สิทธิคนไทย กับการดูหนังเรื่อง Anna and the King
 
สนับสนุน หรือคัดค้าน การดูหนังเรื่อง Anna and the King
สิทธิคนไทย กับการดูหนังเรื่อง Anna and the King

( ร่วมแสดงความคิดเห็นของคุณ คลิกที่นี่ )
อัมพร วันดี, ชลรัตดา จันนา : เรื่อง
ภาพ : บันสิทธิ์ บุณยะรัตเวช


    เรื่องของแอนนา กับพระเจ้ากรุงสยามนั้น ไม่ใช่เรื่องใหม่ เรื่องราวของแหม่มสาว ลูกครึ่งอังกฤษ-อินเดีย -- แอนนา เลียวโนเวนส์ (Anna Leonowens) ที่เดินทางเข้ามาสอนภาษาอังกฤษ ในราชสำนักไทย สมัยรัชกาลที่ ๔ ถูกนำมาสร้างเป็นละครเวที และภาพยนตร์ หลายครั้งหลายหนด้วยกัน แม้กระทั่งนำมาทำ เป็นภาพยนตร์การ์ตูน หนังสือที่แอนนาเขียน เกี่ยวกับเมืองไทย สองเล่ม คือ The English Governess at the Siamese Court และ The Romance of the Harem รวมทั้งหนังสือ Anna and the King of Siam ของ มาร์กาเร็ต แลนดอน (Margaret Landon) ที่เขียนขึ้น โดยอิงข้อมูลจาก นวนิยายสองเล่มแรก ของแอนนา และกลายเป็นที่มาของละคร และภาพยนตร์ หลายต่อหลายเรื่องดังกล่าว ก็ตีพิมพ์แพร่หลาย ทั้งยังมีผู้แปลเป็นภาษาไทย วางขายมาช้านานแล้ว และถึงวันนี้ ภาพยนตร์การ์ตูน The King and I ก็ยังหาซื้อหาเช่าได้ไม่ยาก ตามร้านวิดีโอ ฯลฯ อาจกล่าวได้ว่า Anna and The King "เป็นเรื่อง" ขึ้นมาก็เพราะบริษัททเวนตี้ เซ็นจูรี่ ฟ็อกซ์ เสนอขออนุญาต ถ่ายทำภาพยนตร์เรื่องนี้ ในประเทศไทยเมื่อเดือนตุลาคมที่ผ่านมา
    Anna and The King เวอร์ชันล่าสุด ที่นำแสดงโดย ดาราฮอลลีวูดชื่อดัง - โจดี้ ฟอสเตอร์ และ ดาราชายแถวหน้าของเอเชีย - โจวเหวินฟะ ดัดแปลงมาจากนวนิยาย Anna and the King of Siam ของ มาร์กาเร็ต แลนดอน และปรับปรุงจากภาพยนตร์ และละครบรอดเวย์เรื่องดัง - The King and I เนื้อหาของเรื่องกล่าวถึง เหตุการณ์ช่วงที่แหม่มแอนนา เข้ามาเมืองไทย เพื่อสอนภาษาอังกฤษ ถวายแก่พระราชโอรส พระราชธิดา ในรัชกาลที่ ๔ บริษัทฟ็อกซ์ ยื่นขออนุญาต ถ่ายทำภาพยนตร์เรื่องนี้ในไทย เพื่อให้ได้ฉาก และสถานที่ ใกล้เคียงกับเนื้อเรื่อง ทว่าคณะอนุกรรมการ พิจารณาคำขออนุญาต ถ่ายทำภาพยนตร์ต่างประเทศ ในประเทศไทย หรือ "ฟิล์มบอร์ด" เห็นว่าเนื้อหาในบทภาพยนตร์ ไม่ตรงกับข้อเท็จจริง และทางผู้สร้าง ไม่ยอมแก้ไขบทภาพยนตร์ ให้ถูกต้อง จึงลงมติ ไม่อนุญาตให้ถ่ายทำภาพยนตร์เรื่องนี้ ในเมืองไทย ทีมผู้สร้าง จึงยกกองถ่าย ไปยังประเทศมาเลเซีย และถ่ายทำที่นั่นจนเสร็จสมบูรณ์ และออกฉายทั่วโลก เมื่อเดือนธันวาคมที่ผ่านมา
    แต่เรื่องราวของ Anna and The King ไม่ได้จบลงเพียงเท่านั้น เพราะเมื่อบริษัทฟ็อกซ์ ยื่นคำขออนุญาต นำภาพยนตร์เรื่องนี้ เข้าฉายในเมืองไทย คณะกรรมการ ตรวจพิจารณาภาพยนตร์ (กองเซ็นเซอร์) ก็ลงมติ ไม่อนุญาตให้ฉาย ด้วยเหตุผลที่ไม่แตกต่างกัน    
    ถึงตอนนี้ หลายคน จึงเกิดคำถามขึ้นในใจว่า เหตุใดคนไทย จึงไม่มีสิทธิ์ชม ภาพยนตร์เรื่องนี้ ในเมืองไทย สิทธิในการเลือกชมภาพยนตร์ ของคนไทย มีอยู่จริงหรือไม่ และคณะกรรมการ ตรวจพิจารณาภาพยนตร์ มีเกณฑ์อะไร ในการตัดสินใจครั้งนี้

ร่วมแสดงความคิดเห็น สนับสนุน หรือ คัดค้าน !
คลิกที่นี่


อ่านสนับสนุนต่อคลิกที่นี้ดร. ชาญวิทย์ เกษตรศิริ
อาจารย์ ประจำภาควิชา ประวัติศาสตร์ คณะศิลปศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์
อ่านคัดค้านต่อคลิกที่นี้รศ. ปัทมวดี จารุวร
กรรมการ
ตรวจพิจารณา ภาพยนตร์

ส นั บ ส นุ น 1x1.gif (43 bytes) คั ด ค้ า น
  • คำตัดสิน ของคณะกรรมการ ตรวจพิจารณาภาพยนตร์ ไม่เป็นประชาธิปไตย มีลักษณะเป็น เรื่องอุดมการณ์ ชาตินิยม กว่าเรื่องประวัติศาสตร์
  • ถ้าตีความนวนิยายของ แอนนาใหม่ อาจพบเรื่องราวที่น่าสนใจ มากกว่ามองว่า เธอโกหกตอแหล ตลอดเวลา
  • ถ้าอนุญาตให้ฉาย ในบ้านเรา น่าจะก่อให้เกิด สติปัญญามากกว่า การแอบดู แบบหลบ ๆ ซ่อน ๆ
  • หนังเรื่องนี้ แสดงการลบหลู่ ราชานุภาพ และบิดเบือนประวัติศาสตร์ อย่างชัดเจน
  • นวนิยายของแอนนา ไม่น่าเชื่อถือ และผู้สร้างหนัง ยกย่องแอนนา มากเกินความจริง
  • ถ้าปล่อยให้ฉายในเมืองไทย จะเกิดผลเสีย มากกว่าผลดี
อ่านฝ่ายสนับสนุน คลิกที่นี่
click here
1x1.gif (43 bytes)
อ่านฝ่ายคัดค้าน คลิกที่นี่
click here
1x1.gif (43 bytes)
กลับไปหน้า สารบัญ

แล้วคุณล่ะ สนับสนุน หรือ คัดค้าน !
.ต้องการ แสดงความคิดเห็นเพิ่ม คลิกที่นี่


แ ส ด ง ค ว า ม คิ ด เ ห็ น เ พิ่ ม เ ติ ม

ชื่อ-สกุล: *
E-Mail:
แสดงความคิดเห็นเพิ่มเติม: *
*

 

พบเห็น ข้อความไม่เหมาะสม กรุณาช่วยกันแจ้ง ผู้ดูแลเว็ป (WebMaster) ขอบคุณครับ

ผมอยากดู ...และไม่มีวันเปลี่ยนทัศนคติ และความจงรักภักดีที่มีต่อต่อสถาบันกษัตริย์ โดยเฉพาะในหลวงของเรา ....มันคนละเรื่อง ผมเห็นว่าคนที่เป็นกรรมการ อาจคำนึงถึงผลเสียต่อตนเอง ต่อความมั่นคงของตำแหน่ง มากกว่าโอกาสที่คนไทยจะได้ดูหนังดีๆที่เกี่ยวข้องกับประวัติศาสตร์ของชาติตัวเอง ....ถ้าผมเป็นท่านก็อาจไม่กล้าเสี่ยง มั้งครับ (ความเห็นเท่านั้นนะ ไม่ไได้อยากกล่าวหาใคร)
Wytchugyn Gymtsoohk <wytz_knot@yahoo.com>
- Wednesday, December 13, 2000 at 04:40:03 (EST)

