เด็กพันธุ์ใหม่ ...วัย X
โดย อรสม สุทธิสาคร

Click ชีวิตวัยรุ่นไทยยุคปี ๒๐๐๐ ในความเห็นของคุณClick ชีวิตวัยรุ่นไทยยุคปี ๒๐๐๐ ในความเห็นของคุณ

ปกหนังสือ เด็กพันธุ์ใหม่...วัย X (คลิกดูหน้าหลัก)
อีกหนึ่งบทเรียนของนักเที่ยว  
เที่ยวเพื่อเรียนรู้ขีวิต  
      แอม อายุ ๑๙ น้อง อายุ ๑๗ และแวว อายุ ๑๙ สามสาวเพื่อนซี้ นักเรียนระดับ ปวช. โรงเรียนพาณิชยการแห่งหนึ่งย่านฝั่งธน เป็นนักเที่ยวประจำย่านอาร์ซีเอมาได้สองปีแล้ว ตลอดสองปีของการท่องราตรี เธอยังคงรักษาผลการเรียนในระดับปานกลางไว้ได้สม่ำเสมอ แสงสีของราตรี ไม่ได้ทำให้พวกเธอหลงเพริด ก้าวถลำไปสู่วงจรของยาเสพย์ติดหรือความรักความใคร่ อย่างที่เด็กส่วนหนึ่งเป็น
      แอมได้เงินค่าขนมเดือนละ ๕,๐๐๐ บาท น้องได้วันละ ๑๐๐ แววได้ ๑๒๐ ต่อวัน เธอเก็บออมเงินค่าขนมมาเที่ยวกันเป็นกลุ่ม ครั้งละ ๓-๔ คน โดยแชร์กันออก วันเที่ยวของพวกเธอคือทุกศุกร์ เสาร์ อาจมีงดบ้างในบางอาทิตย์
      กลุ่มนี้มาเที่ยวโดยที่พ่อแม่รับทราบ มีกฎจากผู้ปกครองว่าให้มาเที่ยวได้ แต่ต้องไม่ทำตัวเสียหาย
 
      "พวกเรากินเหล้ากันด้วยนะคะ แต่ไม่มาก ส่วนมากจะใช้บัตรเหล้ากันมากกว่า เปิดครั้งหนึ่งรวมค่ามิกเซอร์ด้วยก็ตกประมาณ ๕๐๐-๖๐๐ บาท กินเสร็จก็ฝากไว้ พอผับเลิกประมาณตีสอง เราก็กลับบ้านเลย" น้องเล่า เสื้อผ้าแบบเปรี้ยวๆ ที่ใส่กันในวันเที่ยว เธอบอกว่ามาเปลี่ยนกันในห้องน้ำจะปลอดภัยกว่าเปลี่ยนในรถแท็กซี่ หรือไม่ก็ใส่เสื้อคลุมทับ แล้วถอดออกเมื่อถึงที่หมาย
      "หนูเคยเจอแท็กซี่ขายยาบ้าให้ด้วย ถามว่าจะเอายาไหม พวกขึ้นแท็กซี่คนเดียวนี่อันตราย แต่เด็กๆ ที่เที่ยวกลางคืนส่วนมากเขานั่งกันไปเป็นกลุ่ม พวกเราก็ไปกันเป็นกลุ่ม ปลอดภัยดี หนูสงสัยว่าพวกที่เที่ยวแล้วมาเปลี่ยนเสื้อผ้าบนรถ สงสัยคงอยากให้แท็กซี่ส่งฟรี หรือไม่ก็อ่อยแท็กซี่คนหล่อๆ พวกหนูนั่งนี่เจอแต่แก่ๆ รุ่นพ่อ" แววเสริมพร้อมหัวเราะ
      แววบอกว่าพี่สาวเป็นคนพาเธอมารู้จักอาร์ซีเอครั้งแรกในงานวันเกิดของเธอ ในขณะที่แอมบอกว่าที่บ้าน พ่อแม่สอนให้รู้จักคิดเองพิจารณาเอง เป็นการเลี้ยงลูกแบบสมัยใหม่ อยากลองอะไรก็ให้ลองได้หมด แต่ต้องอยู่ในขอบเขตอันเหมาะสม สาวกลุ่มนี้เคยลองบุหรี่ด้วยกันทุกคน แต่ไม่ชอบ
      แอมมาครั้งแรก ได้เวลาเที่ยงคืน เธอก็นั่งหลับ ในขณะที่น้องเป็นเพียงคนเดียวในกลุ่มที่ชอบเต้น
      สามสาวมาถึงร้านประจำของเธอราวสามทุ่ม นั่งดื่มกันไปเรื่อยๆ พอสี่ทุ่มครึ่ง เพลงเริ่มมัน ได้เวลาเต้น น้องก็ออกไปเต้น หนหนึ่งเธอใส่รองเท้าส้นตึกสูง เต้นเพลินจนพลาดตกบันไดร้าน คนมองกันพรึ่บ เลือดไหลโชก แต่ก็ไม่เคยเข็ด
      น้องแต่งตัวเปรี้ยวสุด เธอใส่เสื้อแบบผ้าเช็ดหน้าผืนน้อย ผูกโบข้างหลัง
 
