home
Contact Uscontact@sarakadee.com
สาระเพื่อนักเดินทาง และการท่องเที่ยว อย่างเข้าใจและรอบรู้
www.Thaitraveler.com
เที่ยวทั้วไทยกับ "นายรอบรู้" เดือนกุมภาพันธ์

ดูกระทิงในป่าแรกรุ่นที่เขาแผงม้า

เวลาเพิ่งผ่านบ่ายโมงมาไม่นาน รถขับเคลื่อนสี่ล้อค่อย ๆ เคลื่อนเข้าสู่ทางลูกรังที่ลัดเลาะขึ้นไปสู่จุดหมายของการเดินทางในทริปนี้ เกียร์ทรานส์เฟอร์สำหรับเปลี่ยนระบบขับเคลื่อนยังคงสงบนิ่งอยู่ในตำแหน่ง 2H เช่นเดิม ต้นไม้แรกรุ่นเติบโตจนบดบังทิวทัศน์สองข้างทางจนหมดสิ้น เพียงอึดใจเดียว "นายรอบรู้" ก็มาถึงสำนักงานโครงการปลูกป่าถาวรเฉลิมพระเกียรติฯ ของมูลนิธิคุ้มครองสัตว์ป่าและพรรณพืชแห่งประเทศไทย หรือที่รู้จักกันในนาม "เขาแผงม้า"
แผนที่ (คลิกดูภาพใหญ่)
เส้นทางขึ้นเขาแผงม้าวันนี้แปลกตาไปจากคราวที่ "นายรอบรู้" แวะมาเยี่ยมเยียนเจ้าหน้าที่โครงการฯ เมื่อแปดปีก่อนอย่างลิบลับ ครั้งนั้นทางลูกรังเส้นนี้นับว่าสมบุกสมบันเอาเรื่อง กว่าจะขึ้นมาถึงสำนักงานก็เล่นเอาเหนื่อยเหมือนกัน ทิวทัศน์สองข้างทางก็เป็นทุ่งหญ้าคา ที่ทอดตัวออกไปบนภูเขาหัวโล้นไกลสุดลูกหูลูกตา มีต้นยางแดงอันเป็นหลักฐานที่บอกได้ว่า ครั้งหนึ่งที่นี่เคยเป็นป่าดงดิบ ยืนต้นอยู่อย่างเดียวดาย นอกจากนกแขกเต้าที่เกาะอยู่บนกิ่งไม้ที่ยืนต้นตาย และนกแซงแซวหางบ่วงใหญ่สองสามตัว ที่รีบร้อนบินผ่านหน้าไปแล้ว "นายรอบรู้" ไม่หวังจะได้เห็นสัตว์ป่าอื่นใดอีก
ในอดีตนั้น เขาแผงม้า เป็นป่าดงดิบแล้งที่อุดมสมบูรณ์มากแห่งหนึ่งของผืนป่าดงพญาเย็น อุดมด้วยพรรณไม้นานาชนิด ทั้งต้นยางแดงสูงตระหง่านใหญ่โตหลายคนโอบ ไปจนถึงไม้เล็กไม้น้อยตามพื้นป่า ซึ่งเป็นอาหารชั้นดีสำหรับสัตว์กินพืชน้อยใหญ่ เมื่อป่าสมบูรณ์ น้ำก็สมบูรณ์ เขาแผงม้าเป็นป่าต้นน้ำที่ไหลลงสู่ลำพระเพลิง และไหลลงสู่แม่น้ำมูน อันเป็นเสมือนเส้นเลือดหล่อเลี้ยงชาวอีสานใต้
เมื่อป่าเริ่มฟื้น สายน้ำก็หวนคืนสู่เขาแผงม้า (คลิกดูภาพใหญ่)เก้าปีผ่านไป เขาหัวโล้นก็เขียวขจี (คลิกดูภาพใหญ่)
