“หากเครื่องบินตกระหว่างบินอยู่ใจกลางเกาะนิวกินี โชคดีก็ขอให้ตายเลย ไม่ต้องทรมานเพราะหากรอดชีวิต ก็จะไม่มีเจ้าหน้าที่บุกป่าเข้ามาช่วย บริเวณกลางเกาะ ยังเป็นดินแดนลึกลับพื้นที่ส่วนมากยังไม่ได้รับการสำรวจ มนุษย์เข้าไม่ถึง เป็นป่าดงดิบ หนองน้ำ ชุกชุมด้วยโรคภัย ดงมาลาเรียอันตรายเกินกว่าที่จะมีใครเสี่ยงชีวิตเดินทางเข้าไปช่วยได้”
เรายังจำได้ถึงคำพูดของชาวพื้นเมืองคนหนึ่ง ช่วงเวลาบนเครื่องบินและมองลงไปเห็นป่าทึบอยู่เบื้องล่าง
นิวกินี เป็นเกาะใหญ่อันดับสองของโลก มีขนาดพื้นที่ ๗๘๖,๐๐๐ ตารางกิโลเมตร รองจากเกาะกรีนแลนด์ ระยะทางไม่ไกลในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ แต่เดินทางไกลกว่าที่คิด เป็นดินแดนลี้ลับที่สุดแห่งหนึ่งของโลก
เรานั่งเครื่องบินสามทอดจากเมืองไทย กว่าจะบินเข้ามาในเกาะใหญ่แห่งนี้ แบ่งเป็นสองประเทศฝั่งตะวันตกเป็นจังหวัดปาปัวส่วนหนึ่งของประเทศอินโดนีเซ๊ย ฝั่งตะวันออกเป็นประเทศปาปัวนิวกินี
การูด้า สายการบินแห่งชาติของอินโดนีเซีย พาเราร่อนลงจอดโซรง เมืองท่าสำคัญของจังหวัดปาปัว ชาวปาปัวพื้นเมืองเป็นชาวคริสต์ผิวดำ ผมหยิก หน้าตาแตกต่างจากคนอินโดนีเซียที่เป็นคนเอเชียผิวเหลืองนับถือศาสนาอิสลามโดยสิ้นเชิง
เกาะนี้ถูกค้นพบโดยนักเดินเรือชาวสเปนเมื่อประมาณห้าร้อยปีก่อน ประชากรบนเกาะเป็นชาวเมลานีเซียนมีลักษณะผิวคล้ำ ผมหยิกเหมือนกับชาวกินีในแอฟริกา จึงเรียกเกาะนี้ว่า New Guinea และสันนิษฐานว่าชาวแอฟริกันกลุ่มหนึ่งได้อพยพมาอยู่บนเกาะนี้เมื่อประมาณ ๖๐.๐๐๐ ปีที่ผ่านมา
ต่อมาพวกเนเธอร์แลนด์และเยอรมนีได้ยึดครองเกาะนี้เช่นเดียวกับอินโดนีเซียในช่วงชาวยุโรปเข้ามายึดครองและขยายอาณานิคมไปทั่วโลก พอเกิดสงครามโลกครั้งที่ ๒ เกาะนี้ถูกญี่ปุ่นยึดครอง
เมื่อสงครามโลกครั้ง่ที่ ๒ ได้สิ้นสุดลง เกาะนิวกินีอยู่ภายใต้การดูแลของสหประชาชาติ และจากการแทรกแซงของอเมริกาเพื่อป้องกันคอมมิวนิสต์ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และความอุดมสมบูรณ์ทรัพยากรธรรมชาติทั้งป่าไม้และแร่ธาตุ อินโดนีเซียยังมีแผนการจะขยายประชากรไปยังเกาะนี้ด้วยทำให้อินโดนีเซียเข้าครอบครองซีกตะวันตกของเกาะ ตั้งชื่อเป็นจังหวัดอิเรียน จายา ภายหลังเปลี่ยนชื่อเป็น จังหวัดปาปัว ส่วนฝั่งตะวันออกได้เอกราชเป็นประเทศปาปัวนิวกินีในปีพ.ศ. ๒๕๑๘
เกาะนิวกินีเป็นบริเวณที่มีความหลากหลายทางธรรมชาติมากที่สุดแห่งหนึ่งของโลก มีนกมากกว่า ๖๕๐ ชนิด แมลง ๒๐๐,๐๐๐ ชนิด พืชกว่า ๒๐,๐๐๐ ชนิดและเป็นเขตที่มีวัฒนธรรมและภาษาหลากหลายที่สุดในโลกเช่นกัน เนื่องจากมีชนเผ่าพันกว่าชนเผ่าที่มีภาษาพูดเป็นของตัวเอง นักภาษาศาสตร์บันทึกภาษาได้กว่าพันภาษาโดยครึ่งหนึ่งของภาษาเหล่านั้นมีผู้พูดไม่ถึงหนึ่งพันคน แม้กระทั่งบางหมู่บ้านที่ห่างกันเพียงไม่กี่กิโลเมตรก็มีภาษาที่ต่างกันแล้ว
