"ผมจะไปยืนรออยู่กลางถนนเลย..." เขานัดแนะทางโทรศัพท์ หลังจากผมซักไซ้ถึงตำแหน่งแห่งที่ของจุดหมาย กลางแดดเปรี้ยงใกล้เที่ยง รถแท็กซี่ที่ผมโบกเข้าไปจากปากทางถนนใหญ่ ละเลียดขยี้กรวดหิน และหลุมบ่อของถนนริมทางรถไฟอย่างช้า ๆ พลันปรากฏร่างเงาของบุรุษสวมหมวกยืนจังก้ากลางถนน ! แต่แรกเมื่อได้ข่าวว่าคุณสุชาติ สวัสดิ์ศรี "บอกอเครางาม" แห่ง โลกหนังสือ เมื่อครั้งกระโน้น หันมาเขียนรูปอย่าง "จริงจัง" ผมก็ยังไม่ได้คิดว่าจะจริงจังสักเท่าใด นึกเอาเองเล่น ๆ แต่เพียงว่า "พี่เขา" ก็คงเขียนรูปอะไรบ้างนิด ๆ หน่อย ๆ พอเป็นงานอดิเรกแบบ "จิตรกรวันอาทิตย์" กระมัง มาจนมีงาน นิทรรศการศิลปะกับสังคม ๒๕๔๔ ที่สถาบันปรีดี พนมยงค์ ซอยทองหล่อ เมื่อปลายเดือนกันยายน พ.ศ. ๒๕๔๔ ผมจึงได้เห็นรูปเขียนของคุณสุชาติเป็นครั้งแรก เพียงเท่านั้น ผมก็ต้องออกแรงบุกบั่นไปถึงชายทุ่งรังสิต อันเป็นแหล่งพำนักของเขา ด้วยคำถามในใจว่า "เขาเขียนทำไม ?" เพราะการลุกขึ้นเปลี่ยน "สนาม" ของ "สิงห์สนามหลวง" บุคคลผู้เป็นประหนึ่งเอนไซโคลพีเดียทางประวัติวรรณกรรมของชาตินั้น ย่อมมิใช่เรื่องสามัญ ในวันนั้น ปราศจากวี่แววของ "เครา" อันเคยเป็นสัญลักษณ์ของเขา และที่มาของสมญา "บอกอเครางาม" ด้วยน้ำเสียงเบา ๆ นุ่ม ๆ เขาทักทายไถ่ถามเรื่องการเดินทางพักหนึ่ง หลังจากนั้นก็พาเดินลัดเลาะไปตามริมรั้วบ้านใครต่อใคร จนที่สุดก็มาถึงอาณาจักรกลางทุ่ง ที่ประกาศขอบเขตไว้ด้วยลำคู ห้องกรุที่เก็บ "งาน" ของเขาอยู่ในบ้านไม้สองชั้น แยกต่างหากจากบ้านชั้นเดียวที่เป็นเรือนนอนของพ่อ-แม่-ลูก อันได้แก่ คุณสุชาติ คุณ "ศรีดาวเรือง" และคุณโมน กับลูกสมุนอีกสองสามหน่วย