เห็นชื่อเรื่องนี้แล้ว คนรุ่นใหม่หลายคนอาจจะทำสีหน้างงงวย นึกในใจว่า หลวงพ่อประจักษ์คือใครหรือ
แต่หากย้อนไปเมื่อเกือบยี่สิบปีก่อน ชื่อของหลวงพ่อประจักษ์ดังเป็นข่าวพาดหัวตามหน้าหนังสือพิมพ์ไม่เว้นแต่ละวัน ในฐานะพระตัวแสบสำหรับราชการ และนายทุนที่ต้องการทำลายป่า ขณะที่ในสายตาของชาวบ้านแล้ว คือพระนักอนุรักษ์ผู้ไม่ยอมก้มหัวให้กับการทำลายป่าดงใหญ่อย่างเด็ดเดี่ยว จนต่อมาความอุดมสมบูรณ์ของป่าดงใหญ่ ได้กลายเป็นส่วนหนึ่งของมรดกโลกทางธรรมชาติ ร่วมกับอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ และอุทยานแห่งชาติทับลาน
แต่รางวัลที่ท่านได้รับคือ การถูกคุกคาม ตามล่าเอาชีวิต จนต้องหนีออกจากพื้นที่ ถูกบีบให้สึก ถูกทำลายชื่อเสียงต่าง ๆ นานา จนชื่อของท่านเงียบหายจากไปเป็นเวลานาน
……………………..
ในวัยหนุ่มฉกรรจ์ พระประจักษ์ในชื่อของฆราวาส ประจักษ์ เพชรสิงห์ เป็นคนเมืองสระบุรี ภาพลักษณ์ที่พบเห็นทั่วไปคือหนุ่มรูปร่างใหญ่ ล่ำสัน ผิวคล้ำ ได้บวชเมื่ออายุ 39 ปี และมาจำพรรษาอยู่ที่ถ้ำพระโพธิสัตว์ อำเภอแก่งคอย เริ่มฝึกกรรมฐานกับหลวงพ่อคำตัน
“ตอนอายุสามสิบกว่า เคยไปทวงหนี้คนที่เสียพนันฉัน แล้วเขาก็ยิงฉันจนบาดเจ็บสาหัส เลยตั้งใจว่าถ้ารอดตายจะบวชให้แม่ ”
พระประจักษ์ได้ออกธุดงค์จาริกไปตามป่าเขาทั่วประเทศ ตั้งแต่แม่ฮ่องสอนจรดปาดังเบซาร์เป็นเวลานับสิบปี จนกระทั่งในปีพ.ศ. 2532 หลวงพ่อประจักษ์และพระรูปอื่นได้ธุดงค์ผ่านป่าดงใหญ่ อำเภอปะคำ จังหวัดบุรีรัมย์ แล้วท่านก็พบสถานที่เหมาะกับการปฏิบัติธรรม นั่นคือเขาหัวผุด อันเป็นส่วนหนึ่งของป่าสงวนดงใหญ่ ซึ่งมีพื้นที่กว้างใหญ่ 6 แสนกว่าไร่ และเป็นต้นกำเนิดของแม่น้ำมูล
บริเวณแห่งนี้หลวงพ่อประจักษ์เล่าให้ฟังว่า มีสัตว์ป่าอุดมสมบูรณ์มาก ไม่ว่าจะเป็นกระทิง วัวแดง เสือ หมูป่า ขณะปฏิบัติธรรมท่านยังเห็นไก่ฟ้าพญาลอออกมาเดินอยู่ต่อหน้า
ชาวบ้านแถวนั้นได้มอบป่าเขาหัวผุดที่สมัยนั้นพวกเขาได้เข้าไปจับจองให้หลวงพ่อช่วยกันดูแล ด้วยหวังว่าจะหยุดยั้งการที่หน่วยราชการได้สมคบกับนายทุน ต้องการทำลายป่าแห่งนี้ เพื่อนำไปปลูกสวนป่ายูคาลิปตัส
