home
Contact Uscontact@sarakadee.com
สาระเพื่อนักเดินทาง และการท่องเที่ยว อย่างเข้าใจและรอบรู้
www.Thaitraveler.com
เที่ยวทั้วไทยกับ "นายรอบรู้" เดือนกุมภาพันธ์

เชลียงเมืองเก่านี้ มีพระศรีรัตนมหาธาตุ

พระศรีรัตนมหาธาตุ สาดรุ้งรัศมีปัฐวีไหว
หอมปทีปธูปเทียนชัย  วิเวกเอกภพไปในฟ้าดิน
อังคาร กัลยาณพงศ์        
นานมาแล้วเมื่อได้อ่านบทกวีของศิลปินแห่งชาติผู้นี้ ก็รู้สึกวูบไหวไปกับรสคำ ให้ดื่มด่ำกับความงามในบทกวี คราวนี้ "นายรอบรู้" จึงอยากชวนเชิญไปเยี่ยมเยือนเมืองเก่าของเราอีกครั้ง จุดมุ่งหมายคราวนี้คือ วัดพระศรีรัตนมหาธาตุ ที่ชาว "ซุโข่ทัย" อ. ศรีสัชนาลัย เรียกขานกันว่า วัดพระปรางค์ หรือวัดพระบรมธาตุเมืองเชลียง
ย้อนรอยอดีตกาลด้วยเส้นทางไหนดี ? ถ้าต้องการความว่องไวจะเหินฟ้าด้วยเครื่องบินก็มีอยู่หลายเที่ยวในหนึ่งสัปดาห์ รถโดยสารก็มีทั้งกลางวันกลางคืน แต่ถ้าขับรถไปเอง ใช้เส้นทางกรุงเทพฯ-นครสวรรค์ แล้วใช้ทางหลวงหมายเลข ๑๑๗ ไปพิษณุโลกก่อน ต่อด้วยทางหลวงหมายเลข ๑๒ ไปสู่สุโขทัย จากนั้นมุ่งขึ้นเหนือกันไป
แผนที่ (คลิกดูภาพใหญ่)
ศรีสัชนาลัย หรือเมืองเชลียงนั้นเป็นเมืองเก่า มีผู้คนมาอยู่อาศัยตั้งแต่สมัยก่อนประวัติศาสตร์ จนสมัยสุโขทัยได้เป็นเมืองใหญ่ มีหลักฐานทางโบราณสถานปรากฏอยู่ทั่วไป โดยเฉพาะสถาปัตยกรรมที่งดงาม เช่น พระปรางค์ เจดีย์ทรงดอกบัวตูม เจดีย์ทรงปราสาท เป็นต้น จนได้รับประกาศเป็นหนึ่งในมรดกโลก
คราวนี้ "นายรอบรู้" ชวนเที่ยววัดพระศรีรัตนมหาธาตุแบบละเอียด เพราะเพียงที่นี่ก็มีจุดที่น่าสนใจอยู่เต็มไปหมด วัดนี้มีฐานะเป็นพระอารามหลวงชั้นเอก ชนิดราชวรมหาวิหาร เป็นวัดสำคัญ ปรากฏหลักฐานในศิลาจารึกหลักที่ ๑ ทั้งในสมัยกรุงธนบุรี เมื่อสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราชเสด็จไปปราบชุมนุมเจ้าพระฝางเมืองสวางคบุรีแล้ว ได้เสด็จมาสมโภชพระบรมธาตุเมืองเชลียงนี้ด้วย
