นิตยสาร สารคดี: ฉบับที่ ๒๒๒ เดือนสิงหาคม ๒๕๔๖ | ISSN 0857-1538 |
|
วันชัย ตัน : รายงาน /ภาพประกอบ : Din-Hin | |||
ในโลกของไซเบอร์สเปซ อะไรก็เกิดขึ้นได้เสมอ ขณะที่บ้านเรากำลังปวดหัวกับเว็บโป๊ เว็บขายเซ็กซ์ แต่ที่ญี่ปุ่น ทางการกำลังกลุ้มใจกับเว็บแนะนำการฆ่าตัวตาย วัยรุ่นญี่ปุ่นหลายคนท่องไปในโลกของอินเทอร์เน็ต เพื่อหาวิธีฆ่าตัวตาย พวกเขาอาจจะแชตกันในห้องสนทนา ช่วยกันค้นหาว่าดาดฟ้าตึกไหนเหมาะสำหรับกระโดดลงมา หรือยาตัวไหนดีที่สุดสำหรับปลิดชีพตัวเอง เจ้าหน้าที่รายงานว่า การชักชวนกันฆ่าตัวตายผ่านอินเทอร์เน็ต เริ่มขึ้นตั้งแต่ปลายทศวรรษ ๑๙๙๐ และเกิดทุกสถานที่ตั้งแต่เกาะกวมจนถึงเนเธอร์แลนด์ ประเทศญี่ปุ่นมีอัตราคนฆ่าตัวตาย ๑๙.๕ คน ต่อประชากร ๑ แสนคน เทียบกับสหรัฐอเมริกา และเยอรมนีที่มีอัตราคนฆ่าตัวตาย ๑๔ คน ต่อประชากร ๑ แสนคน เจ้าหน้าที่พบว่า วัยรุ่นญี่ปุ่นฆ่าตัวตายเพิ่มขึ้นอย่างท่วมท้น ตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์เป็นต้นมา มีข่าวการฆ่าตัวตายถึง ๒๐ คน ส่วนใหญ่เป็นวัยรุ่น เป็นที่น่าสังเกตว่า คนที่ตั้งใจฆ่าตัวตายทั้งหมด ใช้วิธีจุดเตาไฟในที่ปิดทึบ แล้วสูดควันจนตาย ซึ่งเป็นไปตามคำแนะนำในเว็บ เว็บไซต์เกี่ยวกับการฆ่าตัวตายมักมีหน้าตาลึกลับ มืดหม่น มีคำเตือนให้ผู้เข้าชมเว็บ ใช้วิจารณญาณจากนั้นจึงพาเข้าสู่ห้องสนทนา ที่คลาคล่ำด้วยผู้ฝักใฝ่ความตาย ซึ่งจะแลกเปลี่ยนข้อมูลกันว่า วิธีใดดีที่สุดสำหรับปลิดชีพตัวเอง บางเว็บไซต์ถึงขั้นเสนอ "รายการสินค้า" เช่นอุปกรณ์ที่ใช้ทำให้สลบก่อนตาย เมื่อห้าปีก่อน มีเว็บไซต์ที่ออกแบบโดยครูสอนวิทยาศาสตร์วัย ๒๗ ปี ซึ่งแจกจ่ายไซยาไนด์ให้แก่ผู้คิดฆ่าตัวตายที่ติดต่อเขาผ่านอินเทอร์เน็ต แต่พอเป็นข่าว เว็บนี้ถูกทางการสั่งปิด ครูหนุ่มเจ้าของเว็บก็ฆ่าตัวตายตามเว็บของตัวเอง เด็กและวัยรุ่นที่เป็นแฟนเว็บไซต์พากันฆ่าตัวตาย ส่วนใหญ่มีปัญหาถูกรังแก อกหัก หรือถูกคนในครอบครัวข่มขืนกระทำชำเรา ส่วนผู้ใหญ่ที่มีปัญหาทางเศรษฐกิจ ตกงาน หรือมุ่งหวังเงินประกันให้ครอบครัว ก็เข้ามาใช้บริการเว็บไซต์เหล่านี้กันไม่น้อย สถาบันสุขภาพจิตแห่งชาติเปิดเผยว่า เว็บไซต์ที่มีเนื้อหาป้องกันการฆ่าตัวตายมีน้อยมาก ขณะเว็บไซต์บอกวิธีฆ่าตัวตายมีนับไม่ถ้วน นักการเมืองญี่ปุ่นเสนอแนะให้จัดระเบียบเว็บไซต์เหล่านี้ ทว่าผู้เชี่ยวชาญหลายคนไม่เห็นด้วย กล่าวว่า ทางการควรมุ่งความสนใจไปที่การป้องกันการฆ่าตัวตาย มากกว่ามุ่งทำลายเครือข่ายอินเทอร์เน็ต คาซูทากะ นาคามิโซ โฆษกของกระทรวงไอที กล่าวว่า การปิดเว็บไซต์เป็นเรื่องซับซ้อน ยากที่จะพิสูจน์ว่าเว็บไซต์ไหนพัวพันกับเรื่องฆ่าตัวตาย เขากล่าวว่า "เว็บไซต์จำนวนมากเกี่ยวข้องกับการฆ่าตัวตายไม่มากก็น้อย แต่บางเว็บก็พยายามยับยั้งการฆ่าตัวตาย เราไม่สามารถปิดเว็บไซต์ทั้งหมดนี้ได้ และปัญหาใหญ่ในญี่ปุ่นก็คือ คนที่คิดฆ่าตัวตายส่วนใหญ่ไม่รู้จะหันหน้าไปพึ่งใคร เว็บจึงกลายเป็นที่พึ่งของพวกเขา" เว็บไซต์จึงกลายเป็นพระเจ้าองค์ใหม่ ขนาดชี้เป็นชี้ตายได้ จริงไหมครับ ขาโจ๋วทั้งหลาย |