ในเวลานั้น ทหารในเครื่องแบบหลายนายได้ผลัดเปลี่ยนกันเข้ามาบังคับให้ชาวบ้านและหลวงพ่อออกจากพื้นที่ให้หมด โดยอ้างว่าป่าแห่งนี้เป็นป่าเสื่อมโทรม
หลวงพ่อประจักษ์อาศัยแรงศรัทธาของชาวบ้าน ทำพิธีบวชป่าขึ้น โดยเอาผ้าเหลืองมาป่าและล้อมไว้ด้วยสายสิญจน์ ให้เป็นเขตอภัยทานห้ามบุกรุกทำลายป่า ซึ่งน่าจะเป็นการบวชป่าครั้งแรกในประเทศ และยังเป็นการรวมพลชาวบ้านเกือบพันคน ให้มารวมตัวกันปกป้องผืนป่าดงใหญ่แห่งนี้ พร้อมกับคำสั่งสอนของหลวงพ่อที่พูดให้ชาวบ้านเข้าใจว่า คนกับป่าอยู่ร่วมกันได้ ต้องพึ่งพาซึ่งกันและกัน
แต่สิ่งที่ได้รับในปีแรก ๆ ก็คือ กระสุนปืนจากอาวุธสงครามนานชนิดที่ระดมยิงเข้าใส่ที่พำนักสงฆ์ ไม่ว่าจะเป็นเอ็ม 79 หรือปืนอาก้า จนในสถานปฏิบัติธรรมแห่งนี้ยังมีบังเกอร์ ราวกับอยู่ในสมรภูมิ เพื่อบีบบังคับให้หลวงพ่อประจักษ์ออกจากพื้นที่
ครั้งหนึ่งผู้เขียนเคยมีโอกาสไปเยี่ยมหลวงพ่อประจักษ์ ท่านยังพาชมรอยกระสุนและบังเกอร์ชั่วคราว ในช่วงเวลานั้นสถานปฏิบัติธรรมแห่งนี้ ได้กลายเป็นที่ศึกษาดูงานของนักอนุรักษ์จำนวนมาก จากข่าวทางหน้าหนังสือพิมพ์ที่รายงานความขัดแย้ง ความรุนแรงในพื้นที่ไม่เว้นแต่ละวัน
สุดท้ายพระนักอนุรักษ์ผู้นี้ถูกทางการแจ้งข้อหาบุกรุกป่าสงวน และในวันที่ 7 เมษายน 2534 ท่านถูกจับและส่งเข้าเรือนจำเพื่อหวังกดดันให้ท่านสึก แต่ทนายความเตือนว่า อย่าสึก เพราะหากออกจากคุกเมื่อใดจะถูกฆ่าทิ้ง
แต่เมื่อออกจากคุกได้ไม่นาน ท่านพยายามยืนหยัดรักษาป่าต่อไป แต่ก็ยังถูกฟ้องข้อหาบุกรุกป่าอีก ในที่สุดถูกกดดันให้ต้องหนีออกจากพื้นที่ และลาสิกขาบทที่บ้านเกิด เพื่อต่อสู้คดีถึง 7 คดี ต้องหนีภัยไปซ่อนตัวอยู่ตามถ้ำ บางครั้งอาจารย์ส.ศิวรักษ์ ก็พาไปอยู่ตามบ้านมิตรสหาย ตลอดระยะเวลาสิบกว่าปี ท่านต้องขึ้นศาลราว 50 – 60 ครั้ง ในที่สุดบางคดียกฟ้อง บางคดีถูกปรับ และบางคดีรอลงอาญา จนปัจจุบันพ้นมลทินหมดแล้วทุกคดี
