ช่างทาสี

หากมีเวลาว่าง สิ่งที่ผู้เขียนอยากทำอย่างหนึ่งด้วยความสุขใจคือ การทาสี

การทาสีใหม่บนวัสดุอะไรก็ตามทำให้รู้สึกว่า สิ่งเหล่านั้นมีสีสัน มีชีวิตชีวาขึ้นมาทันที

การทาสีใหม่บนกำแพงบ้าน ชั้นหนังสือ โต๊ะ เก้าอี้ ดูราวกับว่าเรากำลังชุบชีวิตสิ่งเหล่านี้ขึ้นมาใหม่

ตอนซ่อมบ้านครั้งใหญ่เมื่อหลายปีก่อน  ผู้เขียนกับภรรยาเสียเวลาไม่น้อยกับการวิ่งเข้าออกร้านขายสี เพื่อจะเลือกหาสีทาบ้านตามใจปรารถนา  และสามารถไปผสมได้เองในร้านขายสีด้วยระบบคอมพิวเตอร์  ไม่ได้เลือกใช้สีผสมสำเร็จเรียบร้อยในกระป๋องสีทั่วไป

พอทาสีบ้านเสร็จ เราจึงได้บ้านภายนอกเป็นสีชมพูตัดสีเขียวเข้ม  ฝาผนังแต่ละห้อง มีทั้งห้องสีฟ้า สีเหลือง ให้อารมณ์สดใส ยกเว้นห้องนอนขอเป็นสีขาวล้วนเน้นความสงบเป็นหลัก

ฝาตู้หนังสือเก่าสีน้ำตาลเนื้อไม้ ก็จัดแจงเอาแปรงทาสีน้ำเงินอ่อนครั้งเดียว  เอากระดาษทรายขัดสีให้ถลอกเล็กน้อย เพื่อให้มีสีน้ำตาลแซมสีน้ำเงินสวยเก๋อารมณ์แบบวินเทจมีเสน่ห์ไปอีกแบบ

บ้านเก่าอายุกึ่งศตวรรษได้กลายเป็นบ้านมีชีวิตชีวาขึ้นมาทันที

ยิ่งตัวเองเป็นคนชอบซื้อเฟอร์นิเจอร์ไม้เก่า ได้มาแต่ละครั้งก็ชอบนักที่จะทำให้ไม้เก่าสดใสขึ้นมาด้วยสีขาว ฟ้าทะเล สีโปรดปราน

ล่าสุดพอมีเวลา จึงลงมือช่วยภรรยาทาสีเก้าอี้ไม้เก่าหลายตัวด้วยสีกระป๋องที่เหลืออยู่  เก้าอี้เหล่านี้ตอนซื้อมาได้ทาสีขาวลองพื้นไว้นานจนเนื้อไม้แห้งสนิทแล้ว  เราเพียงทำความสะอาดปัดฝุ่นให้เรียบร้อยก่อนจะลงมือทาสี โดยใช้สีน้ำ (emulsion) คือสีที่มีตัวทำละลายเป็นน้ำ  ไม่ใช่สีน้ำมัน (enamel) ที่มีตัวทำละลายเป็นน้ำมัน เพราะสีน้ำดูเหมือนจะเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมมากกว่า ใช้สารเคมีน้อยกว่า เวลาทำความสะอาดแปรงก็สามารถใช้น้ำเปล่าล้างได้ ไม่ต้องใช้ทินเนอร์ล้างแปรงทาสีน้ำมัน  และเมื่อทาด้วยสีน้ำเสร็จพื้นสีจะเป็นสีด้าน ซึ่งเราชอบมากกว่าเนื้อสีเป็นเงาวาวจากสีน้ำมัน

บ่ายวันนั้นเราตั้งใจทาสีเก้าอี้เก่าหกตัวไม่ให้มีสีซ้ำกัน มีกระป๋องสีเขียว กับสีฟ้า และสีเหลืองอีกเล็กน้อย เราเริ่มทาสีเก้าอี้ตัวแรกเป็นสีฟ้าสดใส  ตัวที่สองเป็นสีเขียวอ่อน เก้าอี้ตัวที่สามเป็นสีฟ้าผสมสีเขียว ทาสีเก้าอี้ตัวต่อไปเริ่มมีสีเหลืองปะปน เก้าอี้ตัวต่อไปคิดผสมสีจากกระป๋องสีที่เหลืออยู่ เพิ่มความเข้ม ความอ่อนแก่ของแต่ละสีให้แตกต่างกันออกไป

ตลอดบ่าย เราเพ่งความสนใจไปกับการค่อย ๆ ทาสีไปตามพื้นเก้าอี้ พนักเก้าอี้ บางช่วงปล่อยให้สีขาวที่รองพื้น หรือสีเนื้อไม้เปล่าเปลือยโผล่แซมกลางทะเลพื้นฟ้า ไม่ปรารถนาความเรียบร้อย หรือความเนี้ยบของพื้นสี ดูแล้วได้อารมณ์ดิบดี

ชีวิตจริงของคนเรา บางครั้งก็ต้องกล้าเปลือยตัวตนออกมา ไม่ต้องอยู่ในกรอบจารีตเสมอไป

ตอนเราทาสีก็เช่นกัน ไม่ได้ใช้ความคิด ไม่ได้ใช้กรอบทฤษฎีสีใด ๆ แต่ใช้สัญชาติญาณ ใช้อารมณ์ล้วน ๆในการเลือกผสมสีให้สามารถทาสีเก้าอี้แต่ละตัวให้เนื้อสีแตกต่างกัน จากวัตถุดิบที่เหลืออยู่

มันเป็นความสุขสงบ จากการใช้สัญชาติญาณผสมสี และทาสีบนเนื้อไม้ตามความสวยงามที่เรานิยามกันเองจากอารมณ์ที่โบยบินในวันนั้น

ยิ่งตอนผสมสีฟ้า สีเขียวเข้าด้วยกัน แล้วหยดสีเหลืองลงไปเรื่อย ๆ เห็นสีเหลืองอันน้อยนิดค่อย ๆ หายลงไปในกระป๋อง แต่พอสักพักยิ่งกวนสีไปเรื่อย ๆ สีเหลืองได้ช่วยเปล่งให้สีในกระป๋องดูสว่างสดใสขึ้นมา

สีจำนวนน้อยนิดก็สามารถเปลี่ยนแปลงโครงสร้างสีหลักได้

คนตัวเล็ก ๆก็สามารถเปลี่ยนแปลงบางอย่างได้เช่นกัน

ขณะที่แสงแดดของเย็นนั้นมากระทบผิวเนื้อไม้   สีกระป๋องเล็ก กระป๋องน้อยและจินตนาการของเราได้ช่วยกันชุบชีวิตเก้าอี้ไม้เก่า ๆทั้งหกตัวให้มีสีสันสดใสจนสำเร็จ ก่อนตะวันจะลับขอบฟ้า

 

กรุงเทพธุรกิจ 20/9/12    

 

 

ใส่ความเห็น

This site uses Akismet to reduce spam. Learn how your comment data is processed.