ผมอยากดู ...และไม่มีวันเปลี่ยนทัศนคติ และความจงรักภักดีที่มีต่อต่อสถาบันกษัตริย์ โดยเฉพาะในหลวงของเรา ....มันคนละเรื่อง ผมเห็นว่าคนที่เป็นกรรมการ อาจคำนึงถึงผลเสียต่อตนเอง ต่อความมั่นคงของตำแหน่ง มากกว่าโอกาสที่คนไทยจะได้ดูหนังดีๆที่เกี่ยวข้องกับประวัติศาสตร์ของชาติตัวเอง ....ถ้าผมเป็นท่านก็อาจไม่กล้าเสี่ยง มั้งครับ (ความเห็นเท่านั้นนะ ไม่ไได้อยากกล่าวหาใคร)
Wytchugyn Gymtsoohk <wytz_knot@yahoo.com>
- Wednesday, December 13, 2000 at 04:39:21 (EST)

อยากให้เปิดใจกว้าง ดูแล้วพินิจพิจารณาว่าข้อเขียนและบทภาพยนต์ที่ออกมานี้นเชื่อถือได้หรือไม่ เพียงใด ยิ่งเราไปกีดกัน ปิดหูปิดตา ยิ่งเป็นการกระตุ้นให้ผู้คนมีความรู้สึกอยากจะดู เราจะแก้ต่างแทนอย่างไรก็ไม่น่าจะฟังขึ้นเพราะมันอยู่กันคนละยุค คนละขนบธรรมเนียมประเพณี ต่างชาติจะเข้าใจผิดถูกอย่างไรมันก็ไม่อาจลบล้างความจงรักภักดีที่คนไทยมีต่อราชวงศ์จักรี ไม่สามารถทำลายชาติ ราชบัลลังก์ลงได้หรอก และคงเป็นอุทาหรณ์ให้คนไทยได้รู้จักจดจำ เขียน จารึกเป็นลายลักษณ์อักษรไว้เป็นหลักฐาน มิใช่ปล่อยให้ใครๆก็เขียน เล่าเรื่องอดีตหรือประวัติศาสตร์ไปตามความเชื่อ ตามความคิดเห็นของตนเองโดยไม่มีเอกสารหลักฐานมายืนยัน.
สุรพล จันทราช <odd87@ksc.th.com>
- Saturday, December 02, 2000 at 09:38:51 (EST)

ความคิดของทั้งสองฝ่ายต่างก็มีเหตุผลที่ดี โดยส่วนตัว แล้วไม่คัดค้านและไม่สนับสนุน เพียงแต่อยากให้ข้อคิด ว่าทำไมไม่พูดเรื่องนี้กันตั้งแต่เขาเริ่มสร้าง ทราบว่าการแต่งกายในเรื่องก็ไม่ถูกต้อง มงกุฏฯ ก็ออกแบบโดย คนชาติอื่นซึ่งไม่ได้มีความรู้เรื่องศิลปวัฒนธรรมไทย (ทราบจากหนังสือพิมพ์) ในเมื่อเราแอนตี้มาตั้งแต่ต้น แล้วจะมารับทีหลังทำไม
นนท์
- Sunday, November 05, 2000 at 08:59:57 (EST)

ไม่คัดค้านหรือสนับสนุน การชมภาพยนต์เรื่องนี้ผู้ดูต้องเข้าใจเอาไว้อย่างหนึ่งว่า เป็นเรื่องที่ฝรั่งเขียนขึ้น เหมีอนกับเวลาฝรั่งพูดไทย คนไทยเราก็มัดจะอภัยให้ในคำพูดที่ผิดๆ ถุกๆ ดังนั้นการดูก็ควรจะดูเหมือนดู ภาพยนต์ทั่วไป เพราะไม่ใข่สารคดี ปัจจุบันนี้โลกเราเป็นโลกที่ไร้พรมแดน คนทั่วโลกรู้จักประเทศไทยเป็นอย่างดีไม่เห็นจะต้อง เป็นห่วงอะไรให้เกินเหตุ
เพียงใจ วีณะคุปต์ <sefs@md3.vsnl.net.in>
- Wednesday, November 01, 2000 at 13:53:55 (EST)

คนไทย โดยเฉพาะกองเซนเซอร์น่าจะเปิดกว้างทางด้านความคิด และไม่น่าจะมีสิทธิ์ที่จะมาตัดสินว่า ควรดู หรือไม่ควรดู ของคนส่วนใหญ่ หากหนังเรื่องนี้ออกฉาย ก็ไม่น่าจะมีอะไรเสียหาย หรือยอมรับไม่ได้ เป็นเรื่องดีเสียอีกที่คนรุ่นใหม่ๆ จะได้มีโอกาสเรียนรู้เรื่องราวในอดีตบ้าง เพียงบางส่วนก็ตาม
จารุณี ผลมาตย์ <jarunee@ccs.sut.ac.th>
- Friday, October 27, 2000 at 02:21:57 (EDT)

ดูแล้วก็ให้ความรู้สึกดีและถ้าใช้คนไทยแสดงจะทำให้หนังออกมาดีกว่าเดิมมากเพราะผู้แสดงพูดภาษาไทยไม่ชัดซึ่งคนต่างชาติดูอาจคิดว่าภาษาไทยเป็นอย่างนี้
สุพจน์ <CH03409@anet.net.th>
- Monday, October 23, 2000 at 09:03:40 (EDT)

ผมดูหนังเรื่องนี้แล้ว จากวีซีดี(เถื่อน) ทำไมผมไม่มีความคิดในแง่ลบเลย เพราะอะไร เพราะผมมีความคิดพอที่จะตัดสินใจได้ ว่าอะไรดีไม่ดี เอ้า ไปคืดกันใหม่
แมน
- Monday, October 16, 2000 at 23:18:18 (EDT)

อยากให้คนไทยมองอะไรกว้างๆ อย่ามองแบบติดในแง่ลบ อย่างน้อยก็ให้ได้รู้ว่ามันถูกหรือผิดเมื่อชมภาพยนตร์เรื่องนี้แล้ว ก็มัวแต่ไม่ให้ดูไม่ให้ฉายอยู่นั่นแหละจึงไม่รู้ซักทีว่าเนื้อเรื่องมันเป็นยังไง ผมเชื่อว่าคนที่อยากดูมีมากกว่า70% แน่
สหรัฐ เชิดชูธรรม
- Thursday, October 05, 2000 at 22:36:52 (EDT)

เคยดูหนังไทยบ่อย ๆและหลาย ๆ เรื่อง ที่นำดาราไทยแสดงเป็นกษัตริย์ประเทศอื่น ๆ เป็นแขกบ้าง ฝรั่งบ้าง จีนบ้าง พม่าบ้าง ไม่เคยเห็นว่าจะมีความรู้สึกว่าเป็นคนของประเทศนั้น ๆ ก็เพราะไม่ใช่ หากคิดว่าบิดเบือน ภาพยนต์ไทยหลาย ๆ เรื่องก็บิดเบือนเหมือนกัน
พรรณ <panapirat@yahoo.com>
- Thursday, October 05, 2000 at 12:41:56 (EDT)

i think it isgood
opas kunvan <okunvan@yahoo.com>
- Friday, September 29, 2000 at 12:52:18 (EDT)

ขอสนับสนุน
Khanitha Nulex <pkmusic2000@hotmail.com>
- Friday, September 29, 2000 at 06:51:09 (EDT)

ง่ายๆครับ มองว่าหนัง ก็คือหนัง เป็นการแสดง มันไม่ใช่ DOCUMENTARY ซะหน่อย ดูอย่างเรื่อง BRAVE HEART ซิครับ อังกฤษเงี้ย เละเลย
ลุงเต่า <ลุงเต่า@thai2k.com>
- Friday, September 29, 2000 at 02:29:28 (EDT)

