Click here to visit the Website

กลับไปหน้า สารบัญ เ ฮ โ ล ส า ร ะ พ า

love

.....คุณที่รัก
......นับแต่ "หมูฯ" จากบ้านจากเมือง ไปอยู่ฝรั่งเศส ประเทศนี้ ก็ต้อนรับเอาใจ "หมูฯ" อย่างคาดไม่ถึง หนแรก ทีมฟุตบอลฝรั่งเศส ก็อุตส่าห์ คว้าแชมป์ บอลโลก เพื่อต้อนรับ "หมูฯ" ที่เดินทางมาฝรั่งเศส ได้ไม่นาน หนนี้ ก็อุตส่าห์มี สุริยุปราคา ตาม "หมูฯ" จากเมืองไทยไป "เปิดการแสดง" ที่ฝรั่งเศส เพื่อเอาใจ "หมูฯ" โดยเฉพาะ แล้วอย่างนี้ จะไม่ให้คิดว่า ตัวเองเป็น VIP (Very Important Pig) ได้อย่างไร
......สุริยุปราคาครั้งนี้ ถือเป็นครั้งสุดท้าย ของศตวรรษ เห็นได้ใน หลายประเทศ ของยุโรป และเอเชีย ที่ฝรั่งเศส เห็นเต็มดวง ทางภาคเหนือ ส่วนที่ปารีส จะเห็น ๙๙ เปอร์เซ็นต์ อาทิตย์ดับ ในฝรั่งเศส ครั้งก่อนหน้านี้ เกิดเมื่อ ๘๗ ปีที่แล้ว คือในปี ค.ศ. ๑๙๑๒ (พ.ศ. ๒๔๕๕) ครั้งที่เพิ่งผ่านไป เกิดเมื่อวันที่ ๑๑ สิงหาคม เป็นช่วงที่ "หมูฯ" อยู่ที่ฝรั่งเศสพอดี เรื่องนี้ ไม่คิดเข้าข้างตัวเอง ไม่ได้แล้ว
......การชมปรากฏการณ์ธรรมชาติชนิดนี้ ด้วยตาตัวเอง นับเป็น สิ่งมหัศจรรย์ และสิ่งประเสริฐ อย่างหนึ่งในชีวิต "หมูฯ" ได้เห็นครั้งหนึ่งแล้ว ก็ถวิลหา อยากเห็นอีกครั้ง และอีกครั้ง ต่อให้คุณดูภาพยนตร์ วิดีโอ หรือภาพถ่าย เกี่ยวกับ สุริยุปราคา ต่อให้คุณ มีความรู้เรื่องนี้ มากมายขนาดไหน คุณก็ไม่มีวัน ได้ขนลุกซู่ เหมือนเห็น สุริยุปราคา ด้วยตาตนเอง