แม้จะมีพื้นที่ติดกับป่าเขาใหญ่ แต่เมื่อกรมป่าไม้ประกาศให้เขาใหญ่เป็นอุทยานแห่งชาติเมื่อ พ.ศ. 2505 แต่ป่าเขาแผงม้ากลับเป็นเพียงพื้นที่ส่วนหนึ่งของป่าสงวนแห่งชาติเขาภูหลวง ไม่ได้ถูกผนวกเป็นพื้นที่ของอุทยานฯ ด้วย ส่งผลให้พื้นที่ป่าอุดมสมบูรณ์ถูกบุกรุกจับจองเข้าทำไร่ข้าวโพดไปจนหมดสิ้น เมื่อข้าวโพดราคาตกต่ำ ดินหมดความอุดมสมบูรณ์ พื้นที่จึงถูกทิ้งให้เป็นป่าหญ้าคา ซึ่งเกิดไฟป่าเป็นประจำทุกปี โอกาสที่ลูกไม้ของป่าดั้งเดิม จะเติบโตขึ้นมาทดแทนของเดิมที่ถูกทำลายไปจึงไม่มีเลย
จนเมื่อปี 2537 ทางมูลนิธิฯ และชาวบ้านได้เริ่มโครงการปลูกป่า เพื่อจะพลิกฟื้นเขาแผงม้าให้กลับมาอุดมสมบูรณ์อีกครั้ง ด้วยความร่วมมือร่วมแรงกันฟันฝ่าอุปสรรคนานาประการ เก้าปีผ่านไปจากสภาพเขาหัวโล้นในอดีต เขาแผงม้าในวันนี้ได้พลิกฟื้นขึ้นมาเป็น "ป่าแรกรุ่น" ซึ่งถ้าได้รับการดูแลอย่างต่อเนื่องต่อไป อีกไม่นานนักป่าอุดมสมบูรณ์ก็จะกลับมาสู่เขาแผงม้าแห่งนี้อีกครั้ง
เมื่อป่าเขาแผงม้าค่อยๆ ฟื้นตัวขึ้นมา สัตว์ป่าที่เคยหายไปก็เริ่มกลับคืนสู่ถิ่นเดิมของมัน จากการสำรวจของเจ้าหน้าที่โครงการฯ พบว่านอกจากหมูป่าที่มีจำนวนเป็นพันตัวแล้ว ยังมีหมีควาย เก้ง กวาง เม่น ชะมด อีเห็น อ้น หมาใน เสือไฟ และกระทิง ดาวเด่นที่ทำให้เขาแผงม้าโด่งดังเป็นที่รู้จักของคนทั่วไปและเป็นเป้าหมายของ "นายรอบรู้" ในทริปนี้
กระทิงที่หวนสู่เขาแผงม้า (คลิกดูภาพใหญ่)ดงกล้วยตามริมน้ำก็เป็นที่อาศัยของค้างคาวกินผลไม้ (คลิกดูภาพใหญ่)
หลังจากทักทายเจ้าหน้าที่โครงการฯ และขออนุญาตกางเต็นท์พักแรมที่นี่สักคืนแล้ว "นายรอบรู้" ก็ไม่รอช้า คว้ากล้องสองตาที่เคยนอนนิ่งอยู่ในกระเป๋าเมื่อคราวก่อนออกมาทันที เพราะฝูงนกแขกเต้าไม่ต่ำกว่า 15 ตัวเพิ่งบินผ่าน และดูเหมือนจะไปเกาะบนต้นไม้ไม่ไกลจากที่กางเต็นท์นัก แทบไม่น่าเชื่อว่าระยะเวลาเพียงเก้าปี จะสามารถสร้างความเปลี่ยนแปลงได้มากถึงขนาดนี้ จากที่เคยเป็นยอดเขาโล่งเตียนจนเห็นขอบฟ้าในทุกด้าน แต่วันนี้บริเวณสำนักงานกลับแวดล้อมไปด้วยต้นไม้ เสียงนกร้องระงมอยู่ทั่วไป เจ้าหน้าที่บอกว่ากระทิงมักออกมาโชว์ตัวช่วงเช้าและเย็น "นายรอบรู้" จึงส่องนกแถวๆ สำนักงานไปก่อน แค่นี้ก็เพลิดเพลินกว่าครั้งก่อนมากอยู่แล้ว
