สารคดี ปีที่ ๑๗ ฉบับที่ ๒๐๒ เดือน ธันวาคม ๒๕๔๔ "๖๐ ปีเสรีไทย"
นิตยสารสารคดี Feature Magazine
นิตยสารสำหรับครอบครัว
www.sarakadee.com
ISSN 0857-1538
  ปีที่ ๑๗ ฉบับที่ ๒๐๒ เดือน ธันวาคม ๒๕๔๔
 กลับไปหน้า สารบัญ

จากบรรณาธิการ

     ปีนี้ฝนตกหนักตลอดฤดู น้ำป่าไหลหลากท่วมเรือกสวนไร่นา ของชาวบ้านเสียหายกันไม่ใช่น้อย พอฝนทิ้งช่วงได้ไม่กี่วัน ลมหนาวก็พัดมาจนเยือกเย็นไปทั่วฟ้าเมืองไทย
     ในคืนข้างแรมก่อนฝนดาวตกลีโอนิดส์จะมาเยือนไม่นาน เราไปดูดาวบนเขาแผงม้า -- เขาลูกหนึ่งที่ตั้งอยู่ระหว่างเส้นทางปักธงชัย กับกบินทร์บุรี จังหวัดนครราชสีมา
     ฟ้ายิ่งมืด ดาวยิ่งกระจ่าง กะพริบแสงระยิบระยับราวแสงหิ่งห้อยนับหมื่นนับแสนเต็มผืนฟ้า เราเห็นกลุ่มดาวเต่าหรือดาวนายพรานออไรออนสี่ดวงใหญ่ สุกสว่างเรียงเป็นรูปสี่เหลี่ยมผืนผ้า ตรงกลางมีดาวขนาดเล็กสามดวง ที่เรียกว่าเข็มขัดนายพราน แต่คนไทยเรียกว่าดาวไถ 
     ถัดไปเราเห็นดาวอัลดีบาเรน ดาวฤกษ์ดวงใหญ่ที่ถือว่าเป็นตาวัวในกลุ่มดาววัว อยู่ไม่ไกลจากกลุ่มดาวลูกไก่ที่คนไทยรู้จักดี ทั้งหมดเป็นส่วนหนึ่งของกลุ่มดาวฤกษ์ ในช่วงฤดูหนาว ที่นักดูดาวเห็นกันจนชินตา หลับตาก็นึกออกว่า อยู่ตำแหน่งใดบนฟากฟ้า
     แต่เมื่อแหงนหน้าดูดาวคราใด ก็ยังตื่นตาตื่นใจ สร้างจินตนาการได้ไม่รู้ลืม
     อันที่จริงการดูดาวไม่ใช่จุดหมายหลักของการเดินทางมาเขาแผงม้า เพียงแต่ทุกครั้งที่ได้เข้าป่าในคืนเดือนมืด หากท้องฟ้าเปิดไร้เมฆหมอก การดูดาวก็เหมือนเป็นรางวัล เป็นความสุขใจที่เหนือคำบรรยายจริง ๆ
     เราตั้งใจมาดูฝูงกระทิงที่เขาแผงม้า ซึ่งกล่าวกันว่า เห็นง่ายกว่าเห็นกวางบนอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่เสียอีก
       เขาแผงม้าเป็นป่าสงวนแห่งชาติ มีพื้นที่ประมาณ ๕,๐๐๐ ไร่ เคยมีสภาพเป็นป่าดิบสมบูรณ์ และเป็นต้นน้ำสำคัญ ของลำห้วยพระเพลิง ที่ไหลลงสู่ลำน้ำมูล และมีอาณาบริเวณติดกับอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่
     แต่หลายสิบปีที่ผ่านมาป่าบนเขาแผงม้า กลายสภาพเป็นเขาหัวโล้น จากการบุกรุกทำลายป่า เพื่อเปลี่ยนสภาพเป็นพื้นที่เกษตร โดยเฉพาะในหน้าแล้ง มักมีไฟป่าเกิดขึ้นอย่างรุนแรง จนชาวบ้านเรียกเขาแผงม้าว่าภูเขาไฟ เพราะมีควันไฟลอยให้เห็นแต่ไกลทุกปี
     กระทั่งเเมื่อเจ็ดปีก่อน คุณนิคม พุทธา เจ้าหน้าที่มูลนิธิคุ้มครองสัตว์ป่าและพรรณพืชฯ พร้อมกับพรรคพวกในพื้นที่ได้มาเห็นสภาพป่าแห่งนี้ จึงเกิดความคิดที่จะฟื้นฟูเขาแผงม้า ให้กลับมาเป็นป่าสมบูรณ์อีกครั้ง
