สารคดี ปีที่ ๑๗ ฉบับที่ ๒๐๒ เดือน ธันวาคม ๒๕๔๔ "๖๐ ปีเสรีไทย"
นิตยสารสารคดี Feature Magazine
นิตยสารสำหรับครอบครัว
www.sarakadee.com
ISSN 0857-1538
  ปีที่ ๑๗ ฉบับที่ ๒๐๒ เดือน ธันวาคม ๒๕๔๔
กลับไปหน้า สารบัญ

เ ฮ โ ล ส า ร ะ พ า

คุณที่รัก

    สงครามน้ำหอม ๔ (ผู้อ่านโปรดใช้วิจารณญาณ)

    นับแต่เศรษฐกิจไทยดิ่งลงเหว คนไทยที่ทำงานให้ร้านดิวตี้ฟรีในปารีสก็เดือดร้อน เพราะคนขายมีมากกว่าคนซื้อ ยิ่งเกิดกรณีตึกเวิลด์เทรดที่นิวยอร์กถูกถล่ม สองสามเดือนหลังเหตุการณ์แทบหาคนไทยใจกล้าบินไปเที่ยวปารีสไม่ได้ แต่ละร้านจึงลดจำนวนพนักงานแผนกไทยลง พวกที่ยังไม่ถูกปลดก็มีชีวิตการทำงานประหนึ่งเจ้าไม่มีศาล ต้องเร่ร่อนช่วยงานแผนกอื่น ทำตัวให้เป็นประโยชน์มากที่สุด ดังนั้นข่าวทัวร์ เอ.ไอ.เอ. ๔,๐๐๐ คนยกพลบุกฝรั่งเศสจึงไม่ใช่ข่าวธรรมดา ๆ แต่เป็นสุดยอดข่าวดีสำหรับคนในวงการที่โน่นเลยทีเดียว
    ขณะที่รอกองทัพลูกค้ากระเป๋าหนัก ข่าวคืบหน้าที่สร้างความปั่นป่วนให้ผู้เกี่ยวข้องในเวลาต่อมาคือ ลูกทัวร์ทั้ง ๔,๐๐๐ คนจะลงชอปปิงที่ร้านเบนลักซ์ เพียงร้านเดียวเท่านั้น ตามสัญญาที่บริษัท เอ.ไอ.เอ.ในสิงคโปร์เซ็นไว้กับร้านเบนลักซ์ซ์ ดังนั้นแม้เอ.ไอ.เอ. สิงคโปร์ จะมอบภาระให้บริษัทนำเที่ยวของไทยสี่บริษัท เป็นผู้นำทัวร์พนักงานที่แบ่งย่อยเป็นร้อยกว่ากลุ่ม แต่ไกด์ร้อยกว่าคนนั้น ก็ไม่มีสิทธิ์พาลูกทัวร์ไปซื้อของ นอกเหนือจากร้านที่ทำสัญญากันไว้
    แต่...ผลประโยชน์เป็นเรื่องไม่เข้าใครออกใคร ร้านดิวตี้ฟรีอีกสองร้านในปารีสจึงไม่ยอมเสียประโยชน์ และเริ่มแผนปฏิบัติการเหนือเมฆทันที 
    หัวหอกขบวนการน่าจะเป็นร้านปารีสลุก ซึ่งลงทุนเช่ารถโค้ชเก็บไว้ใช้งานจำนวนมาก เป็นผลให้เบนลักซ์ซ์ขาดแคลนรถ ในวันแรกที่คณะทัวร์ทยอยเดินทางสู่กรุงปารีส หากมากับสายการบิน ปารีสลุกซึ่งจ้างหน่วยหน้ากล้าตายไว้ ๗ คน ก็ส่งคนไปดักที่สนามบิน เพื่อแนะนำลูกทัวร์ ที่เพิ่งเดินสะโหลสะเหลลงจากเครื่อง ให้ไปชอปปิงที่ปารีสลุก พร้อมแจกบัตรส่วนลด ๓๖ % แก่ทุกคน และแจ้งว่าทางร้านมีบริการรถโค้ช รับส่งระหว่างโรงแรมกับร้านฟรีทุกวัน ทางร้านจะอำนวยความสะดวกแก่ลูกค้าเอ.ไอ.เอ. เป็นพิเศษ โดยขยายเวลาปิดร้าน จากหนึ่งทุ่มเป็นสี่ทุ่มอีกด้วย
