เฮโลสาระพา (HaeLoSaraPa)

Click here to visit the Website

		เ ฮ โ ล ส า ร ะ พ า
		.....คุณที่คิดถึง ......"หมูอมตะ" เขียนต้นฉบับชิ้นนี้ ขณะกำลังร้อนใน เนื่องจาก กินทุเรียน ไปสามเม็ด ซึ่งเป็นปริมาณ ไม่มากมายอะไร หากเทียบกับตอน อยู่เมืองไทยที่ "หมูฯ" อิมพอร์ตทุเรียน เข้าร่างกาย ได้คราวละเป็นลูก แต่คงเพราะ ร่างกาย ห่างทุเรียนไปนาน พอได้กินนิดหน่อย ก็เลยร้อนใน ......ทุเรียนที่กิน เป็นหมอนทอง ลูกค่อนข้างใหญ่ เป็นทุเรียนชั้นดี ที่เดินทางจาก ประเทศไทย ไปร่วมโชว์ตัว ในงาน นิทรรศการ ผลไม้ไทย ซึ่งกระทรวงพาณิชย์ จัดร่วมกับ หน่วยงานของไทย หลายหน่วยงาน โดยได้รับ ความร่วมมือ เป็นอย่างดีจาก ห้างตังแฟรร์ ซึ่งกันพื้นที่ส่วนหนึ่ง ของซูเปอร์มาร์เกต ให้เป็นที่จัดแสดงงาน หวังว่า คุณคงยัง จำห้างนี้ได้ เพราะ "หมูฯ" เคยเล่าไปแล้วว่า เป็นผู้นำเข้า สินค้าอุปโภค บริโภค ของไทย รายใหญ่ที่สุด ในยุโรป ยอดนำเข้า แต่ละปี ประมาณ ๕,๐๐๐ กว่าล้านบาท ......งานที่ว่านี้ จัดขึ้น หนึ่งสัปดาห์ เมื่อปลายเดือนกรกฎาคม ที่ผ่านมา นอกจากทุเรียนแล้ว ยังมี เงาะ ลำไย กระท้อน ฝรั่ง ระกำ สับปะรดภูเก็ต น้ำผลไม้กระป๋องดอยคำ วุ้นน้ำมะพร้าว และผลไม้อบแห้ง หลายชนิด ด้วยวัตถุประสงค์ ต้องการเผยแพร่ ให้คนต่างชาติ รู้จักผลไม้ และผลิตภัณฑ์ ที่ทำจาก ผลไม้ไทย ให้กว้างขวางยิ่งขึ้น ในงาน จึงไม่มีสินค้าจำหน่าย แต่ให้ชิมฟรี มีเจ้าหน้าที่ คอยเชิญชวน ให้พ่อบ้าน แม่บ้าน ที่ไปจ่ายของที่ ตังแฟรร์ ชิมผลไม้ และผลิตภัณฑ์ต่าง ๆ ปรากฏว่า ได้รับความสนใจ ไต่ถามจาก ผู้เข้าชิมมากมาย "หมูฯ" ซึ่งบังเอิญ โฉบไปซื้อ เสบียงกรังแถวนั้น ถือโอกาส ช่วยเจ้าหน้าที่ หยิบจับทำงาน เลยรู้ว่า ชาวต่างชาติ ชื่นชอบ ลำไย และเงาะมาก ขณะที่ ระกำ นั้น หาคนชอบได้ยากเต็มที หลังงานเลิก "หมูฯ" ได้รับแจก เงาะ ลำไย และน้ำผลไม้กระป๋อง อย่างละนิด อย่างละหน่อย เอาไปกินที่บ้าน กินแล้ว ก็ชื่นใจเหลือเกิน ......เห็นการทำงานในแนวรุก ของข้าราชการไทย ในต่างแดนแล้ว "หมูฯ" ขอสรรเสริญ และแสดงความนับถือ อย่างจริงใจจ้ะ ......