นิตยสาร สารคดี: ฉบับที่ ๒๒๒ เดือนสิงหาคม ๒๕๔๖ | ISSN 0857-1538 |
|
ฉบับหน้า ตามพ่อค้าไทย ไปขุดพลอยแทนซาเนีย |
ผมมีนัดกับนกแต้วแล้วท้องดำ ที่เขานอจู้จี้ อำเภอคลองท่อม จังหวัดกระบี่ เมื่อต้นฤดูฝนที่ผ่านมา
เผอิญไม่มีอีเมลส่วนตัวคุยกัน จึงต้องดิ่งรถและเดินป่า ไปแอบเฝ้าเจ้านกเดินดินตัวนี้ |
||
รถของใครเสียแล่นเข้ามา เขาจะทิ้งรถที่ซ่อมอยู่ไปดูแลถามไถ่อาการของผู้มาใหม่เสมอ ช่างเครื่องคนนี้ไม่รู้จักคำว่า ลำดับก่อนหลัง ตามหลักของการจัดการ แต่สิ่งที่เขามีคือ น้ำใจ ต่อคนแปลกหน้าที่เดือดร้อนเข้ามาหาเขา ส่วนค่าบริการไม่ใช่เรื่องใหญ่ คิดราคาแบบชาวบ้าน ไม่มีเกณฑ์ตายตัว จากความหงุดหงิด เราเริ่มเปลี่ยนมุมมองจากคนเมืองที่มีแต่ความเร่งรีบ มารู้จักการรอคอย เริ่มใจเย็น และพยายามเข้าใจชีวิตของช่างเครื่องบ้านนอกคนนี้ รอไปนาน ๆ ลูกค้าหลายคนกลายเป็นลูกมือช่างเครื่องอย่างสมัครใจ ช่วยกันคนละไม้คนละมือ บางคนช่วยแบกท่อแป๊ปมาตัดท่อ บางคนช่วยอ๊อกเหล็ก จนเนื้อตัวมอมแมม พอมืดค่ำลง ก็กุลีกุจอเอาไฟฉายมาส่องสว่างให้ ห้าชั่วโมงผ่านไปมีรถปิกอัพคันหนึ่งบรรทุกผู้โดยสารร่วมยี่สิบคน ส่วนใหญ่เป็นเด็กและคนชรา แล่นฝ่าความมืดเข้ามาขอความช่วยเหลือ โชเฟอร์บอกว่าสงสัยลูกปืนรถล้อหน้าแตก เขาบอกว่าขับรถมาจากนครศรีธรรมราชต้องรีบเดินทางไปให้ถึงเมืองกาญจน์ให้ทันคืนนี้ ดังนั้นช่างเครื่องและลูกมือจึงกลับมาเปลี่ยนลูกปืนของรถคันนั้นให้เสร็จก่อน เมื่อรู้ถึงความจำเป็น สองทุ่มตรงรถเทอร์ราโนติดท่อเฮดเดอร์ก็สำแดงพลังออกมา ทั้งช่างเครื่องและลูกมือจำเป็นต่างมีรอยยิ้มในความสำเร็จที่ร่วมด้วยช่วยกัน แม้แรงของเครื่องยนต์จะไม่หนักแน่น และทรงพลังเท่าเครื่องเทอร์โบ แต่สุดท้ายก็พาเราเดินทางไปสู่จุดหมายและกลับกรุงเทพฯได้สำเร็จ วันนั้นเราเสียเวลาหกชั่วโมง และค่าซ่อมรถเพียงสองพันบาท แต่เป็นการเสียเวลาที่สนุกจริง ๆ เพียงแค่เปลี่ยนมุมมอง จากการรอคอยอย่างน่าเบื่อ มาเป็นการเรียนรู้ชีวิตของคนตัวเล็ก ๆ รอบตัว |
|||
|