      "มีคนถามว่าใส่เสื้อในไหม หนูก็บอกว่าใส่ซิคะ เสื้อแบบที่หนูใส่เขาเรียกว่าผ้าเช็ดหน้า ถ้าถามว่าทำไมถึงกล้าใส่ ก็หนูอยากใส่ก็ใส่ หน้าอกเราก็ไม่มี มาที่นี่คนก็แต่งเหมือนๆ กัน เราก็ไม่เขิน เวลาจะมาเที่ยว แม่จะเข้ามาดูในตู้เสื้อผ้า แล้วแกล้งแซวว่าจะไปร้องเพลงที่ไหน ตอนนั้นละครทีวีสาวน้อยคาเฟ่กำลังฮิต บางทีแม่ก็แซวอีกว่า ตัวนี้ใส่ยังไง ใครเอาเศษผ้ามาทิ้งไว้"
      หนหนึ่งน้องใส่เสื้อแบบผ้าเช็ดหน้า เพื่อนที่เป็นกะเทยเข้ามาทักทาย เลยเต้นกันมันสุดเหวี่ยง เต้นกันจนเสื้อหลุด เกือบต้องอับอายขายหน้า ดีที่แววคว้าไว้ทัน
      แววบอกว่าครั้งแรกที่ไปเที่ยวอาร์ซีเอ เธอแต่งกายมิดชิด สุภาพเรียบร้อย ผลคือทุกคนมองเธอตั้งแต่หัวจรดเท้า เหมือนเป็นตัวประหลาด ในขณะที่เธอมองเด็กๆ ที่ไปเที่ยวซึ่งแต่งตัวกันเปรี้ยวจี๊ดจ๊าดว่า "ถ้าแต่งตัวแบบนี้ สู้แก้ผ้าไปเสียเลยดีกว่า"
      วันนี้สามสาวแต่งตัวเปรี้ยว กลมกลืนไปกับเด็กเที่ยวย่านนั้นแล้ว
      ในสถานที่เช่นนั้น แสงไฟสีหลอกตา เสียงดนตรีเร่งเร้า เหล้า ยา ดูจะกระพือโหมไฟอารมณ์ ให้กระเจิดกระเจิงไกลได้ง่าย  ภาพเด็ดจึงมีให้เห็นกันเป็นปกติธรรมดา รวมถึงบางครั้งอาจมีชายอารมณ์เปลี่ยว เผลอไผลจงใจหาเศษหาเลยกำไรจากสาวๆ
      "พี่ที่เขาเล่าว่าบางทีผู้หญิงผู้ชายทำกันในร้านเลย อาศัยคนแน่นๆ มั่วๆ กันไป ไม่มีใครสนใจใคร มีเรื่องเด็ดๆ มาเมาท์กันอยู่เรื่อย ไม่พ้นเรื่องใต้สะดือ ขนาดตอนนั้นหนูจะเข้าห้องน้ำ เขากำลังควักล้วงกันอยู่ เราก็ปวดฉี่ ต้องบอกว่าขอโทษค่ะ ช่วยหลีกทางให้หน่อย หนูจะเข้าห้องน้ำ" เป็นเสียงจากแอม
      น้องบอกว่าเคยมีคนเข้ามาถามว่าเพื่อนๆ ในกลุ่มเธอ มีใครอยากอัพยาหรือเปล่า เธอตอบปฏิเสธไป แล้วเดินหนีด้วยความกลัว นอกจากนี้เธอยังเคยแอบถูกจับเอวลูบสะโพก
      "หนูก็ถีบมันไปทั้งกำลังจับนั่นแหละ พี่ดูส้นรองเท้าหนูซิ ถ้ามีเรื่อง เขวี้ยงใส่หน้ารับรองหัวแตก" น้องเล่า
      "มีอยู่ครั้งหนึ่ง หนูใส่เสื้อแบบผ้าเช็ดหน้าเข้าไปในร้าน ผู้ชายก็มาจับ แล้วถามว่าราคาเท่าไร หนูงี้หน้าชา โมโหมาก" แววเอ่ย
