หลายคนคงรู้จักถนนสาทร ว่าเป็นถนนย่านเศรษฐกิจสำคัญของกรุงเทพมหานคร
สมัยก่อนเคยมีคลองสาทรอยู่ตรงกลาง มีต้นไม้ใหญ่ให้ความร่มรื่นย์เหมือนถนนวิทยุ แต่เมื่อสี่สิบกว่าปีก่อนถูกทางการถมคลองขยายถนน ตามปริมาณรถยนต์
ร่วมสิบปีก่อน มีการเปลี่ยนแปลงพื้นที่สีเขียว แถวฝั่งธนบุรีที่เคยเป็นเรือกสวนไร่นา ให้สามารถสร้างหมู่บ้านจัดสรรได้ มีการตัดถนนรองรับความเจริญหลายสาย อาทิ ถนนราชพฤกษ์ เราจึงเห็นโฆษณาหมู่บ้านว่า “เพียง 15 นาที ก็ถึงถนนสาทร”
บัดนี้พื้นที่สีเขียวบริเวณฝั่งธนฯ ซึ่งเคยเป็นปอดใหญ่ของคนกรุงทพฯ ก็เต็มไปด้วยหมู่บ้านจัดสรรหลายร้อยแห่ง รถติดกันไม่เว้นวันหยุด
บริเวณบางระมาด ตลิ่งชัน เคยมีเรือกสวนมากมาย มีการตรวจพบว่ามีคุณภาพอากาศดีเยี่ยมแห่งหนึ่งในกรุงเทพมหานคร แต่บัดนี้คุณภาพอากาศก็เปลี่ยนไปเมื่อมีบ้านจัดสรร รถยนต์และถนนเพิ่มขึ้น
เมื่อความเจริญเพิ่มขึ้น พื้นที่สีเขียวก็ค่อย ๆ หดหายไปตามวิสัยทัศน์ของผู้บริหารประเทศ
แล้วก็มาถึงบางกระเจ้า
เมื่อมองแผนที่กรุงเทพมหานครช่วงท่าเรือคลองเตยไปสมุทรปราการ จะเป็นรูปร่างคล้ายกระเพาะหมู ล้อมรอบด้วยแม่น้ำโค้งจนเกือบเป็นเกาะ หรือใครอยู่บนทางด่วนช่วงท่าเรือคลองเตย มองออกไปด้านแม่น้ำเจ้าพระยา จะเห็นพื้นที่ฝั่งตรงข้าม เป็นดงไม้เขียวขนาดใหญ่โดดเด่นขึ้นมาท่ามกลางเมืองใหญ่ ครอบคลุมพื้นที่ 11,819 ไร่ จนไม่น่าเชื่อว่า อยู่ใกล้แค่ข้ามแม่น้ำ
บริเวณนั้นคือบางกระเจ้า ที่ได้รับฉายาว่าเป็น ปอดของคนกรุงเทพฯมาช้านาน
“แม้บางกระเจ้าจะอยู่ในเขตจังหวัดสมุทรปราการ แต่ตำแหน่งที่ตั้งถือว่ามีความสำคัญอย่างยิ่งต่อทั้งชาวกรุงเทพและสมุทรปราการ โดยเฉพาะย่านกลางเมืองกรุงที่มีประชากรอาศัยอยู่หนาแน่น เนื่องจากทิศทางลมจะพัดพาเอาอากาศบริสุทธิ์ผ่านเข้ามาถึง 9 เดือนต่อปี” ดร.สรณรัชฎ์ กาญจนะวณิชย์ ประธานมูลนิธิโลกสีเขียว ให้ข้อมูลกับเรา
ในปีพ.ศ. 2520 คณะรัฐมนตรี จึงได้มีมติให้อนุรักษ์พื้นที่สีเป็นแหล่งผลิตอากาศบริสุทธิ์ให้กับประชาชนในเขตจังหวัดสมุทรปราการและจังหวัดใกล้เคียง จาก สภาพพื้นที่ยังคงความอุดมสมบูรณ์ตามรูปแบบสวนเกษตรดั้งเดิม
