วันนี้ดูเหมือนโครงการอะไรก็ตามในประเทศนี้ หากอ้างว่าเป็นหนึ่งในการป้องกันน้ำท่วมพื้นที่อุตสาหกรรมภาคกลาง จะกลายเป็นโครงการศักดิ์สิทธิ์ที่ต้องเกิดขึ้นให้ได้ทันที
หลายโครงการที่ตายไปนานแล้ว กลายเป็นผีดิบขึ้นจากหลุม สามารถปัดฝุ่นกันขึ้นมาใหม่ได้ ถ้าสามารถโยงว่าเป็นหนึ่งในโครงการป้องกันน้ำท่วมมูลค่า 350,000 ล้านบาทได้
เพราะการป้องกันน้ำท่วม ดูจะสำคัญเรื่องราวใด ๆในประเทศนี้ แม้กระทั่งการทำลายป่าเพื่อป้องกันน้ำท่วมก็สามารถทำได้
เขื่อนแม่วงก์ เป็นตัวอย่างล่าสุด
ในปีพ.ศ. 2545 หลังจากได้ศึกษาผลดีผลเสียกันมานานร่วมสิบปี คณะกรรมการสิ่งแวดล้อมแห่งชาติก็ได้มีมติไม่เห็นชอบในรายงานการวิเคราะห์ผลกระทบสิ่งแวดล้อม (อีไอเอ) โครงการก่อสร้างเขื่อนแม่วงก์ จังหวัดนครสวรรค์มูลค่าสามพันกว่าล้านบาท และยังเสนอให้กรมชลประทาน กลับไปศึกษาเพิ่มเติมในเรื่องการบริหารจัดการลุ่มน้ำทั้งระบบ มากกว่าที่จะเสนอให้มีการสร้างเขื่อนเป็นทางเลือกเดียวเท่านั้น
สิบปีผ่านไป รัฐบาลชุดนี้ก็ได้ประกาศว่า จะสร้างเขื่อนแม่วงก์ คราวนี้มูลค่าสูงพรวดขึ้นมาถึง 13,000 ล้านบาท ตัวเขื่อนจะสร้างปิดกั้นลำน้ำวงก์ ที่เขาสบกก ต.แม่เล่ย์ อ.แม่วงก์ จ.นครสวรรค์ มีปริมาณน้ำเก็บกักเพียง 258 ล้านลูกบาศก์เมตร ซึ่งถือว่าน้อยมากเมื่อเทียบกับเขื่อนภูมิพล ที่มีปริมาณน้ำเก็บกักถึง 13,000 ล้านลูกบาศก์เมตร
รัฐบาลใช้สูตรเดิม คืออ้างว่าป้องกันไม่ให้น้ำท่วมภาคกลาง แต่ไม่พูดกับประชาชนตรง ๆ ว่า เขื่อนแห่งนี้ต้องมีการทำลายป่าสมบูรณ์ในอุทยานแห่งชาติแม่วงก์พื้นที่กว่าหมื่นไร่
ป่าแม่วงก์ อาจจะไม่ค่อยมีคนรู้จักมากนัก แต่คนที่เคยอ่าน “ล่องไพร” อมตะนิยายอันลือลั่นของน้อย อินทนนท์ หรือ มาลัย ชูพินิจ จะทราบว่า ฉากการผจญภัยในป่าดิบผืนใหญ่ปกคลุมพื้นที่จังหวัดกำแพงเพชรและนครสวรรค์ในนิยายเรื่องนี้ หากไม่ถูกบุกรุกไปเป็นพื้นที่เกษตร ตอนนี้ที่เหลืออยู่ก็คือป่าแม่วงก์นั่นเอง
สิบปีก่อน ผมเคยล่องไพรเข้าไปสำรวจป่าที่จะถูกน้ำท่วมหากมีการสร้างเขื่อนในอุทยานแห่งนี้ พื้นที่เหล่านี้อุดมไปด้วยป่าสักธรรมชาติผืนใหญ่ที่สุดรองจากป่าแม่ยม ตอนนั้นดอกสักสีขาวเพิ่งออกดอกบานสะพรั่ง ต้นไม้ใหญ่บางต้นใช้คนโอบเกือบสิบคน เราเดินสำรวจป่าไปตามลำธารน้ำใส ถือเป็นสภาพป่าสมบูรณ์มาก มีต้นประดู่ มะค่า ยาง ชิงชัน พยอม แดง ตะเคียนทอง ขึ้นอย่างหนาแน่น และยังเห็นร่องรอยของสัตว์ป่าหลายชนิดที่มากินน้ำตามริมฝั่ง ไม่ว่าจะเป็นเก้ง กวาง ช้างป่า กระทิง วัวแดง เสือ ฯลฯ เพราะอยู่ติดกับป่าห้วยขาแข้ง จึงทำให้ป่าแม่วงก์มีสัตว์มากถึง 406 ชนิด