ดิฉันคิดว่าภาพยนตร์เรื่องนี้ควรนำออกมาฉายเพื่อพิสูจน์ข้อสงสัยที่เค้าลือกันต่างๆนาๆ อยากจะบอกว่าให้ออกมาฉายเพื่อวิสัยทัศน์คนไทยได้แง่คิดหลายมุมมอง
pongtip nakin <anakin_43@hotmail.com>
- Thursday, September 14, 2000 at 05:26:03 (EDT)

ดิฉันได้ดูหนังเรื่องนี้แล้ว แม้แต่คำพูดของตัวละครในเรื่องก็พูดภาษาไทยไม่ชัดเจน ตัวละครหน้าตาไม่เหมือนคนไทย เป็นคนแขก และคนจีนเป็นส่วนมาก แม้แต่นางกำนัล รับใช้ในวังก็นุ่งหุ่มชุดสาหรี่ ไม่เป็นไทยเลย ทั้งๆที่เป็นหนังประวัติศาสตร์ไทย ดูแล้วมีความรู้สึกว่าหนังที่่ให้ชาวโลกรู้เรื่องของคนไทย ควรสร้างในบ้าน สมจริง สมจัง ดูแล้วเสียความรู้สึกมาก ไม่น่าปล่อยให้เขาไปสร้างหนังเรื่องนี้ที่เมืองอื่นเลย
Chang
- Tuesday, September 12, 2000 at 00:23:34 (EDT)

ภาพยนต์เรื่องนี้ควรสร้างในเมืองไทย ประกาศให้ชาวโลกรับรู้เรื่องของไทย แม้แต่หนังจีน เรื่องเกี่ยวกับราชวงค์ทั้งหลายยังมีการสร้างเป็นหนังได้เลย เป็นเรื่องของคนไทย ควรสร้างในเมืองไทย ควรมองโลกให้กว้างๆบ้างยอมรับอะไร ใหม่ๆบ้าง
รัชนก โพธิ์เหลือง
- Tuesday, September 12, 2000 at 00:16:51 (EDT)

อยากได้ดูหนังเรื่องนี้เพราะอยากได้รู้เกี่ยวกับความรู้สึกของคนต่างชาติที่มีต่อกษัตริย์ไทย
ธัญญรัตน์และณัชชา(มุก) ป4/6 ร.ร.อนุบาลราชบุรี
- Sunday, September 03, 2000 at 22:25:30 (EDT)

ให้ฉายเพือจะได้รู้ว่าเท็จ จริงต่างกันมากน้อยแค่ไหน จะได้ติติงและลงข่าวให้โลกรู้ว่าไม่เป็นจริง
jongjit vichean
- Friday, September 01, 2000 at 10:47:08 (EDT)

ข้อความทั้งหมดที่ได้อ่านดูแล้ว กระผมคิดว่าแต่ละบุคคลพูดถึงเรื่องราวต่างๆนั้น ทุกท่านจะพูดเอาแต่ใจตนเอง กระผมจึงอยากให้ทุกท่านได้คิดเอาใจเขามาใส่ใจเราบางสักนิด ทั้งฝ่ายสนับสนุนและฝ่ายไม่สนับสนุน พวกท่านควรคิดและวิเคราะ กระผมว่าใครอยากดูก็มีวิธิแก้ไข แต่อยากให้คิดสักนิดสําหรับทุกท่านธงไตรงณ์มีสามสี
เยาว์ชนไทย
- Thursday, August 31, 2000 at 04:05:34 (EDT)

อยากดูกันมากนักเหรอ !!!!!!!!!!!!!! พวกคุณไม่รู้สึกอะไรกันเลยหรือไง ที่เขาเอาพ่อแม่ของชาติคุณมาล้อเล่น ย่ำยีพระบารมีของท่าน นั่นเป็นเพราะคุณยังไม่รู้จักตัวเอง และประเทศคุณกันเลยหรือไง ยังทำตัวเป็นเหมือนวัยรุ่นโง่ๆ สมัยนี้ ที่พ่อแม่ตัวเองพูดอะไร ทำอะไรเป็นสิ่งเชย ต้อง import แม้กระทั่งอารมณ์ แล้วคุณเคยนึกไหมว่า เด็ก-ผู้ใหญ่ปัญญาอ่อนในเมืองเรามันมีขนาดไหน หนังมันชี้อะไรมาสักนิดเดียวมันก็เชื่อเขากันหมดแล้ว หนังมันทำให้เราอินน์ได้อยู่แล้ว แล้วเมื่องไทยจะเหลืออะไร ว่างๆ เข้าไปอ่าน "จดหมายถึงนาย" กันบ้างนะ ที่ meechaithailand.com เสียความรู้สึกมากๆ ที่วุฒิภาวะทางสำนึกของผู้อ่าน และหนังสือสารคดี มีกันแค่ความอยากดู ลองลดความอยากกันบ้างนะ เพื่อเทิดพระเกียรติราชวงศ์เรา
octain91 <octain91@hotmail.com>
- Wednesday, August 23, 2000 at 09:54:27 (EDT)

การที่หนังจะลบหลู่กษัตริย์อย่างไรนั้น ควรเป็นเรื่องที่น่าจะให้ประชาชนได้ดูหนังและเป็นผู้วิเคราะห์เองมากกว่า ไม่ควรมาจำกัดสิทธิไม่ให้ดูแบบนี้
๋๋่่J.J. Mir
- Tuesday, August 22, 2000 at 03:58:00 (EDT)

จริงๆแล้วไม่ใซ่ข้อเท็จจริงที่เป็นประเด็นถกเถียง แต่!!!! เป็นเรื่องกระทบสิทธิ เพราะถูกห้ามต่างหาก มันไปตำใจแห่งเสรีเข้า ก็เลยร้องโอย เพราะมันคือตัวเรา ของของเรา มันจึงเจ็บ ทำไมนักประซาธิปไตยไม่ไปเรียกร้องให้ ติมอร์ ฮิโรซิมาที่ถูกทิ้งระเบิด การฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ในชาอีร์ ก็เพราะมันไม่ใซ่เรื่องของเราและมันก็คือขอบเขตของสิทธิ เสรีภาพนั่นเอง !!!!!! ให้ซ้ดม้นคือ " อัตตา " เซ่นนี้หนังบางเรื่องที่ถูกห้ามฉายแต่คนก็เฉย ๆ ไม่ซ้าประเด็นก็ถูกลืม เพราะเป็นเรื่องหนึ่งในโลกนี้ มันจะดีขึ้นเองถ้าคณะกรรมการได้มาอ่านความคิดเห็นในกระทู้เหล่านี้ แต่ !!!!! จงอย่า อย่า อย่า อย่า อย่า อย่าอย่า อย่า กลัว กลัว กลัว กลัว กลัว กลัว ที่จะคันคว้าด้วย " สิทธิ " ของตัวเอง
NEPAL
- Friday, August 18, 2000 at 02:47:59 (EDT)

เฉยๆ บทบันทึกทางประวัติศาสตร์เป็นบทเรียนที่ผู้คนต้องศึกษาและสอบด้วยเสรีของบุคคล
อนุชา ศรีวะรมย์ <anucha_toty@yahoo.com>
- Wednesday, August 16, 2000 at 02:49:30 (EDT)

เราควรมองความคิดผู้อื่น รับฟังความเข้าใจผู้อื่น ที่มีต่อเรา เพื่อเราจะได้รู้จักตัวตนของเรา แต่คำว่า "เรา" ไม่ใช่แค่ ท่านกรรมการ ไม่กี่คน
ไพโรจน์ ธีระประภา <siamruay@hotmail.com>
- Sunday, August 13, 2000 at 12:55:30 (EDT)

กลัว กลัว กลัว กลัว กลัว เลย กลัว กลัว กลัว กลัว กลัว แล้ว กลัว กลัว กลัว กลัว กลัว จึง กลัว กลัว กลัว กลัว กลัว สุดท้าย กลัว กลัว กลัว กลัว กลัว ต่อไป ต่อไป ต่อไป ต่อไป ต่อไป ต่อไป
สมไท
- Sunday, August 13, 2000 at 12:16:01 (EDT)

