“สวัสดีครับ ผม มาโนช พุฒตาล บุตรของนายเฉลียว กับนางอำไพ”
เมื่อปีที่ผ่านมาหลายคนคงคุ้นกับเสียงทุ้ม ๆของ พี่ซัน หรือ มาโนช พุฒตาล หนึ่งในดีเจชื่อดังที่เข้ามาร่วมจัดเพลงทางวิทยุ FM รายการ The Radio 99.5
The Radio เริ่มออกอากาศมาตั้งแต่เมื่อเดือนตุลาคม 2549 ใช้เวลาไม่นานจนกลายเป็นรายการเพลงที่มีคนฟังมากที่สุดคลื่นหนึ่ง
จุดเด่นของคลื่นนี้คือเปิด เพียงเพลงฝรั่งทั้งแนวป๊อบ ร็อก แจ๊สร่วมสมัย ที่ได้รับการเลือกสรรแล้วว่า แต่ละเพลงที่เปิดออกมา โดนใจคนฟังแน่นอน คือเปิดเพลงดี นักร้องและดนตรีมีคุณภาพ ฟังง่าย หลายเพลงไม่อาจหาฟังจากที่อื่นได้ ด้วยฝีมือการบรรจงคัดสรรเพลงจากดีเจรุ่นใหญ่เก๋าในวงการเพลงมานาน ไม่ว่าจะเป็นพี่หมึก วิโรจน์ ควันธรรม เดือนเพ็ญ สีหรัตน์ ณัฐรุจน์ แข็งแรง เป็นเลิศ หทัยเฑียร ป้าแต๋ว วาสนา วีระชาติพลี และดีเจรุ่นเด็กอย่างน้องเปียโนและที่สำคัญไม่ได้เปิดเพลงเอาใจตลาด หรือเปิดตามใบสั่งของสปอนเซอร์ ผู้สนับสนุนรายการ เหมือนกับรายการเพลงตามคลื่นวิทยุทั่วไป
จะเชื่อหรือไม่ก็ตาม The Radio ได้ทำให้คนจำนวนมากที่เคยฟังเพลงจากแผ่นซีดี แทนการเปิดวิทยุฟังเพลง เพราะทนไม่ได้กับการถูกดีเจส่วนใหญ่เปิดเพลงซ้ำๆ ตามใบสั่งของค่ายเทปกรอกหู เอาใจเฉพาะวัยรุ่น ต้องหันกลับมาเปิดวิทยุฟังเพลงทางคลื่นวิทยุ FM 99.5 ตลอดทั้งวัน
หากเปรียบ The Radio เป็นร้านอาหาร กุ๊กที่นี่ปรุงอาหารได้อร่อยจริง ๆ ลูกค้าเล่ากันถึงความเอร็ดอร่อยของอาหารที่หากินได้ยาก เมื่อเปรียบเทียบกับร้านอาหารทั่วไป จนลูกค้าแน่นร้านในเวลาไม่นานสถานีแห่งนี้
คุณสามารถฟังเพลงได้ตั้งแต่เพลงของวง Pink Floyd หรือ U2 ในยุค 70-80 เรื่อย มาจนถึง Cold Play หรือ Maroon 5ในปัจจุบัน หรือเพลงประกอบหนังการ์ตูนเรื่อง หน้ากากเสือ โดราเอมอน หรือหนังจีนกำลังภายในอย่าง กระบี่ไร้เทียมทาน ที่หาฟังได้ยาก The Radio ก็หามาให้ฟังจนได้