จุดที่สามารถดูกระทิงสะดวกอยู่ห่างจากสำนักงานเพียงประมาณ 100 เมตรเท่านั้น ไม่ต้องใช้โชคเหมือนที่อื่นๆ ของประเทศเลย "นายรอบรู้" นั่งซุ่มอยู่พักเดียว กระทิงเจ็ดแปดตัวที่ซ่อนอยู่ในดงกล้วยป่า ไม่ไกลจากเรานักก็ปรากฏตัวให้เห็น เราใช้กล้องสองตาส่องดูเจ้าตัวใหญ่ที่เดินนำอยู่นั้นทันที เป็นกระทิงตัวดำมะเมื่อม ตั้งแต่เข่าลงไปถึงตีนเป็นสีขาวเหมือนสวมถุงเท้า หน้าผากสีขาว เขาโง้งใหญ่ จะใช่เจ้าลอมซึ่งเป็นกระทิงตัวแรก ที่นำฝูงกระทิงจากเขาใหญ่ เข้ามาหากินในเขาแผงม้าเมื่อเจ็ดแปดปีก่อนหรือไม่ นายรอบรู้ไม่อาจทราบได้ ที่ทราบก็คือสาเหตุที่ทำให้กระทิงอพยพกลับมาอยู่ที่นี่ นั่นคืออาหารและความปลอดภัย เมื่อป่าได้รับการดูแลและป้องกันไฟป่า พืชอาหารของกระทิงก็มีปริมาณและจำนวนชนิดมากขึ้น อีกทั้งยังปลอดภัยจากพวกลักลอบฆ่าสัตว์ด้วย ปัจจุบันป่าเขาแผงม้ามีกระทิงจำนวนกว่า 60 ตัว ส่วนใหญ่เป็นลูกหลานของเจ้าลอมทั้งนั้น
หลายปีก่อนสองข้างทางขึ้นเขาเป็นเพียงทุ่งหญ้าคา ปัจจุบันต้นไม้ขึ้นเต็มจนไม่เห็นทิวทัศน์เลย (คลิกดูภาพใหญ่)
แม้ป่าเขาแผงม้าจะเป็นเพียงป่าที่เริ่มจะฟื้นตัวผืนเล็กๆ อันไม่มีทางจะเทียบความยิ่งใหญ่ได้กับป่ามรดกโลก อย่างห้วยขาแข้งหรือทุ่งใหญ่นเรศวร แต่ความมุ่งมั่นไม่ย่อท้อของคนจริงกลุ่มหนึ่ง ที่ร่วมแรงกันพลิกผืนป่าให้กลับมาอุดมสมบูรณ์อีกครั้งนั้น มันยิ่งใหญ่จนไม่อาจเทียบกับสิ่งใดได้
หากสนใจจะมาชมกระทิงตัวจริงบ้างแล้ว ก็ไม่ยาก จากกรุงเทพฯ ใช้ทางหลวงหมายเลข 304 ผ่าน อ. กบินทร์บุรี จ. ปราจีนบุรี จนถึงกม. 79 แยกซ้ายเข้าไปอีก 11 กม. ป้ายโครงการปลูกป่าถาวรเฉลิมพระเกียรติ เลี้ยวซ้ายขึ้นเขาไปอีก 2 กม. จะถึงสำนักงาน อย่าลืมให้กำลังใจเจ้าหน้าที่และชาวบ้านที่ดูแลป่าผืนนี้ด้วยละ เพราะการปกป้องผืนป่าและฝูงกระทิงเป็นงานหนักหนาที่ยังต้องดำเนินต่อไป
Home