ผมเห็นด้วยกับการที่หนังเรื่องนี้จะได้รับการเข้ามาฉายในบ้านเรา เพราะผมอยากพิสูจน์ด้วยตัวเองว่า หนังเรื่องนี้ เขาได้กระทำเกินเลยจริงหรือเปล่า หรือเขาพูดความจริงกับ องค์พระประมุข ของเหล่าไพร่ฟ้าของพระองค์ท่าน กรณีที่ห้ามนำหนังเข้ามาฉายในบ้านเรานั้น ผมเห็นว่ามันเป็นการปิดกั้นเกินไป เราควรได้รับความอิสระมากกว่านี้ เพื่อให้สมกับที่เราได้ชื่อเป็น บ้านเมืองที่ปกครองระบบประชาธิปไตย
komgrit yooyen <koyona43@hotmail.com>
- Saturday, August 12, 2000 at 05:40:21 (EDT)

การอนุญาตให้นำหนังเรื่องนี้มาฉายในเมืองไทยได้ ไม่ได้หมายความว่า จะเป็นการหมิ่นพระบรมราชานุภาพ เพราะการปิดกั้นไม่ให้ดู ทำให้คนนอกที่ไม่ได้ชมเหมือนอย่างท่านกรรมการ ไม่รู้ว่าเรื่องที่เขาสร้างขึ้นมา ถูกต้องตรงกับความเป็นจริงมากน้อยแค่ไหน พวกคุณที่เป็นกรรมการได้ดู แต่คนนอกไม่มีสิทธิ เราคิดว่า พวกเราคนอื่น ๆ ก็น่าจะมีสิทธิได้ดูและมีโอกาสในการร่วมตัดสิน หรือ พิจารณาด้วย การห้ามนำเข้ามาฉายเป็นการปิดกั้นโอกาส และ สิทธิของบุคคล การที่เรายอมรับให้หนังเข้ามาฉายได้ไม่ได้แสดงว่า เราเห็นด้วยกับเนื้อเรื่องในหนังเสมอไป หรือ เป็นการหมิ่นพระบรมราชานุภาพด้วย แน่นอนคนไทย เราทุกคนย่อมเคารพ รักองค์เหนือหัวของเรา การที่คนไทยได้ดูหนังเรื่องนี้น่าจะเป็นประโยชน์ด้วยซ้ำ เพราะ 1. เราจะได้ทราบว่าเรื่องราวนั้นผิดเพี้ยนไปอย่างไรบ้าง จิรง เท็จอย่างไร การสร้างหนังของฟ็อกซ์นั้นมีความจริงใจเพียงไร...การได้ชม นำมาสู่การถกเถียง และน่าจะนำไปสู่หนทางแก้ไข หรือ การวางมาตรฐานกฎเกณฑ์ในการอนุญาตให้หนังต่างประเทศเข้ามาถ่ายทำในเมืองไทย หรือ การอนุญาตให้ฉายหนุงเรื่องนั้น ๆ ในเมืองไทยได้.......อยากให้ท่านกรรมการทั้งหลายได้คิดสักนิด ถึงคนหมู่มากที่ต้องการชมเรื่องนี้...ไม่อยากให้ปิดกั้น
Brownie Akka <mbsvtpvc@hotmail.com>
- Sunday, August 06, 2000 at 01:27:40 (EDT)

Dear all Thai people, Sorry!!! I do not have Thai font@@@ I am a Thai , born in Thailand, pround to be a Thai person..... You would not beleive if i am telling you that I have watched Anna and the King 7 times already... There will be one more next week with my Australian freinds.. I live in Australia... Every time.. I watch the movie wiht my Aussie friends . They said to me that " I love this movie, I like to visit your country, your king was so smart and intelligent. I have never seen anyone of my friends say" Your King is stupid or dumb... OPEN YOUR MIND>>> this is year 2000....Thai people can separate and analyse what is real or not real , what is right or what is wrong... We missed 500 million U$ for not let FOX filmed the movie in Thailand.. NOw Maylaysia took that advantages/// COME ON>>> LET THAI people see the movie
James <will_56@email.com>
- Friday, August 04, 2000 at 13:51:30 (EDT)

ไม่มีอะไร หรือใคร มาปิดหูปิดตาคุณได้ เว้นเสียแต่ อวิซซา !!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!. ในตัวคุณเอง มองไม่เห็นในสิ่งที่มองเห็นดังที่ผู้มี " ปัญญา" ในสถาบันอุดมศึกษา .....มากมาย.......
ไชยยศ
- Thursday, August 03, 2000 at 01:40:38 (EDT)

น่าจะนำเข้ามาฉาย ทำอย่างนี้มันปิดหูปิดตาประชาชนมากเกินไป ดิฉันเองก็อยากรู้เช่นกันว่า เขาทำบิดเบือนประวัติศาสตร์ชาติไทยที่ดิฉันรักมากแค่ไหน ถ้ามันเลวร้าย ไม่จริงอย่างที่คนใหญ่ ๆ เขาคัดค้านกัน ดิฉันประชาชนคนนึงนี่แหละค่ะก็จะออกมาโวยวายว่ามันไม่ถูกต้องตามประวัติศาสตร์เช่นกัน แต่นี่ดิฉันไม่มีโอกาสเลย แล้วจะมีข้อมูลมาโต้กลับพวกที่เห็นคล้อยตามหนังว่าประเทศเราเป็นอย่างที่เขาเห็นในหนังได้อย่างไรคะ ดิฉันก็ต้องแบ๊ะแบ๊ะไปตามเรื่อง ขอเถอะค่ะ นำมาฉายย้อนหลังก็ยังดี เพื่อประเทศชาติที่รักของเราจะได้ไม่ถูกย่ำยีอย่างที่คุณ ๆ ที่เห็นด้วย(ไม่ให้ฉาย)ออกโรงเช่นกัน
โรส <rosinee_77 @hotmail.com>
- Thursday, August 03, 2000 at 00:05:26 (EDT)

สนับสนุน Thai people can distinguish fact from fiction. It's just an entertainment. What the heck!
archbishop DTP <NA>
- Wednesday, August 02, 2000 at 14:24:45 (EDT)

ไม่ควรจะนำเข้ามานะเพราะว่า จากที่ผมได้ดูจาก cd ที่แอบขายที่แถวประตูน้ำ (ของเพื่อน) เป็นการดูหมิ่นกษัตริย์มาก และบิดเบือนความจริงด้วย แล้วมีอะไรหลายอย่างไม่เหมาะสมมาก
XXXX <ray112@lovemail.com>
- Saturday, July 29, 2000 at 13:06:45 (EDT)

yes
chaiyasit netjan
- Sunday, July 23, 2000 at 02:48:29 (EDT)

คัดค้าน เพราะเรื่องราวในหนัง ล้วนแต่บิดเบือน และดูหมิ่นสถาบันพระมหากษัตริย์ของไทย อันเป็นหนึ่งใน3สถาบันหลักของชาติ ซึ่งคนไทยทุกคนเทอดทูนไว้เหนือเกล้า รัชกาลที่4 ทรงเป็นนักวิทยาศาสตร์ที่ยิ่งใหญ่ สามารถทำนายการเกิดสุริยคราส ที่หว้ากอได้อย่างแม่นยำ พระอัจฉริยภาพระบือไกลไปทั่ว และที่สำคัญที่สุด ท่านได้ช่วยประเทศสยามในขณะนั้น ไม่ให้ต้องตกเป็นอาณานิคมของพวกฝรั่งแบบแหม่มแอนนา ถือเป็นเรื่องที่ควรยกย่อง มิสมควรนำหนังบิดเบือนที่พวกฝรั่งสร้างขึ้นเข้ามาฉายให้ระคายเบื้องพระยุคลบาท.
กิตติธัช สุมาลย์นพ
- Wednesday, July 19, 2000 at 17:02:38 (EDT)

