วันนี้อุปกรณ์ที่ได้รับการกล่าวขวัญและแพร่หลายมากที่สุด คงหนีไม่พ้น กล้องวงจรปิด
คนทั่วไปรู้จักกล้องวงจรปิดมานานแล้ว ในฐานะอุปกรณ์ติดตั้งในบ้าน อาคาร เพื่อเห็นความเคลื่อนไหวใช้เป็นหลักฐานในการเอาผิดคนร้าย หากมีใครเข้าโจรกรรมทรัพย์สิน
กล้องวงจรปิด หรือ CCTV ย่อมาจาก Closed Circuit Television คือระบบถ่ายทอดสัญญาณภาพจากกล้องวงจรปิดที่ติดตั้งไว้ตามจุดต่างๆ ภายในวงจรเดียวกันมาเก็บไว้ยังเครื่องบันทึกภาพในสถานที่ราชการและตามท้องถนน สี่แยกไฟแดง พื้นที่สาธารณะสำคัญจะมีกล้องวงจรปิดไว้บันทึกภาพ เผื่อมีเหตุการณ์สำคัญอะไร จะได้กลับมาย้อนดูได้
ตำรวจจราจรใช้เป็นเครื่องมือสำคัญในการตามจับและปรับบรรดาผู้กระทำผิดกฎหมาย อาทิขับรถฝ่าไฟแดง ฯลฯ
บริษัทหลายแห่งก็มีกล้องวงจรปิด นอกจากไว้ย้อนดูหากมีปัญหาหรือเรื่องราวเกิดในบริษัทแล้วยังเอาไว้ให้ฝ่ายบริหารคอยส่องดูพฤติกรรมของพนักงานว่าเป็นอย่างไร อาทิ แอบงีบในเวลาทำงาน หรือแอบนินทาเจ้านาย ฯลฯ
ในร้านค้าหรือศูนย์การค้า มีกล้องวงจรปิดไว้เพื่อบันทึกไว้ เผื่อมีการแอบขโมยของในร้าน หรือเผื่อมีเหตุการณ์สำคัญ
แนวคิดในการบันทึกเหตุการณ์ ได้ทำให้ไม่กี่ปีที่ผ่านมา คนขับรถยนต์ได้เริ่มติดตั้งกล้องถ่ายภาพเคลื่อนไหวติดตั้งไว้หน้ารถ เผื่อมีเหตุการณสำคัญบนท้องถนนโดยเฉพาะอุบัติเหตุ
ในความหมายนี้ กล้องติดหน้ารถ ก็พอจะอนุโลมเป็นกล้องวงจรปิดชนิดหนึ่งได้ และเนื่องจากมีราคาถูกเลยทำให้กล้องติดรถยนต์ได้รับความนิยมมากขึ้นจากผู้ขับขี่อย่างรวดเร็ว
รถบางคันมีมากกว่าหนึ่งกล้องเสียอีก
ความนิยมที่แพร่หลาย และการบันทึกภาพไว้เป็นหลักฐานหากเกิดอุบัติเหตุชนกันได้ทำให้คณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (คปภ.) ประกาศว่าประชาชนที่ติดตั้งกล้องภายในรถยนต์ทุกประเภทที่สามารถบันทึกภาพเคลื่อนไหวจะได้รับส่วนลดเบี้ยประกันภัยภาคร้อยละ 5-10 มีผลบังคับใช้ตั้งเเต่วันที่ 3 มีนาคม ที่ผ่านมาแล้ว
ในอีกด้านหนึ่ง ข่าวที่ปรากฏทุกวันนี้ตั้งแต่ในเฟสบุ๊ก ทวิตเตอร์ สื่อออนไลน์ ไปจนถึงข่าวโทรทัศน์ คลิปกลายเป็นวัตถุดิบสำคัญที่ผู้คนต่างโหยหา
รายการทีวีเกือบทุกช่อง มีช่วงข่าวจากคลิปหรือกล้องวงจรปิดอย่างเดียวเลย
เคยมีข้อสังเกตจากคนทำข่าวว่า ข่าวที่ได้รับความนิยมจากคนดูมากเป็นพิเศษประเภทหนึ่ง คือ คลิปจากกล้องวงจรปิด
เพราะคนดูมั่นใจว่า หากเป็นคลิปที่นำมาออกเป็นข่าวแล้ว น่าจะมีอะไรที่ตื่นเต้นแน่นอน และหลายครั้งไม่มีคนเห็น กล้องวงจรปิดหรือคลิปจึงเป็นหมาเฝ้าบ้านยุคใหม่ไปโดยปริยาย เพียงแต่ว่ามันไม่ได้เห่า แต่เป็นพยานสำคัญบอกเล่าและถ่ายทอดให้กับผู้เกี่ยวข้องได้รับรู้เมื่อเกิดเหตุการณ์ขึ้น
หลายคดีที่เกิดขึ้น หากได้คลิปจากกล้องวงจรปิด จะกลายเป็นหลักฐานสำคัญที่ทำให้เห็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นชัดเจนรู้ได้ทันทีว่าใครเป็นจำเลย
