วิฑูรย์
เลี่ยนจำรูญ
ผู้ประสานงานเครือข่าย สิทธิ ภูมิปัญญาไทย
พืชแปลงพันธุกรรม
ไม่ได้ทำลายแต่ เฉพาะ แมลงศัตรูพืชเป้าหมาย
เท่านั้น แต่ยังทำลาย สิ่งมีชีวิตอื่น ๆ
ในระบบนิเวศ อีกด้วย
เปิดโอกาส
ให้บริษัทข้ามชาติ เข้ามา ผูกขาด เมล็ดพันธุ์พืช,
ภาคเกษตรกรรม จะถูกบริษัทข้ามชาติ ครอบงำ
การผสมข้ามพันธุ์
เป็นการทำลาย พันธุ์พืช พื้นเมือง
พืช และอาหาร
แปลงพันธุกรรม อาจมีสาร ที่เป็นอันตราย
ต่อผู้บริโภค
|
|
....."ธรรมชาติ สร้างสิ่งมีชีวิต
ให้ผสมพันธุ์กับ สิ่งมีชีวิตชนิดเดียวกัน
แต่เทคโนโลยี การแปลงพันธุกรรม นำเอายีนจาก
สิ่งมีชีวิตอะไรก็ได้ มาผสมกัน ทำให้เกิด
ผลกระทบต่อ ระบบนิเวศ และผู้บริโภค
อย่างละเอียดอ่อน และกว้างขวาง
กว่าที่เคยเกิดขึ้นจาก เทคโนโลยีชนิดอื่น ๆ
จากข้อมูล ที่มีอยู่ตอนนี้ ยังไม่เห็น
ข้อดีที่ชัดเจน ของเทคโนโลยีตัวนี้เลย
....."ข้ออ้างที่ว่า พืชตัดต่อพันธุกรรม
จะช่วยเพิ่มปริมาณผลผลิต และแก้ปัญหา
การขาดแคลนอาหาร เพราะประชากรโลกเพิ่มขึ้น
เป็นเรื่องโกหกโดยสิ้นเชิง จำนวนประชากร
กับการขาดแคลนอาหารนั้น ไม่เกี่ยวข้องกัน
ปัญหาไม่ได้อยู่ที่ การขาดแคลนเทคโนโลยี
และการเพิ่มผลผลิต แต่อยู่ที่ การกระจายอาหาร
ที่ไม่เป็นธรรม และการ ไม่เปิดโอกาสให้ชาวบ้าน
มีสิทธิ ในที่ดินทำกิน นอกจากนี้ นักวิจัย
ชาวอเมริกัน ยังได้วิเคราะห์ ปริมาณผลผลิต
ของพืชแปลงพันธุกรรม ที่ปลูกในอเมริกา เมื่อปี
๒๕๔๐ แล้วพบว่า พืช GMOs ไม่ได้ให้ผลผลิต
ที่สูงกว่า พันธุ์พืชทั่วไป ฝ้ายบีที
ที่นำมาปลูกในไทย ก็ให้ผลผลิตเท่า ๆ
ฝ้ายพันธุ์พื้นเมือง อย่าง พันธุ์ศรีสำโรง
ของเรา
....."เรื่องช่วยรักษา สิ่งแวดล้อม
และลดต้นทุนการผลิต เนื่องจาก
ใช้สารเคมีน้อยลงนั้น ก็ไม่จริงอีก ขณะนี้ ๗๑
เปอร์เซ็นต์ ของพืชแปลงพันธุกรรม เป็นพืชที่
ใส่ยีน ต้านทาน ยาปราบวัชพืชเข้าไป เท่ากับ
ส่งเสริมให้เกษตรกร ใช้ยาปราบศัตรูพืชมากขึ้น
เพราะเห็นว่า พืชที่ปลูก สามารถทนยาได้
นักวิทยาศาสตร์ ชาวอเมริกันคนหนึ่ง พบว่า
เมล็ดพันธุ์ ต้านทานยาปราบวัชพืช ของ บริษัท
มอนซานโต้ ทำให้เกษตรกร ใช้ยาเพิ่มขึ้น
๒.๕ เท่า ของที่เคยใช้ ยาปราบวัชพืชของ มอนซานโต้
จึงขายดีขึ้น อย่างเห็นได้ชัด
เมล็ดพันธุ์พืชแปลงพันธุกรรม ก็ราคาแพงมาก เช่น
เมล็ดพันธุ์ฝ้ายบีที ราคากิโลกรัมละ ๖๐๐ บาท
สูงกว่า เมล็ดพันธุ์ฝ้ายศรีสำโรง
ซึ่งราคากิโลกรัมละ ๓๕ บาท ถึง ๑๗ เท่าตัว
....."คำโกหกต่อมา คือ ข้ออ้างว่า การตัดต่อยีน
จะช่วยอนุรักษ์ และขยายพันธุ์พืช
ที่กำลังสูญพันธุ์ ความจริง การปลูกพืช GMOs
คือตัวการ ทำลายความหลากหลาย ทางชีวภาพ
เพราะทำให้ เกิดการผสมเกสร
ข้ามไปสู่พันธุ์พืชพื้นเมือง
อย่างไม่อาจควบคุมได้
พันธุ์พืชดั้งเดิมในธรรมชาติ จะถูกทำลายไป
อย่างรวดเร็ว ยิ่งกว่า ที่เคยเกิดขึ้น ในยุคปฏิวัติเขียว
นอกจากนี้พืช GMOs ยังเป็นตัว ทำลายแมลง
ที่มีประโยชน์ ต่อการผสมเกสร ซึ่งไม่ได้เป็น
ศัตรูเป้าหมายของพืช เช่น ฝ้ายบีที
ไม่ได้ทำลายแต่เฉพาะ หนอนเจาะสมอฝ้าย
แต่ยังทำลาย แมลงช้าง ด้วงเต่า และผีเสื้อ
อีกด้วย เช่นเดียวกับที่ นักวิทยาศาสตร์จาก มหาวิทยาลัยคอร์แนล
สหรัฐอเมริกา พบว่า ตัวอ่อนของ ผีเสื้อโมนาร์ช
ที่กินละอองเกสร ข้าวโพดบีที ในแปลง ตายไปถึง ๔๔
เปอร์เซ็นต์ ภายในสี่วัน
....."ถ้าเลือกจะปลูกพืช GMOs
ก็เตรียมใจไว้ได้เลยว่า อนาคตของ เกษตรกร
จะตกอยู่ในกำมือของ บริษัทข้ามชาติ เพียงห้าแห่ง
ซึ่งผูกขาด ตลาดพันธุ์พืชแปลงพันธุกรรมไว้
เกษตรกรไทย จะต้องพึ่งพาต่างชาติ
ไปชั่วลูกชั่วหลาน |