สิทธิการรับรู้ข้อมูลไม่สมควรที่จะถูกกีดกั้น กระผมเชื่อว่าทุกคนมีสมอง และสติปัญญาในการใตร่ตรองได้ด้วยตนเอง เราควรจะเปิดใจกว้าง และดูทัศนคติของคนกลุ่มอื่นต่อสังคมของเราเสียบ้าง มิใช่เพียงแต่สรรเสริญเยินยอ ทัศนคติหรือมุมมองต่างๆ ที่มาจากอีกมุมโลกหนึ่งนั้นเปรียบเสมือนกระจกเงา ส่องดูตัวเอง ยอมรับกับทุกสถานะการณ์ที่จะเกิดขึ้น และจากเรื่องราวทีปรากฏอยู่ในหนังดังกล่าวนั้น เราก็มองเสียว่า ถ้าเป็นข้อมูลจริง เราก็จะรู้แจ้งเห็นจริงกันเสียที แต่ถ้าไม่จริงเราก็ถือว่าเป็นการดูหนัง เพื่อความเพลิดเพลินก็เสียเท่านั้นเอง เลิกสักทีเถอะที่ปิดกั้นเสรีภาพทางปัญญา กรุณาอย่าแส่ปัญญาของผู้อื่นเขา หรือมากำหนดสมองของผู้อื่น ทุเรศสิ้นดี
Narongchai Lertkri <fernara@hotmail.com>
- Monday, July 17, 2000 at 10:16:45 (EDT)

ไม่เห็นด้วยอย่างมาก ๆๆๆ
ชริน บุญศรี
- Friday, July 14, 2000 at 09:39:26 (EDT)

ไม่เห็นด้วย
ดารณี ผลไม้
- Friday, July 14, 2000 at 09:38:01 (EDT)

ไม่เห็นด้วยที่จะให้ฉาย ถึงแม้ผมจะยังไม่ได้ดู แต่ดูองค์ประกฮบของภาพยนต์รวมทั้งผู้แสดง แล้วน่าจะทำให้เกิดผลเสียมากกว่า หรืออย่างมากจะเป็นการทำลายสถาบันพระมหากษัตริ์(ทางความคิด(พื้นที่ทางสมอง))จะทำให้สังคมไทยวุ่นวายมากกว่าที่จะหวังประโยชน์ทางประวัติศาสตร์ซึ่งก็บอกว่าเป็นเรื่องที่เสริมแต่งขึ้น เราควรจะอยู่ในความเป็นตัวของเราเองไม่ควรจะเอาจะไปยึดถือเอาตามแบบฝรั่งเขามาก....ผมก็เป็นคนรุ่นใหม่นะครับแต่การพัฒนาควรจะอยู่ในความเป็นตัวของเรา(ไทย) ฝรั่งก็ใช่ว่าจะถูกทุกอย่าง หรือที่ถูกอาจจะไม่เหมาะกับเรา...ขอบคุณครึบ****
เดชชาติ แสงเส้น
- Friday, July 14, 2000 at 09:35:09 (EDT)

ขอเขียนต่ออีกหน่อยนะคะ ดิฉันก็พอจะเข้าใจว่าทำหมถึงไม่ให้ฉายในบ้านเรา แต่ก็ไม่รู้ว่าจะเข้าใจได้มาก ๆ ได้อย่างไร ถ้ายังไม่ได้ดู จึงคิดว่า ควรอย่างยิ่งที่จะให้คนไทยได้ดู เพื่อประโยชน์หลาย ๆ อย่าง และก็เป็นสิทธิเสรีภาพที่สมควรจะได้รับ คนไทยทุกคนรัก เคารพ และเทิดทูน สถาบันพระมหากษัตริย์ กันเป็นอย่างมากอยู่แล้ว เพียงแค่หนังเรื่องเดียว คงไม่ทำให้ ความรัก เคารพ เทิดทูน หายไปได้หรอก
yung <yung13@hotmail.com>
- Thursday, July 13, 2000 at 05:47:56 (EDT)

ดิฉันอยากดูหนังเรื่องนี้มาก เพื่อจะได้ร่วมแสดงความคิดเห็น แต่ก็หาดูไม่ได้ หาเท่าไหร่ก็ไม่มี ทุกคนกลัวกันไปหมด
yung <yung13@hotmail.com>
- Thursday, July 13, 2000 at 05:35:14 (EDT)

ผมได้ดูจาก VCD ที่แอบลักลอบขาย น่าที่จะมีหลายๆ จุดไม่ตรงกับความจริง แต่ก็ไม่แน่ใจ เพราะเกิดไม่ทัน ผมมีความคิดเห็นว่า เพื่อให้เกิดความกระจ่างกับ คนไทยทุกคนที่มีความสนใจในเรื่องนี้ รัฐบาลไทย ควรจะนำเข้ามาฉาย ออกโทรทัศน์ช่องใดก็ได้ เพื่อให้ประชาชน ได้ดูพร้อมกันทั่วประเทศ หลังจากที่หนังจบแล้ว ก็ให้มีการเชิญ นักประวัติศาสตร์ ที่เก่งที่สุดในเมืองไทย มาวิเคราะห์ พร้อมกับมีหลักฐาน ทางประวัติศาสตร์ มาอ้างอิงประกอบว่า จุดใดที่บิดเบือนไปจาก ความจริงบ้าง ไม่ใช่ปล่อยให้เป็นข่าว แล้วให้ประชาชนแอบไปหามาดูเอง คนที่ดูแล้วเข้าใจผิดไปต่างๆ นานา เพื่อความกระจ่าง รัฐบาลน่าจะทำนะครับ เวลาที่รัฐบาลออกมาพูดอะไรต่างๆ นานา ออกโทรทัศน์ตั้งนานสองนาน ยังทำได้เลย
ธวัชชัย รุ่งอนุรักษ์
- Wednesday, July 12, 2000 at 05:34:15 (EDT)

ปัญหาที่ถกเถียงกันอยู่ก็คือ คนที่อยากดู กลับไม่ได้ดู คนที่ดูแล้ว (แถมมีอำนาจ) ก็พยายามกีดกัน ไม่ให้มีการฉาย ผมได้มีโอกาสดูภาพยนตร์เรื่องนี้แล้ว และเห็นด้วยว่า มีหลายจุดของหนัง ที่น่าตำหนิ รวมทั้งการบิดเบือนประวัติศาสตร์อย่างชัดเจน แต่ลองมองอีกมุมหนึ่งซิครับ ภาพยนตร์เรื่องนี้ ถูกสร้างขึ้นโดยชาวต่างชาติ สร้างจากนวนิยายที่เขียนโดย ชาวต่างชาติอีกด้วย มันแน่นอนอยู่แล้ว ที่เรื่องราวมันต้องผิดเพี้ยน เป็นธรรมดา ขนาดพงศาวดารไทย ซึ่งเขียนโดยคนไทยแท้ๆ ยังมีข้อผิดพลาดเลย ถ้าจะมองว่า หนังเรื่องนี้ สมควรฉายหรือไม่ ผมเห็นว่าควรฉาย แต่ไม่มีการเก็บเงิน (ทางค่ายหนังจะโอเคหรือเปล่าเนี่ย) เพราะเป็นการแสดงให้ทางต่างประเทศเห็นด้วยว่า เราไม่สนับสนุนหนังคุณ แต่เราอยากรู้ว่า คุณพูดถึงเมืองไทย /กษัตริย์ไทย อย่างไร ผมเชื่อว่า จะเป็นการเปิดโอกาสให้หลายๆ คน ได้เห็นมุมมองที่ ชาวต่างชาติมองไทยอย่างไร อย่างน้อยมีการฉายตามเทศกาลหนัง หรือถ้าต้องการเก็บเงินจริงๆ ก็เอาเข้าการกุศลก็ได้ แต่อยากให้ทุกคนที่มีโอกาสดู เปิดใจให้กว้างต่อหนังเรืองนี้ มันไม่ดีหรอกครับ แต่ไม่ดียังไง นี่แหละคือสิ่งที่เราต้องหาคำตอบ
Korapak Boonyamalik <korapak@asiaaccess.net.th>
- Wednesday, July 12, 2000 at 04:19:46 (EDT)

คนไทยเดี๋ยวนี้มีความรู้ แยกแยะได้ว่า สิ่งใดเป็นเรื่องจริงทางประวัติศาสตร์ หรือเรื่องใดเป็นเรื่องแต่ง ไม่ควรปิดกั้น และที่สำคัญก็คือ คนไทยมีวิจารณญาณ และรักชาติเป็น และมีความเคารพในสถาบันอยุ่เหนือสิ่งอื่นใด การปิดกั้นจึงมิใช่การแก้ปัญหา เพราะแม้แต่ตัวงานเขียนของนางแอนนา เราก็ไม่เชื่อมาแต่ต้นว่า เป็นเรื่องจริง แต่ก็ไม่เคยเป็นหนังสือต้องห้าม เพราะถูกมองว่า เป็นเพียงหนังสือนวนิยายประโลมโลก ของหญิงคนหนึ่ง แต่ไฉนพอถูกนำมาสร้างเป็นภาพยนตร์ จึงกลายเป็นวิวาทะใหญ่โต จนกลายเป็นการ ปิดกั้นโอกาสคนไทย ในการดูภาพยนตร์เรื่องนี้ไปได้ ไม่เข้าใจ
kawerat cunapat <kiwika19@hotmail.com>
- Tuesday, July 11, 2000 at 14:33:57 (EDT)