    ส่วนลูกทัวร์ที่เดินทางเข้าปารีสโดยรถไฟหรือรถโค้ช ปารีสลุกซึ่งรู้ตารางทัวร์ทั้งหมด ก็ไม่พลาดปฏิบัติการเหนือเมฆ โดยถอนกำลังหน่วยหน้าฯ บางส่วนจากสนามบิน กระจายไปยังร้านอาหารจีน ที่สืบรู้มาว่าทัวร์ไทยไปลง เพื่อแจก ๆ ๆ บัตรส่วนลดแก่ลูกทัวร์ โดยทำต่อเนื่องทั้งมื้อเที่ยงและมื้อเย็น
    วันแรกของ "สงคราม" ปารีสลุกประสบความสำเร็จด้วยดี กับวัตถุประสงค์ขั้นต้น ที่ต้องการให้ข่าวสารแพร่กระจาย ไปในหมู่นักขายประกันชีวิต (ที่มีอาการงุนงงเล็ก ๆ กับปฏิบัติการแจกบัตรส่วนลดของทางร้าน) ท่ามกลางความเงียบสงบ อย่างไม่ระแคะระคายของเบนลักซ์ซ์
    วันที่ ๒ ปารีสลุกทิ้งกำลังส่วนน้อยของหน่วยหน้าฯ ประจำยังจุดเดิมที่สนามบิน หน่วยหน้าฯ ที่เหลือถูกส่งไปประจำจุดตามโรงแรมใหญ่สี่แห่ง ที่ทัวร์ไทยเข้าพัก เพื่อแจกบัตรและชักชวนลูกทัวร์ให้ไปซื้อของที่ร้าน
    ด้วยช่องโหว่ที่รถเช่าขาดตลาด ลูกทัวร์ที่เช็กอินเข้าที่พักแล้วจึงถูกปล่อยให้พักผ่อนตามอัธยาศัย และต้องรอคิวไปชอปปิงที่ร้านเบนลักซ์ซ์ (แม้ร้านจะรับพนักงานขายเฉพาะกิจเพิ่ม ๓๐ คน แต่ไม่อาจให้บริการลูกทัวร์ทั้งหมดในเวลาเดียวกันได้ เพราะร้านมีสิทธิ์ "แตก" จากทัวร์ร้อยกว่ากรุ๊ป จึงต้องจัดคิวให้ไปซื้อของที่ร้านวันละ ๒๐ กว่ากรุ๊ป โดยที่เหลือต้องร้องเพลงรอไปก่อน) 
    ขอแทรกไว้ตรงนี้ว่า ลูกทัวร์เกือบทั้งหมดไม่รู้อิโหน่อิเหน่กับสงครามชิงลูกค้าของร้านดิวตี้ฟรีเลย เมื่อไกด์บอกว่าพักผ่อนตามอัธยาศัย พวกที่ไม่ต้องการพักผ่อนจึงออกจากห้องพักมาจับกลุ่มชุมนุมกันเต็มล็อบบี้โรงแรม เพื่อหาทางออกไปชมเมืองปารีสด้วยตัวเอง เมื่อมีคนชวนไปซื้อของพร้อมเงื่อนไขรับส่งกลับโรงแรมฟรี พวกเขาที่พกเงินมาเต็มกระเป๋าพร้อมรายการซื้อของที่ยางเป็นหางว่าว ทั้งของเพื่อนฝากซื้อ ของซื้อฝากเพื่อน จึงบอกต่อกันปากต่อปาก ที่สุดแล้วก็เฮละโลขึ้นรถปารีสลุก 
    ดูเหมือนงานของหน่วยหน้าฯ จะกล้วย ๆ หากสถานการณ์มีเพียงเท่านี้ แต่ความจริงนั้นคนทำงานก็หัวใจเต้นโครมคราม (เพราะมีสติพอจะใคร่ครวญด้วยตัวเองว่า งานที่ทำนั้นเสี่ยงและผิดทำนองคลองธรรมเพียงใด แต่ไม่มีใครรู้ล่วงหน้าว่าต้องมาทำงานเช่นนี้ เพราะก่อนหน้านั้นได้รับการติดต่อให้ทำงานเป็นไกด์นำเที่ยว กว่าจะรู้ชัดถึงลักษณะงาน ต่างก็ถอนตัวไม่ทัน) เพราะต้องเผชิญหน้าคู่กรณีตลอด ที่โรงแรมทั้งสี่แห่ง นอกจากเบนลักซ์ซ์จะส่งคนไปประจำแล้ว บริษัทแม่ที่สิงคโปร์ก็ส่งคนของตนไปประจำเช่นกัน เพื่อดูแลความเรียบร้อยทุกอย่าง แม้คนจากสิงคโปร์จะฟังภาษาไทยไม่ออก แต่ก็อาศัยคนจากเบนลักซ์ซ์ช่วยเป็นหูเป็นตาให้
