล่าสุดเมื่อวันที่ ๖ มิถุนายน ได้มีโอกาสดูดาวศุกร์ผ่านหน้าดวงอาทิตย์  หากใครพลาดครั้งนี้ต้องรออีกร้อยปีถึงจะเกิดอีก ผมสังเกตเห็นดาวศุกร์ที่มีขนาดใกล้เคียงกับโลกเป็นจุดดำเล็ก ๆค่อย ๆ เคลื่อนผ่านดวงอาทิตย์สีส้มดวงใหญ่

ยิ่งดูดาวมาก ๆ ตัวตนของเรายิ่งเล็กลงเรื่อย ๆ คุณว่าไหม

กรุงเทพธุรกิจ  มิย. 55

ใส่ความเห็น

This site uses Akismet to reduce spam. Learn how your comment data is processed.