I live in Holland right now. I'm Thai and I think this movie is kinda good. There's no reason why Thai people can't see this movie in Thailand. "the land of free"?
S.P. <snowmelts77@hotmail.com>
- Saturday, July 01, 2000 at 13:48:41 (EDT)

ผมขอแสดงความคิดเห็นบ้างดังนี้ ว่า ยุคนี้ไม่ใช่อุดมการณ์ ทางการเมืองอะไรหรอกที่ชนะ หากแต่เป็น ความเป็นมนุษย์นิยม ( Humanism ) ที่เบ่งบาน กำชัยชนะ ด้วยลักษณะที่ยึดถือว่า มนุษย์คือองค์อธิปัตย์ คำว่า "สิทธิ" " เสรีภาพ " อยู่เหนือสิ่งอื่นใด ความคิดของ John Locke มีอิทธิพลต่อประชาชนว่า สามารถล้มล้าง รัฐาธิปัตย์ หากกระทำการไม่ชอบธรรม ได้ สิทธิจึงมีอำนาจที่สุดในยุคนี้ คำว่า " คนไทย " นี้ที่ว่า หากได้ชมแล้วจะได้ตัดสินว่า ที่ถูกต้องเป็นอย่างไร นั้น เป็นการกล่าวกว้างเกินไป เพราะถ้าเช่นนั้น ความถูกต้อง หรือ ไม่ถูกต้องก็จะอยู่เฉพาะกลุ่มผู้ได้ชมเท่านั้น ที่ตัดสินแทน ตาสีตาสา คนจน คนชนบท ที่ด้อยโอกาส นี่ไม่เป็นการละเมิด " สิทธิ " ของผู้ไม่มีความสามารถที่จะชมหรือ ดังนั้นความรู้ก็จำกัดวง แค่ผู้มีเงินจ่ายค่า ตั๋ว เช่นนั้นหรือ เราไม่มั่นใจใน พระมหากษัตริย์ของเราหรือ ? จึงได้โอนเอียงเมื่อมีอะไรมากระทบ จึงต้องนำภาพยนตร์ Hollywood แค่บางเรื่องมาใส่ใจ ถ้าเพื่อการศึกษา เชิงเปรียบเทียบ เราจะได้อะไรมากมาย ที่ อาจารย์ เผ่าทอง ทองเจือ ที่ปรึกษาเรื่องเครื่องแต่งกาย การตกแต่ง ที่เกี่ยวกับศิลปกรรมไทย ท้วงติง เขายังไม่ฟังเลย และรัฐบาลก็ได้ชี้แจง เหตุผลที่ไม่อนุญาตให้ถ่ายทำ เขาก็ยังไปทำต่อที่มาเลเชีย แสดงให้เห็นว่า เขาไม่ได้สนใจ ข้อเท็จจริงทางประวัติศาสตร์ ตามที่เราชี้แจง แต่เห็นแก่ธุรกิจมากกว่า คนไทยเราไม่โง่ก็จริง แต่อย่างที่บอก แล้วมันเป็นเช่นนั้นทุกคนหรือ ? ต่างคนก็มองต่างมุม (ผู้แสดงความเห็น ยังมองต่างมุมกัน บ้างก็มองเรื่อง ศิลปะทางภาพยนตร์ บ้างมองในแง่ประวัติศาสตร์ บ้างก็ว่าดี บ้างก็ว่าไม่ดี บ้างก็ว่าภูมิใจ บ้างก็ว่าดูหมิ่น เป็นต้น) เรื่องข้อเท็จจริง ที่ถกเถียงกันอยู่ จึงไม่อาจตัดสินได้เพียงแค่ ได้ชมเท่านั้น วงวิชาการของเราก็เชื่องช้า เพราะก่อนหนังเข้าฉาย และออกจากโรงไปแล้ว ก็ยังคลุมเครือกันอยู่ ก่อนหน้านี้ เราไม่ศึกษากันจริงจัง เป็นไปตามกระแสเท่านั้น และเราต้องทำกันเป็น " องค์คณะ " จึงจะลงเสียงสรุป เป็นแง่ประวัติศาสตร์ได้ การไม่อนุญาตให้เข้าฉาย เป็นเรื่องตลก เพราะพายุทุนนิยม เป็นสิ่งมีอำนาจ รัฐไม่อาจควบคุม สื่อ ได้ อย่างดีก็แค่การแสดงออกในฐานะ รัฐเท่านั้น คนทั่วไปที่ต้องการชม แม้จะถูกตัด " สิทธิ " แต่ก็มีทางออกอื่น ทั้ง vcd dvd หรือต่อ internet ชมโดยตรงก็ยังได้ หากมองในระดับเครือข่ายโลก การกระทำของรัฐ แทบไม่มีความหมาย แต่ " รัฐมีอำนาจ " การปกป้องสถาบัน ซึ่งเป็นหน้าที่ จึงมิใช่เรื่องแปลก การรับวัฒนธรรมเข้ามา แม้จะแบ่งเรท หนังก็ตาม หนังทะลึ่ง ลามก ก็ได้เข้าฉาย เพราะนั่นคือ " สิทธิ " มิใช่หรือ จริงๆ แล้วมนุษย์ก็พูดถึง สิทธิ เพื่อ จะได้ทำตาม " ใจ" ใจมนุษย์เป็นเข็มทิศนำโลก สิ่งที่ไม่งาม ในยุคหนึ่ง จึงเป็นของดีในอีกยุคหนึ่ง แม้ภาพยนตร์เรื่องนี้ จะออกไปนานแล้ว ก็เห็นแล้วว่า การถกเรื่องประวัติศาสตร์ ไม่ได้ไปถึงไหนเลย เราจะหวังเอาความบันเทิง มาเป็นข้อเท็จจริงได้อย่างไร การเฉยเมยของเรา ต่อการศึกษาต่างหาก ที่ต้องกังวลมากกว่า การเซ็นเซอร์ใดๆ ถ้าเรื่องจริงเป็นเช่นไร มันก็จริงอยู่อย่างนั้น เราจะไปสนใจคนนอก ที่คิดว่า มันไม่จริง ทำไม ?
xyz
- Wednesday, June 28, 2000 at 04:53:39 (EDT)

DON T TAKE THAI PEOPLE AS BRAIN DEAD. LET THEM SEE AND THINK FOR THEIR OWN. THIS IS YEAR 2000. LOOK OUT. LIFE AND DEATH OF A KINGDOM IS NOT BASED ON A HOLLYWOODIAN MOVIE.
SEBASTIEN
- Wednesday, June 21, 2000 at 10:02:14 (EDT)

การที่คณะกรรมการ ตรวจดูภาพยนต์เรื่องนี้นั้น เป็นความคิดแบบโบราณ โดยเรื่องบางเร่อง ถ้านำมาฉายในเมืองไทยนั้น อาจจะมีผลดีมากกว่าด้วยซ้ำ และที่การสั่งห้าม เข้ามาถ่ายทำในเมืองไทยนั้น อาจจะเป็นผลเสียมากกว่า เพราะไอ้พวกฟรั่งหัวแดง จะเอาประวัติศาสตร์ของชาติเรา ไปปู้ยี่ปู้ยำอย่างไร้สตื และไม่รู้จักที่ต่ำที่สูง และหวังว่า อนาคต คณะกรรมการ จะมีวิสัยทัศที่กว้างกว่านี้ ไม่ใช่มัวแต่ ห่วงปากท้อง และตำแหน่งหน้าตา จนไม่มองโลกความจริงบ้าง ด้วยความเคารพ
สราวุธ ตั้งบรรยงค์ <crow@carvariety.com>
- Friday, June 16, 2000 at 01:18:57 (EDT)

