ไทยพีบีเอสกับ คืนวันรัฐประหาร ๒๒ พค. ๒๕๕๗

bop4k3riuaeon_j

๒๒ พฤษภาคม ๒๕๕๗ เวลา ๑๖.๓๐ น. ได้เกิดรัฐประหารขึ้น โดยคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) อันมีพลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็นหัวหน้าคณะ โค่นรัฐบาลรักษาการนิวัฒน์ธำรง บุญทรงไพศาล นับเป็นรัฐประหารครั้งที่ ๑๓ ในประวัติศาสตร์ไทย

คสช. ได้สั่งให้สถานีวิทยุโทรทัศน์ทุกแห่งหยุดออกอากาศรายการปกติและให้แพร่สัญญาณรายการของกองทัพบกเท่านั้น

ทางสำนักข่าวของไทยพีบีเอส ได้ประชุมกองบรรณาธิการเพื่อหาทางออกว่าในฐานะสื่อสาธารณะจะทำหน้าที่ในยามวิกฤติได้อย่างไร หลังจากนั้นจึงมีมติว่าจะออกอากาศทางออนไลน์ผ่านยูทูบทดแทนการออกอากาศทางโทรทัศน์ที่ถูกสั่งห้าม

ตอนนั้นผมเป็นรองผู้อำนวยการไทยพีบีเอส ได้รับมอบหมายให้มารับผิดชอบเหตุการณ์ ซึ่งก่อนหน้านี้หลายอาทิตย์กองทหารได้เข้ามาประจำการภายในสถานี เพื่อเข้ามาดูแลความสงบเรียบร้อย

ผมเชื่อว่าจะมีเรื่องยุ่ง ๆ เกิดขึ้นในสถานีในอีกไม่นาน คิดได้ว่ามีภารกิจสองอย่างที่ต้องทำคือการปกป้องให้กำลังใจนักข่าวที่ทำหน้าที่สื่อสาธารณะออกอากาศให้ได้นานที่สุด และ ปกป้องรักษาสถานีโทรทัศน์แห่งนี้ไม่ให้ถูกทหารสั่งปิด  ซึ่งเป็นความเสี่ยงทั้งสิ้น

ประมาณเกือบ ๆทุ่ม ไทยพีบีเอสได้เริ่มต้นถ่ายทอดการออกอากาศทางยูทูบ เป็นรายงานข่าวถ่ายทอดเหตุการณ์รัฐประหาร โดยมีณัฏฐา โกมลวาทิน และวราวิทย์ ปัจฉิมมณีเป็นผู้ประกาศข่าว เมื่อรายงานข่าวไปได้สักพัก มีนายทหารเข้ามาเจรจาบอกให้หยุดออกอากาศทันที ผมพยายามพูดจาถ่วงเวลา อ้างคำสั่งคสช.ว่าให้สถานีโทรทัศน์ทุกช่องหยุดการออกอากาศ แต่ไม่ได้มีคำสั่งห้ามทางออนไลน์ จึงขอให้ทางทหารไปสื่อสารหาคำตอบชัดเจนว่าห้ามจริงหรือ

ทุกวินาทีตอนนั้นมีค่าในการออกอากาศมาก เป้าหมายคือเสนอข่าวให้ได้นานที่สุด ซึ่งเนื้อหาเป็นข่าวปกติทั่วไปว่าเกิดเหตุการณ์อะไรขึ้นตอนนี้ สัมภาษณ์ความเห็นของคนทั่วไป นักวิชาการต่อกรณีการทำรัฐประหาร ทำหน้าที่ของสื่อสาธารณะอย่างตรงไปตรงมา ไม่เข้าข้างใคร

ไม่กี่นาทีคนดูจากหลักพันเพิ่มขึ้นเป็นสี่ห้าแสนในเวลาอันรวดเร็ว

สักครู่มีผู้ใหญ่จากกสทช.โทรศัพท์มาเข้ามือถือผม สั่งห้ามออกอากาศเด็ดขาด ผมพยายามต่อรองว่า มีคนโทรมาหลายสาย หลายคน จนสับสนว่าจะเชื่อใคร ตอนนี้จะขอฟังคำสั่งจากคสช.อย่างเดียว กำลังรอคำตอบชัดเจน