ช่วงปี 2525-2530 พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ ประทับเฮลิคอปเตอร์พระที่นั่งผ่านบางกระเจ้าเป็นประจำ จึงทรงมีพระราชดำริว่า สมควรสงวนพื้นที่แห่งนี้ไว้สำหรับเป็นพื้นที่สีเขียวและเป็นปอดของ กทม
ในเวลาต่อมา รัฐบาลจึงได้ประกาศให้พื้นที่แห่งนี้ อยู่ภายใต้โครงการ “สวนกลางมหานคร” และสมเด็จพระเทพรัตน์ราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ได้ให้ความสนพระทัยและเสด็จเยี่ยมเยียนพื้นที่แห่งนี้อยู่เสมอ พระองค์เคยมีพระราชดำริว่า
“ถ้าเลือกได้ที่เหมาะสมแล้ว ก็ทิ้งป่าไว้ตรงนั้น ไม่ต้องทำอะไรเลย ป่าจะเจริญเติบโตขึ้นมาเป็นป่าสมบูรณ์โดยไม่ต้องไปปลูกเลยสักต้นเดียว…”
คำว่า บางกระเจ้า ไม่ปรากฏชัดเจนว่าเป็นมาอย่างไร สันนิษฐานจากคำว่า “กะเจ้า” หมายถึง “นกยูง”หรือ “นกกระยาง” อาศัยอยู่เป็นจำนวนมากในพื้นที่
อีกตำนานหนึ่งชาวบ้านเล่าว่า มีผู้หญิงไว้ผมมวยสูงรัดเกล้าเป็นเหล่าขุนนาง ได้อพยพข้ามแม่น้ำเจ้าพระยาจากฝั่งพระมหานครมาอาศัยอยู่ในพื้นที่ริมคลอง ชาวบ้านจึงเรียกว่า “บางบ้านเจ้า” หรือ “คลองรัดเกล้า” และเมื่อเวลาเปลี่ยนไป “บางรัดเกล้า หรือ “บางบ้านเจ้า” จึงเปลี่ยนเป็น “บางกะเจ้า”
ที่มาของ บางกระเจ้า จึงช่วยย้ำว่าบริเวณนี้เป็นพื้นที่สีเขียวมาช้านาน เรือกสวน ป่าชายเลน ลักษณะภูมิประเทศที่ถูกรายล้อมด้วยแม่น้ำเจ้าพระยา ห่างจากปากอ่าวไทยไม่ถึง 20 กิโลเมตร ทำให้พื้นที่แห่งนี้ เกิดระบบนิเวศ “3 น้ำ” คือ น้ำจืด น้ำเค็ม และน้ำกร่อย เกิดความหลากหลายของพืชและสัตว์ นอกเหนือไปจากความอุดมสมบูรณ์ของพื้นดิน และวิถีชีวิตอันเรียบง่ายของชาวบางกระเจ้า ทำให้กลายเป็นสถานที่ท่องเที่ยวติดอันดับ tripadvisor เว็บไซต์ชื่อดังสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆ ได้โหวตให้บางกระเจ้าติดอันดับที่ 52 สถานที่น่าสนใจของกรุงเทพ 232 แห่ง แซงหน้าพระที่นั่งวิมานเมฆและวัดสำคัญๆ งดงามหลายวัดเลยทีเดียว
แต่บางกระเจ้าดังระดับโลก เมื่อนิตยสาร Time ปี 2549) ฉบับ Best of Asia ยกย่องให้เป็นปอดกลางเมืองที่ดีที่สุดในเอเชีย (The Best Urban Oasis)
