สารคดี ปีที่ ๑๗ ฉบับที่ ๒๐๒ เดือน ธันวาคม ๒๕๔๔ "๖๐ ปีเสรีไทย"
นิตยสารสารคดี Feature Magazine
นิตยสารสำหรับครอบครัว
www.sarakadee.com
ISSN 0857-1538
  ปีที่ ๑๗ ฉบับที่ ๒๐๒ เดือน ธันวาคม ๒๕๔๔
 กลับไปหน้า สารบัญ

ศรีเชียงดาว

ปิยเกษตร สุขสถาน สวนพฤกษศาสตร์สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ แม่ริม จ. เชียงใหม่ : รายงาน
 ศรีเชียงดาว
       แม้ว่าดอยเชียงดาวจะเป็นภูเขาที่มีความสูง เป็นอันดับสามของประเทศไทย (๒,๒๒๕ เมตร) แต่นับว่าเป็นภูเขาหินปูนที่สูงที่สุด เนื่องจากภูเขาที่สูงอันดับหนึ่งและสองนั้นเป็นเขาหินแกรนิต สภาพของหินปูนระดับสูงกอปรกับสภาพที่ตั้งทางภูมิศาสตร์ที่เหมาะสม ยังผลให้สังคมพืชที่ปรากฏอยู่บริเวณสัน และยอดดอยมีลักษณะพิเศษ คือเป็นสังคมพืชภูเขากึ่งอัลไพน์ อันอุดมไปด้วยพรรณไม้เขตอบอุ่นหลายชนิด ที่ไม่พบในที่อื่นใดในโลก 
     เดือนพฤศจิกายน พ.ศ. ๒๕๔๒ ผมเดินสำรวจพรรณไม้บริเวณยอดสูงสุดซึ่งมี ชมพูเชียงดาว และ หญ้าดอกลาย กำลังออกดอกสะพรั่งไปทั่วเนินเขา ในจำนวนนั้นมีกระจุกดอกไม้สีม่วงอ่อน ขึ้นแซมอยู่เล็กน้อย มันเป็นพืชสกุลหญ้าดอกลายที่ผมไม่เคยเห็นมาก่อน อย่างน้อยที่สุดก็ต้องเป็นพืชชนิดใหม่ของไทย (new record of Thailand) อย่างแน่นอน เพราะกลุ่มหญ้าดอกลายของไทยที่มีรายงานพบเพียง ๓ ชนิดนั้นผมรู้จักเป็นอย่างดี เมื่อผมกลับมายังสวนพฤกษศาสตร์จึงได้ทำการตรวจสอบพืชดังกล่าว โดยการสืบค้นข้อมูลจากเอกสารต่างๆโดยเฉพาะในหนังสือพรรณพฤกษชาติประเทศจีน (Flora of China) ซึ่งมีพืชสกุลเดียวกันนี้กว่า ๗๐ ชนิด แต่ไม่พบว่าใกล้เคียงกับชนิดใดเลย ในที่สุดก็ไม่อาจจะจำแนกชนิดได้ เนื่องจากพืชสกุลนี้มีการกระจายพันธุ์ที่กว้างขวางกว่า ๑๕๐ ชนิดทั่วโลก นอกจากนี้เอกสารที่มีอยู่ก็ไม่พอเพียง จึงต้องพักการตรวจสอบชื่อเอาไว้ก่อน 
     ต่อมาในเดือนพฤษภาคม พ.ศ. ๒๕๔๓ ผมได้รับทุนจากสวนพฤกษศาสตร์เอดินเบอระ เพื่อเดินทางไปศึกษาดูงานทางพฤกษศาสตร์ยังประเทศอังกฤษ จึงมีโอกาสตรวจสอบเอกสารและตัวอย่างพืชเพิ่มเติม ในหอพรรณไม้ของสวนพฤกษศาสตร์เอดินเบอระ และสวนพฤกษศาสตร์คิว ผลที่ได้น่าตื่นเต้นเป็นอย่างยิ่ง เมื่อพบว่าพืชดังกล่าว มิได้เป็นเพียงพืชชนิดใหม่ของไทยเท่านั้น หากแต่เป็นถึงพืชชนิดใหม่ของโลกทีเดียว จึงได้ทำการจัดตั้งชื่อพืชชนิดใหม่ตามหลักสากล โดยให้ชื่อวิทยาศาสตร์ว่า Swertia chiangdaoensis หรือ ศรีเชียงดาว ตามสถานที่ที่ค้นพบ 
     การสำรวจในปีต่อ ๆ มาพบว่า ปริมาณของศรีเชียงดาว ที่พบในแต่ละปีจะแตกต่างกัน เนื่องจากเป็นพืชล้มลุกที่เจริญจากเมล็ดปีต่อปี โดยรวมแล้วถือว่ามีจำนวนประชากรน้อยมาก และมีสถานภาพที่เสี่ยงต่อการสูญพันธุ์เป็นอย่างยิ่ง เนื่องมาจากการรบกวนของกิจกรรมท่องเที่ยวและไฟป่า
       ศรีเชียงดาว Swertia chiangdaoensis P. Suksathan, Edinb. J. Bot. 58:3, 2001.

     ไม้ล้มลุกวงศ์ดอกหรีด (GENTIANACEAE) สูง ๑๕-๖๕ เซนติเมตร ใบรูปใบหอกแคบออกตรงกันข้าม ดอกขนาดประมาณ ๑.๕ เซนติเมตร ออกเป็นช่อแน่นมีจำนวนมาก กลีบเลี้ยงห้ากลีบ สีเขียวหรือเขียวอมแดง กลีบดอกห้ากลีบสีม่วงอ่อน โคนกลีบมีแถบขวางสีม่วงเข้ม และสีเขียว มีต่อมรูปครึ่งวงกลมหนึ่งต่อม โคนก้านเกสรตัวผู้แผ่แบน ปลายเรียวแหลม เกสรตัวผู้รูปไข่แกมขอบขนาน รังไข่สีเขียวอ่อนมีปื้นสีน้ำเงินเข้ม ก้านเกสรตัวเมียสั้น ยอดเกสรตัวเมียเป็นสองแฉก ผลแห้ง แก่แล้วแตก เมล็ดเล็ก มีจำนวนมาก

     นิเวศและการกระจายพันธุ์ : พืชถิ่นเดียว (endemic) พบเฉพาะดอยเชียงดาว จ. เชียงใหม่ บริเวณพื้นที่เปิดในระดับความสูงกว่า ๒,๑๐๐ เมตร