love

.......แฮ่ม ก็เหมือนกับ ความรักแหละ ท่านผู้ชม ต่อให้คุณรู้ทฤษฎีของรัก มากแค่ไหน ถ้าคุณไม่เคยรักใคร คุณก็ไม่มีวันเข้าใจได้ว่า ความรู้สึกดี ๆ เวลาเรารักใคร และได้มีใครสักคน ให้คิดถึงนั้น มันหวามหัวใจเพียงใด (ทันทีที่เขียนประโยคนี้จบ "หมูฯ" ก็แทบคลุ้มคลั่ง เพราะอยาก หวามหัวใจ เป็นกำลัง แฮ่ะ ๆ)
.....ขออนุญาตดึงใจตัวเอง กลับสู่ที่ตั้ง เรื่องอาทิตย์ดับจ้ะ อันที่จริง หากเป็นไปได้ "หมูฯ" ก็อยากเห็น สุริยคราสเต็มดวง ด้วยตาตัวเอง อีกสักครั้ง เพื่อเพิ่มสถิติให้ตัวเอง (ครั้งแรกที่ นครสวรรค์ ประเทศไทยจ้ะ) แต่คุณจ๋า โรงแรม และที่พัก แถบเมืองทางเหนือ ที่แนวคราสพาดผ่าน ถูกจองเต็ม ตั้งแต่ปีมะโว้ ในวันที่เกิดสุริยุปราคา รถไฟทุกขบวน มีผู้โดยสารแน่นเอี๊ยด ราวกับรถไฟใต้ดิน ในชั่วโมงเร่งด่วน ของกรุงโตเกียว ถนนที่มุ่งหน้าขึ้นเหนือ การจราจรก็คับคั่งมาก "หมูฯ" จึงได้แต่ นั่งดูตะวันมืดในปารีส ปลอบใจตัวเองว่า อย่างน้อย เราก็ได้ความรู้ว่า ไอ้สุริยคราส ๙๙ เปอร์เซ็นต์ นี่มันเป็นยังไง
......ก่อนวันเกิดเหตุ หลายคนคาดว่า จะได้เห็นสุริยุปราคา ครั้งสุดท้ายของศตวรรษ ชนิดเต็มตาเต็มจอ ปารีสเช้าวันนั้น เริ่มต้นวันด้วย ท้องฟ้าสีเทาอ่อน แสงอาทิตย์ ไม่อาจทะลวงชั้นเมฆ ลงมาได้ แต่เมื่อสายมากขึ้น ลมพัดเมฆจากไป ผู้ตั้งหน้าคอยชม จึงมีโอกาสเห็น พระอาทิตย์ ถูกกินดวงเป็นระยะ ๆ สลับกับ เมฆกลุ่มใหม่ ที่เคลื่อนมาบังอาทิตย์ อย่างไรก็ตาม เมื่อใกล้เที่ยง ซึ่งเป็นเวลาที่ พระอาทิตย์ พระจันทร์ และโลก ใกล้อยู่ในแนว ระนาบเดียวกัน ฟ้าก็เปิดให้ นัก "แหงนหน้าดูดาว เท้าติดดิน" ได้เห็นการแสดงบนท้องฟ้า และเมื่อ ๑๒.๒๐ น. ตามเวลาท้องถิ่น ชาวฝรั่งเศส ได้เห็น สุริยุปราคาเต็มดวง คนฝรั่งเศส ที่นั่งอยู่หน้าจอโทรทัศน์ ซึ่งถ่ายทอดสด ปรากฏการณ์ครั้งนี้ ก็ส่งเสียงเฮกัน ทั้งประเทศ
......เฮอะ ๆ ที่ปารีสในเวลาเดียวกัน ท้องฟ้ามืดครึ้มลง อย่างรวดเร็ว นกกาบินแตกตื่น ว่อนเต็มฟ้า เพราะเข้าใจว่า ถึงเวลาต้องกลับรวงรังแล้ว "หมูฯ" รีบแหงนหน้าดูฟ้า เพื่อจะถึงบางอ้อว่า อันตะวันดับ ๙๙ เปอร์เซ็นต์นั้น เป็นฉันใด
......แม้ ๙๙ จะใกล้กับ ๑๐๐ มากเพียงไหน แต่ ๙๙ ก็ไม่มีทางเต็มร้อยได้ หากไม่มีเลข ๑ มาบวก การเห็นตะวันดับ ๙๙ เปอร์เซ็นต์ ก็เช่นกัน นั่นคือ เราไม่อาจเห็น ตะวันดับเต็มดวงได้ สิ่งที่ "หมูฯ" เห็นคือ พระจันทร์ บังอาทิตย์ ทีละนิด ๆ จนเหลือเพียง อาทิตย์เสี้ยวแหลม รูปเคียวเกี่ยวข้าว ที่ค้างเติ่งอยู่บนท้องฟ้า ชั่วขณะหนึ่ง จากนั้น อาทิตย์ก็เริ่ม ขยายดวงใหญ่ขึ้น ๆ จนกลับเป็น อาทิตย์เต็มดวง ดังเดิม
......เฮ้อ... เป็นอันจบเรื่อง อาทิตย์ดับ ๙๙ เปอร์เซ็นต์ ไว้เพียงเท่านี้

