1 กันยายนที่ผ่านมา เป็นวันครบรอบวันตายของคุณสืบ นาคะเสถียร อดีตหัวหน้าเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าห้วยขาแข้ง
เผลอแป๊บเดียว คุณสืบจากโลกนี้ไป ๑๗ ปีแล้ว นับแต่ปี พ.ศ. ๒๕๓๓
วันก่อนมีนักข่าวมาสัมภาษณ์ผมในฐานะที่คุ้นเคยกับคุณสืบมาพอสมควร คำถามหนึ่งที่นักข่าวถามผมคือ เดี๋ยวนี้ยังมีคนนึกถึงคุณสืบ นาคะเสถียร ในฐานะวีรบุรุษหรือไม่
ผมไม่ตอบคำถาม แต่ย้อนไปถามผู้ช่วยช่างกล้องแต่งกายในชุดฮิปฮอป ว่าเคยได้ยินชื่อบุคคลคนนี้หรือไม่
เด็กหนุ่มวัย ๒๐ ต้นๆ ตอบว่า เคยได้ยินว่าลุงสืบเป็นคนที่อุทิศตัวเองเพื่อปกป้องป่าไม้ของชาติ
จากนั้นผมหันมาถามนักข่าววัย ๓๐ กว่าๆ ด้วยคำถามเดียวกัน
เขาตอบว่า สืบ นาคะเสถียร คือวีรบุรุษของเขามาตลอด จำได้ว่าตอนที่คุณสืบยิงตัวตายในป่าห้วยขาแข้ง ข่าวนั้นสะเทือนใจผู้คนมาก แล้วต่อมาได้เกิดกระแสสีเขียว คนหันมาสนใจปัญหาสิ่งแวดล้อมอย่างแพร่หลายรวดเร็ว ก่อนจะค่อยๆ แผ่วจางลงเมื่อประเทศไทยประสบภาวะวิกฤตฟองสบู่แตกในปี พ.ศ. ๒๕๔๐
ภาพที่คนไทยจำคุณสืบได้แม่น มาจากรายการสารคดีส่องโลกของคุณโจ๋ย บางจาก ที่มาถ่ายทำตอนที่คุณสืบในฐานะหัวหน้าโครงการอพยพสัตว์ป่าที่เชี่ยวหลาน กำลังนั่งเรือออกไปช่วยชีวิตสัตว์ป่าที่กำลังจมน้ำตายในอ่างเก็บน้ำของเขื่อน มีอยู่ตอนหนึ่งคุณสืบพยายามช่วยชีวิตกวางตัวหนึ่งที่ลอยคอด้วยความเหนื่อยอ่อน พอลากมันขึ้นเรือได้ คุณสืบพยายามปั๊มหัวใจช่วยชีวิตกวางตัวนั้นอย่างสุดกำลัง แต่ก็สายเกินไป
แววตาของคุณสืบในช่วงเวลาที่รู้ว่าไม่สามารถช่วยชีวิตกวางตัวนั้นได้ ผมคิดว่ายังติดตาคนไทยทั้งประเทศ
ส่วนตัวผมเองเชื่อว่า แม้กาลเวลาผ่านไปกว่า ๑๐ ปีแล้ว แต่ชื่อ สืบ นาคะเสถียร ยังเป็นวีรบุรุษของผู้คนจำนวนมาก โดยเฉพาะคนในวงการอนุรักษ์
ชั่วชีวิตนี้คงหายากเต็มทีที่จะมีใครยอมอุทิศตัวตายเพื่อเรียกร้องให้คนสมัยนั้นหันมาให้ความสนใจปัญหาการตัดไม้ทำลายป่า การลักลอบล่าสัตว์ในป่าห้วยขาแข้งพื้นที่ล้านกว่าไร่ ใหญ่โตกว่ากรุงเทพมหานครหลายเท่า
ป่าห้วยขาแข้งในเวลานั้น นอกจากบรรดานักเดินป่า พรานล่าสัตว์แล้ว คงไม่ค่อยมีใครรู้จักมากนัก แต่เสียงปืนนัดหนึ่งในราวป่า ได้ทำให้ป่าห้วยขาแข้งกลายเป็นป่าที่คนไทยพากันหวงแหนมากที่สุดผืนหนึ่ง
ต่อมาสังคมได้รับรู้ว่า ก่อนเสียชีวิตคุณสืบได้ผลักดันงานทางวิชาการอย่างเข้มข้น เพื่อเสนอต่อยูเนสโกให้เห็นความสำคัญของป่าทุ่งใหญ่นเรศวร-ห้วยขาแข้ง ว่ามีคุณค่าทางด้านนิเวศเพียงใด จนยูเนสโกได้ประกาศให้ป่า ๒ ผืนที่มีเนื้อที่ติดกัน ๓ ล้านกว่าไร่ เป็นมรดกโลกทางธรรมชาติแห่งแรกของประเทศไทย
