สารคดี ปีที่ ๑๗ ฉบับที่ ๒๐๐ เดือน ตุลาคม ๒๕๔๔ "๑๑ กันยายน ๒๐๐๑ วันถล่มอเมริกา"
นิตยสารสารคดี Feature Magazine
นิตยสารสำหรับครอบครัว
www.sarakadee.com
ISSN 0857-1538
  ปีที่ ๑๗ ฉบับที่ ๒๐๐ เดือน ตุลาคม ๒๕๔๔
 กลับไปหน้า สารบัญ

แฟชั่นผอมแห้งแรงน้อย

แฟชั่นผอมแห้งแรงน้อย
       ระยะหลังมานี้ หญิงสาวหลายคนที่อายุเลยวัยรุ่นมาไม่นาน เริ่มบ่นให้กันฟังว่า เดี๋ยวนี้เวลาไปชอปปิง หาซื้อเสื้อผ้าใส่ได้ยากขึ้นทุกที เพราะเสื้อผ้าส่วนใหญ่ที่ขาย ดูจะมีไว้สำหรับสาวร่างเล็กผอมบางเท่านั้น
     ทุกวันนี้เสื้อผ้าส่วนใหญ่ของวัยรุ่น และสาวรุ่นใหม่ทั่วโลกมีขนาดใกล้เคียงกับเสื้อเด็ก ดูเล็กจิ๋วแบบบางจนน่าตกใจ 
     ด้วยอิทธิพลของแฟชั่นตามหน้านิตยสารจากปารีสถึงนิวยอร์ก สาวน้อยสาวใหญ่ทั่วโลกที่ต้องการ "อินเทรนด์" จึงพร้อมใจกันพยายามทำตัวเองให้ "ผอมไว้ก่อน สุขภาพไว้ทีหลัง"
     ปัญหาสุขภาพอันเกิดจากการพยายามลดน้ำหนัก ให้ผอมเกินความจำเป็น จึงกำลังกลายเป็นปัญหาใหญ่ของผู้หญิงทั่วโลก แต่ที่อาการหนัก ก็เห็นจะได้แก่สาวซากุระหน้าใส
     จากการสำรวจของรัฐบาลญี่ปุ่นพบว่า ในช่วงเวลาห้าปีที่ผ่านมา สาวญี่ปุ่นป่วยเป็นโรควิตกจริต เบื่ออาหารกันมากขึ้น 
     ดร. เจ็น โคมากิ แห่งสถาบันสุขภาพจิตแห่งชาติของประเทศญี่ปุ่น หนึ่งในทีมนักวิจัยที่ทำการศึกษาเรื่องนี้ คาดการณ์ว่า โรคเบื่ออาหารนี้ ส่งผลกระทบถึงคนญี่ปุ่นเป็นจำนวนร่วมล้านคนทีเดียว
     อาการป่วยที่ว่านี้เกิดจากความไม่พอใจในรูปร่างของตัวเอง โดยผู้ป่วยจะมองรูปร่างของตนผิดไปจากความเป็นจริง คิดอยู่เสมอว่าตัวเองอ้วน ทั้ง ๆ ที่ผอมจนเหลือแต่กระดูกแล้ว
     โยโกะ (นามสมมุติ) เด็กสาววัย ๑๙ ปี ซึ่งป่วยเป็นโรคนี้ และกำลังพักรักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาลแห่งหนึ่ง ให้สัมภาษณ์ว่า 
     "หนูดูภาพแฟชั่นในนิตยสารหลายเล่ม และหนูก็ชอบเสื้อผ้าที่อยู่ในนิตยสารนั่น แต่เสื้อผ้าพวกนั้นมีแต่ขนาดเล็ก พอหนูไปลองใส่ที่ร้าน หนูก็ใส่ไม่ได้ เลยตัดสินใจว่าจะต้องลดน้ำหนัก"
     ก่อนที่จะล้มป่วยลง โยโกะมีน้ำหนัก ๕๕ กิโลกรัม มีส่วนสูง ๑๖๐ เซนติเมตร และมีอาชีพเป็นแม่ครัวฝึกหัด แต่ด้วยความมุ่งมั่นอย่างแรงกล้า ที่จะใส่เสื้อผ้าตามแฟชั่น ทำให้เธอยอมอดอาหารจนน้ำหนักลดลงไปเหลือไม่ถึง ๔๐ กิโลกรัม 