สุดท้ายท่านก็กลับมาบวชใหม่ หลวงพ่อประจักษ์ ธัมมปทีโป ได้มาจำพรรษาอยู่ที่วัดวัดเชรษฐพลภูลังกา ซึ่งเป็นวัดร้างแถบเทือกเขาภูลังกา อำเภอบึงโขงหลง จังหวัดหนองคาย มีพระมาอยู่จำพรรษาปฏิบัติธรรมด้วย 9 รูป เดินลงจากเขาออกบิณฑบาต ระยะทางประมาณ 3 กิโลเมตร ฉันอาหารมื้อเดียว ปฏิบัติธรรม เจริญสมาธิ เดินจงกรมเป็นกิจวัตร
ท่านกับพระลูกวัดได้ฟื้นฟูป่าในบริเวณนั้นขึ้นมา ด้วยการเพาะต้นกล้ายางนาเป็นหลัก ปลูกต้นยางนาทุกปี นับได้หลายหมื่นต้นแล้ว จนทำให้ป่าที่เคยเสื่อมโทรมกลับอุดมสมบูรณ์ขึ้นมาอีกครั้งหนึ่ง
เมื่อไม่นานมานี้ผู้เขียนได้มีโอกาสขึ้นเขาไปเยี่ยมหลวงพ่อประจักษ์ในวัย 71 ปี ท่านยังแข็งแรง ใบหน้าอิ่มเอิบ สงบและมีเมตตาต่อพวกเรา พาเดินดูต้นไม้ที่ปลูกอย่างกระฉับกระเฉง ท่านบอกว่าหลายปีมานี้ได้ร่วมมือกับชาวบ้านกลุ่มเยาวชนหลายหมู่บ้านและวัดและสำนักสงฆ์อีก 40 แห่ง รอบเทือกเขาภูลังกา เป็นเครือข่ายอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติ นำผืนป่ากลับคืนมา
เป็นที่น่ายินดีว่า คณะกรรมการรางวัลลูกโลกสีเขียวครั้งที่ 10 ที่มีนายอานันท์ ปันยารชุนเป็นประธาน ได้ประกาศมอบรางวัลบุคคลดีเด่นให้แก่หลวงพ่อประจักษ์ ในฐานะบุคคลที่ทุ่มเทเวลาทั้งชีวิต ยืนหยัดดูแลรักษาผืนป่าอย่างต่อเนื่องและยาวนาน แม้ว่าจะถูกกล่าวหา ถูกประทุษร้ายทางร่างกายและจิตใจ แต่ท่านก็ไม่หวั่นไหว
เวลาผ่านไป แต่สิ่งที่หลวงพ่อประจักษ์ไม่เคยเปลี่ยนเลย คือ มุ่งมั่นดูแลรักษาผืนป่าให้อนุชนรุ่นหลังอย่างเงียบ ๆ ไม่ยินดียินร้ายกับลาภ ยศ สรรเสริญหรือเสียงด่าทอจากผู้คนที่เข้าใจผิด
Comments
หลวงพ่อท่านเป็นคนดีอีกคนที่ได้ยินชื่อมาตั้งนานแล้ว แต่ไม่ทราบเลยว่าตั้งแต่เผชิญชะตากรรมสมัยนั้น ท่านต้องผ่านอะไรอีกมากมาย
การเป็นคนดีในประเทศนี้บางทีก็ไม่ใช่เรื่องง่ายเลย
รู้จักท่านผ่านบทเพลงของแอ๊ด คาราบาว ชุด ZEN ตอนเรียนที่อเมริกา
คิดว่าวันที่เดินทางไปเยี่ยมลูกค้าที่ประเทศลาวผ่านทางหนองคายจะไปกราบท่านบ้างครับ
วัดหลวงพ่อชื่อเชรษฐพลน่ะไม่ใช่เศรษฐพล