      "หนูเคยเจอผู้ชายมามาดแบบป๋ามาเลย เดินมาแซวเรา ถามว่าหยิ่งนักหรือ หนูตอบไปว่าไม่อยากคุย เสียเวลา เขาบอกโธ่เว้ย ไม่อยากทำผู้หญิงนักหรอก เราก็เลือดขึ้นหน้า เพื่อนต้องมาดึงตัวเราออกไป" แอมบอก
      แม้กระทั่งแท็กซี่ก็ไม่ละไม่เว้น สาวๆ เคยเจอแท็กซี่ถามเอาตรงๆ ว่ามีครอบครัวแล้วหรือยัง คำตอบของพวกเธอคือมีผัว มีลูกแล้ว เป็นการตัดบท ถึงจะไม่พอใจแท็กซี่วัยคุณน้าคนนั้น แต่ก็จำทนนั่งไปจนถึงจุดหมาย ก่อนจะลงยังมีการถามจีบอีกว่าจะให้มารับกลับไหม
      น้องเล่าว่าที่ร้านมอร์แกนมีการประกวดเต้นกัน ใครเต้นได้ประทับใจสุดๆ มีหมอนให้ใบหนึ่งเป็นรางวัล
      "มีผู้หญิงคนหนึ่ง เหมือนผู้หญิงขายตัวมาก เต้นจนตรงนั้นออกมาเห็นๆ เลย ส่ายเหมือนเต้นอะโกโก้ในพัฒน์พงศ์ เขาก็เลยได้หมอนเป็นรางวัลไป หนูเห็นมีพวกเสี่ยถูกใจเอาตังค์ให้"
      น้องเล่าว่านอกจากที่อาร์ซีเอ แหล่งประจำแล้ว พวกเธอเคยไปเที่ยวที่ย่านรามอินทรา ที่นี่มีทั้งเกย์ และผู้หญิงขายบริการมาก แถมมีโชว์วับๆ แวมๆ ทั้งคนโชว์คนเที่ยวล้วงควักกันให้เห็นจะจะ
      แอมเล่าว่าที่อาร์ซีเอ เรื่องทะเลาะตีรันฟันแทงกันมีบ่อยๆ เคยเห็นชนิดควงปืน และวิ่งฟันกันมาเป็นฝูง คนเที่ยวต้องรีบแจวหลบ เพราะกลัวลูกหลง ตอนจบพวกป่อเต็กตึ๊งมาเก็บคนเจ็บไปตามธรรมเนียม มีทั้งหญิงและชาย
      แอมบอกว่าเคยพักการเรียนไปปีหนึ่ง ช่วงนั้นเธอชอบโดดเรียนไปนั่งเล่นที่บ้านเพื่อน จนเวลาเรียนไม่พอ ต้องหยุดไป ช่วงที่หนีเรียน เธอชอบไปเที่ยวต่างจังหวัด นอนบ้าง ดูหนังฟังเพลงไปตามเรื่อง สาเหตุที่โดดเรียนเพราะเธอคิดว่าพ่อแม่ไม่รักไม่สนใจ
      "พ่อแม่ไม่ค่อยถาม รู้สึกเขาไม่ห่วงเราเลย พอรู้เรื่องว่าเราต้องหยุดเรียนไป เขาก็เสียใจ เรียกเรามาคุยว่าเกิดอะไรขึ้น ก็คุยกันตรงๆ จากนั้นพ่อแม่ก็เริ่มเข้าใจเรามากขึ้น"
      "ที่บ้านหนูจะสอนลูกคำหนึ่ง ด่าคำหนึ่ง น่าเบื่อมาก พูดๆๆๆ แล้วก็ด่าๆๆๆ เมื่อไรจะจบ แต่แอมนี่ไม่ค่อยโดนว่า แม่เขาจะเงียบๆ มากกว่า" แววพูดถึงพ่อแม่
      น้องบอกว่าเธอมีแฟนขณะเริ่มเที่ยว อายุประมาณ ๑๗ ปี เท่ากันกับแวว ส่วนแอมมีตอนอายุราว ๑๕-๑๖ ปี
 