     ผลพลอยได้ก็คือ อาการหมดเรี่ยวหมดแรง ไม่เป็นอันทำงานทำการอะไร เข้าตำราผอมแห้งแรงน้อย จนคุณแม่ต้องนำส่งโรงพยาบาล
     "หมอจัดการให้น้ำเกลือลูกสาวของดิฉันในทันที แต่เธอไม่ชอบวิธีการแบบนั้น เพราะกลัวว่าจะทำให้อ้วนขึ้นมาอีก" แม่ของโยโกะบอกเล่าด้วยความกลุ้มใจ และให้ความเห็นว่า
     "ดิฉันไม่พอใจที่นิตยสารแฟชั่นต่าง ๆ ดึงดูดให้วัยรุ่นเชื่อว่า คนผอมเท่านั้นจึงจะมีเสน่ห์ ดิฉันคิดว่าหนังสือแฟชั่นก็ไม่ต่างอะไรจากอาชญากรเลย" 
     ด้วยค่านิยมที่ว่านี้ วัยรุ่นญึ่ปุ่นหลายคนถึงกับเป็นโรคเกลียดตัวเอง ไม่ยอมมองตัวเองในกระจก เพราะรู้สึกว่าตัวเองยังผอมเพรียวไม่พอ 
     ยังดีที่วัยรุ่นบางคน หลังจากปล่อยตัวเอง "อินเทรนด์" ไปพักใหญ่ก็ได้สติ หันหลังให้นิตยสารแฟชั่นเหล่านั้น แล้วกลับมามีความสุขกับการกินตามปรกติ ไม่สนใจหุ่นเพรียวลมตามแฟชั่นอย่างแต่ก่อน นิตยสารผู้หญิงที่ได้รับความนิยมมากที่สุดฉบับหนึ่งของญี่ปุ่นยอมรับว่า กองบรรณาธิการ ได้รับจดหมายร้องทุกข์จำนวนมาก จากผู้หญิงที่มีอาการเบื่ออาหาร อันเนื่องมาจากโรคกลัวอ้วนขึ้นสมอง 
     "แต่เราไม่เคยส่งเสริมให้ใครกินอาหารลดความอ้วน ที่ไม่มีประโยชน์ต่อร่างกาย เราไม่ได้ส่งเสริมให้ผู้หญิงมีรูปร่างผอมบาง เราเพียงแต่บอกว่า ทุกคนสามารถปรับปรุงรูปร่างตัวเองให้สวยงามได้ โดยเน้นการออกกำลังกายเป็นหลัก" กองบรรณาธิการคนหนึ่งกล่าว 
     "ในทางกลับกัน เราไม่ปฏิเสธว่า แฟชั่นเสื้อผ้าของปีนี้ เหมาะสำหรับคนที่มีรูปร่างผอมบางเท่านั้น แม้กระทั่งนางแบบบางคนยังบ่นเรื่องนี้" 
     แฟชั่นการลดน้ำหนัก ส่งผลให้ธุรกิจเกี่ยวกับการลดความอ้วน แพร่หลายมากขึ้น ดร. โคมากิกล่าวว่า แม้กระทั่งคนที่มีน้ำหนักปรกติอยู่แล้ว ก็หันมาลดความอ้วนกับเขาด้วย
     ปัจจุบันผู้หญิงญี่ปุ่นราว ๔๗ เปอร์เซ็นต์ มีน้ำหนักต่ำกว่าปรกติเกือบ ๑๐ เปอร์เซ็นต์ เนื่องมาจากค่านิยมการมีหุ่นเพรียวลม
     ขณะที่ในประเทศเอธิโอเปีย ผู้หญิงที่นั่นกว่าครึ่งก็มีน้ำหนักต่ำกว่าปรกติเช่นกัน แต่เพราะป่วยเป็นโรคขาดอาหารอย่างรุนแรง เนื่องจากไม่มีอะไรจะกิน