กลับไปหน้า สารบัญ โสเภณีถูกกฎหมาย สังคมไทยควรยอมรับหรือปฏิเสธ
คั ด ค้ า น

ดร. ลลิตา ฤกษ์สำราญ อดีตรองประธานคณะกรรมาธิการ กิจการเยาวชนสตรี และผู้สูงอายุ สภาผู้แทนราษฎร
ดร. ลลิตา ฤกษ์สำราญ
อดีตรองประธานคณะกรรมาธิการ กิจการเยาวชนสตรี และผู้สูงอายุ สภาผู้แทนราษฎร
  • ถ้าอาชีพค้าบริการทางเพศ ได้รับการรับรอง ให้เป็นอาชีพที่ถูกกฎหมาย จะเป็นการเปิดทาง ให้ผู้หญิง เข้าสู่อาชีพนี้มากขึ้น 

  • ประเทศไทยจะเสีย ภาพลักษณ์อันดีงาม ส่งผลกระทบ ต่อหญิงไทยคนอื่น ๆ 

  • ประเทศส่วนใหญ่ ยังไม่มีการรับรอง ให้อาชีพค้าบริการทางเพศ เป็นอาชีพที่ถูกกฎหมาย

    "ความจริงเรื่องการรับรองอาชีพโสเภณี ให้เป็นอาชีพที่ถูกกฎหมาย เคยเป็นประเด็นที่คณะกรรมาธิการกิจการเยาวชนสตรีฯ เคยหยิบยกขึ้นมาพูดกันแล้วหลายครั้ง แต่ดูเหมือนแรงต่อต้าน จะมากกว่าการยอมรับ เรื่องก็เลยเงียบไป มาถึงวันนี้ก็มีการเรียกร้องกันอีก ตัวดิฉันเองยอมรับว่าไม่เห็นด้วยกับเรื่องนี้ เพราะเชื่อว่าจะเกิดผลเสียตามมามากกว่าผลดี 
    "ปัจจุบัน ปัญหาสำคัญของอาชีพค้าบริการทางเพศ คือ ปัญหาการแพร่กระจายเชื้อเอดส์ ผู้ชายที่มาเที่ยว อาจติดเชื้อเอดส์จากหญิงขายบริการ และนำโรคนี้ไปติดภรรยาที่บ้าน ถ้าภรรยาตั้งครรภ์ ลูกก็จะติดโรคนี้ด้วย จริงอยู่ที่ว่า หากเรายอมให้อาชีพโสเภณีเป็นอาชีพที่ถูกกฎหมาย มีการขึ้นทะเบียนโสเภณี ปัญหาเรื่องโรคเอดส์อาจลดลง เพราะหมอสามารถเข้าไปตรวจสุขภาพ ของผู้หญิงกลุ่มนี้ได้ แต่ดิฉันคิดว่าเราจะมองประเด็นนี้เพียงอย่างเดียวไม่ได้ เพราะการยอมรับ ให้อาชีพโสเภณีเป็นอาชีพที่ถูกกฎหมาย จะก่อให้เกิดปัญหาอื่นตามมาเป็นลูกโซ่ 
    "สิ่งที่ดิฉันเป็นห่วงมากที่สุด ถ้าอาชีพนี้เป็นอาชีพที่ถูกต้องตามกฎหมายก็คือ ผู้หญิงหลายคนจะกล้าตัดสินใจ ทำงานขายบริการทางเพศมากขึ้น เพราะเห็นว่าเป็นอาชีพที่หาเงินง่าย รายได้ดี และไม่ผิดกฎหมาย หากยังมีกฎหมายควบคุมอยู่ ผู้หญิงที่จะเข้าสู่อาชีพนี้ จะมีความรู้สึกกลัวเกรงกฎหมายอยู่บ้าง การตัดสินใจเข้าสู่อาชีพนี้ก็ยากขึ้น 
    "ปัญหาต่อมาที่ตัวดิฉันรับไม่ได้ และเชื่อว่าคนไทยส่วนใหญ่ก็รับไม่ได้ คือ หากอาชีพนี้ถูกกฎหมาย ก็อาจมีการประชาสัมพันธ์ไปทั่วโลกว่า โสเภณีของเรามีมาตรฐาน สวย มีความรู้สูง ปลอดโรค และผ่านการฝึกฝน ให้เป็นผู้เชี่ยวชาญทางวิชาชีพ เพื่อดึงดูดใจนักท่องเที่ยวชาวต่างประเทศ ดังที่บางท่านออกมาให้สัมภาษณ์ ดิฉันคิดว่าถ้าเราประชาสัมพันธ์ประเทศแบบนี้ ภาพพจน์อันดีงามที่ทั่วโลกเคยรู้จักเรา ว่าเป็นประเทศที่เต็มไปด้วยรอยยิ้ม มีวัฒนธรรมอันดีงาม ก็จะเสียหายหมด เป็นการทำลายภาพลักษณ์อันดีงาม ที่เคยเป็นจุดเด่นของไทย และส่งผลกระทบต่อผู้หญิงคนอื่น ที่ไม่ได้ประกอบอาชีพนี้ด้วย ผู้หญิงไทยจะเดินทางไปต่างประเทศลำบากมาก โดยเฉพาะประเทศที่เขากีดกันเรื่องนี้ อย่างฮ่องกง และญี่ปุ่น เพราะเขาจะมองเลยว่า หญิงไทยทุกคน จะไปประกอบอาชีพนี้ในบ้านเขา 
    "ถึงแม้เราจะไม่สามารถทำให้โสเภณีหมดไปจากประเทศไทยได้ เพราะปัญหาโสเภณีเป็นปัญหาใหญ่ระดับชาติ ที่ทุกฝ่ายจะต้องร่วมมือกันแก้ไข แต่สิ่งที่เราควรทำก็คือ หาทางทำให้ปัญหานี้ลดน้อยลง ไม่ใช่แก้ปัญหา โดยการออกกฎหมายรับรองอาชีพนี้ออกหน้าออกตา ขนาดต่างประเทศที่เขายอมให้คนของเขาประกอบอาชีพนี้ได้ เขาก็ยอมให้แค่ ไม่มีกฎหมายปราบปรามการค้าประเวณีเท่านั้น คือไม่มีการจับกุม แต่ไม่ถึงกับรับรองให้เป็นอาชีพที่ถูกกฎหมาย เพราะสังคมของเขาก็ยังรังเกียจอาชีพนี้อยู่เหมือนกัน แล้วเมืองไทยจะมายอมรับเรื่องนี้ได้หรือคะ 
    "สำหรับบ้านเรา ดิฉันคิดว่าเราไม่ควรยอมรับ ให้อาชีพนี้ถูกกฎหมาย และยังคงต้องมีกฎหมายปราบปรามการค้าประเวณีเอาไว้ และเพิ่มโทษให้มากขึ้น ดังเช่นรัฐบาลที่ผ่านมา มีการแก้ไขกฎหมาย เกี่ยวกับการปราบปรามการค้าประเวณี โดยเพิ่มโทษให้แก่ผู้หลอกลวง หรือชักจูงให้ผู้หญิงเข้าไปประกอบอาชีพนี้มากขึ้น แม้ว่าการเพิ่มโทษ จะไม่สามารถลดจำนวนโสเภณีให้น้อยลง แต่ก็ช่วยทำให้ผู้หญิงเกรงกลัว และคิดหนักขึ้น ถ้าจะเข้ามาประกอบอาชีพนี้ 
    "ดิฉันคิดว่าเจ้าหน้าที่ที่ทำหน้าที่ ปราบปรามการค้าประเวณี ควรทำงานกันอย่างจริงจัง ไม่ใช่ปล่อยปละละเลย เพราะถ้ากฎหมายเข้มงวด ผู้หญิงก็จะไม่กล้าเข้าสู่อาชีพนี้ ขณะเดียวกัน รัฐบาลก็ต้องให้การศึกษา เสริมสร้างความรู้ความเข้าใจแก่ผู้หญิง และแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจโดยเร็ว สร้างงาน สร้างรายได้ให้ครอบครัว เพราะถ้าพ่อแม่มีรายได้ เด็กบางคนก็ไม่ต้องออกมาประกอบอาชีพนี้" 

อ่านฝ่ายสนับสนุน คลิกที่นี่
จันทวิภา อภิสุข
เลขาธิการมูลนิธิส่งเสริมโอกาสผู้หญิง (เอ็มพาวเวอร์)

click hereอ่าน (ฝ่ายสนับสนุน) คลิกที่นี่

แล้วคุณล่ะ สนับสนุน หรือ คัดค้าน !


แ ส ด ง ค ว า ม คิ ด เ ห็ น เ พิ่ ม เ ติ ม

ชื่อ-สกุล: *
E-Mail:
แสดงความคิดเห็นเพิ่มเติม: *
*