ทุกวันนี้ บางกระเจ้ามีนักท่องเที่ยวจำนวนมาก แห่กันไปขี่จักรยานเที่ยวเล่นกัน จากเสน่ห์ของความเป็นเมืองสีเขียวที่แค่ข้ามแม่น้ำเจ้าพระยาไปก็ถึงแล้ว น่าจะเป็นแบบอย่างของการพัฒนาเมืองอย่างยั่งยืน
แต่แล้วเมื่อไม่กี่เดือนมานี้ มีการตีพิมพ์ ราชกิจจานุเบกษาเผยแพร่กฎหมายผังเมืองรวมฉบับใหม่ของจังหวัดสมุทรปราการ มีเนื้อหาว่าแก้ไขกฎกติกาผังเมืองอย่างเงียบๆ โดยที่ประชาชนส่วนใหญ่ในบางกระเจ้าไม่ทราบเรื่องเลย
“ได้ข่าวการเปลี่ยนผังเมืองมาตั้งแต่ปลายปี 2556 แต่พอสอบถามไปยังโยธาธิการและผังเมืองจังหวัดสมุทรปราการก็พบว่าระยะเวลาเปิดรับฟังความคิดเห็นจากประชาชน 90 วันได้ผ่านพ้นไปแล้ว” มนัส รัศมิทัต สมาชิกองค์การบริหารส่วนจังหวัดสมุทรปราการ ย้ำว่าชาวบางกระเจ้าไม่เคยมีส่วนร่วมในเรื่องนี้มาก่อนเลย
ประเด็นสำคัญของการแก้ไขกฎหมายผังเมือง พบว่ามีการค่อยๆ แก้ไขให้มีการสร้างบ้านในพื้นที่สีเขียวได้ บางพื้นที่ที่เคยอนุญาตให้ก่อสร้างได้ แต่ไม่ให้นำที่ดินไปจัดสรร ก็สามารถนำไปจัดสรรสร้างบ้านเดี่ยวได้
กล่าวง่าย ๆ คือมีความพยายามแก้ไขในรายละเอียดให้มีการใช้ที่ดินเพื่อก่อสร้างบ้าน อาคารได้ง่ายขึ้น ไต่ระดับการพัฒนาอาคารสิ่งก่อสร้าง ว่ากันตามผังเมือง ถ้าไม่นับสวนสาธารณะที่กำหนดเขตเป็นสีเขียวอ่อน บางกระเจ้าแบ่งออกเป็นสองโซนหลัก ได้แก่ เขียว และขาวทแยงเขียว สีเขียวทึบเป็นพื้นที่ชนบทและเกษตรกรรม ส่วนขาวทแยงเขียวเป็นโซนอนุรักษ์ชนบทและเกษตรกรรม จึงเป็นเขตปกป้องวิถีเขียวที่เข้มข้นที่สุด
แน่นอนว่า การอนุรักษ์พื้นที่สีเขียว ก็น่าจะให้เกิดประโยชน์สูงสุดระหว่างประโยชน์ส่วนรวมกับคนในพื้นที่ น่าจะมีการพูดคุยและการจัดการที่ดี แต่การงุบงิบแก้ไขกฏหมายผังเมือง โดยคนในพื้นที่ไม่รู้เรื่อง ในขณะที่มีการกว้านซื้อที่ดินกันกว้างขวาง กำลังบอกอะไรกับ ปอดของคนเมืองหลวง
อยากย้ำว่า ปอดของคนเมือง ไม่ได้เป็นคำพูดสวยหรู แต่มีข้อมูลที่ยืนยันว่า ออกซิเจนจากบางกระเจ้า ช่วยฟอกปอดให้คนเมืองมานานแล้ว
ฝั่งธนฯเคยเป็นปอดให้คนเมืองหลวง บางกระเจ้าก็กำลังจะเป็นอดีตเช่นกัน
กรุงเทพธุรกิจ 15 /5/14
Comments
