การค้นพบใหม่

เมื่อเร็ว ๆนี้ มีข่าวต่างประเทศเล็ก ๆสองข่าวที่น่าสนใจ

ข่าวแรก ในประเทศบราซิล มีการค้นพบคนป่าเผ่าหนึ่งที่ไม่เคยออกมาสัมผัสโลกภายนอกเลย

ชนเผ่านี้อาศัยอยู่ลึกเข้าในป่าอะเมซอนใกล้พรมแดนบราซิลและเปรู ข่าวแจ้งว่า เป็นการค้นพบขณะที่นักบินของรัฐบาลกำลังบินสำรวจป่าที่ยังไม่เคยมีมนุษย์เข้าไปถึง และได้เห็นบ้านและคนป่าทาสีแดงตามลำตัวหลายคน ในมือถือธนูและลูกดอก ทำท่าจะยิงธนูไปที่เฮลิคอปเตอร์
คนป่าคงนึกว่าเจ้าแมลงปอยักษ์ที่บินอยู่ท้องฟ้าเป็นนกยักษ์ชนิดหนึ่ง

อันที่จริงรัฐบาลบราซิลทราบมานานแล้วว่า มีชนเผ่าดังกล่าวอาศัยอยู่ในป่าอะเมซอน แต่ทางการได้ตัดสินใจแถลงข่าวนี้ออกมา เพื่อให้สาธารณชนตระหนักว่า คนป่าเหล่านี้กำลังถูกคุกคามจากการตัดไม้ทำลายป่า ของบรรดานายทุนข้ามชาติที่บุกรุกป่าอะเมซอนลึกเข้าไปเรื่อย ๆ จนอาจจะสูญเผ่าพันธุ์ไปในเร็ววัน

การทำลายป่านอกจากจะทำลายพื้นที่อาศัยเดิมแล้ว ยังเปิดโอกาสให้ชนป่าเหล่านี้ติดโรคต่าง ๆจากเชื้อโรคภายนอกด้วย

นักวิชาการคาดว่าปัจจุบันยังมีคนป่าที่ไม่เคยติดต่อกับโลกภายนอกนับร้อยเผ่า กว่าครึ่งอาศัยอยู่ในบราซิลและเปรู

คนป่าเหล่านี้ที่ตัดขาดจากโลกภายนอก ไม่ยุ่งเกี่ยวกับความเป็นอารยะใด ๆทั้งปวงบนโลกนี้ กลับถูกความเจริญบุกเข้าไปทำลายถึงถิ่นอาศัย

ข่าวชิ้นที่สอง เกิดขึ้นนอกฝั่งนิวฟาวด์แลนด์ ประเทศแคนาดา แต่เหตุไม่ได้เกิดบนพื้นดิน

นายจอห์น พาร์กส นักวิทยาศาสตร์จากมหาวิทยาลัยเวลส์ ได้พบสิ่งมีชีวิตขนาดเล็กที่อาศัยอยู่ใต้พื้นดินที่ลึกที่สุด เท่าที่มนุษย์จะเคยสำรวจค้นพบมาก่อน

สิ่งมีชีวิตจิ๋วที่ค้นพบนั้น มีชื่อเรียกว่า “โพรคารีโอทิก ไมโครบส์” ซึ่งเป็นสิ่งมีชีวิตในกลุ่มของแบคทีเรียและสาหร่ายสีเขียวแกมน้ำเงิน

เจ้าสิ่งมีชีวิตนี้อาศัยอยู่ลึกลงไปใต้พื้นทะเลนอกฝั่งนิวฟาว์แลนด์ ถึง ๑,๖๒๖ เมตร อยู่ในชั้นดินเก่าแก่อายุ ๑๑๑ ล้านปี และมีอุณหภูมิเกือบร้อยองศาเซลเซียส

มันมีชีวิตของมันมาเป็นเวลาหลายร้อยล้านปี ก่อนที่มนุษย์จะค้นพบ และนักวิทยาศาสตร์เชื่อว่า อาจจะมีเจ้าตัวกระจิดริดที่สามารถมีชีวิตอยู่ลึกลงไปใต้พิภพถึง ๔ กิโลเมตร และรวมไปถึงดาวเคราะห์ดวงอื่น ๆในจักรวาลด้วย

