Contact Us
สาระเพื่อนักเดินทาง และการท่องเที่ยว อย่างเข้าใจและรอบรู้
www.Thaitraveler.com
นายรอบรู้ชวนเที่ยว.. เที่ยวทุ่งเมื่อหน้านก
ฤดูหนาวนี้คุณผู้อ่านคงได้ขึ้นดอยไปรับอากาศหนาวชื่นฉ่ำใจกันมาแล้ว หลายคนคงได้ไปดูนกอพยพที่หนีอากาศหนาว มาอาศัยอยู่ตามยอดดอยต่าง ๆ สำหรับเดือนกุมภาพันธ์ที่จะถึงนี้ "นายรอบรู้" จะชวนคุณผู้อ่านไปดูนกอพยพในอีกบรรยากาศหนึ่ง ที่ครบเครื่องทั้งภูเขา บึงน้ำ และทะเล ในอุทยานแห่งชาติเขาสามร้อยยอด จ. ประจวบคีรีขันธ์
เมื่อพ้นเขต อ. ปราณบุรีมาได้ไม่นาน ก็จะเห็นเทือกเขาหินปูนทอดตัวยาวสลับซับซ้อน มียอดเขาตะปุ่มตะป่ำมากมายสมชื่อ "เขาสามร้อยยอด" เทือกเขาหินปูนนี้ นอกจากจะเป็นที่ตั้งของอุทยานแห่งชาติทางทะเล แห่งแรกของประเทศแล้ว ยังจัดเป็นพื้นที่ที่มีความหลากหลายของระบบนิเวศมากที่สุดแห่งหนึ่ง เพราะประกอบด้วยทะเล เกาะ ชายหาด ป่าชายเลน ป่าเขาหินปูน โดยเฉพาะพื้นที่ชุ่มน้ำขนาดใหญ่ ซึ่งเป็นแหล่งขยายพันธุ์สัตว์น้ำ รวมทั้งนกซึ่งมีไม่ต่ำกว่า ๒๕๐ ชนิด โดยเฉพาะนกน้ำและนกชายเลน
เรามาดูนกกันเลยดีกว่า เริ่มด้วยนกชายเลนก่อน ช่วงเดือนกุมภาพันธ์นี้ เป็นช่วงเวลาที่นกชายเลนที่ย้ายถิ่นไปอาศัยอยู่ทางภาคใต้ เรื่อยไปจนถึงออสเตรเลีย จะเริ่มอพยพกลับไปทำรังวางไข่ทางตอนเหนือของเอเชีย เราจึงมีโอกาสเห็นนกชายเลนมากชนิดขึ้น เช่น พวกนกอีก๋อย นกหัวโต รวมทั้งนกที่หายาก เช่น นกซ่อมทะเลอกแดง นกทะเลขาเขียวลายจุด สถานที่ดูนกชายเลนที่สะดวกอยู่ใกล้ที่ทำการอุทยานแห่งชาติ โดยมีทางเดินจากที่ทำการฯ เลียบดอนตะกาด ไปจนถึงชายหาดดอนต้นสน ระยะทางประมาณ ๑ กิโลเมตร แม้จุดหมายสำหรับดูนกชายเลนจะอยู่ที่ชายหาด แต่ระหว่างทางก็อย่าลืมมองหานกที่อาศัยในบึงน้ำ เช่น นกยาง นกตีนเทียน และนกที่อยู่ตามทุ่งโล่ง เช่น นกกระแตแต้แว้ด นกเด้าดินทุ่ง นกเด้าลม ขณะเดินดูนกบริเวณชายหาด โปรดใช้ความระมัดระวังด้วย เพราะในช่วงเดือนกุมภาพันธ์-มิถุนายน นกหัวโตมลายูและนกนางนวลแกลบเล็ก ใช้หาดทรายบริเวณนี้เป็นแหล่งขยายพันธุ์ คุณอาจจะเหยียบไข่ของนกน่ารัก ๆ เหล่านี้ได้
จุดหมายต่อไปคือนกน้ำ บริเวณที่เหมาะกับการดูนกน้ำ อยู่ที่ทุ่งสามร้อยยอด อันเป็นบึงน้ำจืดธรรมชาติขนาดใหญ่ กินอาณาบริเวณหลายสิบตารางกิโลเมตร พื้นที่บึงน้ำนี้ ครึ่งหนึ่งอยู่ในเขตอุทยานแห่งชาติเขาสามร้อยยอด ถ้ามองอย่างผิวเผิน เราอาจเห็นว่าเป็นเพียงพื้นที่ร้างว่างเปล่า ที่รกไปด้วยแขม ธูปฤาษี กก และอ้อ แต่ความจริงแล้วบึงนี้เป็นพื้นที่ชุ่มน้ำ อันเป็นแหล่งอาศัย และแหล่งหากินของสัตว์หลายชนิด ในช่วงฤดูฝน ท้องทุ่งจะเป็นแหล่งขยายพันธุ์ของนกนานาชนิดไม่ว่าจะเป็นนกยาง นกกาน้ำ นกอีล้ำ นกเป็ดผี ฯลฯ ช่วงฤดูหนาวจะมีนกเป็ดน้ำ และเหยี่ยวย้ายถิ่นเข้ามาอาศัยอยู่เป็นจำนวนมาก เช่น เป็ดหางแหลม เป็ดปีกเขียว เหยี่ยวผึ้ง นกอินทรีปีกลาย นกอินทรีหัวไหล่ขาว ฯลฯ การดูนกที่นี่อาจเดินริมถนนลูกรังที่ตัดเลียบเขา หรือเช่าเรือไปล่องในทุ่งสามร้อยยอด ก็จะได้สัมผัสบรรยากาศ และชมธรรมชาติได้ด้วย