Thai people should be able to judge for themselves what is true or untrue This movie will give us a chance to know how the foriegners see us. I have seen the movie, it's well done even though mostly fictional. This movie made me realize that Thailand is a very beautiful country, both landscapes and culture.
secret
- Thursday, June 15, 2000 at 18:09:06 (EDT)

ผมดูหนังเรื่องนี้แล้ว ก็ไม่เห็นว่าเป็นการ หมิ่นพระบรมเดชานุภาพตรงไหน มิหนำซำ้ ยังเป็นการประกาศ พระเกียรติคุณ ของพระเจ้ากรุงสยาม ว่าทรงฉลาด รอบรู้ ทันสมัย มีไหวพริบปฏิภาณ กล้าหาญ สมเป็นวีรกษัตริย์ ถ้าพิจารณาภาพรวม ผมเห็นอย่างนี้ แต่ในรายละเอียดปลีกย่อย มันก็มีบางฉากบางตอน ที่ดูขัดตา ไม่เข้าท่าบ้าง แต่ก็ไม่ใช่เรื่องที่ผิดความคาดหมาย เพราะเขาเป็นชาวต่างชาติ จะให้ แสดงออกอย่างคนไทย ๑๐๐% คงเป็นไปไม่ได้ และหนังเรื่องนี้ก็สร้างจากนิยาย มิใช่จดหมายเหตุ ผมไม่เห็นว่า หนังเรื่องนี้ เป็นอันตรายต่อศีลธรรมตรงไหน การสั่งห้าม เป็นการดูถูก และละเมิดสิทธิเสรีภาพ ของประชาชน
เสรี
- Wednesday, June 14, 2000 at 17:01:46 (EDT)

ผมเป็นนักศึกษาประวัติศาสตร์ และมีโอกาสที่จะได้รับชมภาพยนตร์ เรื่องแอนนา กับพระเจ้ากรุงสยาม ThE King and I หรือ Anna and the King ทั้งหมดสามภาพ โดยสองครั้งแรกเป็นภาพยนตร์เก่า อีกครั้งคือ เทปการแสดงละครบรอดเวย์ และล่าสุดคือภาพปัจจุบัน ในทรรศนะของผู้ชมทั้งสามภาค แล้ว เห็นได้ว่าฉบับล่าสุดเป็ฯฉบับที่มีความใกล้เคียงในแง่ของศิลปกรรม นาฏศิลป์ มากที่สุด ส่วนเรื่องเนื้อหาต่างๆ นั้นเป็นเพียงแต่คล้ายกัน ในบางฉากบางตอน ของภาคเก่าก็มิได้เหมือนกับภาคปัจจุบัน ข้าพเจ้ายังคงสนับสนุนให้หนังเรื่องได้ได้เข้าฉายในประเทศไทย มากกว่าการคัดค้าน ขนาดหนังฮอลีวู๊ดที่แสดงถึงความก้าวร้าว หรือภาพลามกที่แอบหลุดออกมา ยังปล่อยให้ฉายทั้งโรง คณะกรรมการกำกับภาพยนตร์แทนที่จะหันมาตัดทอนบทพูด หรือเอาแค่มัวๆ มาเซนเซอร์ ไม่ให้หลุดออกมาสู้สายตาผู้ชม น่าจะเอาเวลาของท่านไปผลักดันเรื่องของเรทหนัง และกำชับให้เกิดเป็นการบังคับใช้ที่ชัดเจนมากกว่า ที่จะมาทำเรื่องบังๆ ภาพ ตัดเสียง เพราะว่าประชาชนตามรัฐธรรมนูญมีสิทธิที่จะรับสื่อได้โดยเสรี แสดงว่าท่านกำลังทำผิดรัฐธรรมูญ คือผิดกฏหมายของประเทศ (ถ้าผมว่างผมจะฟ้องท่าน) ในฐานะนักประวัติศาสตร์ จะขอยกเหตุอันเห็นว่าเป็นข้อสนุบสนันให้ภาพยนตร์เรื่องนี้เข้ามาฉายได้ดังนี้
1. ประการแรก การนำเรื่องนี้เข้ามาฉาย จะทำให้ประชาชน เกิดความตื่นตัว ทางประวัติศาสตร์ ที่ยังสามารถหาหลักฐานอ้างอิงได้ เพราะว่า การศึกษาประวัติศาสตร์ของเรา ก็ถูกบิดเบือนมาตลอดอยู่แล้ว หากการฉาย จะจุดประกายให้คน หันมาสนใจ ประวัติศาสตร์ที่แท้จริง จะได้รับการค้นค้วา ทำให้เราได้รับรู้ เรื่องที่แท้จริงเสียงที (อย่างน้อย หลักฐานในหอจดหมายเหตุแห่งชาติ คงไม่ถูกล่ามโซ่ตรวน แน่นหนาเพราะเปิดเผยมิได้) ความตื่นตัวนี้ จะนำมาซึ่ง การศึกษาประวัติศาสตร์ ที่น่าสนใจ ดีกว่าการให้ เรื่องทางประวัติศาสตร์ เป็นประเด็นทางไสยศาสตร์ อย่างเรื่อง พระนางสุพรรณกัลยา
ประการที่สอง การนำภาพยนตร์มาฉาย ผมเห็นสมควรว่า ควรจะนำภาคเก่ามาฉายทั้งหมด ให้คนได้เข้าใจว่า ฝรั่งมองเราอย่างไร เราควรจะปรับตัวหรือไม่อย่างไร .. อย่างน้อยสำนึกไทยยจะเกิดขึ้น ดีกว่าให้วันรุ่นปัจจุบัน ร้องแร่แห่กระเชิงว่ารักญี่ปุ่น หรือคุณว่ามันกู้ชาติไม่ทันเสียแล้ว
นี่เป็นเหตุผลง่าย ๆ เพียงสองข้อ ขอให้ท่านผู้อ่านลองพิจารณาดู ถ้าเห็นด้วย เราควรจะรวมกำลัง ฟ้องร้องคณะกรรมการ กำกับภาพยนตร์และสื่อ ว่าผิดกฏหมาย เพราะจำกัดสิทธิประชาชน และจะทำให้เขา ไม่กินเงินเดือน ซึ่งมาจากภาษีของเรา โดยทำแต่เรื่องไร้สาระ

พิชิต เยาว์ยืนยง <zonixzone@hotmail.com>
- Wednesday, June 14, 2000 at 10:49:37 (EDT)

