สารคดี ปีที่ ๑๗ ฉบับที่ ๒๐๒ เดือน ธันวาคม ๒๕๔๔ "๖๐ ปีเสรีไทย"
นิตยสารสารคดี Feature Magazine
นิตยสารสำหรับครอบครัว
www.sarakadee.com
ISSN 0857-1538
  ปีที่ ๑๗ ฉบับที่ ๒๐๒ เดือน ธันวาคม ๒๕๔๔
 กลับไปหน้า สารบัญ

โกศหมาของคนรักหมา

 โกศหมาของคนรักหมา
       เมื่อเป็นเด็ก ไหว่กาวิง ชอบกินเนื้อหมาเป็นที่สุด นอกจากอร่อยกว่าแล้ว ราคายังแพงกว่าเนื้อหมูหรือเนื้อวัวถึงสองเท่า
     แต่ปัจจุบันนักผจญเพลิงวัย ๕๓ ปีชาวฮ่องกงผู้นี้ มี "ไฟไฟ" หมาพันธุ์ชิสุ เป็นเพื่อนนอนเคียงกายทุกคืน ทำให้เขาเลิกกินเนื้อหมาไปโดยปริยาย
"แต่เดิมผมเห็นพวกเขาเป็นแค่อาหารอยู่ในจาน แต่ตอนนี้เขาเป็นส่วนหนึ่งของครอบครัวแล้วครับ"
     เมื่อไฟไฟตาย ไหว่กาหวิง เรียกใช้บริการฌาปนกิจสัตว์เลี้ยง อันเป็นธุรกิจที่กำลังเติบโตเร็วมากในฮ่องกง ด้วยบริการนี้ เถ้ากระดูกของไฟไฟจะได้บรรจุอยู่ในโกศเล็ก ๆ เพื่อให้เขาได้เก็บไว้เป็นที่ระลึก ไม่ต่างจากอัฐิของคน
     "มันเป็นบริการที่ดีเยี่ยม" กว็อก ซิเฉียง นักออกแบบเพชรผู้เพิ่งจะเผาศพบ็อบบี้ - เพื่อนขนยาวที่อยู่กันมาถึง ๒๑ ปี กล่าว กว็อกร้องไห้เป็นอาทิตย์เมื่อบ็อบบี้จากเขาไป
       ในช่วงไม่กี่สิบปีที่ผ่านมา ชาวฮ่องกงหันมาเลี้ยงสัตว์กันมากขึ้น โดยเฉพาะหมาและแมว ส่งผลให้อัตราการกินเนื้อหมาของชาวฮ่องกง ลดลงอย่างเห็นได้ชัด (แม้ในฤดูหนาว เนื้อหมาดำ เนื้อหมาที่ดีที่สุดจะยังพอมีให้เห็นอยู่บ้าง) พร้อม ๆ กับที่ธุรกิจเกี่ยวกับสัตว์เลี้ยงเติบโตขึ้นอย่างรวดเร็ว รวมถึงธุรกิจการฌาปนกิจสัตว์เลี้ยงด้วย
     ที่ผ่านมาเมื่อสัตว์เลี้ยงตายลง เจ้าของมักจะนำไปฝังตามประเพณีของคนจีน จนทำให้หน่วยงานด้านสิ่งแวดล้อมของรัฐออกมากล่าวว่า พื้นที่ส่วนใหญ่ในฮ่องกงกำลังกลายเป็นป่าช้าของหมาและแมว ทว่าด้วยความจำกัดของพื้นที่และมูลค่าของที่ดินในฮ่องกงเอง ก็ทำให้สุสานของเหล่าหมาแมวจำนวนไม่น้อยถูกยึดครอง อาคารหลายแห่งปลูกสร้างทับอยู่บนหลุมฝังศพของสัตว์เลี้ยงเหล่านี้ สร้างความสะเทือนใจให้แก่ผู้รักสัตว์ยิ่งนัก
     ชานก๊อกกี่ก็เป็นคนหนึ่งที่มีประสบการณ์เลวร้ายเช่นนี้ หลังจากพบว่าตึกระฟ้าแห่งหนึ่ง มาตั้งตระหง่านอยู่บนหลุมฝังศพแมวเปอร์เซีย ที่เขารักโดยที่เขาไม่อาจจะทำอะไรได้ 
     ชานจึงมีความคิดที่จะหาแหล่งพำนักสุดท้ายอันสุขสงบให้แก่สัตว์เลี้ยง โดยเริ่มกิจการฌาปนกิจสัตว์เลี้ยงต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็น หมู หมา ไก่ เต่า หรือกิ้งก่า และเก็บเถ้ากระดูกไว้ในโกศเล็ก ๆ มอบให้เจ้าของเก็บรักษาไว้ 
     ชานจะเปิดเพจเจอร์ตลอด ๒๔ ชั่วโมง และเมื่อได้รับแจ้งเหตุ เขาจะรุดไปเก็บซากสัตว์เลี้ยงทันที จากนั้นจะนำไปแช่ในตู้เย็น เพื่อรอเผาไปพร้อมกับบรรดาของใช้ต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นของเล่น ของกิน เสื้อผ้า เมื่อเผาแล้วก็จะนำอัฐิบรรจุใส่โกศ ติดรูปของสัตว์เลี้ยงนั้น ๆ พร้อมชื่อ วันเดือนปีเกิด และวันตาย มอบคืนให้เจ้าของ
     แต่เจ้าของบางรายก็ทำใจไม่ได้ ต้องฝากโกศให้ชานเก็บไว้ จนที่ทำงานของเขาเรียงรายไปด้วยโกศสัตว์เลี้ยงน้อยใหญ่
     ปัจจุบันชานและเพื่อนที่ทำธุรกิจนี้ต้องเผาสัตว์เลี้ยงกันปีละประมาณ ๔๐๐ ตัว และการฌาปนกิจสัตว์เลี้ยงก็มีแนวโน้มว่าจะเพิ่มมากขึ้นทุกปี เพราะความนิยมเลี้ยงสัตว์ที่เพิ่มมากขึ้นในหมู่ชาวฮ่องกง 
     ที่สำคัญคือ สามีภรรยาหลายคู่ไม่คิดจะมีลูกของตัวเอง แต่เลือกที่จะเลี้ยงสัตว์เป็นลูกแทน
     มีรายงานว่า อาการเห็นลูกสัตว์น่ารักกว่าลูกคน กำลังระบาดไปทั่วโลกพอ ๆ กับโรคหวาดกลัวเชื้อแอนแทร็กซ์เลยทีเดียว