    ฝ่ายไกด์ผู้ไม่ได้ผลประโยชน์ใด ๆ แม้มีใจฝักใฝ่ปารีสลุก และใคร่นำทัวร์ไปลงที่ร้านดังกล่าวซึ่งเสนอคอมมิชชันให้อย่างงาม แต่ทันทีที่พาลูกทัวร์เข้าเช็กอิน เหล่าไกด์ก็หมดโอกาสกระดิกตัว เพราะถูกคนจากเบนลักซ์ซ์และสิงคโปร์ประกบตลอด 
    แต่ท่ามกลางคนหมู่มากที่ไม่รู้ใครเป็นใคร หน่วยหน้าฯ ซึ่งได้รับคำสั่งให้หาทางเข้าถึงตัวไกด์เพื่อรายงานตัวว่ามาจากปารีสลุก และรับเอกสารสำคัญ นั่นคือรายชื่อลูกทัวร์ (เพื่อทางร้านจะได้รู้ว่าเป็นลูกทัวร์ในสังกัดของไกด์คนใด จะได้ให้ค่า "น้ำ" แก่ไกด์ได้ถูกต้อง โดยคำนวณจากยอดซื้อรวมของลูกทัวร์) ก็สามารถอาศัยความชุลมุนทำหน้าที่ของตนเป็นอย่างดี
    บ่ายแก่ ๆ ของวันที่ ๒ ณ ศูนย์บัญชาการชั้นสองของร้านปารีสลุก หลังจากเฝ้ารออย่างใจจดใจจ่อกับการปรากฏตัวของลูกค้าชาวไทยตั้งแต่เช้ายันบ่าย ในที่สุดการรอคอยก็จบสิ้น เมื่อหน่วยหน้าฯ จากแต่ละโรงแรมโทรศัพท์แจ้งเข้าศูนย์ว่า พวกตนกำลังขนลูกค้ามุ่งไป "ชอปแรก" ที่ร้าน !!! (หมายถึงการลงชอปปิงครั้งแรก ของลูกทัวร์ที่มีเงินเต็มกระเป๋า เพราะยังไม่ได้ใช้จ่ายอะไรนับแต่ออกเดินทาง)
    วันนั้นนับเป็นชัยชนะอีกวาระหนึ่งของปารีสลุก คนจากสิงคโปร์ และเบนลักซ์ซ์ทำได้เพียงยืนออหน้าโรงแรม มอง "ถุงเงิน" ที่ควรจะเป็นของตน เดินเรียงแถวขึ้นรถของคู่แข่งด้วยสีหน้าเคร่งเครียด (สัญญาต้องลงชอปปิงที่เบนลักซ์ รู้กันเฉพาะผู้เกี่ยวข้อง และพวกเขาไม่มีสิทธิ์ขัดขวางหากลูกทัวร์ต้องการไปซื้อของร้านอื่น)
    วันที่ ๓ ของการช่วงชิงลูกค้า เฮเลนดาลส่งคนไปประกาศอย่างเปิดเผยตามโรงแรม ว่าตนมีรถรับส่งไปซื้อของที่ร้านเช่นกัน ขณะที่ปารีสลุกยังส่งหน่วยหน้าฯ ไปประจำที่โรงแรมทั้งสี่แห่งตามปรกติ ลูกทัวร์ผู้ไม่รู้ตื้นลึกหนาบาง ต่างพูดชื่นชมเป็นเสียงเดียวกันว่า ร้านดิวตี้ฟรีให้บริการ และให้ความสำคัญแก่พวกตนเป็นอย่างดี
    แต่สถานการณ์วันที่ ๓ ไม่เหมือนสองวันที่ผ่านมา คนจากสิงคโปร์โทรศัพท์ไปรายงานนายใหญ่ถึงความเพลี่ยงพล้ำที่เกิดขึ้น และได้รับคำสั่งให้ "จัดการ" กับคู่กรณีอย่างเด็ดขาด ปฏิบัติการแทรกซึมของหน่วยหน้ากล้าตายของปารีสลุก ซึ่งทางเบนลักซ์ และสิงคโปร์เริ่มจำหน้าตาได้แล้ว จึงถูกขัดขวาง เริ่มจากเตือนนิ่ม ๆ ว่าอย่ารุกล้ำเข้าไปในเขตล็อบบี้โรงแรม ถูกสะกดรอยตามและแอบฟังการสนทนาทุกรูปแบบ ห้ามเอารถโค้ชไปจอดหน้าโรงแรม ฯลฯ ขณะเดียวกัน บรรดาไกด์ก็ถูกคาดโทษอย่างหนัก หากถูกจับได้ว่ารู้เห็นเป็นใจกับปารีสลุก จะถูกเอาเรื่องถึงต้นสังกัด ส่วนลูกทัวร์ที่ยังทยอยเช็กอินในโรงแรมเป็นวันสุดท้าย ทางสิงคโปร์ก็หน่วงเหนี่ยวไม่ให้ออกไปไหน โดยไม่แจกกุญแจห้องให้ทันที แต่ให้รอเข้าประชุมก่อน 