ในปารีสนั้น หากจะหาทุเรียนกิน ก็ไม่ใช่เรื่องเหลือบ่ากว่าแรงอะไร ที่ตลาดจีน มีทุเรียน จากเมืองไทย วางขายเกือบตลอดปี แม้ "หมูฯ" จะชอบทุเรียนมาก แต่ก็ไม่เคย ซื้อเข้าบ้าน เพราะการขน ทุเรียนกลิ่นแรง ลงเมโทรนั้น กลัวชาวบ้าน เขารังเกียจกลิ่น ก็เลย อดอยากปากแห้ง มาตลอด ต่อเมื่อไปช่วยเขา ทำงานที่ แผนกวีซา ของสถานทูตไทย จึงมีลาภปาก ได้กินทุเรียน ที่ข้าราชการ กระทรวงพาณิชย์ เอาไปฝาก ข้าราชการสถานทูต กล่าวโดยสรุปคือ ไปแย่งข้าราชการ เขากินนั่นเอง ......ไม่แต่ทุเรียนเท่านั้น ผลไม้ และของกิน นานา จากเมืองไทย ก็มีให้กิน อย่างเปรมปรีดิ์ หากมีเงินซื้อ ยิ่งอยู่นาน ยิ่งเห็นของกินแปลก ๆ จากเมืองไทย ทยอยออกวางขาย เช่น ถั่วลิสงต้ม เป็นต้น "หมูฯ" เห็นแล้วก็มึน เพิ่งรู้ว่า ถั่วต้ม ก็มีศักดิ์ศรี สูงส่ง ถึงขนาดได้ชื่อว่า เป็นสินค้าส่งออกของไทย ......"หมูฯ" ชอบไปเดินสำรวจตลาด จึงพบว่า ฝรั่งเศส นำเข้า อาหารการกิน จากต่างประเทศ เยอะมาก สินค้าจำพวก ผักผลไม้ ที่วางขายที่โน่น นอกจากจะติดป้าย บอกชื่อ และราคาขายแล้ว ยังบอกด้วยว่า เป็นผลิตผล ของประเทศใด ดังนั้น เวลาจะซื้ออะไร ใส่ท้อง "หมูฯ" จึงมีความรู้เพิ่มขึ้นว่า สิ่งที่ตัวเองกินนั้น มาจากประเทศไหน นอกเหนือจาก พื้นความรู้เดิมว่า ของสิ่งนั้น อร่อยหรือไม่ ......ทุกครั้งที่ "หมูฯ" ไปจ่ายของที่ตลาดจีน เวลาเห็น ป้ายบนสินค้า บอกว่า มาจาก ไทยแลนด์ "หมูฯ" ก็รู้สึก ภูมิใจทุกครั้ง ตลาดจีน เป็นดงของ สินค้านำเข้า จากเมืองไทย หากไม่นับพวก พริก ข่า ตะไคร้ และเครื่องเทศต่าง ๆ ที่แพร่หลาย พ่วงติดไปกับ ความนิยมอาหารไทย ในหมู่คนต่างชาติ ผลไม้ไทย ก็เป็นอีกสิ่งหนึ่ง ที่ทำให้ "หมูฯ" หัวใจพองโต และนิยมใช้เป็น สัญลักษณ์ อย่างหนึ่ง ที่แสดงความเป็นไทย เวลาได้รับเชิญ ไปกินข้าวบ้านใคร แทนที่จะหิ้วไวน์ ขนมเค้ก ช็อกโกแลต หรือดอกไม้ ไปให้เจ้าของบ้าน ตามธรรมเนียมนิยม ของคนที่โน่น "หมูฯ" ก็หิ้วเงาะบ้าง ลำไยบ้าง มะม่วงเขียวเสวยบ้าง ไปให้เจ้าของบ้าน เพื่อช่วยอุดหนุน สินค้าไทย และช่วยประชาสัมพันธ์ ผลไม้ไทย ไปในตัว ซึ่งก็ได้ผลเยี่ยมยอด คุ้มกับการลงทุน ทุกครั้ง ......