Page 162 - Skd 298-2552-12
P. 162

แผนท่ีดาวไทย 
                                เร่ืองและภาพ : นพิ ทั ธ์พร เพง็ แก้ว

ชาติไหน ๆ ก็ดูดาว และมีภูมิปัญญาเรื่องดาวสืบทอดมาจากบรรพชนทั้งนั้น  ในยุคยังไม่มีไฟฟ้า

ค�่ำคนื สลวั มดื  ใชว่ ่าคนเราจะมุดเขา้ มุ้งกันอย่างรวดเร็ว หรอื นอนอตุ ลุ ากยาวตื่นมาตะวนั สายโด่งแดด
สอ่ งกน้   หากเวลายาวนาน ๑๐ กวา่ ชวั่ โมงของกลางคนื  ยงั ไงกต็ อ้ งมกี จิ กรรมตา่ ง ๆ ใหท้ ำ� กนั   ในชว่ ง 
เก็บเก่ียว ชาวนาไทยภาคเหนือภาคอีสานลุกขึ้นมาตีข้าวท�ำงานในท้องนากันแทบตลอดคืน  ดีเสียอีก
ทไี่ มต่ อ้ งทนตากแดดเผาหวั รอ้ นเปรย้ี ง หากอาศยั ดกู ารเคลอื่ นคลอ้ ยของเวลาจากตำ� แหนง่  “ดาวว ี ดาว
ไก่หน้อย” (Pleiades)  ส่วนคนเรือภาคกลางภาคใต้ออกทะเล ขึงใบเรือว่ิงลมตะบึงมุ่งสู่ทิศใต้ต่าง 
อาศัยต�ำแหน่ง “ดาวว่าว” (Southern Cross) ก�ำหนดทิศทางการเดินเรือ  หนุ่มไทใหญ่ หนุ่มเหนือ 
หนมุ่ ลาว หนุ่มไทดำ� ออกแอว่ สาวยามดกึ  ลว้ นอาศยั ดู “ดาวช้าง” (Ursa Major) บอกทศิ จะไดก้ ลบั
บ้านถูก ไม่ไปนั่งเกาะบันไดบ้านสาวเจ้าให้ดึกดื่นเกินงามจนว่าที่พ่อตาในอนาคตต้องถลันลุกออกมา
เข่นเข้ียวชนิดแทบเอาสากตำ� ข้าวแพ่นหัว ฯลฯ  ดังน้ันกิจกรรมยามคำ่� คืนก่อนปิดตาลงนอนหน้าแนบ
หมอน...หากไม่มาจุดไฟส่องดูกันเอง หรือก่อกองไฟให้ความอบอุ่น ป้องกันสัตว์ร้าย บรรพชนของ 
ทกุ ชาตลิ ว้ น “ดดู าว” เพอื่ บอกเวลาและทศิ ทางมาอย่างเชยี่ วช�ำนาญทงั้ สน้ิ

       บรรพชนไทยก็ดูดาวมาอย่างโชกโชนด้วยเช่นกัน ชาวบ้านดูดาวด้วยตาเปล่าเพื่อใช้ในชีวิต
ประจำ� วันและการทำ� มาหากนิ  ฝา่ ยโหราจารยป์ ุโรหติ ก็ดูดาวกันในทางวิชาดาราศาสตร์โบราณ หรือท่ี
คนปัจจุบันรู้จักกันในนาม “โหราศาสตร์ไทย” อันมีท้ังภาคค�ำนวณต�ำแหน่งองศาดาวพระเคราะห ์
ดาวฤกษ ์ ราศี ฤกษ ์ ยาม  และภาคบรรยายว่าดว้ ยการตคี วามอธบิ ายถึงต�ำแหน่งองศาดวงดาวตา่ ง ๆ
ทมี่ าสัมพันธ์กนั  วา่ จะเกิดผลอย่างไรตอ่ ชะตากรรมบ้านเมอื งและโชคชะตาของแต่ละบุคคล

นติ ยสารสารคดี ฉบับที่ ๒๙๘ ธันวาคม ๒๕๕๒  (ซา้ ย) แผนทดี่ าวหลากหลายลกั ษณะจากสมดุ ไทย คมั ภรี ต์ ำ� ราดาว
                                         กแลละมุ่ สดมาวุด พ๑ร๒ะ ตร�ำาศราที ฤพ่ี กรษะอ์บานทฉติ บยับโ์ ตค่าจงร ผๆ า่  นแ, สกดลงมุ่คดวาาวม ส๒ัม๗พ นันกัธษ์ขตัอรง
                                         ท่ีพระจันทร์โคจรผ่าน, การแบ่งท้องฟ้า ๓๖๐ องศา เป็นพ้ืนที่
                                         ดกวางรตโคา่ งจ รๆขทอม่ี งคีดวาาวมอสันมั โตพมนั ณธก์ ฑบั ลกกลลมุ่ ุ่มดตา่าวงฤ กๆ ษแว์ ลา่ ะจดะสาวาพดแระสเงคเจรดิาะจหา้ ์
                                         เมอื่ โคจรถึงดาวฤกษก์ ล่มุ ใด
                                         (ขวาบน) ภาพแสดงฤกษ์ที่ ๒๓ ดาวธนิษฐา (ดาวเศรษฐี, ดาว
                                         ช้างใหญ่), ฤกษ์ที่ ๒๔ ดาวศตภิษัช (ดาวงูเล้ือย), ฤกษ์ท่ี ๒๕
                                         ดสมาวุดบไทุรพยดภำ� ัทรบท (ดาวราชสีห์ผู้) ปรากฏเป็นจิตรกรรมอยู่ใน
                                         (จขติ วราก)ร รภมาบพนแผสนดงั งโกบลสุ่มถหด์ ลาวงั  พ๒ร๗ะป นรัะกธษาัตนร ทวดัี่พครงะคจาันรทามร ์โจค.จ รราผช่าบนรุ ี
                                         ไล่ล�ำดับจากขวาไปซ้าย คือ ฤกษ์ที่ ๒๑ อุตราษาฒ (ดาวช้าง
                                         ตหัวรเือมศียร)ว,ษิ ฤฐกา ษ(์ทด่ีา ๒วเ๒ศ รศษรฐว)ี ณะ (ดาวฤาษี), ฤกษ์ท่ี ๒๓ ธนิษฐา
   157   158   159   160   161   162   163   164   165   166   167