The Radio ไม่ได้โฆษณาตัวเองมาก แต่จากปากต่อปากของนักฟังเพลง ที่แนะนำกันว่าเป็นรายการเพลงสากลทางวิทยุที่ดีที่สุดในรอบสิบปี เป็นรายการเพลงในฝันที่รอมานาน ใครลองฟังสักครั้งสองครั้ง หากเป็นผู้มีเสียงเพลงในหัวใจ คงไม่ปฏิเสธที่จะล็อกคลื่นที่นี่โดยอัตโนมัติปฏิเสธไม่ได้ว่าปีที่ผ่านมาอันแสนหดหู่และเต็มไปด้วยความขัดแย้งในสังคม The Radio เป็นความรื่นรมย์ของผู้ที่โหยหาความสุขจากเสียงเพลงจริง ๆแต่แล้วเมื่อวันที่ 28 ธันวาคมปีที่ผ่านมา อยู่ ๆ คุณวิโรจน์ ควันธรรม หัวเรือใหญ่แห่งThe Radio ได้แจ้งให้ผู้ฟังทราบว่า รายการเพลงจะดำเนินเป็นวันสุดท้ายแล้ว ต้องปิดตัวเองอย่างกระทันหัน
แหล่งข่าวแจ้งว่าสาเหตุเนื่องมาจากนายทุนเจ้าของคลื่นที่ได้สัมปทานจากสถานีแห่งนี้มา ได้ยกเลิกรายการนี้ทันที เพื่อไปทำรายการเพลงแบบอื่น อ้างว่าที่ผ่านมาประสบปัญหาขาดทุนโฆษณาที่เป็นรายได้ทางเดียวไม่เข้าเป้า
พูดง่าย ๆ คือไม่มีโฆษณา ไม่มีสปอนเซอร์มากพอที่จะทำให้รายการ The Radio อยู่ได้ และยังไม่ได้เงินจากการรับจ้างเปิดเพลงไทยวัยรุ่นจากบรรดาค่ายเทปต่าง ๆด้วย
หนทางเดียวที่จะอยู่ได้ก็คือ ต้องเปิดเพลงเอาใจวัยรุ่น คือเพลงไทย หรือไม่ก็เพลงจากนักร้องญี่ปุ่นและเกาหลี ที่เรียกกันว่า J-Pop หรือ K-Pop เพราะเชื่อกันว่ากลุ่มคนวัยรุ่นคือผู้ที่มีกำลังซื้อสูงสุด และซื้อสินค้าได้ง่าย ไม่ต้องคิดมากเหมือนผู้ใหญ่
บรรดาบริษัทเอเจนซี่ที่เป็นผู้ชี้เป็นชี้ตายว่าจะลงโฆษณาสินค้าให้กับรายการใด ก็มักจะเทสินค้าไปยังรายการที่เปิดเพลงวัยรุ่นเป็นหลัก
The Radio อาจจะมีผู้ฟังจำนวนมากกว่ารายการวัยรุ่นหลายรายการด้วยซ้ำ เพียงแต่ว่าวัยรุ่นอาจจะไม่ใช่กลุ่มใหญ่ แต่เป็นกลุ่มคนวัยทำงานอายุประมาณ 25-45 ปี แต่บรรดาเอเจนซี่ส่วนใหญ่ที่มักใช้ความรู้สึกมาก ใช้ความคิดน้อย ยังมีความเชื่อนักเชื่อหนาว่าวัยรุ่นเป็นกลุ่มที่ฟังเพลงมากที่สุด และมีกำลังซื้อสูงสุดเท่านั้น ผิดไปจากนี้ก็ยากที่จะลงโฆษณาได้
สังคมทุกวันนี้จึงถูกทำให้เชื่อว่า รายการที่ขายได้ทางสื่อของวิทยุ โทรทัศน์หรือแม้แต่นิตยสารต่าง ๆ ต้องเอาใจวัยรุ่นเท่านั้น
ไม่น่าแปลกใจที่วันปีใหม่ที่ผ่านมา คลื่น 99.5 จึงเปลี่ยนเป็นเพลงไทยเอาใจวัยรุ่นกันสุด ๆ สลับกับเพลงจากญี่ปุ่นและเกาหลี