    การชิงไหวชิงพริบระหว่างคนจากสิงคโปร์บวกเบนลักซ์ กับคนจากปารีสลุกเป็นไปอย่างร้อนแรง แม้ถูกแก้เกม ถูกขู่เพียงไหน หน่วยหน้าฯ ของปารีสลุกก็ยังอาศัยช่องโหว่ "พักผ่อนตามอัธยาศัย" ฉกลูกทัวร์ขึ้นรถได้คันแล้วคันเล่า ที่โรงแรมเมอริเดียน มงปานาส การเผชิญหน้าของทั้งสองฝ่ายเป็นไปอย่างถึงพริกถึงขิงถึงขั้น "ด่ากราด" กันในล็อบบี การปะทะถึงจุดแตกหักเมื่อเบนลักซ์แจ้งตำรวจจับหน่วยหน้าฯ สองสาว พร้อมยัดข้อหาสงสัยเป็นโสเภณีมาหาลูกค้าตามโรงแรม โดยมีหลักฐานคือวิดีโอวงจรปิดของโรงแรม ที่จับความเคลื่อนไหวของสองสาวขณะสนทนากับลูกทัวร์ไว้ตลอด!!!
      ข่าวหน่วยหน้าฯ สองสาวถูกตำรวจจับ (ปารีสลุกให้ทนายโทรศัพท์ไปไกล่เกลี่ย ในที่สุดสองสาวถูกปล่อยตัวเมื่อใกล้เที่ยงคืน โดยเบนลักซ์ขู่ว่าถ้าวันรุ่งขึ้นมาให้เห็นหน้าอีก จะให้มาเฟียจัดการ) ทำให้หน่วยหน้าฯ คนอื่น ๆ ขวัญเสียกันมาก แต่ก็ไม่อาจละทิ้งหน้าที่ในความรับผิดชอบไปกลางคันได้ ร้านปารีสลุกจึงยังคลาคล่ำด้วยนักชอปจากเมืองไทย อันเป็นผลจากการปฏิบัติงานอย่างเข้มแข็งของหน่วยหน้าฯ และการวางแผนอย่างชาญฉลาดของมันสมองไทยแห่งร้านปารีสลุก
.............
    ดูเหมือนสงครามน้ำหอมครั้งประวัติศาสตร์นี้ ทั้งร้านเบนลักซ์ ปารีสลุก และเฮเลนดาลต่างไม่มีใครพ่ายแพ้ 
เพราะการเยือนฝรั่งเศสของกองทัพนักขายประกันชีวิตตลอดสัปดาห์ ดิวตี้ฟรีชอปทั้งสามร้านรวมทั้งห้างแกลเลอรี่ลาฟาแยต ต่างรับเละเงินลูกค้าชาวไทย หากจะมีใครที่พ่ายแพ้บ้างก็คงจะเป็นประเทศไทย
    ทัวร์เอ.ไอ.เอ.กลับเมืองไทยไปนานแล้ว ควันหลงหลังจากนั้นก็คือ เบนลักซ์เลี้ยงพนักงานไทยที่ร้านอาหารฝรั่งเศส
    อย่างหรู พร้อมฉลองตัวเลขยอดขายกว่า ๑๐ ล้านฟรังก์ ปารีสลุกเลี้ยงฉลองพนักงานที่ร้านอาหารจีนอย่างดีด้วยตัวเลขรายได้ที่มากกว่า ๓ ล้านฟรังก์ ทั้งนี้ไม่นับรวมตัวเลขของร้านเฮเลนดาลและห้างลาฟาแยตที่ไม่เป็นที่เปิดเผย
    ขอให้ทุกท่านเข้มแข็ง มีกำลังใจ และมีความหวังกับชีวิตเสมอ ไม่ว่าปีเก่าจะผ่านไป ปีใหม่จะผ่านมาอีกกี่ครั้งกี่หนก็ตาม
  คำตอบที่ได้รับรางวัลจากปัญหาฉบับที่ ๒๐๐ เดือนตุลาคม ๒๕๔๔