หนังสือ ฝั่งธนบุรี

......ผู้โชคดีได้รับหนังสือ ฝั่งธนบุรี เป็นของรางวัล ได้แก่
๑. คุณเมตไตรย ศรีทอง / กรุงเทพฯ
๒. คุณประคอง ขุนทอง / กรุงเทพฯ
๓. คุณอนันต์ คณาธีรกุล / กรุงเทพฯ
๔. คุณสุทธิศักดิ์ อรุณเรืองสวัสดิ์ / กรุงเทพฯ
๕. คุณวรรณ ปิยมิตร / กรุงเทพฯ
๖. คุณเครือมาศ บุญล้อม / กรุงเทพฯ
๗. คุณภานุวัฒน์ เลิศฤทธิ์ภูวดล / จ. ระยอง
๘. คุณสุพร โพธิจิตสกุล / กรุงเทพฯ
๙. คุณวสันต์ เมืองมณี / จ. พิษณุโลก

๑๐. คุณสมวุฒิ สุนทรวิจิตร / จ.ชลบุรี

 

ถึงเนื้อที่ เฉลยปัญหา แล้วจ้ะ
......ฉบับเดือนสิงหาคม "หมูฯ" ขอให้แฟน ๆ ส่งข้อความประทับใจ จากหนังสือที่ได้อ่าน มาประกวดกัน ปรากฏว่า ได้รับความนิยมไม่น้อย ผลการประกวด มีดังนี้

......"อย่าไปมีเคล็ด และยอมให้ชีวิต ตกอยู่ใต้อิทธิพลของ เคล็ดอะไร เป็นอันขาด ถึงคราวทุกข์ ก็ต้องทุกข์ มีเคราะห์ ก็ต้องยอมรับเคราะห์ โดยดุษณียภาพ ไม่ต้องไปวิ่งเต้น สะเดาะเคราะห์ ให้เสียเงิน และเวลา ถึงคราวสุข ก็สุขไปตามเพรงกาล มองความสับปลับของโลก และโชคชะตา อย่างรู้เท่าทันมัน และมีคำตอบให้ตนเอง และสังคม ตัดคำว่าโลภ ออกไปจาก พจนานุกรม ฉบับในหัวใจของเรา เท่านั้นก็พอถมไป"
(จากบทความเรื่อง "มาจากไหน" คอลัมน์ "นาฏกรรมเมืองหลวง" โดย หลวงเมือง มติชนสุดสัปดาห์ ฉบับที่ ๘๗๕ ผู้ส่ง- เมตไตรย ศรีทอง / กรุงเทพฯ)

......"หากคุณเล่าเรื่อง เพื่อนใหม่ของคุณ ให้พวกเขาฟัง พวกเขา จะไม่มีวันถามว่า น้ำเสียงของเขา เป็นยังไง เขาชอบเล่นอะไร และสะสมผีเสื้อหรือไม่" แต่ผู้ใหญ่ จะคอยถามว่า "เขาอายุเท่าไหร่ มีพี่ชายน้องชายกี่คน น้ำหนักเท่าไหร่ พ่อของเขา มีรายได้เท่าไหร่" เพียงแค่นั้นเอง พวกผู้ใหญ่ก็เชื่อว่า ได้รู้จักกับ เพื่อนคนใหม่ของคุณแล้ว"
(จากหนังสือ เจ้าชายน้อย ของแซงแต็ก ซูเปรี แปลโดย สมบัติ เครือทอง ผู้ส่ง- ประคอง ขุนทอง / กรุงเทพฯ)