หลายวันที่ผ่านมา ในเว็บบอร์ดของพันทิพ มีคนเข้ามาแสดงความคิดเห็นกันมากมาย เกี่ยวกับการจากไปของรายการ The Radio ข้อความตอนหนึ่งเขียนไว้ว่า
“คงเป็นโชคร้ายของผมที่ไม่ฟังเพลงไทย ไม่ฟังดีเจเด็ก ๆหน้าโง่มากรีดกร๊าดหน้าไมค์ ไม่อยากฟังเพลงค่ายอาเฮีย อากู๋ ที่นับวันมีแต่ปัญญาอ่อน คอยแต่แย่งคลื่นดี ๆไปหมด นักร้องในสังกัดก็ห่วยแตก ไม่รู้จะเอาคลื่นเยอะ ๆ ไปกันมากมายกันหนักหนา เปิดเพลงเหมือนกันหมดทุกคลื่น”
อีกคนหนึ่งเขียนมาว่า
“ดิฉันค้นหาคลื่น เพื่อที่จะฟังเพลงและสาระความรู้จากคนรุ่นเก่าๆไม่ว่าจะเป็นคุณวิโรจน์ คุณวาสนา และคุณมาโนช และดีเจเด็กๆ ได้แต่เศร้าที่ไม่มีสถานีวิทยุดีๆ และดีเจทุกท่านต่างมีความรู้เรื่องเพลงและประสบการณ์ชีวิตมาแบ่งปันให้แฟนเพลงได้ฟังอีก คงจะเป็นวาสนาของประเทศไทยที่ไม่สามารถมีสิ่งดี ๆ สำหรับประชาชนชาวไทยเหมือนกับในทุกๆเรื่อง ไม่ว่าจะเป็นการศึกษา การเมือง หรือแม้แต่คนดีก็ไม่สามารถทำอะไรให้เมืองไทยได้ขอกราบกรานสปอนเซอร์ทั้งหลายกรุณาเจียดเงินอันมีค่าของท่านให้มีรายการดีๆแบบนี้ด้วยเถิด”
การจากไปของ The Radioไม่ได้บอกเราเพียงว่า ของดีมีคุณภาพ แม้แต่รายการเพลง ก็ไม่สามารถอยู่ได้ในสังคมแบบนี้เท่านั้น
แต่การจากไปของ The Radio ยังช่วยตอกย้ำว่า ผู้มีอำนาจชี้เป็นชี้ตาย หรือมีสิทธิ์สั่งให้รายการใดมีชีวิตอยู่ได้ หรือตายได้ ไม่ใช่ประชาชนหรือผู้บริโภคทั่วไป แต่กลายเป็นรสนิยมของเจ้าของสินค้า หรือบรรดาเอเยนซี่บริษัทโฆษณาทั้งหลายที่เป็นผู้ชี้นิ้ว
ในยุคบริโภคนิยมสุด ๆ แบบนี้ ขนาดรายการเพลงฟังสบาย ๆ ไม่เป็นพิษเป็นภัย ไม่มีเนื้อหาหนัก ๆ ไม่มีเรื่องเคร่งเครียด คนฟังแน่นทั้งเมือง ยังต้องม้วนเสื่อกลับบ้าน
แล้วรายการมีเนื้อหาสาระจะเหลือหรือครับ
Comments
เรื่องธุรกิจวิทยุของบ้านเรา คงบอกได้คำเดียว เสียความรู้สึกครับ
Pingback: เดอะเรดิโอ « Mister Wind-up Bird
I don’t know why didn’t happen with big company..
We’re a small group but we’re human like everyone.
Please send a space for our group.