อุทยานแห่งชาติแม่วงก์ป่าต้นน้ำสำคัญของภาคกลาง เป็นป่าผืนเดียวติดกับเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าห้วยขาแข้ง และเป็นส่วนหนึ่งของผืนป่าตะวันตกขนาดพื้นที่ 11ล้านไร่ ซึ่งมีอาณาเขตติดต่อกันตั้งแต่อำเภออุ้มผาง จังหวัดตาก ครอบคลุมอุทยานและเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าหลายแห่งเรื่อยลงมาถึงป่าในจังหวัดกาญจนบุรี ถือเป็นป่าขนาดใหญ่ที่สุดในเอเชียอาคเนย์
สัมปทานไม้สักหมื่นกว่าไร่ในป่าแม่วงก์ คงทำให้พ่อค้าไม้ตาลุกวาว เพราะนานมาแล้วที่ประเทศไทยไม่เคยมีการตัดไม้ทีเดียวหลายแสนต้น โดยเฉพาะราคาไม้สักที่มูลค่าไม่ต่างจากไม้พะยูง
หากรัฐบาลคิดว่า ปัญหาโลกร้อน คือปัญหาใหญ่ที่สุดของมนุษยชาติ ทำให้ดินฟ้าอากาศแปรปรวน เกิดพายุ น้ำท่วมอย่างรุนแรง การเก็บผืนป่าอุดมสมบูรณ์เพื่อดูดซับก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ เป็นแหล่งต้นน้ำ และที่กักเก็บน้ำไว้ใช้ได้ตลอดปี ต้องเป็นมาตรการเร่งด่วนที่สุด ไม่ใช่การทำลายป่าเพื่อสร้างเขื่อน
แต่ขณะที่รัฐบาลไทยเดินหน้าสร้างเขื่อน แต่รัฐบาลพม่ากลับมีความก้าวหน้ามากกว่า โดยประกาศยกเลิกโครงการสร้างเขื่อนไฟฟ้ามิตโสนบนแม่น้ำอิรวดี ที่ได้รับการสนับสนุนจากรัฐบาลจีนมูลค่าแสนล้านบาท เพราะสร้างความเสียหายให้กับพื้นที่ป่าที่มีความหลากหลายทางชีวภาพมากที่สุดแห่งหนึ่งของโลก
วันนี้หากรัฐบาลใช้หลักคิดว่า ส่วนหนึ่งของการป้องกันน้ำท่วมคือ การทำลายป่า เพื่อสร้างเขื่อน เราคงเห็นเขื่อนอีกหลายแห่งถูกขุดขึ้นมา ซึ่งคาดว่า เป้าหมายต่อไปคือเขื่อนแก่งเสือเต้น ที่จะท่วมป่าสักผืนใหญ่ที่สุดสี่หมื่นกว่าไร่ในอุทยานแห่งชาติแม่ยม
จะเก็บป่าธรรมชาติอันเป็นที่กักเก็บน้ำชั่วชีวิต หรือสร้างเขื่อนอันเป็นที่กักเก็บน้ำชั่วคราวให้ลูกหลานของเรา
คนไทยทุกคนควรจะมีสิทธิ
กรุงเทพธุรกิจ ๑๙ เมษ. ๕๕
Comments
สรุปแล้ว คนไทยมีความสำนึกตระหนักและความฉลาดในการใช้ชีวิตอยู่กับสิ่งแวดล้อมอย่างสันติไม่ทำลายทำร้ายกัน…น้อยกว่าคนพม่าหลายเท่า ประวัติศาสตร์ที่ไทยแพ้พม่าครั้งแล้วครั้งเล่า……เพราะไทยมีคุณธรรมและความฉลาดน้อยกว่าพม่า