จากตัวจังหวัดสุโขทัย ต้องเดินทางต่อไปทางเหนือ จนถึงสามแยก กม. ที่ ๖๔ หรือที่ชาวบ้านเรียกว่าสะพานปูน เมื่อข้ามสะพานมาแล้วจะพบสี่แยก เลี้ยวซ้ายไปอีก ๒ กม. ก็จะถึงวัด ถ้าขึ้นรถเมล์มาจะลงที่หมู่บ้าน หน้าป้ายวัดพระปรางค์ แล้วลงเดินข้ามสะพานแขวนก็จะถึงตัววัดได้เหมือนกัน
บรรยากาศสะพานแขวนข้ามแม่น้ำยม ข้างวัด (คลิกดูภาพใหญ่)
วัดนั้นตั้งอยู่บนหัวแหลมของโค้งแม่น้ำยม จึงเดินไปชมทัศนียภาพของแม่น้ำได้สะดวก และสามารถแลเห็นสิ่งก่อสร้างต่างๆ เรียงตัวจากทางทิศตะวันออกไปยังทิศตะวันตก
สิ่งที่น่าสนใจของวัดเริ่มตั้งแต่ซุ้มประตูซึ่งเป็นศิลาแลงแท่งกลมขนาดใหญ่ มีซุ้มประตูหลังคายอดแหลม เหนือซุ้มประตูเป็นปูนปั้นรูปพระโพธิสัตว์อวโลกิเตศวร หรืออาจจะหมายถึงพรหมพักตร์ ซึ่งมีสี่หน้าได้เหมือนกัน ต่ำลงมาเป็นเทพธิดานั่งในกรอบซุ้ม ด้านล่างสุดเป็นรูปนางอัปสรฟ้อนรำ ลวดลายยังแจ่มชัดเจน เชื่อกันว่าผู้ที่เดินเข้าออกประตูนี้จะเกิดความเป็นสิริมงคลยิ่งนัก
ผ่านซุ้มประตูเข้าไปจะเห็นองค์ปรางค์ขนาดใหญ่ ด้านหน้าเป็นวิหารขนาดเจ็ดห้อง สร้างด้วยศิลาแลง หน้าต่างเจาะเป็นช่องเล็กๆ เลียนแบบเครื่องไม้ ภายในวิหารมีพระพุทธรูปปางมารวิชัยขนาดใหญ่ประดิษฐานอยู่ ด้านขวาของพระประธานในวิหารมีพระพุทธรูปปางลีลา ซึ่งถือกันว่าเป็นพระพุทธรูปปูนปั้นปางลีลาที่งามที่สุดองค์หนึ่งของศิลปะสุโขทัย  
พระพุทธรูปปางลีลา ศิลปะสุโขทัยที่งามที่สุดองค์หนึ่ง (คลิกดูภาพใหญ่)ปูนปั้นพระโพธิสัตว์อวโลกิเตศวรที่ซุ้มประตู (คลิกดูภาพใหญ่)
องค์พระปรางค์นั้นเป็นประธานของวัด ด้านหน้ามีบันไดขึ้นไปสู่ซุ้มประตูเข้าองค์ปรางค์ ซึ่งมียอดปรางค์องค์เล็กที่บรรจุพระบรมสารีริกธาตุตั้งอยู่กลางห้อง สันนิษฐานกันว่าเดิมคงเป็นปรางค์ขอม ต่อมาได้สร้างใหม่ตรงที่เดิมในสมัยอยุธยาตอนต้น ในสมัยพระบรมไตรโลกนาถ และมาบูรณะอีกครั้งในสมัยพระเจ้าบรมโกศ องค์ปรางค์นี้ก่อด้วยศิลาแลงตั้งอยู่บนฐานสี่เหลี่ยมย่อมุม มีระเบียงคดสองชั้นล้อมรอบ
ชื่นชมองค์ปรางค์ประธานแล้วรอบๆ ยังมีเจดีย์ทิศและซุ้มพระเป็นที่ประดิษฐานพระพุทธรูปปางนาคปรกปูนปั้น ของเดิมคงมีมาตั้งแต่สมัยสุโขทัย แต่มาซ่อมใหม่ในสมัยอยุธยา