นี่แหละคือผลพวงที่มาจากค่านิยมบางอย่างที่กำลังจะถูกทำให้กลายเป็นวัฒนธรรมของยุคสมัยโดยระบบรัฐอย่างเปิดเผย เมื่อก่อนย้อนหลังไป20 ปี สังคมเราก็ไม่เคยถึงขนาดที่จะปิดกั้นแหล่งความรู้ความบันเทิง ที่จะต้องเน้นเฉพาะวัยรุ่นเท่านั้น แต่ที่ปัจจุบันเป็นเช่นนี้ก็เพราะกลไกที่รัฐขับเคลื่อนสังคมต่างหากที่กำลังบูรณาการสังคมด้วยภาพมายา
อีกครั้ง
ที่สังคมไทยเกิดภาวะเช่นนี้
😕
Hope u be back in soon,Miss all of DJ from this program
ม้วนเสื่อกลับบ้านก็จริง
แต่อย่างน้อยก็ไม่ได้ตายจากไป อย่างคลื่น นิตยสาร หนังสือพิมพ์ ทีวี ที่ขมักเขม้นเลียขาโฆษณาอยู่ตอนนี้หรอกครับพี่จอบ (สู้ๆ)
วัตถุนิยมครับ คนเรามักบ้าคลั่งกับมันจนลืมรากเหง้าของตนเอง
The Radio เปลี่ยนเป็นการผสมผสานรากเหง้าของคนในยุดคก่อนกับคนสมัยใหม่ได้อย่างลงตัว
นับตั้งแต่ดีเจมีทั้งรุ่นใหม่รุ่นเก๋าจัดรายการกันได้อย่างลงตัว เพลงก็มีตั้งแต่สมัยยุค 60s-70s
และที่สำัญไม่ใช่ดีเจรุ่นเก่าเปิดเพลงเก่านะครับ ผมยกตัวอย่างได้ฟังพี่ซันทุกเช้าเวลาขับรถไปทำงานเมื่อก่อนก็เคยฟังแต่เพลงของพี่แก พอมาฟังแกจัดรายการนึกไม่ออกเลยว่าแกจะเปิดเพลงสมัยใหม่ได้ยังไง พอได้ฟังเท่านั้นแหละครับแกมีวิธีเล่าเรื่องของแกแล้วก็เปิดเพลงไปทั้งเก่าใหม่วัยรุ่นจ๋าก็มี ผมว่าบางทีฟังไปมันก็เ้ากันได้ดีนะครับ เห็นมั้ยครับว่าขนาดคนมีอุดมการณ์ขนาดนั้นยังปรับตัวให้เข้ากับยุคกับสมัยได้ ….แล้วพวกคุณล่ะทำไมไม่ปรับตัวบ้างครับ อย่าเห็นแก่ประโยชน์ของคนเพียงบางกลุ่มเลยครับ หรือว่าความต้องการของคนเรามันเป็นอย่างนั้นจริงๆ ผมว่าไม่เป็นไรครับ รายการดีๆอย่างงี้เดี๋ยวก็กลับมาได้อีกแน่นอนครับ ผมเชื่ออย่างนั้นครับ 💡
เสียดายมากๆ ไม่เข้าใจระบบนายทุนเลยจริงๆ
กระทู้ให้กำลังใจTHE RADIOที่pantipเสีย..ส่งข้อความแจ้งกระทู้เสียกับทางpantipแล้ว..สงสัยแก้ไขไม่ได้เหรอครับ??หรือต้องสมัครสมาชิกก่อนเนี้ยยย…ทุกกระทู้ใหม่มารวมที่ความเห็นที่32หมดเลย….กลัวคนอื่นที่ไม่รู้..แล้วคิดว่ากระทู้เงียบไปแล้ว…กลัวนิสัยคนไทยด้วย..รักง่ายหน่ายเร็ว..ผ่านมาผ่านไป..ลืมง่าย..เฮ้อออ
THE RADIO สู้ๆๆๆ
เสียใจอย่างมากกับความสูญเสียอีกครั้งหนึ่งที่ถึงแม้ว่าจะมองดูแล้วเหมือนไม่มีความสำคัญกับคนส่วนใหญ่เท่าไร………….แต่การสูญเสียครั้งนี้ก็เหมือนการมองดูเพื่อนเก่าคนหนึ่งตกตายไปโดยไม่สามารถช่วยเหลืออะไรได้เลย………….เมื่อไรพวกเราจะพอมีพื้นที่เพื่อรำลึกถึงความสุขในอดีตได้โดยไม่มีเงื่อนไขบ้าง……………….ขอวอนทุกท่านที่พอจะมีใจบ้างให้คืนพื้นที่เล็กๆแห่งนั้นมาให้พวกเราเถอะ……….พื้นที่แห่งนั้นที่ๆพวกเรารู้จักในนาม The Radio