แต่ดูเหมือนคนภายนอกจะรู้จักเกาะนิวกินีอยู่สองเรื่อง และโด่งดังไปทั่วโลก
เรื่องแรกคือ เป็นเผ่ามนุษย์กินคน คือหากทำศึกรบชนะศัตรู หรือจับคนแปลกหน้าได้ จะนำมากินเป็นอาหาร เคยมีตำนานเล่าว่า สมัยที่พวกมิชชั่นนารีมาเผยแพร่คริสต์ศาสนาบนเกาะแห่งนี้ ได้ถูกพวกชนพื้นเมืองจับและเอาหม้อดินใบยักษ์ต้มน้ำเดือด และแล่เนื้อนุษย์เหล่านี้เป็นชิ้น ๆ ลงไปต้มกับผัก เผือก มัน เคี่ยวให้เนื้อนุ่ม ปรุงรสก่อนจะมาแจกจ่ายกินกันทั้งเผ่า สร้างความหวาดกลัวให้กับผู้คนในเวลานั้นแต่สุดท้ายพวกมิชชันนารีกลับกลืนกินมนุษย์กินคนเสียเอง เพราะปัจจุบันชนพื้นเมืองส่วนใหญ่ได้เปลี่ยนความเชื่อกลายเป็นชาวคริสต์ไปแล้ว
เรื่องที่สองคือ เป็นที่อยู่ของนกที่กล่าวกันว่า สวยงดงามและหายากที่สุดในโลกคือ bird of paradise หรือนกปักษาสวรรค์และทั่วโลกมีเฉพาะบริเวณนี้เท่านั้น
แน่นอนว่าการเดินทางมาบนเกาะนิวกินี คงไม่ได้มาตามหามนุษย์กินคน ที่หมดไปนานแล้วแต่มาตามหานกสีสวย เริงร่าเต้นระบำตอนเกี้ยวพาราสี และมีตำนานกล่าวขวัญไม่รู้สิ้น
ตีสามของวันรุ่งขึ้น เราตื่นขึ้นมากลางที่พักในป่าดิบ เพื่อเตรียมตัวออกเดินทางไปซุ่มดูนกในตำนาน รถปิกอัพขับเคลื่อนสี่ล้อแหวกเข้าไปในทางขรุขระในป่าดงดิบ ครึ่งชั่วโมงต่อมา รถจอดบนไหล่ทาง ไกด์พื้นเมืองพาเราเดินเท้าบุกป่าในความมืดมิดมาให้ถึงบังไพรเพื่อซุ่มดูนก ก่อนอรุณรุ่งจะมาเยือน
เราเข้าไปแอบบนกระโจมผ้าใบปกคลุมด้วยไม้ไผ่และกิ่งไม้หนา รอเวลาฟ้าสางด้วยความเงียบสักพักยุงที่ไม่ได้รับเชิญจำนวนมากก็ส่งเสียงหึ่ง ๆ มาหาเลือดของสิ่งมีชีวิต เกาะนิวกินีขึ้นชื่อว่าเป็นดงมาลาเรียสายพันธุ์รักษายาก เรานั่งภาวนาว่าขอให้รอดจากการเป็นไข้ป่าครั้งนี้ด้วยเถิด
นั่งรอพักใหญ่ ๆ เสียงนกแหวกอากาศดังขึ้นมา คนนำทางชี้ไปบนยอดไม้ให้ดูเจ้าของเสียงนก ปักษาสวรรค์เล็ก หรือ Lesser Bird of Paradise ขนาดประมาณ ๓๐ ซม. ตัวผู้ปรากฎขึ้นส่งเสียงร้องหาตัวเมีย เรามองผ่านเลนส์กล้อง สีสวย ลำตัวสีน้ำตาลสลับแดงเลือดหมูหลังส่วนบนสีเหลือง กระหม่อมสีเหลือง ตัวผู้มีคอสีเขียวมรกต มีขนหางคู่ยาวประดับด้วยชุดขนด้านข้างสีเหลืองเข้ม และค่อยๆจางออกไปข้างนอกจนเป็นสีขาว สักพักเราเห็นตัวเมียสีเหลือดหมู หัวสีน้ำตาลเข้ม ลำตัวส่วนล่างสีขาว เห็นเด่นชัดขึ้น ตามแสงเช้าที่เริ่มสว่างขึ้นตามลำดับ