เมื่อเดินออกจากบริเวณกำแพงแก้วซึ่งทำด้วยศิลาแลงทั้งแท่ง เดินมาทางด้านหลังจะมีฐานเจดีย์ทรงกลมขนาดใหญ่ ตั้งซ้อนทับอยู่บนฐานแปดเหลี่ยม เรียกว่าพระธาตุมุเตา มีลักษณะเป็นเจดีย์ทรงมอญ แต่พังทลายลงมาเกือบหมด ในการขุดแต่งเมื่อปี ๒๕๓๕ ได้พบทองจังโกประดับส่วนยอดของเจดีย์ด้วย ด้านหลังพระธาตุมีมณฑปพระอัฏฐารส ภายในซุ้มคูหามีพระพุทธรูปองค์ใหญ่ยืนอยู่ เดิมมณฑปมุงหลังคาแต่ทลายลงไป เชื่อกันว่าของเดิมน่าจะเป็นมณฑปพระสี่อิริยาบถ ซึ่งซ่อมแซมขึ้นเมื่อ พ.ศ. ๒๕๐๐ 
หลังจากชมโบราณสถานแล้ว จะเดินทางไปเที่ยวต่อยังอุทยานประวัติศาสตร์ศรีสัชนาลัยเลยก็สะดวกดี แต่หากอยากแวะชอปปิง บริเวณริมแม่น้ำมีซุ้มขายของที่ระลึกของชาวบ้านที่นำสินค้าต่าง ๆ ในชุมชนมาจำหน่าย มีทั้งเครื่องปั้นดินเผาเลียนแบบสังคโลกพวกแจกัน ตัวตุ๊กตา ผ้าทอมือของเขาก็สวย เป็นผ้าฝ้ายมีลวดลายตีนจกแบบลาวพวน ถือได้ว่ามาซื้อถึงแหล่ง เพราะตัว อ. ศรีสัชนาลัยนั้นเป็นชุมชนเชื้อสายลาวพวนที่มีฝีมือในการทอผ้าซิ่นตีนจกเป็นพิเศษ 
ร้านขายสินค้าที่ระลึก (คลิกดูภาพใหญ่)พระวิหารและองค์พระปรางค์ตั้งโดดเด่นอยู่ริมแม่น้ำยม (คลิกดูภาพใหญ่)
การเดินทางไปเที่ยวได้ทั้งทางรถและทางเรือ

วัดพนัญเชิงตั้งอยู่บนถนนสาย ๓๐๕๙ หากมาทางสายเอเชีย เลี้ยวเข้าเกาะเมืองอยุธยา จะถึงวงเวียนเจดีย์วัดสามปลื้ม เลี้ยวขวาเข้าถนนสาย ๓๐๕๙ ตรงไปผ่านวัดใหญ่ชัยมงคลไปไม่ไกลจะถึงวัดพนัญเชิง หรือจะเลือกการเดินทางด้วยเรือหางยาว จากพระราชวังบางปะอินมายังวัดพนัญเชิงก็น่าสนใจไม่น้อย มีเรือหางยาวบริการให้เช่าเหมาลำ บริเวณท่าเรือข้างพระราชวังบางปะอิน ตรงข้ามกับวัดนิเวศธรรมประวัติ ในเส้นทางนักท่องเที่ยวจะได้เห็นชุมชนริมน้ำระยะไกล ด้วยเป็นช่วงที่ลำน้ำกว้าง สถานที่น่าสนใจคือ หมู่บ้านมุสลิมเก่าแก่ที่คลองตะเคียน ปากคลองคูจาม จะได้เห็นสุสานหรือที่ชาวมุสลิมเรียกกันว่า ตะเกี๋ย เป็นอาคารทรงโดมสวยงาม สันนิษฐานว่าเป็นสุสานของท่านจุฬาราชมนตรีคนแรก หรือเฉกอะหมัดชาวเปอร์เชียร์ที่เข้ามามีบทบาทในการค้าและราชสำนักสยาม
Home