ดังนั้น หากจะมีการทำลายล้างประเทศต่อจากนี้ไป ขอให้คิดอย่างเดียวว่า นั่นคือฝีมืออันเก่งกล้าสามารถของคนไทยโดยแท้….แต่โง่
ไม่น่าสร้างน่ะ ถ้าเอาพื้นที่ผืนป่าที่ต้องถูกทำลายทิ้ง ไปคิดกับความจุน้ำที่ได้มา
มันไม่หน้าคุ้ม !!! แต่คนที่คุ้มคือนายทุนตัดไม้
ถ้าคุณมี solution อื่นที่สามารถแก้ปัญหาน้ำท่วมได้ คุณก็นำเสนอออกมาด้วยสิครับ ไม่ใช่ค้านเป็นอย่างเดียว แต่ไม่นำเสนอทางเลือกอื่นๆ ถ้าน้ำท่วมอีกคุณก็ออกมาตำหนิอีกว่ารัฐบาลไม่ยอมทำอะไร
คิดว่า ถ้ามีช่องทางให้เราร่วมพลังและให้ข้อมูลอย่างแท้จริง พูดบอกความจริงกับประชาชน พลังประชาชนต้านพลังการทำลายป่าได้นะค่ะ กว่าจะเป็นไม้อายุขนาดให้เราได้ดูได้รักษา มันใช้เวลายาวนาน แต่คนรุ่นเก่าก่อนเค้าเอาไว้ให้เรา เราก็ต้องรักษาเพื่อให้รุ่นหลังต่อไปกันนะค่ะ
แค่อ่านและคิดถึงภาพการทำลายป่า ยังใจหายขนาดนี้เลย ในขนาดพม่าเค้าอนุรักษ์ป่า มีะรรมชาติมากขึ้นๆ มีทางออกที่ดีกว่านี้นะ นักวิชาการที่เก่งทางนี้หลายคนนำเสนอให้ประชนได้รับทราบ และให้ประชาชนได้มีส่วนร่วมในการตัดสินใจด้วยนะ เพราะป่าไม้คือหัวใจของประเทศ
solution แก้ปัญหาน้ำท่วม
1) หยุดการตัดไม้ทำลายป่า (มีข่าวต่อเนื่องว่าบุกรุกเยอะแยะ ทำอะไรได้หรือเปล่า)
2) ขุดลอกคูคลองเป็นประจำ ให้เป็นแนวเป็นสัน สิ่งปฎิกูลทั้งหลายจะได้ไม่กั้นทางน้ำ(ไม่ใช่น้ำมาที ผมก็ตื่นตัวที)
3) ช่วยกันทิ้งขยะให้ถูกที่ รักษาแม่น้ำ ลำคลองให้สะอาด ไม่มีขยะไปทับถม ทำให้ตื้นเขิน (รณรงค์จริงจังให้ตลอด ไม่ใช่นานๆครั้ง จะได้สร้างนิสัย)
4)บ้านเรือนที่บุกรุกที่คลองทั้งหลาย ควรรื้อถอน ถ้าสร้างในที่ล้ำ หรือผิดกฎหมาย เพราะบ้านเรือนที่ล้ำเข้าไปก็ทำให้ทางน้ำแคบลง ทิศทางก็เปลี่ยน (อันนี้คงไม่มีใครกล้าทำละมั้ง)
5)ควรสอนหรือสนับสนุนให้ทุกคนโดยเฉพาะชาวนา ชาวสวน ชาวไร่ ได้แบ่งพื่นที่บางส่วนเก็บน้ำไว้ใช้เอง จะได้ไม่ต้องพึ่งเขื่อนอย่างเดียว น้ำน้อยก็จะได้พอใช้ น้ำมาก็จะได้มีกักเก็บ
6)เขื่อนที่มีอยู่ก็ทำหน้าที่ดูแลให้เต็มประสิทธิภาพหน้าที่ มีจิตสำนึก ไม่ใช่ฟังแต่คนที่ไม่มีความรู้มาสั่งแล้วก็ทำตาม
7) เราทุกคนก็ควรใช้น้ำและไฟอย่างประหยัดและมีคุณค่า
คงจะมีคนอื่นๆที่มีความคิดแก้ไขที่ดีๆอีกมาก แต่บอกแล้วจะมีใครทำ
เพราะคนที่ดูแลประเทศแต่ละยุคแต่ละสมัย ล้วนทำเพื่อประโยชน์ส่วนตนและส่วนพวกพ้องตัวเองทั้งนั้น
เขียนได้แค่นี้ อยากรู้ว่า รัฐบาลมีความสามารถทำได้ไหม