    เฉลยปัญหาจ้ะ คำถามฉบับที่ ๒๐๐ ถามวิธีทำให้ตัวเลขทั้งสองแถวมีผลลัพธ์เท่ากัน คำตอบคือ หมุนเลข 9 ในแถวที่ ๒ ให้กลายเป็นเลข 6 ผลลัพธ์ของตัวเลขแถวที่ ๒ จะเท่ากับ ๒๑ 
ผู้ที่ตอบคำถามถูก ได้รับหนังสือ คนนอก เป็นของรางวัล ได้แก่ 
๑. คุณวีรศักดิ์ น้ำค้าง จ. สุพรรณบุรี 
๒. คุณสุพจน์ สุนทร  จ. นนทบุรี 
๓. พ.ญ. สุวรรณี พันเจริญ  กรุงเทพฯ 
๔. คุณปรีชา ธีรานุวัตร  กรุงเทพฯ 
๕. คุณสมศรี สร้างถาวร   จ. สมุทรปราการ
๖. คุณณรงค์ วัฒนปฤดา  กรุงเทพฯ 
๗. คุณณรงค์ฤทธิ์ ปถวีธาตุ  กรุงเทพฯ 
๘. คุณอนันต์ เกตุบำรุง  กรุงเทพฯ 
๙. คุณพรทิพย์ เหมภัสสร  กรุงเทพฯ 
๑๐. คุณดลยา ชลประเสริฐสุข  จ. เชียงใหม่
 

ปัญหาฉบับที่ ๒๐๒ เดือนธันวาคม ๒๕๔๔

 
 

    ใครจะเป็นรายต่อไป

    ม ม พ ม ก ส ก ? 
    จากพยัญชนะที่ให้มา ๗ ตัว คุณคิดว่าพยัญชนะตัวที่ ๘  คืออะไร ทำไมคุณจึงคิดว่าเป็นพยัญชนะตัวนั้น
    รีบส่งคำตอบไปยัง "หมูอมตะ" ภายใน ๒๕ มกราคม ๒๕๔๕


 
รักคุณ
"หมูอมตะ"
MortalPig@ Sarakadee .com