ทำไมจะมีรายการดีๆ คลื่นดีๆ ในเมืองไทยไม่ได้เลยหรือไง ทุกเช้าผมจะฟังใครพูดอะไรเรื่อยเปื่อยให้ฟังอย่างคุณมาโนชอีก เสาร์-อาทิตย์ รายการเพลงโปรดผมหายไป ผมไม่เปิดวิทยุไปเลย 2-3 วัน
มันเหมือนส่วนหนึ่งของชีวิตขาดๆ ไป แต่ต้องยอมรับมันและรอคอยพวกเค้า รักดีเจทุกคนครับ
เราหวังว่าการเกิดของทีวีสาธารณะที่จะไม่ขึ้นกับระบบทุนจะรองรับรายการแบบนี้ได้…
แฟนรายการ
กลับมาฟังซีดี เหมือนเดิมครับ
🙁 เราก็ต้องหันมาพึ่งซีดีเหมือนกัน เสียใจ เสียใจ เสียใจ คิดถึงน้าซัน น้าโป่ง แล้วก็คุณเอ๊ดดี้ น้าหมึก ป้าแต๋ว แล้วก็หนูเปียโน เสียดายสาระ ความคิดเห็นดีๆ ที่จะได้รับทุกวัน คิดถึงความมันของวันเสาร์ อาทิตย์ แง แง
อยากให้คุณน้าคุณอาพี่ๆทุกคนกลับมารวมกันทำคลื่นดีดีแบบนี้อีกครั้ง
จะรอต่อไปครับ 🙂
เหนียวแน่นครับคิดถึง the radio ใจจะขาดแล้ว….
เสียดายรายการดีๆ ที่เคยฟังทุกวัน ไม่มีให้ฟังอีกแล้ว
เสียใจและเห็นใจทุกๆคน 💡 อยากให้กลับมาทำคลื่นดีๆให้ทุกคนได้ฟังอีก
กลับมาเถอะครับ คลื่นดีๆทำไมต้องเป็นแบบนี้ด้วย ผมชอบ ดี เจ อย่างพี่ๆ ทุกคน นอกจากเพลงที่ดีแล้วผมยังได้เรื่องราวของเพลงจากการจัดรายการ นี่แหละครับคนตนดรี รู้และเข้าใจ
Music is my life.
ชอบพี่ซันที่จัดรายการเหมือนกับว่า “ฟังเพลงไปคุยกันไป” ผมมันเลวหรือครับที่เกิดมาในยุคของ Lynyrd Skynyrd, The Alan Parson Project, ฯลฯ ที่เป็นศิลปินที่มีผู้ฟังเฉพาะกลุ่มในปัจจุบัน…
อยากฟัง The Radio อีกครับ ถ้าไปจัดกันที่สถานีไหนก็จะตามไปอีก คิดถึงป้าแต๋ว, น้าหมึก, และพี่ซันครับ
ผมเป็นคนที่ไม่ค่อยรู้ภาษาอังกฤษเลย(เด็กๆไม่ตั้งใจเรียน)แต่THE RADIO ก็ทำให้ผมอยากที่จะรู้ภาษาอังกฤษเพื่อที่จะฟังเพลงเหล่านั้นได้ไพเราะมากขึ้น ถึงจะเข้าใจบ้างไม่เข้าใจบ้าง แต่ก็ชอบทุกเพลงที่เปิดในรายการที่ได้ผ่านการเลือกเฟ้มหามาให้ได้ฟังกันเป็น ขอบคุณมากครับ ขอบคุณจริงๆ
ความหวังแม้เป็นเพียงเงาจางๆแต่ก็ยังคงหวังรอวันที่จะกลับมาของ The Radio
ก่อนอื่นขอแสดงความเสียใจด้วยครับ
ผมเกิดใสยุค 70 รักวงอมตะต่างๆ อาทิเช่น led-zeppelin, lynyrd skynyrd, the mountain, emerson lake & palmer, the atlantic rhythum section. etc.