     ในช่วงเวลานั้นรัฐบาลมีโครงการปลูกป่าถาวรเฉลิมพระเกียรติ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ในวโรกาสทรงครองราชย์ครบ ๕๐ ปี มูลนิธิคุ้มครองฯ จึงแสดงความจำนงเข้าร่วมโครงการปลูกป่าเฉลิมพระเกียรติฯ โดยขออนุญาตกรมป่าไม้ดูแลการปลูกป่า ที่เขาแผงม้าเป็นเวลาแปดปี
คลิกดูภาพใหญ่
ฉบับหน้า
Alien Species เมื่อพันธุ์ต่างด้าวรุกราน
     พวกเขาช่วยกันสร้างแนวกันไฟรอบป่า กล้าไม้ที่นำมาปลูกเป็นพันธุ์ท้องถิ่น ลงมือปลูกโดยไม่มีการเก็บริบสุมเผา ไถพรวนหน้าดิน หรือใช้ยาฆ่าหญ้า
     ที่สำคัญคือ พวกเขาได้พูดคุยกับชาวบ้านที่อยู่รอบ ๆ เขาแผงม้า ให้เห็นถึงคุณค่าของการฟื้นฟูป่าต้นน้ำแห่งนี้
     คุณนิคมต้องเสี่ยงเข้าไปคุยกับนายทุน ที่กว้านซื้อที่ดินนับพันไร่ ต่อจากชาวบ้านที่บุกรุกป่า พูดโน้มน้าวจนนายทุนเห็นด้วย ยินยอมมอบพื้นที่คืนให้ปลูกป่า
     ลำพังมูลนิธิคุ้มครองฯ คงไม่สามารถพลิกฟื้นป่าได้สำเร็จ หากไม่ได้รับความร่วมมือจากชาวบ้านที่อยู่รอบป่า ดัชนีที่ชี้ให้เห็นว่าป่าฟื้นคืนความสมบูรณ์อีกครั้ง คือ กระทิงจำนวนกว่า ๕๐ ตัวที่ย้ายฝูงจากป่าเขาใหญ่มาหากินบริเวณป่าเขาแผงม้าเป็นเวลาหลายปีแล้ว
     เช้าวันต่อมา เราขับรถขึ้นไปบนสันเขาแผงม้า เพื่อซุ่มดูกระทิงที่มักจะออกหากินเวลาเช้าและเย็น ไม่นานนัก กระทิงร่วม ๒๐ ตัวก็ปรากฏกายให้เห็น หลายตัวเป็นกระทิงสีดำมะเมื่อมสูงท่วมหัว คะเนน้ำหนักน่าจะไม่ต่ำกว่า ๑ ตัน
     นึกถึงการเดินป่าหลายวัน เพื่อติดตามดูกระทิงเมื่อหลายปีมาแล้ว ต้องยอมรับว่าครั้งนี้ง่ายกว่ากันมาก ขณะซุ่มดูกระทิง เรายังได้ยินเสียงแม่ค้ารถเร่ ร้องขายของอยู่ห่างไปไม่กี่กิโลเมตร
     ที่น่าสนใจคือ ตั้งแต่กระทิงมารวมฝูงอยู่ที่เขาแผงม้า ยังไม่มีข่าวการล่ากระทิงเลย ต้องยอมรับว่า เป็นเพราะชาวบ้านรอบ ๆ ป่าแห่งนี้หวงแหนกระทิงมาก มีการจัดเวรยามคอยดูแลตลอด จนไม่มีใครกล้ามารบกวน
     ปีหน้ามูลนิธิคุ้มครองฯ ต้องส่งมอบพื้นที่ปลูกป่าเขาแผงม้า คืนให้กรมป่าไม้ตามสัญญา นั่นหมายความว่า กระทิงและเขาแผงม้า จะกลับไปอยู่ในความดูแลของกรมป่าไม้แต่ฝ่ายเดียว (ในอดีตเขาแผงม้าที่กรมป่าไม้ดูแล ได้กลายสภาพเป็นป่าเขาหัวโล้นมาแล้ว)
     ไม่มีใครรู้ว่าอนาคตของกระทิง และเขาแผงม้าจะเป็นอย่างไร
     หากมีเวลาว่างลองไปแอบดูกระทิง และดูดาวบนเขาแผงม้าสิครับ 
     รับรองได้ว่า คุณจะประทับใจหน้าหนาวฤดูกาลนี้ไปอีกนานเลยครับ
 

วันชัย ตันติวิทยาพิทักษ์
vanchait@hotmail.com