สารคดี ปีที่ ๑๗ ฉบับที่ ๑๙๘ เดือน สิงหาคม ๒๕๔๔ "สุริโยไท บทสนทนาอันไม่รู้จบระหว่างปัจจุบันกับอดีต"
นิตยสารสารคดี Feature Magazine
นิตยสารสำหรับครอบครัว
www.sarakadee.com
ISSN 0857-1538
  ฉบับที่ ๑๙๘ เดือน สิงหาคม ๒๕๔๔
 กลับไปหน้า สารบัญ

ฝุ่นสายลับ

    สายลับรุ่นล่าสุดของโลกที่กำลังจะเกิดขึ้นเร็ว ๆ นี้ ไม่ได้อยู่ในหนังเจมส์บอนด์ตอนใหม่ ไม่ใช่ซีไอเอหรือเคจีบีใด ๆ แต่มันคือประดิษฐกรรมสุดยอดของมนุษย์
ฝุ่นสายลับ
     ขณะนี้นักวิทยาศาสตร์จากมหาวิทยาลัยเบิร์กเลย์ ที่ได้รับเงินสนับสนุนจากกระทรวงกลาโหม สหรัฐอเมริกา กำลังเดินหน้าพัฒนาอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ขนาดจิ๋ว ที่มีขนาดไม่ใหญ่ไปกว่าเม็ดทรายขึ้นมา เพื่อติดตามสอดส่องรายงานความเคลื่อนไหว ของฝ่ายตรงข้าม อุปกรณ์ขนาดจิ๋วนี้มีชื่อเรียกว่า "ฝุ่นอัจฉริยะ" หรือ "ฝุ่นสายลับ" ประกอบขึ้นจากอุปกรณ์ไฟฟ้าขนาดเล็ก ซึ่งเป็นเทคโนโลยีใหม่ล่าสุด มีเลเซอร์คอยสืบเสาะรายงานความเคลื่อนไหวของเป้าหมาย ทั้งยังสามารถติดตามหาอาวุธนิวเคลียร์ และอาวุธชีวเคมีด้วย
   ในอนาคตเราอาจได้เห็นกองทัพสหรัฐฯ ส่งเครื่องบินขนาดเล็กที่บังคับด้วยรีโมตคอนโทรล บินไปหลังแนวข้าศึก แล้วปล่อยฝุ่นสายลับขนาดเล็กจิ๋วนับร้อย กระจายไปทั่วดินแดนของฝ่ายตรงข้าม เพื่อสืบข่าวกลับมา
   ปัจจุบัน "ฝุ่นสายลับ" ที่ผลิตได้ยังมีขนาดเท่าเม็ดถั่ว โดยมีผงซิลิคอนเป็นส่วนประกอบสำคัญ สามารถติดตามข้อมูลได้ในรัศมี ๒๑ กิโลเมตร แต่ในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้า ทีมวิจัยจะพัฒนาฝุ่นสายลับให้มีขนาดเล็กลง เหลือเพียงไม่เกินหนึ่งลูกบาศก์มิลลิเมตร หรือเท่าเม็ดทราย โดยผงซิลิคอนจะทำหน้าที่เป็นเครื่องรับ-ส่งวิทยุระยะไกล และใช้พลังงานจากโซลาร์เซลล์ขนาดจิ๋ว 
   คริส พิสเตอร์ หัวหน้าทีมวิจัย กล่าวว่า ในไม่ช้าเขาจะพัฒนาฝุ่นสายลับให้ทำงานได้มากขึ้น โดยติดปีกเล็ก ๆ ให้แก่ฝุ่นสายลับ เพื่อให้มันสามารถรวมตัวกันบินไปสู่เป้าหมาย เช่นเดียวกับฝูงผึ้ง
   อย่างไรก็ตาม สิ่งที่พิสเตอร์ยังกังวลเกี่ยวกับฝุ่นสายลับก็คือ นอกจากกิจกรรมทางทหารแล้ว เจ้าฝุ่นสายลับอาจถูกนำไปใช้ในกิจกรรมที่ไม่เหมาะสม เช่น ซีไอเออาจนำไปใช้ สืบเสาะข้อมูลของประชาชนทั่วไป สอดส่องเรื่องส่วนตัวของชาวบ้าน หรือควบคุมม็อบต่าง ๆ ซึ่งถือเป็นการละเมิดสิทธิผู้อื่นอย่างเกินขอบเขต
   หรือหากมีบริษัทเอกชนหัวใส ผลิตเจ้าฝุ่นสายลับนี้ออกมาขาย เรื่องส่วนตัวของคนดัง หรือแม้แต่ชาวบ้านทั่วไป ก็คงกลายเป็นหัวข้อข่าวสาธารณะที่ใคร ๆ ก็รับรู้ได้... 
   พิสเตอร์กล่าวว่า อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ขนาดจิ๋วนี้ สามารถดัดแปลงให้เกิดประโยชน์กับคนทั่วไปได้ หากนำมาใช้ถูกทาง เช่นทำให้เครื่องใช้ไฟฟ้าต่าง ๆ มีราคาถูกลง เขาทำนายว่า ในปี ค.ศ. ๒๐๑๐ เครื่องอิเล็กทรอนิกส์ขนาดจิ๋ว จะทำให้วิทยุมีราคาเพียง ๑๐ เซ็นต์ โปรเจ็กเตอร์เลเซอร์สามสี มีราคาเพียง ๑ ดอลลาร์ 
   ทั้งยังทำนายว่า ประมาณปี ค.ศ. ๒๐๒๐ เราจะสามารถนำเจ้าฝุ่นสายลับ มาใช้ประโยชน์ทางการแพทย์ได้ด้วย โดยอาจจะมีการฝังฝุ่นสายลับไว้ในร่างกาย เพื่อทำหน้าที่เตือนภัย เมื่อเรากำลังถูกคุกคามด้วยโรคร้าย เช่น โรคหัวใจ มะเร็ง ฯลฯ ทำให้แพทย์สามารถทำการรักษาได้แต่เนิ่น ๆ
   ดูไปแล้วฝุ่นสายลับน่าจะเป็นเทคโนโลยีอนาคต ที่มีประโยชน์กับมนุษยชาติ หากนำไปใช้ถูกที่ถูกทาง ไม่ใช่สาละวนอยู่กับการดักฟัง ดักถ่ายรูป สอดส่องเรื่องส่วนตัวของชาวบ้าน
   แต่จะว่าไป ภารกิจสอดส่องเรื่องพรรค์นี้ บางคนเขาก็เห็นว่าเป็นเรื่องสำคัญอยู่เหมือนกัน เพราะงั้นบรรดาคุณผู้ชายที่นิยมหนีเมีย ไปเล่นซุกซนนอกบ้าน ก็คงต้องระวังตัวให้ดีสักหน่อย ... วันดีคืนร้ายอาจจะมีฝุ่นสายลับ บินตามไปถ่ายทอดสดมาให้คนที่บ้านดูว่า กำลังแอบไปเล่นกุ๊กกิ๊กกับใครอยู่