แล้วคนที่ไม่ค้านรัฐบาล สามารถนำเสนอทางแก้ปัญหาอะไรได้บ้าง นอกจาก…
ขอร้องค่ะ อย่าได้สร้างเลย เราว่าน่าจะมีทางออกที่ดีกว่านี้ เราเกิดและเติบโตมา เห็นการเปลี่ยนแปลงมากมายที่นี่ ป่าไม้ที่นี่อุดมสมบูรณ์มาก ถึงแม้ปัจจุบันจะมีเทคโนโลยีและความเจริญเข้ามาแต่ก้อไม่ทำให้เปลี่ยนแปลมากนัก อยากให้คิดทบทวนให้มากกว่านี้ก่อนที่จะตัดสินใจสร้างเขื่อนค่ะ เพราะถ้าสร้างเขื่อนก้อเท่ากับทำลายชีวิต ทั้งคนพื้นที่ ป่า และสัตว์บางชนิดที่ทุกวันนี้หายากไปทุกที เราเชื่อว่าถ้ากรมชลประทานร่วมมือกันป้องกันจริงๆ เราว่าจะต้องจัดการน้ำได้จริงๆ
สร้างเขื่อนแล้ว 🙂
จะเอาไม้ไปทำอะไรหรอครับ ?
น้ำท่วมหนักทุกปีหรือไรกัน แล้วภัยแล้งที่เป็นข่าวทุกปีทำไมไม่ได้รับการดูแลมากกว่านี้ 🙁 ไม่มีป่า ไม่มีน้ำ แล้วจะเอาเขื่อนมาทำไร ไม่ทราบบบบบ 🙄
ปลูกต้นไม้ทดแทนที่เสียไปให้เยอะกว่าเดิมดีกว่าไหมคัฟ
ดำเนินตามพระราชดำรัสของในหลวง ที่ท่านตรัสไว้ในปี 2538 เป็นคำตอบสุดท้ายครับ.
เขื่อนที่มีอยู่มันเพียงพออยู่แล้วเพียงแต่ ขาดประสิธิภาพในการบริหาร มากกว่า ไม่ำเป็นต้องไปทุ่มงบสร้างเขื่อนใหม่เลยด้วยซ้ำ ลองคิดดูบทจะแล้ง แล้งจน ไม่มีน้ำบดจะมีน้ำก็มีจนท่วม มันไม่ใช่เขื่อนไม่พอแล้วละ โซลูชั่นในการแก้ไขปัญหาที่จริงมันไม่ง่ายไม่ยากหรอกมันอยู่ที่การบรอหารและความใส่ใจจากผู้ใหญ่ที่เกี่ยวข้องมากกว่า
เขื่อนสามารถกักเก็บน้ำได้มากกว่าต้นไม้เหรอ แล้วเขื่อน สามารถสร้าง อากาศหายใจให้ มนุษย์ ที่เห็นแก่ตัวได้หรือไม่ สร้างเขื่อน1เขื่อนต้องเสียต้นไม้ไปกี่ต้น ให้คิดเอาเองว่า นั้นแหละ คือลมหายใจของคุณที่ จะหายไป
สรุปสุดท้ายปัญหามันอยู่ที่ ค คน ไม่ได้เกี่ยวกับธรรมชาติเลย ปลูกฝังค่านิยมให้รักป่าสอนหลักการเป็นเหตุเป็นผลที่จะเกิดขึ้นเมื่อไม่มีป่า แต่ที่บอกมันคงเป็นเป้าหมายที่ไม่สามารถเกิดขึ้นในเร็ววัน การทำดีที่สุดคือ ต้องเอากฏหมายไปเอาจิงกับ ค คน ที่ทำให้ป่าไม่มีอยู่ (แต่จะมีใครกล้าทำ เพราะ ไอ้คนที่เข้ามาบอกว่าจะรับใช้ประชาชนทุกคนก็หวังประโยชน์ส่วนตนกันทั้งนั้น)
ความฉลาดที่โง่ที่สุด
สร้างแต่เขื่อนบนดิน เท่ากับยิ่งทำลายป่าไม้
ทำไม ไม่คิดสร้างเขื่อนใต้ดินให้มาก ต้นไม้ก็จะมีแต่เพิ่ม ขอเดิมก็ไม่ถูกทำลาย กรรมขอโลกใบนี้จริงๆ ที่คนมีอำนาจ คิดไม่เป็น นับวันคนแบบนี้ จะโง่กว่าควายลงทุกวี่วัน
แค่หยุดเห็นแก่ตัวเห็นแก่ได้ นิสัยมักง่าย ก็อาจช่วยได้เยอะ
