สารคดี ปีที่ ๑๗ ฉบับที่ ๑๙๘ เดือน สิงหาคม ๒๕๔๔ "สุริโยไท บทสนทนาอันไม่รู้จบระหว่างปัจจุบันกับอดีต"
นิตยสารสารคดี Feature Magazine
นิตยสารสำหรับครอบครัว
www.sarakadee.com
ISSN 0857-1538
  ฉบับที่ ๑๙๘ เดือน สิงหาคม ๒๕๔๔
 กลับไปหน้า สารบัญ

มือถือสังหารกอริลลา

    เชื่อหรือไม่ว่า อัตราการขยายตัวของการใช้โทรศัพท์มือถือทั่วโลก นำความตายมาสู่กอริลลานับพันตัวแห่งป่าดิบลุ่มต่ำในคองโก
มือถือสังหารกอริลลา
     มีหลักฐานหลายอย่างระบุว่า ในรอบสามปีที่ผ่านมา ประชากรกอริลลาร้อยละ ๘๐-๙๐ ถูกฆ่าตาย โดยเฉพาะในแหล่งที่อยู่อาศัยสำคัญของกอริลลา คือบริเวณป่าทางภาคตะวันออก ของประเทศคองโก ทวีปแอฟริกา มีการไล่ล่ากอริลลา ชิมแปนซี และช้าง จำนวนมาก 
   ป่าดังกล่าวอยู่ในเขตอุทยานแห่งชาติคาฮูซิ-ไบกา ซึ่งกำลังถูกบุกรุกจากบรรดานักขุดแร่เถื่อนจำนวนมาก ที่มุ่งหน้ามายังอุทยานแห่งนี้ หลังจากที่มีการค้นพบว่าที่นี่เป็นแหล่งแร่แทนทาลัม 
   แร่แทนทาลัมเป็นแร่หายาก นำมาใช้เป็นส่วนประกอบสำคัญ ในการผลิตโทรศัพท์มือถือ และเกมคอมพิวเตอร์ จัดเป็นแร่ราคาแพงที่พ่อค้ารับซื้อไม่อั้น ด้วยเหตุนี้บรรดาชาวคองโกจึงได้แห่กันไป ขุดแร่แทนทาลัมที่อุทยานแห่งนี้ หลายคนถึงกับเลิกอาชีพเกษตรกร ทิ้งครอบครัว เพียงเพื่อมาขุดหาแร่... 
   ในเวลาไม่นาน อุทยานแห่งชาติคาฮูซิ-ไบกา ก็กลายสภาพเป็นเหมืองแร่เถื่อน ยิ่งไปกว่านั้น การที่มีผู้คนจำนวนมากเข้ามากระจุกตัวอยู่ในป่าแห่งนี้ ไม่เพียงทำให้ผืนป่าถูกบุกรุกทำลาย หากยังมีปัญหาอื่น ๆ ติดตามมา ไม่ว่าจะเป็นปัญหายาเสพย์ติด อาชญากรรม โสเภณี และโรคเอดส์ อันเป็นปรากฏการณ์ที่เกิดขึ้นในเหมืองใหญ่ทุกแห่งของโลก
   ก่อนหน้านี้ไม่นาน อุทยานแห่งชาติคาฮูซิ-ไบกา และผืนป่าโดยรอบเคยเป็นที่อยู่อาศัยของกอริลลา ช้าง ชิมแปนซี และกวางแอนตีโลป รวมจำนวนมากกว่า ๑๗,๐๐๐ ตัว แต่นับจากปีพ.ศ. ๒๕๔๑ เป็นต้นมา ได้เกิดสงครามกลางเมืองในประเทศคองโก อุทยานแห่งนี้ก็ได้กลายเป็นที่ซ่องสุมกำลัง ของฝ่ายกบฏ เป็นสนามรบ และยังเป็นที่พักพิงของชนเผ่าฮูตู ที่อพยพหนีการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ จากประเทศรวันดา ก่อนจะตามมาติด ๆ ด้วยกองทัพนักขุดแร่เถื่อน รัฐบาลคองโกเองก็ไม่สามารถควบคุมพื้นที่อุทยานฯ ไว้ได้ ร้อยละ ๙๐ ของพื้นที่จึงถูกบุกรุกจากคนเหล่านี้ จนเมื่อปีที่แล้ว มีการสำรวจพบว่าประชากรกอริลลาลดลง เหลือเพียง ๑๓๐ ตัวเท่านั้น 
   เร็ว ๆ นี้ได้มีการเปิดเผยรายงาน ของนักวิจัยท้องถิ่นคนหนึ่ง ซึ่งเดินทางไปสำรวจการทำเหมืองแร่ผิดกฎหมาย ในอุทยานแห่งนี้ พบว่า 
   - มีคนอาศัยอยู่ในอุทยานแห่งนี้ประมาณ ๑๕,๐๐๐ คน ทั้งนักขุดแร่ พ่อค้า ทหารฝ่ายกบฏ ไปจนถึงโสเภณี
   - อาหารโปรตีนเกือบทั้งหมดที่คนเหล่านี้กิน ได้มาจากเนื้อสัตว์ป่า โดยส่วนใหญ่บรรดาพรานจะนำเนื้อสัตว์ที่ล่าได้ มาแลกกับแร่แทนทาลัม จากนักขุดแร่ทั้งหลาย แทนเงินตรา เข้าทำนองคนล่าสัตว์ก็ล่าไป คนขุดแร่ก็ขุดไป แล้วเอาของมาแลกกัน
   - ภายในปีแรก คนที่บุกรุกอาศัยอยู่ในอุทยานเหล่านี้ จะกินแต่สัตว์ขนาดใหญ่ คือ กอริลลา ชิมแปนซี ช้าง และควายป่า ซึ่งทำให้ประชากรสัตว์เหล่านี้ลดลงอย่างรวดเร็ว
   - สถานการณ์ขณะนี้คือ บรรดาพรานล่าสัตว์ออกไปล่าสัตว์เป็นอาทิตย์กว่าจะได้เนื้อสัตว์มา และหลายครั้งพวกเขากลับมามือเปล่า 
   - ปัจจุบันเนื้อกอริลลา และชิมแปนซีหายากมาก ส่วนเนื้อช้างหมดไปนานแล้ว ตอนนี้คนที่นั่นส่วนใหญ่ กินลิงขนาดเล็ก เต่า และกวางแอนตีโลป
   รายงานชิ้นนี้ทำให้องค์กรอนุรักษ์ธรรมชาติหลายแห่ง ต้องออกโรงเตือนรัฐบาลคองโกว่า หากไม่สามารถระงับการขุดแร่แทนทาลัม และยุติปัญหาสงครามกลางเมือง ซึ่งส่งผลให้เกิดการล่าสัตว์จำนวนมาก ในอุทยานแห่งนี้แล้ว โอกาสที่กอริลลาจะสูญพันธุ์ ไปจากคองโกจะมีสูงมาก...
   อ่านข่าวนี้แล้วได้แต่ถอนใจ เพราะไม่เคยนึกมาก่อนว่า คนใช้โทรศัพท์มือถือ ที่อยู่ห่างไกลจากคองโก หลายพันกิโลเมตรอย่างเรา ก็มีส่วนในการลดจำนวนลิงกอริลลา 
   เข้าใจซักที ที่เขาพูดกันมานานว่า เด็ดดอกไม้สะเทือนถึงดวงดาว