แต่ขอรายงานข่าวแทรกไว้ ณ ที่นี้ว่า บัดนี้ "หมูฯ" ใจแฟบลง ไปเป็นกอง เพราะพบว่า มังคุดไทย ซึ่งเดิมขายดี แบบไร้คู่แข่ง ปีนี้ เริ่มมี มังคุด จากไอเวอรีโคสต์ วางขายคู่กันแล้ว โดยใช้กลยุทธ์ ตั้งราคาขาย ให้ต่ำกว่า มังคุดไทย ส่วนรสชาติ ไม่ทราบว่า ดีเลวกว่าของไทย อย่างไร ไม่ได้ซื้อมาชิม เพราะไม่อยาก อุดหนุนสินค้า ของคู่แข่ง "หมูฯ" ไม่มีความรู้ว่า มังคุด เป็นผลไม้พื้นเมือง ของไทย หรือไม่ แต่ความที่ กินมังคุดไทย มาตลอด พอเห็นมังคุด ของประเทศอื่น เลยใจหาย ทราบว่า ออสเตรเลีย ก็สนใจ ปลูกผลไม้เมืองร้อน เช่นกัน อีกไม่นานปี คนไทย คงสะเทือนใจ ที่เห็นเงาะ ทุเรียน ฯลฯ พะยี่ห้อ ประเทศออสเตรเลีย วางขายแข่งกับ ผลไม้ไทย ......ถึงเนื้อที่เฉลยปัญหาแล้วจ้ะ ......ฉบับก่อน "เพื่อนหมูฯ" ให้ชิ้นส่วนมาห้าชิ้น ให้แฟน ๆ หาชิ้นส่วน สามชิ้น ที่ต่อกันแล้ว ได้รูปลูกบาศก์ ชิ้นส่วนดังกล่าว ได้แก่
		......ผู้โชคดี ได้รับหนังสือ ร้อยแปดเรื่องไทย เป็นของรางวัลมี ๑๐ คน คือ ๑. คุณเสกสรรค์ ปัญโญ จ. เชียงใหม่ ๒. คุณรองฤทธิ์ สมหวัง จ.นนทบุรี ๓. คุณฤดี ปาณัฐโยธิน กรุงเทพฯ ๔. คุณประทานพร โกวิทยานันต์ กรุงเทพฯ ๕. คุณเศรษฐพันธุ์ ตันติกาญจน์ กรุงเทพฯ ๖. คุณโสภณ จันทร์บุญเพียร จ. นครปฐม ๗. คุณอารยา อนันต์ประกฤติ กรุงเทพฯ ๘. คุณเป้ย เสถียร จ. จันทบุรี (บ้านคุณ น้ำท่วม หรือเปล่า) ๙. คุณประพัฒน์ ลาภเจริญกิจ จ. นนทบุรี ๑๐. คุณวรวิทย์ พิทักษ์พลรัตน์ ......รักคุณจริง ๆ
		.......คำถามประจำฉบับที่ ๑๗๔ เดือนสิงหาคม ๒๕๔๒ ......."หมูอมตะ" ขอพักคำถามชวนปวดหัว หรือเกมต่าง ๆ ไว้ชั่วคราว ฉบับนี้ "หมูอมตะ" อยากได้ ข้อความประทับใจ จากหนังสือที่คุณอ่าน ขอได้โปรด ส่งข้อความ ที่คุณคิดว่า น่าประทับใจสุด ๆ พร้อมระบุ ชื่อหนังสือ และผู้แต่ง ข้อความใดโดนใจ "หมูอมตะ" คุณผู้นั้น จะได้รับ หนังสือพ็อกเกตบุ๊ก เล่มใหม่ล่าสุด ของสำนักพิมพ์สารคดี เป็นของรางวัล (หนังสือชื่อ ฝั่งธนบุรี เป็นหนังสือนำเที่ยว ย่านฝั่งธน ที่อ่านสนุก รูปเล่มสวยงาม) .......คุณมีเวลาถึงวันที่ ๒๐ กันยายนนี้ เท่านั้น ....."หมูอมตะ และเพื่อนควบคุม" .........MortalPig@sarakadee.com

สนับสนุน หรือ คัดค้าน เรืออวนครอบปั่นไฟปลากะตัก
สารบัญ | หมายุคหิน | แขกกินเนื้อฝรั่งกินเจ | วิทยาศาสตร์ กับสังคมไทย สู่ศตวรรษที่ ๒๑
ซองคำถาม | เฮโลสาระพา