เรียกว่าใช้วาทศิลป์ที่มีมาตลอดชีวิตกับเหตุการณ์ครั้งนี้

ผ่านไปชั่วโมงกว่า ทางคณะรัฐประหารไม่พอใจมาก เพราะกลัวว่าช่องอื่นจะเลียนแบบออกอากาศทางออนไลน์แทน

คราวนี้นายทหารพร้อมอาวุธครบมือ เข้ามาภายในห้องควบคุมการออกอากาศ ขู่เต็มที่ บอกว่ากองทหารจากต่างจังหวัดกำลังเข้ามาดูแลสถานีนี้ อาจพูดจากันยากและสั่งให้ยุติการออกอากาศทันที

ผมเห็นว่าเราได้พยายามสุดความสามารถแล้วจึงบอกน้องๆว่าพอแล้ว

ไทยพีบีเอสจึงยุติการออกอากาศทางยูทูบตอนสองทุ่มกว่า ๆ

ทหารเข้ามาจับแขนผม และบอกว่าพี่ถูกควบคุมตัวแล้ว ผมถามว่าข้อหาอะไร.

เขาบอกว่าขัดขืนคำสั่งประกาศคสช.

ผมเดินตามทหารออกไปรอขึ้นรถตู้ แต่ขอตัวไปเก็บเครื่องใช้ส่วนตัว เพราะไม่รู้ว่าจะอยู่ที่ไหน นานเท่าใดที่จะได้กลับมา

ยอมรับว่าวินาทีนั้นไม่รู้ชะตากรรมใดๆ จะเกิดขึ้นกับตัวเอง ทุกคนคงประเมินสถานการณ์ไม่ออก ไม่รู้ว่าอะไรเป็นอะไร

จะมีการต่อต้าน มีการต่อสู้กันไหม

ระหว่างยืนรอรถ นายทหารคนหนึ่งถามว่าใครเป็นคนรับผิดชอบการออกอากาศ ใครเป็นผู้ประกาศ จะต้องถูกควบคุมตัวไปด้วย. ผมบอกว่าผมรับผิดชอบเองทั้งหมด อย่าเอาคนอื่นไปเลย เอาไปคนเดียวก็เหมือนกัน

ผมถามว่าจะเอาตัวไปไหน กรุงเทพหรือสระบุรี ลพบุรี นายทหารตอบเพียงว่า จะมีทหารอีกหน่วยหนึ่งมารับตัวไป ผมขอบุหรี่สูบ จากที่เลิกมานาน น้องๆหลายคนที่มารอส่ง บอกว่าพี่เอาไปทั้งซองเลย

ชะตากรรมข้างหน้าไม่รู้ว่าจะเกิดอะไรกับคนแรกที่ถูก คสช.ควบคุมตัวไป

ทหารพาขึ้นรถตู้ มีรถฮัมวีย์นำหน้า ไปที่กรมทหารราบที่ ๑ กองบัญชาการของคสช.

ทหารพาไปพบอดีตแม่ทัพภาค 1 ซึ่งต่อมาเป็นผบ.ทบ.บรรยากาศในค่ายทหารดูวุ่นวาย เคร่งเครียดมาก

เพราะเป็นวันแรกของการรัฐประหาร ไม่รู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้น จะนองเลือดไหม มีการพูดคุยซักถามกันพอควร ว่าเหตุใดไทยพีบีเอสจึงยังออกอากาศ เราก็ชีั้แจงไปตามปรกติของการงานสื่อมวลชน จำได้ว่า มีประโยคหนึ่งพูดออกไปว่า

“คุณก็ทำหน้าที่ของคุณ ผมก็ทำหน้าที่ของผม ก็เท่านั้นแหละ”

คืนนั้นไทยพีบีเอสได้ทำหน้าที่สื่อสาธารณะอย่างเต็มภาคภูมิแล้ว

สารคดี มิย. 2560

ใส่ความเห็น

This site uses Akismet to reduce spam. Learn how your comment data is processed.