ดีใจที่ยังมีคนไทยรักษ์สิ่งแวดล้อม แต่จะดีมากถ้าผู้นำคิดเหมือนพวกเรา
ระบบทุนนิยมครอบงำจิตใจมนุษย์ไปมากแล้ว เงินและอำนาจจึงเป็นสิ่งที่มนุษย์แสวงหา
จนลืมนึกถึงธรรมชาติ ผู้ให้กำเนิด
พื้นที่ป่าของประเทศไทยเหลือน้อยเต็มที่แล้วครับ อย่าต้องมาเสียพื้นที่ป่าเพื่อสร้างเขื่อนหรือเพื่อทำอะไรอีกเลยครับ
ถ้าพวกเราว่าการสร้างเขื่อนนี้มันไม่ถูกต้อง เราต้องร่วมกันคิดและทำอะไรบางอย่างเพื่อเขารู้ว่ายังมีคนคัดค้านและตรวจสอบเขาอยู่ ไม่ใช่บ่นกันอย่างเดียวมันไม่เกิดอะไรขึ้นมา
ทำไม?…ลุงธีระ..เฮียปลอด..แจ้ปู..ไม่คิด..คิด..คิด ถึงภัยพิบัติอุทกภัย และ น้ำโขงแห้งขอด..รอยเลื่อนเปลือกโลก มาเป็นกรณีศึกษา ไม่ใช่คิดแบบเด็กๆที่ครูรุ่นเก่า สอนมาแบบผิดๆ สร้างเขื่อนแก้ปัญหาน้ำท่วมได้ เดี๋ยวนี้ฝรั่งเขาทุบเขื่อนทิ้ง..เพื่อฟื้นฟูระบบนิเวศน์ พวกเรามองข้ามพรมแดน ถึง ๕ เขื่อนยักษ์นาม..เขื่อนสาละวิน ที่ EGAT. รอรัฐบาลประชาธิปไตยใหม่อนุมัติสร้างกันหรือยัง? สงสารมากก็แต่สัตว์ป่าที่ร้องไห้รอข่าวร้าย เลิกจัดฉากปลูกป่า..ลดโลกร้อน..กันเสียที..หยุดทำร้ายป่ากันได้แล้วคนไทย รัฐบาลไทย และเมืองไทย..เหลือป่าไว้ให้ลูกหลานไทย..ไว้ดู..ไว้เรียนรู้..และไม่ด่าบรรพบุรุษคือ..รุ่นเราท่านทั้งหลาย..ที่ไม่รักษาป่าและระบบนิเวศน์ที่สวยงามไว้เลยครับ.
ในมุมมองผมเลยนะครับ ไม่ใช่ว่าเป็นพวกที่ถ่วงความเจริญอะไรนะครับ แต่ว่าในความเป็นจริง เขื่อนที่จะสร้างมันไม่ใช่ต้นตอของปัญหาที่เราพบเจอกันครับ เขื่อนมันแค่ตัวบรรเทาปัญหาระดับหนึ่ง เพราะว่าเขื่อนทุกเขื่อนมันมีความจุของมันที่จำกัด แล้วหากว่าปริมาณน้ำที่เข้ามายังเขื่อนมันเกินกำลัง ก็ต้องมีการปล่อยออกอยู่ดี ยิ่งหากว่าในระหว่างการก่อสร้างมีพวกกินไม่รู้อิ่ม บริโภคเกินเขื่อนไม่ได้มาตรฐาน มันก็กลายเป็นระเบิดเวลาดีๆนี่เอง
นู่นเลยครับ ป่าต้นน้ำแก้จุดนั้นให้ได้ครับ แหล่งดูดซับความแรงของน้ำที่ธรรมชาติได้สร้างมาอย่างลงตัว แต่มีกลุ่มพวกคนชั่วๆไปทำลาย เอาให้จริง จัดให้หนัก อย่าเห็นแก่หน้าอินทร์พรหม พวกมีสีมีตำแหน่งหน้าที่ทั้งหลายที่เป็นเบื้องหลังตัวดีเลยครับ ถ้าจัดการคนกลุ่มนี้ไม่ได้ และไม่ดูแลที่ต้นน้ำอย่างยั่งยืน ตายเกิดอีกกี่ชาติก็แก้ไม่ได้ หรือสร้างเขื่อนเพิ่มอีกทั่วประเทศก็แก้ไม่ได้
สรุป ผมคนหนึ่งที่ขอต้านเขื่อนครับ มันมีพอแล้วสำหรับประเทศเรา ที่ยังมีเหลือไม่มากพอคือผืนป่าครับ….