ขอบคุณมากครับ เดี๋ยวขอเช็คข้อมูลแล้วจะทำแก้ไขนะครับ
หลวงพ่อประจักษ์เป็นต้นแบบของนักอนุรักษ์ที่ดี่มากๆครับ
ท่านทุ่มเททั้งชีวิตเผื่อฟื้นฟูและรักษาไว้ซึ่งป่าที่เป็นประโยชน์ส่วนรวม
มากกว่าพวกที่เห็นแก่ตัวหวังกอบโกยผลประโยชน์จากประเทศชาติ
มีอีกท่านนะครับที่ผมนับถือ ก็คือ พี่ ” สืบ นาคะเสถียร ”
ซึ่งเป็นผู้ที่มีบทบาทสำคัญยิ่งทางด้านการป่าไม้ไทย
และตอนนี้มีโครงการสืบสานวัน สืบ นาคะเสถียร โดยมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์
วันที่ 31 สิงหาคม – 1 กันยายน 2552
ลองเข้ามาชมกันนะครับ
รู้สึกปลอดภัยเมื่อได้อ่านเรื่องนี้
คือหลวงพ่อประจักษ์ รักษาป่าคงใหญ่
บทเพลง เพื่อสรรเสริญ ความดี “หลวงพ่อประจักษ์” คาราบาว
ผมศรัทธาท่านมาก ตั้งแต่ได้รู้จักตอนท่านถูกจองจำทั้งผ้าเหลือง และจากเพลงของแอ็ด คาราบาว ผมพยายามสืบเสาะหาท่านมาตลอดว่าท่านหายไปไหน วันนี้วันครบรอบการจากไป 19 ปี ของคุณสืบ นาคะเสถียร ผมทนไม่ไหวเลยลองเข้ามาค้นหา.. จนเจอท่าน… ผมดีใจจนน้ำตาซึมเหมือนเจอญาติผู้ใหญ่ที่หายไปนาม ขอก้มกราบหลวงพ่อ ด้วยความศรัทธา หลวงพ่อคือคนที่ผมตามหามาทั้งชีวิต….ประเสริฐ คาร์เนชั่น ประธานชมรมศิลปินล้านนา(ภาคเหนือ)
ตอนนี้หลวงพ่อปผระจักษ์บวชอยู่ชายเขาภูลังกา อ.บึงโขงหลง จ.หนองคาย
ทุกเช้าท่านและคณะจะมาบิณพบาตร ในเทสบาลบ้านแพง จังหวัดนครพนม อยู่ห่างวัดท่าน 10 กิโลเมตร (มีคนมาส่ง) ท่านมีความสุขดี หน้าตาผ่องใส ข้าพเจ้าเคยใสบาตรท่าน เพราะท่านผ่านที่บ้าน เห็นท่านครั้งแรกคุ้นๆเลยถามดู ท่านบอกใช่ ท่านเป็นพระผู้ใหญ่แล้ว
นายภู
ในชีวิตนี้ต้องหาโอกาสไปกราบท่านให้ได้ ก่อนที่ท่านจะมรณภาพไป เพราะในสมัยนี้หายากมากกับบุคคลที่มีความรักในส่วนรวม มากกว่าส่วนตัว
รู้จักท่านมานานแล้ว
ท่านเป็นพระที่พัฒนาจริง ๆ
พัฒนาทั้งด้านจิตใจคน
และพัฒนาทั้งป่าไม้
ท่านทุ่มเทจริง ๆ
ไม่กล้วความลำบาก
สร้างความเจริญให้สถานที่มาโดยตลอด
ษา
วัดที่ท่านอยู่จะทอดผ้ากฐินวันที่ 11 ตุลาคม 2552
ขอเชิญผู้ใจบุญร่วมทอดกฐินสามัคคีกัน
เวลา 9.00 น.