......"แม้นเรามิได้เป็น ดอกซากุระ ก็อย่ารังเกียจ ที่เกิดเป็น บุปผาพันธุ์อื่นเลย ขอแต่ให้เป็น ดอกไม้ที่งามที่สุด ในพันธุ์ของเรา
......ภูเขาฟูจิ มีอยู่ลูกเดียว แต่ภูเขาทั้งหลาย ก็หาได้ไร้ค่าไม่
......แม้นมิได้เป็น ซามูไร ก็จงเป็น ลูกสมุนของ ซามูไรเถิด
......เราเป็นกัปตันกันหมดทุกคนไม่ได้ ด้วยว่า ถ้าปราศจากลูกเรือแล้ว เราจะไปกันได้อย่างไร
......แม้นเรามิได้เป็นถนน ขอจงเป็นบาทวิถี
......ในโลกนี้ มีตำแหน่ง และงานสำหรับเราทุกคน งานใหญ่บ้าง เล็กบ้าง แต่เราย่อมจะ มีตำแหน่ง และงานทำ เป็นแน่ละ
......แม้นเป็นดวงอาทิตย์ไม่ได้ ก็จงเป็น ดวงดาวเถิด
......แม้นมิได้เกิดเป็นชาย ก็อย่าน้อยใจ ที่เกิดมาเป็นหญิง
......จะเป็นอะไรก็ตาม จงเป็นเสียอย่างหนึ่ง จะเป็นอะไรมิใช่ปัญหา สำคัญอยู่ที่ว่า จงเป็นอย่างดีที่สุด ไม่ว่าเราจะเป็นอะไรก็ตาม"
(จากหนังสือ ข้างหลังภาพ ของ ศรีบูรพา ผู้ส่ง- อนันต์ คณาธีรกุล / กรุงเทพฯ)

"ความรัก มักพัฒนามาจาก มิตรภาพ แต่ความรัก ก็ไม่ใช่มิตรภาพ หากคิดว่า ความรัก เป็นมิตรภาพ เราจะเป็นไม่ได้ทั้งเพื่อน และคนรัก"
(จากหนังสือ ยอดคน ยอดคำ ของ สุปราณี ปิยพสุนทรา ผู้ส่ง- สุทธิศักดิ์ อรุณเรืองสวัสดิ์ / กรุงเทพฯ)

"ดึกนี้ชีวีก็สั้นลง ประสงค์สิ่งใดในหล้า
ตื่นฟื้นเถอะเพ่งปัญญา อย่าให้นิทราฆ่าตัวตาย
หลงใหลแต่กินนอนสืบพันธุ์ วิญญาณนั่นสามัญเหลือหลาย
สิ่งประเสริฐล้ำมากมาย เสาะแสวงได้สักสิ่งจริงฤา"

(แต่งโดย อังคาร กัลยาณพงศ์ ผู้ส่ง- วรรณ ปิยมิตร / กรุงเทพฯ)

......"น่าแปลก นกไม่เคยหมดไป ด้วยมือของเด็ก ๆ ทั้ง ๆ ที่เด็ก ๆ ล่านก มานมนานแล้ว ล่ามาก่อนผู้ใหญ่ ด้วยซ้ำไป"
(จากหนังสือ รอยย่ำ... ระบำฝุ่น ของ จำลอง ฝั่งชลจิตร ผู้ส่ง- เครือมาศ บุญล้อม / กรุงเทพฯ)

......"กาลเวลา ไม่เคยมีความหมาย สำหรับชีวิต ที่ปราศจากความใฝ่ฝัน และยิ่งไม่มีความหมายใด สำหรับชีวิต ที่ปราศจากความทรงจำ"
(จากหนังสือ ผลพวงแห่งชีวิต ผู้ชายเดือนตุลา ของ เสกสรรค์ ประเสริฐกุล ผู้ส่ง- ภานุวัฒน์ เลิศฤทธิ์ภูวดล / จ. ระยอง)

......"โลกเป็นเพียงแห่งเดียว ที่ผู้คนได้รับอำนาจ ที่พิเศษมาก อย่างหนึ่ง นั่นคือ อำนาจที่จะเลือกได้ มีเพียงที่นี่เท่านั้น ที่ไม่ว่า สภาพแวดล้อม จะเลวร้ายเพียงไร เธอก็ยังได้รับอนุญาต ให้กำหนด ชะตากรรมของตัวเอง โดยการเลือกที่จะกระทำลงไป ที่นี่ เธอเลือกได้ว่า จะเป็นผู้การุณย์ หรือเกลียดชัง กล้าหาญ หรือขี้ขลาด รวยหรือจน เกียจคร้าน หรือขยัน เป็นคนบาป หรือนักบุญ ...และแน่นอนว่า จะทนทุกข์ทรมาน หรือไม่ ก็ได้รับรางวัลจาก กรรม ที่เลือกกระทำลงไป ไม่มีใคร ที่เกิดมาในโลกนี้โดย ปราศจากอำนาจนี้ นับตั้งแต่สวนอีเดน"
(จากหนังสือ ของขวัญจากดวงดาว ของ อ็อก แมนดิโน, บัดดี้ เคย์ แปลโดย สุริยฉัตร ชัยมงคล ผู้ส่ง- สุพร โพธิจิตสกุล / กรุงเทพฯ)

