เมื่อเร็ว ๆนี้มีข่าวเล็กน่าสนใจ แต่คนส่วนใหญ่มองข้ามไป
ข่าวนี้ตอกย้ำว่า ปัญหาภัยธรรมชาติทั้งหลายทั้งปวง อย่าไปโทษปัจจัยอื่นเลย แต่มนุษย์เป็นตัวการแท้ ๆ
สำนักข่าวซีบีเอส รายงานว่า องค์การบริหารสมุทรศาสตร์และชั้นบรรยากาศแห่งชาติ ของประเทศสหรัฐอเมริกา NOAA (National Oceanic and Atmospheric Administration) ซึ่งเป็นหน่วยงานอันดับหนึ่งในการติดตามสภาพการเปลี่ยนแปลงภูมิอากาศทั่วโลก ได้ออกมายอมรับเป็นทางการครั้งแรกว่า สภาพอากาศอันเลวร้ายขึ้นเรื่อย ๆในรอบหลายปีที่ผ่านมา สาเหตุสำคัญมาจากการกระทำของมนุษย์ หลังจากมีการถกเถียงมายาวนานว่า ปัญหาโลกร้อน การเปลี่ยนแปลงภูมิอากาศอย่างรุนแรง เป็นวัฎจักรของธรรมชาติ หรือมนุษย์เป็นผู้กระทำ
ผมจำได้ว่าตลอดระยะเวลานับสิบปี ปัญหาโลกร้อนมีการถกเถียงกันตลอด นักวิทยาศาสตร์จำนวนมากเชื่อว่าส่วนใหญ่มาจากฝีมือมนุษย์ที่เป็นตัวการปล่อยก๊าซเรือนกระจก แต่นักวิทยาศาสตร์อีกฝ่ายหนึ่งพยายามให้เหตุผลว่า ไม่จริง ปัญหาโลกร้อนเป็นวัฎจักรของธรรมชาติ ในประวัติศาสตร์เกิดขึ้นมาตลอด
แต่ครั้งนี้นักวิทยาศาสตร์ด้วยกันออกมายอมรับความจริงกันแล้ว จากหลักฐานและงานวิจัยที่เพิ่งค้นพบ
งานวิจัยทางวิทยาศาสตร์ที่ได้จากการเก็บข้อมูลทางอากาศมาตลอดห้าสิบปีของ NOAA พบว่า ภัยแล้งที่เกิดขึ้นอย่างรุนแรงเป็นประวัติการณ์มากกว่าปรกติถึง 20 เท่าในรัฐเท็กซัสเมื่อปีที่แล้ว เป็นผลมาจากการปลดปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ขึ้นสู่ชั้นบรรยากาศซึ่งมนุษย์เป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้เกิดสภาพอากาศแปรปรวนจนเกิดภัยแล้งระบาดไปทุกหย่อมหญ้า
แต่ที่สำคัญก็คือ งานวิจัยของNOAA ได้บอกเราว่า ปรากฎการณ์ที่เกิดขึ้นในเท็กซัสนั้น สามารถอธิบายปัญหาภัยแล้ง โลกร้อน น้ำท่วม ที่เกิดขึ้นทั่วโลกด้วยว่า ต้นเหตุส่วนใหญ่มาจากฝีมือของมนุษย์ในการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ และยังมีตัวอย่างจากพายุทอร์นาโดและพายุเฮอริเคนที่กระหน่ำพัดทำลายสหรัฐอเมริกาสร้างความเสียหายไปหลายพันล้านดอลล่าร์ อากาศวิปริตในตอนกลางของเกาะอังกฤษทำให้เกิดภัยแล้งจัดสูงเป็นประวัติการณ์ถึง 60 เท่า ไปจนถึงภาวะน้ำท่วมฉับพลันในออสเตรเลีย และภัยแล้งในทวีปแอฟริกาเมื่อปีกลาย รวมไปถึงภาวะฝนตกหนักแถบเอเชีย
นักวิทยาศาสตร์แห่ง NOAA ได้บอกเราว่า ภัยธรรมชาติอันรุนแรงที่เกิดมากขึ้นเรื่อย ๆ นั้น โดยเฉพาะเมื่อปี ค.ศ.2011 ถือว่าเป็นปัญหาอากาศแปรปรวนมากที่สุด มาจากมนุษย์เป็นตัวแปรสำคัญ นับวันจะมีการใช้รถยนต์และพลังงานไฟฟ้ามากขึ้นเรื่อย ๆ
ยิ่งมนุษย์ใช้มากก็ยิ่งต้องบริโภคน้ำมัน ถ่านหิน นิวเคลียร์ ซึ่งมีส่วนสำคัญในการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสู่ชั้นบรรยากาศ
ภายในปีเดียวประเทศจีนติดตั้งเครื่องปรับอากาศเพิ่มขึ้นมา 50 ล้านเครื่อง เปรียบเทียบกับประเทศสหรัฐอเมริกาติดตั้งเพิ่มขึ้น 36 ล้านเครื่องภายในเวลา 16 ปี เรียกได้ว่าจีนสามารถโค่นแชมป์เก่าผู้ใช้เครื่องปรับอากาศมากที่สุดในโลกอย่างสหรัฐอเมริกาได้สำเร็จ
ทุกวันนี้ประเทศจีนใช้ไฟฟ้าสูงขึ้นอย่างก้าวกระโดดตามยอดขายเครื่องปรับอากาศที่เพิ่มขึ้นอย่างมหาศาล ไม่รวมถึงการสั่งซื้อน้ำมันจากต่างประเทศที่สูงปรี๊ดทุกปี จากยอดขายรถยนต์ที่พุ่งติดจรวดตามอัตราการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจของประเทศ
ประเทศที่กำลังมีการใช้ไฟฟ้าและน้ำมันตามมาติด ๆ ก็คือ อินเดีย
ลองนึกดูว่า ประชากรสองประเทศสองพันกว่าล้านคนใช้น้ำมันและไฟฟ้าโดยถ้วนหน้า อะไรจะเกิดขึ้น
ก่อนหน้านี้ประเทศสหรัฐอเมริกา ญี่ปุ่นและยุโรปคือตัวการสำคัญทำให้เกิดโลกร้อน แต่ตอนนี้ตัวการสำคัญลามมาถึง จีนและอินเดียแล้ว
เรียกได้ว่ามนุษย์ทั่วโลกได้ช่วยกันสร้างปัญหาโลกร้อน
ความรุนแรงของการเปลี่ยนแปลงทางภูมิอากาศทั่วโลก นับวันจึงทวีความรุนแรงมากขึ้นเรื่อย ๆ ไม่ว่าพายุฝน น้ำท่วม ภัยแล้ง อากาศร้อนจัด หิมะถล่ม
อีกไม่นานเกินรอ มนุษย์ทั่วโลกคงต้องชดใช้กรรมร่วมกันอย่างแน่นอน
กรุงเทพธุรกิจ 19 กค. 55