ทำบุญกับพระ ที่เป็นพระจริงได้ที่วัด
วัดเชรษฐพล ภูลังกาเหนือ ต.ดงบัง
อ.บึงโขงหลง จ.หนองคาย
ษา
วันนี้ เห็นพระธุดงธ์เดินผ่านหน้าบ้านมา 7 รูป ไม่ทราบว่าเป็นพระจากที่ไหน พระสงฆ์นั่งพักสักครู่จากการธุดงธ์มาทั้งวัน จึงได้เข้าถวายน้ำดื่ม และนมถั่วเหลือง นั่งฟังพระท่านเทศก์สักพักจึงได้ไถ่ถามว่าท่านมาจากที่ใดจะไปที่ใด ได้เรื่องว่ามาจากภูลังกา จะธุดงธ์ไปอุบลและต่อไปเชียงใหม่ ท่านบอกว่าจะนั่งรถไปก็ได้ แต่ไม่เอาหรอกเพราะเป็นการเสียเวลาไปเปล่าธุดงธ์ไปพร้อมพระอีก 6 รูป เพื่อเป็นการฝึกพระที่อายุยังน้อยไปด้วย ตอนแรกเราเองไม่ได้รู้เลยว่าหลวงตาท่านนี้ท่านเป็นพระที่ไหน อะไรยังไง แต่รู้สึกเลื่อมใสในถ้อยวาจาที่ท่านเทศก์เรารู้สึกซึ้งในรสพระธรรมจริงๆ พระสงฆ์ที่มาด้วยเราเห็นท่านเอาพลาสเตอร์ปิดแผลไว้ เท้าท่านแตกและมีเลือดซึมออกมา เราคิดว่านั่นคงจะมาจากการธุดงธ์ของท่านเป็นเวลานานแล้ว อาของเราจึงถวายผ้าปิดแผลกับยารักษา นี่คงเป็นบุญเก่าของเราที่ได้มาเจอพระพุทธศาสนา และได้ประสบพบเจอกันพระประจักษ์ เราปลาบปลื้มใจมากๆๆๆ ในขณะที่ได้ฟังท่านเทศนาสั่งสอนนั้น น้ำตาจะซึมตลอดเวลาเลย เราซึ้งใจเป็นอย่างมาก ท่านยังบอกเราอีกนะว่าให้ตื่นเช้าๆ ฟังหลวงตาบัวเทศนาสั่งสอน ท่านสอนให้เรารักษาศีล 5 และมีสติอยู่เสมอ ท่านไม่หวังลาภยศ สรรเสริญใดๆเลยพอเราได้อ่านประวัติของท่านแบบนี้เรายิ่งนับถือมากกว่าเดิม ถ้ามีโอกาสจะไปกราบท่านที่วัดสักครั้ง ไม่สิ เราต้องไปแน่ๆ
สรุป…ศัตรูของ พระประจักร กับ ป่าสงวนคือ….สาน ตาหาน รัฐบวย
ก้อเคยฟังเเต่เพลงของน้าเเอ๊ดไม่รู้ว่าหลวงพ่อประจักษ์คือใคร
เเต่ก้อได้รู้เเล้ว
ท่านเปนพระๆๆ
ที่ดีมากๆๆๆๆ
ขอชื่นชมเจ้าของเวป ที่หาบุคคลมีมีคุณทั้งทางธรรมและจิตวิญญาณมาเขียนเพื่อถ่ายทอดความรู้ ผมเคยไปเยี่ยมหลวงพ่อประจักษ์ตอนยังเด็กครั้งหนึ่งที่ ป่าดงใหญ่ อ.ประคำ จ.บรีรัมย์ ท่านยังอยู่ในใจผมเสมอ…ถ้าวันไหนสิ้นป่า..วันนั้นอาจจะสิ้นมนุษย์ .. ผมไม่ทราบเหมือนกันว่าทำไมคนที่มีกินจนไม่รู้จะกินยังไง..ยังจะโลภมากไม่มีที่สิ้นสุด .. ทำไมถึงไม่มีธรรมะอยู่ในใจบ้าง…. เขาเคยคิดบ้างไหมว่า คนเรา เกิด แก่เจ็บ ตาย … สุดท้ายก็เอาอะไรไปไม่ได้…