เจ้าหน้าที่ของรัฐมักจะใช้คลิปจากกล้องวงจรปิดเป็นหลักฐานสำคัญในการจับกุมผู้กระทำผิด เวลาเกิดเรื่องขึ้น ตำรวจมักจะขอคลิปจากทุกฝ่าย ไม่ว่าจะเป็นคลิปของเอกชน หรือของราชการไปตรวจสอบ คลิปจากกล้องวงจรปิดก็ทำหน้าที่ของมันได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ ช่วยให้ตำรวจทำงานง่ายขึ้น
เกิดคดีขึ้นมา คำแรกของพนักงานสอบสวนคือ ถามหากล้องวงจรปิดทันที และต่อมาคลิปเหล่านี้ก็จะแพร่หลายออกสื่ออย่างรวดเร็ว
คลิปจากกล้องวงจรปิดดูเหมือนจะเป็นหลักฐานสำคัญที่มาเร็วและแรงที่สุดในขณะนี้ เพื่อการคลี่คลายคดีสำคัญในหลายกรณี
แต่หลายเหตุการณ์คลิปจากกล้องวงจรปิดดูเหมือนจะมีปัญหา
กรณีการวิสามัญฆาตกรรมนายชัยภูมิ ป่าแสเด็กหนุ่มชาวลาหู่ นักเคลื่อนไหวด้านสิทธิคนชาติพันธุ์ เมื่อเดือนมีนาคม 2560 ในอำเภอเชียงดาว จังหวัดเชียงใหม่ ด้วยน้ำมือของทหาร จนถึงบัดนี้ คลิปจากกล้องวงจรปิดหลายตัวหลักฐานชิ้นสำคัญที่จะทำให้เห็นว่า เกิดเหตุการณ์อะไรขึ้นในช่วงเวลานั้น กลายเป็นความลับที่ทางทหารอ้างว่ามอบให้กับตำรวจไปแล้วแต่ไม่ได้มีการเผยแพร่ออกมา
คดีนี้ไม่ซับซ้อนเลย หลักฐานชิ้นสำคัญที่หากคนได้ดูก็จะรู้ได้เลยว่า ทหารทำเกินกว่าเหตุหรือไม่กลายเป็นความลับขึ้นมาทันที ตำรวจอ้างว่าไม่สามารถให้ออกสื่อได้ เพราะเกรงเรื่องรูปคดี แต่หลายคดี คลิปออกสื่อไปเรียบร้อยแล้วก่อนจะมีการพิจารณาคดีเสียอีก
หากคดีนี้เป็นคดียิงคนธรรมดา ที่ไม่มีเจ้าหน้าที่รัฐเข้าไปเกี่ยวข้อง คลิปจากกล้องวงจรปิดน่าจะได้รับการเผยแพร่ไปนานแล้ว
เมื่อครั้งมีเหตุการณ์ความขัดแย้งทางการเมืองหลายครั้ง มีการเดินขบวนบนท้องถนน มีการปะทะกัน เป็นคดีความกัน กล้องวงจรปิดตามท้องถนนก็จะมีปัญหาเสียขึ้นมาทันที ไม่สามารถบันทึกเหตุการณ์สำคัญได้เหมือนปกติ
ต่างจากเวลาจับคนขับรถฝ่าไฟแดง ซึ่งกล้องเหล่านี้ทำหน้าที่ได้อย่างยอดเยี่ยม ในการนำคนที่ผิดกฏหมายมาเสียค่าปรับ
เมื่อมีกรณี คนแอบขุดเอา “หมุดคณะราษฎร” ออกไป และเอาหมุดอันใหม่ หรือ “หมุดหน้าใส” มาทับแทนที่ แถวบริเวณพระบรมรูปทรงม้า ระหว่างวันที่ 2-8 เมษายน 2560 ซึ่งมีกล้องวงจรปิดจำนวนมากติดตั้งอยู่
ปรากฏว่า เมื่อมีคนไปร้องขอดูภาพจากกล้องวงจรปิดจากทางกรุงเทพมหานคร ผู้เป็นเจ้าของกล้อง คำตอบที่ได้รับคือ
“กทม.” แจงกล้อง 11 ตัวรอบ “หมุดคณะราษฎร” ไม่มี เพราะเมื่อวันที่ 31 มีนาคม
มีการปรับปรุงสัญญาณไฟจราจรบริเวณโดยรอบ ซึ่งกล้องจะผูกติดกับสัญญาณไฟจราจร และไม่สามารถใช้การได้ตั้งแต่วันที่ 31 มีนาคมที่ผ่านมาจนถึงปัจจุบัน หลักฐานชิ้นสำคัญว่าใครคือคนขุดหมุดสำคัญนี้ไป ก็มีเหตุให้อันตรธานไปทันที
ล่าสุดเมื่อมีการลอบวางระเบิดในโรงพยาบาลพระมงกุฎเกล้า กล้องวงจรปิดหลายสิบตัวที่ทำหน้าที่บันทึกเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น หลายตัวก็ดูเหมือนจะเกิดเสียขึ้นมากระทันหัน เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องก็พูดซ้ำ ๆประโยคเดิมว่า “อยู่ในระหว่างการตรวจสอบ”
อานุภาพของกล้องวงจรปิด จึงมีสองด้านเสมอ
ด้านที่ทำหน้าที่อย่างตรงไปตรงมา กับด้านที่ขึ้นกับผู้มีอำนาจจะสั่งการมา