การเกี้ยวพาราสีของสัตว์โลกชนิดนี้ก็เริ่มต้น ตัวผู้จะเต้นระบำรอบ ๆตัวเมีย สลับกับการกระพือปีกตวัดขนหางเหยียดยาวเป็นเส้นโค้ง ฟูและพริ้วไปกับสายลม โดยเฉพาะในเวลาที่มันเกาะห้อยหัวเพื่อแผ่ขนที่สีข้างออกอวดนกตัวเมีย เป็นภาพที่น่าดูยิ่งนักมันจึงได้รับการยกย่องว่าเป็นนกที่สวยที่สุดในโลก เพื่อดึงดูดตัวเมียให้สนใจเพศตรงข้าม และเมื่อต่างฝ่ายต่างต้องตาต้องใจกันและกัน การผสมพันธุ์ก็จะเริ่มต้นทันที ช่วงเวลาสั้น ๆ ไม่ถึงครึ่งชั่วโมงที่เราเห็นพฤติกรรมของนกหายากชนิดนี้…ฟินสุด ๆ
แต่ที่น่าสนใจคือ นกปักษาสวรรค์มีวิวัฒนาการมากว่า ๒๔ ล้านปี กว่าจะมีความสวยสดงดงามแบบนี้ โดยมีญาติที่ใกล้ชิดมากที่สุดคือ อีกา สีสันตรงข้ามกับนกสวรรค์โดยสิ้นเชิง
เล่ากันว่า เมื่อชาวพื้นเมืองจับนกปักษาสวรรค์ได้ จะตัดขาทิ้งเห็นแต่หัวและตัว ก่อนนำมาส่งขายให้กับชาวยุโรป ขณะนั้นยังไม่มีใครเคยเห็นนกปักษาสวรรค์ตอนมีชีวิต จึงร่ำลือกันว่านกชนิดนี้ไม่มีขา บินลงมาจากสรวงสวรรค์เป็นที่มาของคำว่า Bird of Paradise
ในโลกนี้มี ประมาณ ๔๐ ชนิด กระจายอยู่ในป่าดิบเกาะนิวกินีและบางส่วนของออสเตรเลียเท่านั้น แต่ในอดีตจนถึงปัจจุบัน เป็นสัตว์ที่ถูกล่าจนใกล้สูญพันธุ์มาโดยตลอด เพราะความสวยสดงดงามของปีกนกชนิดนี้ ทำให้มันเป็นสินค้ามีค่ามากว่าสองพันปี
ครั้งหนึ่งเมื่อกองเรือของเฟอร์ดินันท์ แมกเจลเลน นักสำรวจนำซากนกชนิดนี้กลับไปสเปน โลกจึงรู้จักความสวยงามของนกชนิดนี้ ขนนกกลายเป็นเครื่องประดับของชาวยุโรปชั้นสูงมีการส่งออกนกปักษาสวรรค์ถึงปีละ ๘๐,๐๐๐ ตัวตั้งแต่ศตวรรษที่ ๑๙-๒๐ ก่อนที่จะมีการออกกฎหมายห้ามการล่านกเพื่อป้องกันการสูญพันธุ์ จนถึงปัจจุบัน Bird of Paradise จึงเป็นสัตว์ป่าที่ได้รับการคุ้มครองจากรัฐบาล
ตลอดสิบกว่าวันบนเกาะนิวกินี เราออกเดินบุกป่าดิบลุ่มต่ำ ขึ้นเขาลุยป่าดิบเขา ตามหานกจากสรวงสวรรค์ได้ห้าหกชนิด เป็นความยากลำบากและเหนื่อยล้าอันคุ้มค่า แม้ว่าหลายชนิดเห็นได้ไกล ๆ บนยอดไม้สูง
แต่พอขากลับเข้าเมือง ระหว่างทางตามท้องถนน เห็นนายพรานพื้นเมืองเอานก Lesser Bird of Paradise มาห้อยต่องแต่งวางขายข้างถนน
เราจอดรถทำทีเป็นนักท่องเที่ยว ไปสอบถามราคา คนขายใส่เสื้อยืดสกรีนคำว่า ตำรวจ บอกว่าหากเป็นแบบสตัฟ ราคาตัวละ ๑ ล้าน รูเปี๊ยซ ประมาณสามพันกว่าบาท แต่หากจะเอาตัวเป็นๆ ยังมีชีวิตสามารถหาให้ได้ราคา ตัวละ๑๐ ล้านรูเปี๊ยซ หรือ ๓๐,๐๐๐ บาท
เราถามผ่านล่ามไปว่า ปีหนึ่งนายพรานล่าได้ประมาณกี่ตัว
คำตอบคือ ๕๐ ตัว
ไม่มีใครให้คำตอบได้ว่า บนเกาะใหญ่ มีนายพรานอาสาล่าปักษาสวรรค์กี่คน ไม่มีตัวเลยระบุว่าปีหนึ่งนกชนิดนี้ถูกล่าไปกี่ร้อยกี่พันตัวแต่ค่านิยมคนมีเงินของอินโดก็ยังนิยมเอานกชนิดนี้ประดับบารมีไม่ต่างจากเขาสัตว์ ไม่รวมถึงสวนสัตว์และคนมีเงินทั่วโลกด้วย ที่ยังนิยมนกชนิดนี้มาประดับ แม้ว่าจะมีกฎหมายห้าม
อีกไม่นาน bird of paradise บนผืนโลกคงลาจากมนุษย์ไปสู่สรวงสวรรค์ตามชื่อของมัน
สารคดี กพ. 2560