สาเหตุหนึ่งที่ประเทศไทยไม่พัฒนาเท่าที่ควรคือ การปิดกั้นสื่อ
ขอให้รายการคุณภาพของคุณกลับมาสุ่ผู้ฟังอีกครั้ง
2 ปีมาแล้วครับนี่ก็นานแล้วนะ คิดถึง theradio มาก อยากได้บรรยากาศงานที่
theradiolive อีกสักครั้ง แม้ไม่ใหญ่โตแต่ขอเป็น Party
เล็กๆก็ยังดีสำหรับเราคน theradio
จะได้พบปะสังสรรค์พูดคุยด้วยกันอีกสักครั้งหลังงาน theradiolive 2008 ผมว่าหลายๆท่านคงไม่ต่างไปจากผม เพราะผมเองไม่อยากให้ theradio ต้องเหือดแห้งไป มีอะไรดีๆหรือความความคิดเห็นกับการที่้เราจะรวมพลคน theradio สำหรับปาร์ตี้เล็กๆก็ได้ ลองเข้าไปที่เมล์ของ พี่หน่องได้เลยนะครับ audinass@hotmail.com ครับ
ยังคิดถึงพี่ซันและคุณวิโรจน์กับพี่เปียโนมากๆคะ ใจหายคะ เมื่อเสียงที่เราเคยได้ยินได้ฟังจากรายการวิทยูสุดโปรดทุกเช้า เวลาเราขี่จักรยานจากบ้านที่อารีย์ไปทำงานที่เยาวราชได้หายไป พี่ๆทุกคนเป็นเหมือนเพื่อนร่วมทางส่งเราถึงที่ทำงานทุกเช้า เหงาเหมือนกันคะ หนูอายุ20ปีกว่าๆ แต่หนูก็ชอบฟังเพลงยุค 60 80 ซึ่งหายฟังจากที่คลลื่นไหนไม่ได้แล้ว หนูชอบฟังเรื่องเล่าประสบการณืชีวิตที่ได้ทั้งสาระความรู้และข้อคิดจากพี่ซัน ซึ่งหาดีเจดีๆอย่างนี้ในเมืองไทยที่ไหนไม่ได้แล้ว หนูเฝ้ารอคอยฟังon the rock ทุกวันเสาร์และฟังมันตั้งแต่ต้นจนจบรายการด้วยความสุข อยากให้พี่ๆกลับมาอีกครั้งมากๆเลยคะ เบื่อเพลงเกาหลี เพลงไทยที่ได้แต่เลียนแบบ ทำแบบตลาดๆ หลอกขายเด็กๆแล้ว อยากซาบซึ้งกับท่วงทำนองดนตรีแท้ๆ เพราะๆ ในยุคเก่าๆอีกครั้งมากๆเลยคะ
กลับมาเถอะครับ รออยู่ตลอดไป คิดถึงพี่ซันมากกกกกกกกกกกกก
เสียดายคลื่นวิทยุดีๆ อย่างนี้ ไม่รู้เมื่อไหร่จะมีคลื่นที่เปิดเพลงดีๆ และดีเจที่ลงตัวทุกช่วงอย่างนี้อีก
ผมกลับเห็นว่าทุกอย่างต้องมีการปรับตัวจึงจะอยู่รอด ถ้าคุณมองว่าธุรกิจของตุณต้องอยูรอดได้ก็ต้องทำครับ ผมเห็นว่าสิ่งที่ทางทีมงานอยากทำคือการทำrating ให้สปอนเซอร์ดูครับ