อยากให้คนไทยทุกคนได้อ่านจัง
ดีใจจังเลย ท่านมา บิณฑบาตหน้าทุกวัน
ท่านพัฒนาจริงๆๆๆๆครับ ผมเคยไปอยู่กับท่าน
ขอบคุณหลวงพ่อครับ ที่อนุรักษ์ป่าไม้ไว้ให้คนรุ่นหลังได้รู้ได้เห็นความสำคัญของป่า หวังว่าสิ่งที่หลวงพ่อทำ คงทำให้ใครหลายๆคน รู้สึกรักและหวงแหนป่าไม้ของโลกใบนี้ได้ดีกว่าเก่านะครับ
ถ้ามีโอกาส อยากไปกราบท่านสักครั้งนึงในชีวิต
คำสอนของท่านเป็นสัจธรรม ขอให้ท่านมีสุขภาพแข็งแรงตลอดไป
ได้ รู้ จัก หลวงพ่อ ในรายการ คุยกับแพะ ช่อง ไทย ที บี เอส อยาก บอก ว่า ศรัทธา ท่านมากมาย ถ้า มีโอกาศ จะไป กราบท่าน
กราบนมัสการ พระอาจารย์ประจักษ์ ธัมมปทีโป
ผมจะหาโอกาสไปกราบท่านสักครั้งให้ได้
ผมอยู่ สระบุรี ครับ 089-2409185
ขอให้พระอาจารย์ มีความสุขกายสุขใจ เจริญธรรม
ธวัชชัย สุวัณโณ
วัดศาลาแดง สระบุรี
ขอให้ท่าน อยู่กะประเทศไทย กับป่าธรรมชาติของประเทศไทยตอไป ขอบคุณ สังคมที่ยังมีคนดีๆ อยู่
ตอนนี้หลวงพ่อประจักรอยู่วัดอะไรครับ
เคยได้ ยิน แต่ในเพลง ไม่รู้ ประวัติที่แท้ จริงของท่านพอได้อ่าน ประวัติความเป็นมา หลวงพ่อท่าน เป็นพระที่ สละแล้วทางโลก แถมยัง เป็นพระที่เป็นนักอนุรักษ์ หาใคร เปรียบ เทียบได้ยาก เป็นบุคคลที่หา ได้ยากมาก ที่ทุมเท ทั้งกายและใจเพื่อรักษา ป่าไว้ให้ กับ ผืนป่าในประเทศ นี้
🙂 กระผมเคยเฃ้าใปกราบท่านที่ป่าดงใหญ่ปี พ.ศ 2534ครั้งนั้นมีนักอนุรักษ์ป่าหลายประเทศ เฃ้าใปชมพิ้นที่จรืงป่าดงใหญ่ทับลาน อยุ่ในป่าดงใหญ่ 7วัน 7คืน ป่าจริงๆครับใม่มีบ้านคน ใด้ยินเสียงสัตว์ป่า ร้องลั่นทั่าป่า วันนั้นถ้าจ๋าใม่ผิดหลวงพ่อประจักษ์ประกาศา่ว พรุ้งนี้จะเฃ้าใปชมป่าใครจะใปให้มาลงชื่อ ตอนนั้นเป็นพระเทียนใด้ใปเดินป่ากับเฃาด้วย ช่วงนั้นผมพระเทียนธุดงค์ผ่านวัดท่านพอดี ตอนนั้นพรรษา 2 ถ้าจ๋าใม่ผิด พมชอบป่า ชอบเฃาชอบใปคนเดียว ค๋่าใหนนอนนั้น ใม่ฃื้นรภเดินใปเรื่อยๆ พุทใธๆ พุทใธๆ 5พรรษาก่วาๆเลยสิกหมดบีญทางธรรม ป. ล ถ้ามีใอกาศจะฃอบวชอีกครั้ง ฃอบคุณที่มีวาสนามาเจอท่านหลวงพ่อประจักษ์
สมัยเรียน วค.บร. เคยไปที่วัดของท่าน เดินป่าดงใหญ่ ชมดนตรีบรูส แกสตั้น คิดถึงคับ อยากไปที่นั่นอีก