สืบ นาคะเสถียร เป็นตำนานของคนรักป่าไปอีกนาน
นักข่าวถามผมต่อว่า หากคุณสืบมีชีวิตจนถึงวันนี้ เขาจะเป็นอะไร
หากยังมีชีวิตอยู่ตอนนี้คุณสืบคงจะมีอายุ ๕๘ ปี ผมคิดว่าหากไม่เป็นอาจารย์สอนหนังสือหรือทำงานวิจัยตามสถาบันการศึกษา แกคงเป็นนักวิชาการอิสระที่เป็นปากเสียงให้แก่ป่าไม้และสัตว์ป่ามากกว่า
ตอนมีชีวิตอยู่ เวลาไปพูดที่ใด คุณสืบมักเริ่มต้นเสมอว่า “ผมขอพูดแทนสัตว์ป่า ที่ไม่มีโอกาสได้พูด”
ส่วนอาชีพรับราชการไม่ต้องพูดถึง คุณสืบคงลาออกไปนานแล้ว เพราะคนอย่างแกเป็นคนส่วนน้อยในระบบราชการไทย หากรับราชการในกรมป่าไม้ต่อไป ก็ไม่สามารถทำงานตามความมุ่งมั่นของตัวเองได้
ความมุ่งมั่นของคุณสืบมีอย่างเดียวคือ ต้องการรักษาป่าและสัตว์ป่า
สิบเจ็ดปีผ่านไป มีใครสืบทอดความมุ่งมั่นของ สืบ นาคะเสถียร บ้างไหม
วันชัย ตันติวิทยาพิทักษ์
บรรณาธิการบริหาร
Comments
ตอนเด็กๆก็พอจะทราบเรื่องของคุณสืบอยู่บ้าง แต่ยังไม่เข้าใจอะไรๆมากนัก จนตอนที่กระสุนนัดนั้นดังขึ้น ดิฉันซึ่งอายุราวสิบเอ็ดขวบถึงกับช็อค และจำได้ว่าน้ำตาไหล วันที่ 1 กย. ที่จะถึงนี้ก็จะครบ 18ปี ที่คุณสืบจากไป อยากบอกกับดวงวิญญาณคุณสืบ และวีรบุรุษที่ไม่ได้รับการเอ่ยนามทุกท่านว่า สิ่งที่ท่านทำไว้มันจะไม่หายไปไหน เพราะมันได้กลายเป็นแรงบันดาลใจในการดำเนินชีวิตของดิฉันไปแล้ว และดิฉันขอบคุณที่ท่านได้ปลุกจิตสำนึกตรงส่วนนี้ให้แก่ดิฉัน ไม่เช่นนั้นแล้ว ดิฉันพอจะนึกออกว่า ตัวเองจะเลือกดำเนินชีวิตอย่างไร ซึ่งมันเป็นสิ่งที่โง่หาประมาณไม่ได้เลย
สิ่งที่ทำอยู่คือการมีสติในการใช้ทรัพยากรทุกอย่าง และขอบคุณทุกครั้งที่ระลึกได้ว่าธรรมชาติอันยิ่งใหญ่ ไม่ได้มอบสิ่งนี้ให้แก่เรา เพียงเพราะเราเป็นมนุษย์ หรือเรามีสิทธิในธรรมชาติมากกว่าใคร จงใช้อย่างรู้สำนึกในบุญคุณ เบียดเบียนให้น้อย และตอบแทนให้มาก จบค่ะ
ยังนึกถึงอยู่ครับ อ่านบทความแล้วยังน้ำตาคลอเบ้าอยู่เลย
และที่ยิ่งสลดใหญ่ก็คือเวลาได้อ่านข่าวว่าพวกนักการเมืองอ้างว่าจะสืบสานเจตนารมณ์ด้วยการให้สัมปทานแก่เอกชนเข้ามาช่วยบริหาร
ไร้ยางอายจริง
การที่จะให้คนหันมามีจิตสำนึกอะไร
ทำไมต้องแลกกับชีวิตคนดี
แป๊ปเดียว17ปีผ่านมาแล้วนะ จากความรู้สึกผมเคยได้ยินจากเพลงเพื่อชีวิตว่าคุณ สืบ นาคะเสถียร คือใคร ตัวผมเองนั้นถ้ามีโอกาศผมอยากใช้ชีวิตช่วงที่เหลือของผมสานต่อ อุดมการณ์ อันี้มากเลยเพราะเป็นสิ่งที่น่าชื่นชมมากๆๆเลยครับเพราะวัยเด็กผมเติบโตมาจากป่าเหมือนกันเลยมีความผูกพันกับป่าอยู่ สุดท้ายผมขอคาราวะแด่ คุณ สืบนาคะเสถียร ถ้ามีโอกาศผมอยากไปกราบไหว้ “วีรบุรุษ”สักครั้งหนึ่งในชีวิต.