การที่ต้องการให้พื้นที่ของบางกะเจ้าให้เป็นสีเขียวอย่างดี หรือถาวร ก็ต้องควรมองคำว่าความเจริญให้พื้นที่ ที่มีกลุ่มต้องบอกว่าถนนรถยนต์เข้าไ้ถึงหัวบันได การมีกิน พื้นที่เกษตรชาวสวนต้องเจอปัญหามากมาย อยู่ให้สถานเลี้ย่งปากเลี้ยงท้องไม่อิ่ม เข้าถึงการศึกษา ถ้าคนในครอบครัวไม่มีงานข้างนอกทำ ชาวสวนอดตายแน่ ๆ จึงเริ่มมีการขายที่ดินทำกิน ถ้าต้องการให้คงเป็นปอดพื้นอนุรักษ์ อย่างยังยืนคงต้องขอแรง ท่านแลคนกรุงที่ยังอยากให้ปอดกรุงเทพฯ อยู่ยั่งยืนตลอดนานเท่่านาน ฝากด้วยครับ
เป็นปอดให้คนกรุงเทพ แล้วคนบางกะเจ้าได้อะไรครับ ปู่ย่าตายายเก็บที่ดินไว้ให้ลูกหลาน แต่ลูกหลานต้องการขายเพื่อความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น ไม่ได้อยากทำเรือกสวน ไร่นา แต่ทำไม่ได้ เอาเปรียบชาวบางกะเจ้าเกินไปไม๊
แก้ไขเถอะผังเมืองสมุทรปราการ บางกะเจ้า เอาชิวิต เลือดเนื้อ วิญญาณของชาวบางกะเจ้าไปให้คนกรุงเสวยสุข โดยไม่ได้อะไรตอบแทน พวกเราลูกหลานอยากสุขสบายเหมือนๆกับชาวเมืองหลวงที่นั่งอยุ่บนตึกสูงๆมั่ง อย่ากดขี่ เอาเปรียบพวกเราเลย
เศรฐษกิจไม่ดีเงินทองหายากลูกหลานชาวบางกะเจ้าต้องการทุนไปเรียนหนังสือต่อยอดทำมาค้าขายขยับขยายไปที่อื่น ไม่ใช่มานั่งขายของจากสวนได้วันละร้อยสองร้อยจะพอกินได้อย่างไร เป็นปอดให้คนกรุงเทพอยู่บนหอคอยงาช้างแล้วพวกเราอยู่กับสวนเก็บผักหญ้ากินใช่ไม๊ เปิดใจกว้างยอมรับความเป็นจริงหน่อยท่านผู้นำเรื่องผังเมืองน่ะ
ให้ความเป็นธรรมกับชาวบางกะเจ้าด้วย กฎหมายอยุติธรรม เอาเปรียบเรามากไปเรื่องผังเมือง ฝั่งตรงข้ามขายที่ราคาแพง ฝั่งเราอนุรักษ์ไว้เป็นปอดให้ฝั่งตรงข้าม คิดได้ไง
ฝากกราบเรียน พณ.ท่านนายกพลเอกประยุธ ด้วย คืนบางกะเจ้าให้ชาวบ้านเถิด เราอยากมีความเป็นอยู่ มีชีวิตที่ดีกว่านี้ ลูกหลานอยากมีช่องทางทำมาหากิน มีทุนรอน ไม่ใช่มานั่งเก็บผัก ผลไม้ในสวนขาย ที่ดินเป็นของเราแต่ห้ามเราทำทุกอย่าง เก็บไว้เป็นปอดคนกรุงเทพ คนบางกะเจ้าเป็นพลเมืองชั้น2เหรอท่าน
ฝาก สส รัฐบาล จังหวัดสมุทรปราการด้วย แก้ไขผังเมืองเถอะ อย่าเอาเปรียบชาวบางกะเจ้าเลย รถสายสีม่วงจะมาแล้ว อยากขายที่ดินๆๆๆๆๆๆ ไปต่อยอดทำมาหากิน