การปรับตัวให้สามารถมีชีวิตอยู่ได้ในบรรยากาศแปลก ๆ หรืออุณหภูมิสูง ๆ เป็นสิ่งที่ทำให้นักวิทยาศาสตร์ตื่นตาตื่นใจกับความมหัศจรรย์ของสิ่งมีชีวิต และเป็นปริศนาลึกลับว่ามันสามารถมีชีวิตอยู่ได้อย่างไรกัน

แต่ลึกลงไปขนาดนั้น นักวิทยาศาสตร์ก็กำลังหนาว ๆร้อน ๆ ว่าปัญหาโลกร้อนที่มนุษย์สร้างขึ้น อาจจะส่งผลกระทบถึงพวกมันก็ได้ จากโครงการที่มนุษย์จะนำก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์อัดใส่ถังและนำไปฝังไว้ใต้ดิน เพื่อลดปริมาณก๊าซชนิดนี้ในชั้นบรรยากาศ

ขนาดพวกมันตัวน้อยนิดหนีลงไปอยู่ใต้พื้นดินลึกสุดขีด มนุษย์ก็ยังตามไปรบกวนพวกมัน ไม่ต่างจากชนเผ่าแห่งป่าอะเมซอนที่อยู่ลึกเข้าไปในป่าดงดิบ แต่มนุษย์ก็ยังตามเข้าไปรังควานจนได้

มนุษย์คือศัตรูสำคัญที่สุดของธรรมชาติจริง ๆ

Comments

  1. ann

    เรียน คุณวันชัย
    หนูอยากได้ขอมูล รายละเอียดของเรื่องนี้อีก มีลิงค์ให้ไหมค่ะ
    จะเอาไปเขียนรายงานค่ะ
    ขอบคุณมากค่ะ

  2. Webmaster นิตยสารสารคดี

    จัดให้ครับ

    บราซิลพบคนป่าหลายเผ่า ไม่เคยเจอโลกภายนอก-ถูกคุกคาม

    ยังมีคนป่าอีกหลายเผ่าพันธุ์ที่ยังคงซ่อนตัวอยู่ตามป่าลึก ไม่เคยติดต่อกับความเจริญใดๆ ภายนอก

    ล่าสุดมูลนิธิอินเดียน (FUNAI) ของรัฐบาลบราซิลนำรูปถ่ายชนป่าเผ่าหนึ่งมาเผยแพร่ ขณะที่นักบินบินผ่านป่าแอมะซอนใกล้พรมแดนบราซิลและเปรู คนป่าทาสีแดงตามลำตัว ในมือถือศรและลูกดอก

    นายโฮเซ่ คาร์ลอส ไมเรลส์ นักวิชาการจากมูลนิธิอินเดียน กล่าวว่า คนป่าหลายๆ เผ่ากำลังถูกคุกคามจากการลักลอบตัดไม้ทำลายป่า นับเป็นอาชญากรรมที่มีต่อธรรมชาติและคนป่าทั้งหลาย ที่จริงแล้วรัฐบาลบราซิลทราบว่ามีชนเผ่านี้มานานหลายปี แต่ที่ตัดสินใจนำมาเปิดเผยเพราะต้องการให้ผู้คนตระหนักถึงปัญหาร้ายแรงที่เกิดขึ้นจากการบุกรุกป่าดงดิบ

    จากรูปภาพหลายรูปในเวบไซต์ http://www.survival-international.org พบว่า คนป่า 2 คนที่ทาสีแดงที่ลำตัวกำลังตั้งท่ายิงลูกดอกเข้าใส่เฮลิคอปเตอร์ ส่วนอีกคนหนึ่งมองดู อีกรูปเห็นว่าคนป่า 15 คนยืนอยู่ใกล้กับกระท่อม บางคนเตรียมยิงลูกดอกเข้าใส่