......"ทุกข์สุขของคนเรา มันไม่เหมือนเม็ดข้าว หรือสาคู จะควักออกมา ใส่ทะนาน ตวงหาได้ไม่ มันขึ้นอยู่กับ ใจเราเท่านั้น... เอ็งมีของเอ็งเท่าไร ก็พอใจของเอ็งเท่านั้น มันก็ไม่ร้อนรน... ความสุข มันก็เหมือน เราตื่นตะเช้า เดินไปเก็บเห็ด มีเท่าไร ก็คงได้เท่านั้น อย่าโลภโมโทสัน ถ้าเอ็งเจอะ เห็ดมะม่วง ก็จงพอใจเท่านั้น อย่าทะลึ่ง อยากแดกเห็ดโคน... ความทุกข์นั้น เปรียบได้เหมือน เงาของเรา ถ้าเอ็งห้ามพระอาทิตย์ ไม่ให้ส่องแสงได้เมื่อไหร่ นั่นแหละ เอ็งถึงจะหมดทุกข์"
(จากหนังสือ ผู้มียี่เกในหัวใจ ของ "รงค์ วงษ์สวรรค์" ผู้ส่ง- วสันต์ เมืองมณี / จ. พิษณุโลก)

......"หากปรารถนาจะชมหุบเขา จงไต่ขึ้นสู่ยอดขุนเขา
......หากกระหายใคร่ชมยอดขุนเขา จงเหินขึ้นสู่หมู่เมฆ
......แต่หากมุ่งมั่นจะเข้าใจมวลเมฆ จงหลับตาลงคิด"
(จากหนังสือ รวมปรัชญา คาลิล ยิบราน ผู้ส่ง- สมวุฒิ สุนทรวิจิตร / จ.ชลบุรี)

โปรดรอรับหนังสือ ฝั่งธนบุรี เป็นของรางวัล


......รักคุณยิ่งกว่า กระหัง รัก กระสือ
หมูอมตะ .......ปัญหา ประจำฉบับที่ ๑๗๖ เดือนตุลาคม ๒๕๔๒
.......ชิ้นส่วนหกชิ้น ที่ให้มานี้ มีเพียงสี่ชิ้น ที่เมื่อ นำมา ต่อกันแล้ว จะได้เป็นรูป สี่เหลี่ยมจัตุรัส
.......ถามว่า คือชิ้นใดบ้าง

ชิ้นส่วนหกชิ้น ที่ให้มานี้ มีเพียงสี่ชิ้น ที่เมื่อ นำมา ต่อกันแล้ว จะได้เป็นรูป สี่เหลี่ยมจัตุรัส

.......ส่งไปยัง "หมูอมตะ" ภายในวันที่ ๒๐ พฤศจิกายนนี้

 

........."หมูอมตะ"
.........MortalPig@Sarakadee.com

สนับสนุน หรือ คัดค้าน การแปลงพันธุกรรม GMOs
สนับสนุน หรือ คัดค้าน สอนหนังสือลูกเอง ที่บ้าน

สารบัญ | จากบรรณาธิการ | ตีนเปล่าข้ามทะเล | ข่าวคาวในรัสเซีย | ซองคำถาม | เฮโลสาระพา

สำนักพิมพ์ สารคดี | สำนักพิมพ์ เมืองโบราณ | วารสาร เมืองโบราณ | นิตยสาร สารคดี
[ วิริยะบุคส์ | มีอะไรใหม่ | เช่าสไลด์ | ๑๐๘ ซองคำถาม | สมาชิก/สั่งซื้อหนังสือ |
WallPaper ]

ขึ้นข้างบน (Back to Top) นิตยสาร สารคดี (Latest issue) Feature@Sarakadee.com