คุณ DOKPAI ครับ ท่านว่า ไม่สร้างเขื่อนแล้วจะทำอะไรที่ดีกว่าสร้างเขื่อนใช่ไหม
วิธีที่ดีที่สุด โดย ไม่ต้องมานั่งบ่น คืออะไรหรือครับ ผมก็ไม่ได้วิเศษวิโสอะไรหรอกครับ
ก็ดูจากโทรทัศน์ ดูจากหนังสือพิมพ์ ดูจากอินเตอร์เนต มีอยู่หลายวิธีมากมาย(ดูจากทีวี
และหนังสือพิมพ์ อินเตอร์เนตนะ ยืนยันว่า ผมไม่ได้คิดเองนะ
๑)สร้างฝายกั้นน้ำกระจายไปตามความเหมาะสม
๒)สร้างคูคลอง ทางระบายน้ำให้ดี ได้มาตราฐาน
๓) สร้างระบบป้องกันน้ำท่วมให้ดี เมื่อน้ำล้นตลิ่งจะต้องทำอย่างไรในสถานะการณ์นั้น
(เรื่องนี้คุณยิ่งลักษณ์ ไปดูมาแล้วที่กรุงเซอูล เกาหลีใต้) เรื่องนี้ไม่ต้องไปถามใครเปิดกูเกิ๊ล แล้วใส่ระบบป้องกันน้ำท่วมในเกาหลีใต้ ทุกอย่างก็สวางไสวแล้ว ไม่เชื่อไปดู
๔) ทำตามแนวพระราชดำริให้ถ้วนทั่ว คือ แก้มลิง (อาจหาหนังสือเรื่องนี้มาอ่านโดยตรง)
ทำได้ถ้วนทั่ว ทุกอย่างก็จะราบรื่นแน่นอน ครับ
๕) ระบบท่อระบายน้ำต่างๆทุกหัวระแหงในประเทศไทย ๗๗ จังหวัด วิศวกรไทยออกแบบผิดหรือเปล่า สร้างท่อระบายน้ำ แล้วทำไมระบายน้ำไม่ได้ เพราะอะไร อันนี้ต้องไปดูวิธีการระบายน้ำในรัฐคาลิฟฟอเนีย ในสหรัฐอเมริกา อันนี้ก็ไม่ได้ยากอะไร ถามในกูเกิ๊ลได้อีก แต่คงต้องอ่านภาษาต่างด้าวได้บ้างก็จะดี
นอกจากนี้ยังมีอีกมากครับ ผมจำเขามาจากโทรทัศน์ หนังสือพิมพ์หรือไม่ก็เว็ปไซต์ครับ
กระผมกราบขอโทษ หากข้อเขียนนี้ไม่มีประโยชน์ก็ลบทิ้งไปได้ ไม่เป็นไร
ความจริงเรื่องนี้สามารถเขียนเป็นบทความหรือแบบเรียนก็ยังได้เลย
แต่ผมไม่ได้เรียนหนังสือมาเท่าใดนัก จบแค่ปริญญาตรี ได้เกรดเฉลี่ย ๒.๐๐
สำหรับเรื่องนี้สามารถเขียนแยกย่อยออกไปอีกได้นับร้อยๆข้อทีเดียวครับ ท่าน
ขอร่วมคัดค้านด้วยคน อยากให้คุณสืบ นาคะเสถียรกลับชาติมาเกิดเพราะเห็นผลสำเร็จกรณีเขื่อนแก่งกรุง
ต้องทำยังไงถึงจะหยุดการสร้างเขื่อนนี้ได้
Pingback: เรื่องราวเกี่ยวกับเขื่อน | JR journal