      "หนูคบแฟนมานานเป็นปี หนูไม่ชอบเปลี่ยนแฟนบ่อยๆ ไม่เห็นดีเลย คบคนไหนดีก็คบ แต่ตอนนี้หนูเลิกกับแฟนแล้ว" น้องบอก
      "หนูไม่ค่อยมีเวลาให้แฟน หนูชอบเที่ยวกับเพื่อนมากกว่า ตอนนี้เราอายุเท่านี้เอง เขาคุยมาเราก็คุยไป ไม่คิดอะไรมาก ไปเรื่อยๆ" แอมว่า
      เด็กวัยรุ่นจำนวนไม่น้อยที่คบหาเป็นแฟนกับผู้ชาย ไม่ได้มีความสัมพันธ์ลึกซึ้งถึงระดับไหนๆ เพียงอาทิตย์สองอาทิตย์ก็เลิกกันแล้ว เปลี่ยนแฟนไปนับสิบ ในขณะที่อายุยังอยู่ในวัยเพียง ๑๕-๑๖ มากน้อยกว่านี้ไม่เท่าไร
      "พี่ อย่างนี้เขาเรียกแฟนหรือคนเดินผ่านไปมา" แอมถามแซว พร้อมเสียงหัวเราะ
      แอมบอกว่าการได้มาเที่ยว เห็นโลกกลางคืน นับว่ามีประโยชน์สำหรับเธอไม่น้อย
      "มันได้ประโยชน์คือเราได้รู้จักโลก รู้จักวิธีการป้องกัน เราแต่งตัวอย่างนี้นะ เราอิสระนะ เราต้องควบคุมตัวเอง เราอย่าไปมีอะไรกับใครนะ มันเป็นอนาคตของเรา พี่คิดดูว่าถ้าผู้ชายคนนี้มาบอกว่ารักเรา แล้วในอนาคต เขาจะยังรักเราอยู่อีกหรือเปล่า ก็ตอบไม่ได้ เราต้องรักตัวเรา ข้างบ้านเขายังว่าแม่หนูเลยว่าทำไมให้ลูกไปเที่ยวอย่างนี้ แม่บอกว่าฉันเชื่อใจลูก มีอยู่ครั้งหนึ่ง ข้างบ้านมารายงานแม่ว่าเห็นเรายืนจูบอยู่กับผู้ชาย ทั้งที่เราไม่ได้ไปไหนเลยนะคืนนั้น แม่เขารู้ว่าเราไม่ทำอย่างนั้น เขาก็เฉยๆ"
      อย่างไรก็ตาม สาวๆ กลุ่มนี้ยอมรับว่าเด็กที่ไปเที่ยวแล้วรู้จักคิด รู้จักรักษาตนเองได้ มีจำนวนน้อย

 
 

contact@sarakadee.com
สำนักพิมพ์ สารคดี | สำนักพิมพ์ เมืองโบราณ | วารสาร เมืองโบราณ | นิตยสาร สารคดี
[ วิริยะบุคส์ | มีอะไรใหม่ | เช่าสไลด์ | ๑๐๘ ซองคำถาม | สั่งซื้อหนังสือ ]
สำนักพิมพ์ สารคดี