ดูนกชายเลนและนกน้ำกันแล้ว คราวนี้มาดูนกป่าใกล้ ๆ ที่ทำการอุทยานแห่งชาติกันบ้างดีกว่า ภูเขาที่อยู่ติดกับที่ทำการฯ มีชื่อว่าเขาแดง เป็นภูเขาหินปูนสูงชัน ริมถนนที่ลัดเลาะไปตามเชิงเขา และบริเวณบ้านพักสามารถพบเห็นนกหลายชนิด ตามสายไฟฟ้านอกจากนกเอี้ยงสาริกา นกเอี้ยงหงอนแล้ว ยังมีนกจาบคาเล็กเกาะมองหาเหยื่อเพื่อจะได้บินออกไปโฉบมากิน นกกะรางหัวขวาน จะเดินจิกแมลงตามพื้นดิน สูงขึ้นไปบนฟ้ามักพบเหยี่ยวแดง และนกกางปีกร่อนลมมองหาปลา แต่นอกจากนกแล้ว ใครไม่เห็นค่างแว่นถิ่นใต้ก็นับว่าโชคร้ายมาก เพราะที่นี่มีค่างแว่นถิ่นใต้อาศัยอยู่มาก ทั้งยังไม่ตื่นคน เราสามารถยืนชมค่างในธรรมชาติจริง ๆ ได้อย่างจุใจเลยทีเดียว
จากที่ทำการอุทยานแห่งชาติไป ๕๐๐ เมตร จะมีทางขึ้นสู่ยอดเขาระยะทาง ๓๒๐ เมตร บนยอดเขาแดงเป็นจุดชมวิวที่สามารถมองเห็นทัศนียภาพของเขาสามร้อยยอดได้รอบด้าน ทั้งยังเป็นจุดชมพระอาทิตย์ขึ้นเหนือท้องทะเลที่งดงามมาก ด้านหน้าจะเห็นท้องทะเลกว้าง ถัดเข้ามาเป็นที่ราบชายฝั่งอันกว้างใหญ่ที่ถูกแปรสภาพเป็นบ่อเลี้ยงกุ้ง บ้านเรือนของชาวบ้าน ชายหาดสามพระยา และทิวเขาหินปูน ส่วนจุดชมวิวด้านหลังจะมองเห็นทิวเขาหินปูนเป็นเนินสูง ๆ ต่ำ ๆ และคลองเขาแดงไหลลดเลี้ยวเข้าไปในหลืบเขา ระหว่างทางขึ้นเขา นักท่องเที่ยวอาจได้พบค่างแว่น และเลียงผา แต่ปัจจุบันเลียงผาเป็นสัตว์ที่พบเห็นได้ยาก เนื่องจากมันตื่นคน และหนีไปอยู่ด้านอื่น
หากมีเวลามากพอ อุทยานแห่งชาติเขาสามร้อยยอดยังมีที่เที่ยวอีกหลายแห่ง หลังจากดูนกแล้ว อยากเล่นน้ำทะเลก็มีชายหาดให้เล่นน้ำหลายแห่ง เช่น หาดสามพระยา หาดแหลมศาลา มีถ้ำสวยๆ เช่น ถ้ำแก้ว ถ้ำไทร ที่โด่งดังที่สุดคือถ้ำพระยานคร ซึ่งเป็นถ้ำหินปูนขนาดใหญ่ มีปล่องขนาดใหญ่สองปล่อง ที่เกิดจากการยุบตัวของเพดานถ้ำให้แสงส่องผ่านลงมาถึงพื้นถ้ำได้ ในถ้ำมีพลับพลาที่ประทับที่รัชกาลที่ ๕ ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้สร้างไว้บนเนินดินกลางถ้ำเมื่อครั้งเสด็จประพาสในปี พ.ศ. ๒๔๓๓ และได้พระราชทานนามพลับพลานี้ว่า "พระที่นั่งคูหาคฤหาสน์"
นอกจากนี้ผู้ที่ชอบนั่งเรือชมธรรมชาติสองฝั่งลำน้ำ ก็ไม่ควรพลาดชมคลองเขาแดง ซึ่งเลาะเลียบไปตามเชิงเขาหินปูน สามารถมองเห็นหน้าผาหินสีแดง ที่เรียกกันว่า "ผาแดง" ใกล้กันมีหินรูปร่างคล้ายจระเข้ กำลังไต่ขึ้นไปบนหน้าผา ตลอดสองฝั่งคลองมีทิวทัศน์สวยงาม และเต็มไปด้วยป่าชายเลน อาจเห็นลิงแสมหรือค่างแว่นปีนป่ายตามต้นไม้ด้วย คุณจะเช่าเรือชาวบ้านที่ท่าเรือบ้านเขาแดง หรือจะนำเรือแคนู หรือคายักมาพายเองก็สนุกไม่แพ้กัน