    นายสตีเฟน คอรี่ ผู้อำนวยการกลุ่มเซอร์ไววัลฯ กล่าวว่า “เราต้องสนับสนุนให้มีความคุ้มครองในบริเวณที่อยู่อาศัยของคนป่าและสอดคล้องกับกฎหมายระหว่างประเทศ มิฉะนั้นแล้ว คนป่าจะสูญพันธุ์ไปเนื่องจากถูกฆ่า การอพยพย้ายถิ่นเพราะถูกรุกราน ไปจนเป็นโรคจากเชื้อโรคใหม่ๆ ปัจจุบันคาดว่ายังมีคนป่าที่ไม่ได้มีการติดต่อกับโลกภายนอกมากกว่าร้อยเผ่า กว่าครึ่งอาศัยอยู่ที่บราซิลหรือไม่ก็เปรู ส่วนคนป่าที่อาศัยอยู่ตามแนวพรมแดนบราซิล-เปรูนั้น คาดว่ามีประมาณ 500 คน”

    ที่มา หนังสือพิมพ์ข่าวสด

    http://www.dek-d.com/board/view.php?id=1111520

  3. Webmaster นิตยสารสารคดี

    สิ่งมีชีวิตอยู่ใต้ดิน ลึกลงไปถึง 1.6 ก.ม.
    วันที่ 03 มิถุนายน พ.ศ. 2551 ปีที่ 18 ฉบับที่ 6396

    ข่าวสดรายวัน

    นักวิทยาศาสตร์จากมหาวิทยาลัยเวลส์ พบว่า สิ่งมีชีวิตขนาดเล็กที่อาศัยอยู่ใต้พื้นดินที่ลึกที่สุดนั้น อยู่ใต้พื้นดินถึง 1.6 กิโลเมตรที่ใต้ท้องทะเลแอตแลนติก จากข้อมูลนี้จึงเป็นไปได้ว่า อาจมีสิ่งมีชีวิตอยู่ใต้พื้นดินที่ลึกลงไปอีกถึง 4 กิโลเมตร รวมถึงอยู่ที่ดาวดวงอื่น

    นายจอห์น พาร์กส พบ “โพรคารีโอทิก ไมโครบส์” อยู่ใต้ทะเลนอกชายฝั่งนิวฟาวด์แลนด์ ประเทศแคนาดา ซึ่งก่อนหน้านี้พบอยู่ใต้ดินลึกเพียง 842 เมตร นับเป็นสิ่งมีชีวิตขนาดเล็กที่อาศัยอยู่ในพื้นที่ที่ลึกที่สุด ร้อนที่สุดและอยู่ในชั้นดินที่เก่าแก่ที่สุดของโลก ความลึกที่พบคือ 1,626 เมตร อยู่ในชั้นดินเก่าแก่ 111 ล้านปี และมีอุณหภูมิระหว่าง 60-100 องศาเซลเซียส “การค้นพบนี้ทำให้เราต้องคำนึงถึงการรบกวนสิ่งมีชีวิตใต้พื้นโลก เช่น โครงการนำก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ลงไปฝังไว้ใต้ดิน ที่อาจเข้าไปกระทบกับพวกมัน และมันอาจส่งปฏิกริยาย้อนกลับสู่โลก”

    “โพรคารีโอทิก ไมโครบส์ (Prokaryotic Microbes)” คือ สิ่งมีชีวิตในกลุ่มของแบคทีเรีย และสาหร่ายสีเขียวแกมน้ำเงิน ลักษณะของเซลล์ในสิ่งมีชีวิตกลุ่มนี้ จะไม่มีเยื่อหุ้มนิวเคลียส เพื่อแยกนิวเคลียสออกจากไซโตพลาสซึม การที่ไม่มีเยื่อหุ้มนิวเคลียสนี้เป็นลักษณะที่แตกต่างจาก “ยูคาริโอทิก (Eukaryotes)” หรือสิ่งมีชีวิตจำพวกสัตว์และพืช

  4. Pingback: memo : น้ำชาเปี่ยมจอกคือการรังแกคน « [...]

ใส่ความเห็น

This site uses Akismet to reduce spam. Learn how your comment data is processed.