เรื่องสิทธิ เสรีภาพของประซาซนนั้น หากเป็นรัฐประซาธิปไตย( liberty or democracy ) อะไรก็ตามที่มิได้เขียนไว้ว่า ห้ามทำ ประซาซนทำได้ แต่ถ้าเป็นรัฐคอมมิวนิสต์(communist) อะไรก็ตามที่มิได้เขียนไว้ว่าทำได้ ประซาซนห้ามทำ แต่รัฐไทยกับครึ่งๆ กลางๆ ทั้งที่รัฐธรรมนูญบัญญัติว่า สิทธิในการบริโภคข้อมูลข่าวสาร เป็นของประซาซน แต่หน่วยงานภายใต้อำนาจรัฐกลับทำเหมือนประเทศคอมมิวนิสต์ ในเหตุการณ์แบบนี้ ตัวแทนประซาซนอาจส่งให้ศาลรัฐธรรมนูญตีความ เป็นกรณีตัวอย่าง แต่ก็ควรเข้าใจว่าอาจจะเป็นเรื่องยากเพราะพาดพิงถึงสถาบันกษัตริย์ ชึ่งสังคมไทยไม่อาจวิพากษืได้ กอปรกับมีการเทิดทูนอย่างเป็นอุดมคติ หรือ อภิมนุษย์ มาเป็นเวลาซ้านานจนยากที่จะเปลี่ยนแปลงอะไรง่ายๆ แม้บางทีจะเป็นบุคคลสามัญก็ตาม ทำให้กฎหมายก็ต้องปกป้องสถาบันเอาไว้มิให้ถูกดูหมิ่น จากใครก็ตาม เราต้องเข้าใจว่าความเป็นเสรี หรือ ประซาธิปไตย ของบ้านเรา ไม่เหมือนของ อเมริกา หรือ ยุโรป เพราะมีรากวัฒนธรรมเดิมประสานอยู่ รัฐจึงทำอะไรครึ่งๆกลางๆ อย่างที่เป็นอยู่ และประวัติศาสตร์ที่เรียนที่สอนกันอยู่ยังกับว่ามันจริงเสียเต็มประดา แต่ก็มิได้หมายความว่า ถ้าเราได้ดูภาพยนตร์เรื่องนี้แล้วเราจะได้ความจริงอะไรขึ้นมา เพราะการซำระประวัติศาสตร์ต้องใซ้ผู้เซี่ยวซาญเฉพาะ และรับฟังหลักฐานทั้ง 2 ฝ่าย ว่าของใครจริงของใครปลอม หรือพกลม ทั้งคู่ ในแง่นี้รัฐจึงทำถูกอยู่บ้างเพราะประซาซนธรรมดาก็ไม่อาจบอกได้ว่าข้อเท็จจริงเป็นอย่างไร และในการรับวัฒนธรรมอย่างเสรีเกินไปก็ส่งผลร้ายได้เหมือนกัน ดูอย่าง จีน สิครับว่ามี แฟซั่นวาบหวิว และ เว็บไชต์ลามก ที่น่าตะลึงว่า ประเทศที่แข็งกร้าวต่อประซาซนจะเป็นได้ถึงเพียงนี้ จนรัฐบาลจีนต้องออกมากล่าวโทษ สหรัฐอเมริกา และประเทศตะวันตก หากเราถือ อัตตา กันมาก บางเรื่องก็อาจเป็นน้ำผึ้งหยดเดียวได้ ไม่ได้ดู anna and the king ก็มีเรื่องอื่นเยอะแยะ หนังสือแปลก็มี อะไรที่ไม่หนักเกินไปก็พอจะให้อภัยได้ แต่รัฐไม่ควรแค่ห้ามฉาย ถ้ามีข้อเท็จจริงอะไรก็ออกมายืนยันต่อสังคมโลกด้วย ถ้าข้อมูลที่ภาพยนตร์เสนอบิดเบือนเราก็ควรตอบโต้ ซี้แจง ทั้งหมดนี้ มองอย่างเป็นกลาง แต่เราไม่ควรลืมว่าภาพยนตร์ที่เรามีสิทธิ เสรีที่จะรับซม เรื่องแล้วเรื่องเล่า เราขาดทุน เสรีภาพที่ไม่รู้ตัวจึงไม่ฉลาดเลย รัฐก็ต้องรู้ขอบเขตที่จะริดรอนสิทธิประซาซน ถ้าเมื่อใดที่เกินขอบเขตอย่างไม่อาจรับได้ อย่าตัวใครตัวมันก็แล้วกัน
intellectual
- Thursday, June 08, 2000 at 02:19:59 (EDT)

ปัญหา CD COPY ยังแก้ไม่ได้เลย
A COURSE
- Wednesday, June 07, 2000 at 04:51:58 (EDT)

ผมว่าผมก็ไม่โง่นะ พอจะพิจารณาอะไรได้ว่าดีไม่ดี ไม่น่ารีบด่วนตัดสินใจนะ ผมว่าลำเอียงมากไปหรือเปล่า หรือยอมรับไม่ได้ เพราะเมื่อก่อน ฝรั่งมองเราแบบนี้จริงๆ ไม่เชื่อถาม พวกที่มีวัฒนธรรม อย่างฝรั่งเศสสิ (อยากได้ประเทศไทย ก็เอากองทัพเรือมาปิดอ่าว) เรื่องที่เกี่ยวกับพระมหากษัตริย์นั้น มีข้อที่น่าสนใจต่อการพัฒนาประเทศ เป็ยอย่างมากเช่น การให้การศึกษาวิทยาศาสตร์ และภาษาอังกฤษ หรืออยากให้ผู้หญิงไทย กล้าแสดงออกเหมือนแหม่ม แอนนามีที่ดีๆมากมาย ควรจะนำมาเป็นตัวอย่าง สังสอนให้เด็กไทยได้รู้จักนะครับ แต่ไม่เป็นไร เพราะที่ผมเขียนอย่างนี้ ก็คิดว่าผมฉลาดกว่ากรรมการก็แล้วกัน
p_imjit <p_imjit@hotmail.com>
- Monday, May 29, 2000 at 23:02:10 (EDT)

การที่ไม่ยอมให้มีการฉายในเมืองไทย ทำให้คนทั้งหลายต่างมีควาาสับสนว่า เรื่องจริงควรเป็นอย่างไร ผู้ที่จะตัดสินได้ดีที่สุดคือผู้ที่ได้ดู เราคิดว่าเรามีความรู้ มีความสามารถในการแยกแยะเรื่องราวต่างๆ ได้ แต่ถ้ามีการกั้นความคิดอย่างนี้ ...เราจะรู้ได้อย่างไรว่าผิดหรือถูก
นส.ผ่องแผ้ว กุลภา <kulapha@chaiyo.com>
- Thursday, May 25, 2000 at 23:37:29 (EDT)

I saw this movie last October in America where I am now studying at. And I'm not so impressed in the movie very much ,and I do agree that most of the story in the movie is not true. Thai people don't need to see every movie that Hollywood produce although it's about us. It's just another Hollywood movie.
pattahatai Selanon <whypatt@hotmail.com>
- Saturday, May 20, 2000 at 17:59:27 (EDT)

ไม่ค่อยเห็นด้วยกับการห้ามฉาย เพราะเป็นการจำกัดสิทธิเสรีภาพของประชาชนโดย ไม่จำเป็น ควรให้คนที่สนใจได้ดู แล้วใช้วิจารณญาน ตัดสินคุณค่าของภาพยนตร์นี้ อาจบังคับให้ใส่คำเตือน ลงในฟิล์มว่า เป็นเน์้อหา เป็นนิยาย มิใช่ประวัติศาสตร์ และไม่เหมาะ สมกับเด็ก ผมว่าคนส่วนใหญ่ ก็คงไม่ชื่นชอบหนังเรื่องนี้อยู่แล้ว เพราะเนื้อหาบิดเบือน ประาัติศาสตร์เป็นส่วนมาก บทบาทที่เด่นเกินไปของแอนนา และความที่คนไทย เคารพพระมหากษัตริย์ มากเกินกว่าจะนำมาเล่น ในบทที่มีการแสดงออกแบบสามัญชน ได้ แต่ Anna and the King ก็ยังมีข้อดีอยู่บ้างในความใส่ใจในรายละเอียดของ ศิลปะไทยและภาษาไทยมากกว่า The King and I และลดบทของ King ที่ไม่สำรวมสง่างาม ออกไปมากกว่าภาคเก่า สิ่งที่เป็นจริงในทางดีก็มีอยู่บ้างเช่นการแสดงถึง พระปัญญาอันหลักแหลมของพระเจ้าอยู่หัวมงกุฏและเจ้าฟ้าจุฬาลงกรณ์ในหลายตอน อย่างไรก็ดี ผมก็เห็นว่าหนังเรื่องนี้ยังไม่เหมาะสมโดยรวม แต่การห้ามฉายไม่น่าเป็น วิธีตอบโต้ที่ดี
ปรินันท์ <varnasav@cae.wisc.edu>
- Saturday, May 20, 2000 at 17:56:18 (EDT)

I had seen this movie already. To be honest with you, I did not feel offensive by this movie. The movie depicts our king as being honor man who loves his children and his people. I don't understand why the Thai government make such a big deal out of this movie.
ying
- Friday, May 19, 2000 at 02:05:04 (EDT)

I saw this movie already. the movie make me feel really proud of our king.
aom
- Tuesday, May 16, 2000 at 18:31:12 (EDT)

ควรจะนำมาฉายในประเทศไทย เพื่อเป็นการศึกษา
ธัญรัตน์ ฐิติสุริยารักษ์
- Sunday, May 14, 2000 at 04:52:22 (EDT)

ไม่มีความเห็นเรื่อง ควรจะนำมาฉายหรือไม่ฉาย เพราะผู้ที่ทำหน้าที่ตรวจพิจารณา เขาก็ทำหน้าที่ ที่ถูกต้องตามเงื่อนไขแล้ว แต่ไม่ว่าจะไม่อนุญาต ให้นำเข้ามาฉาย แต่ก็มีการลักลอบชมในรูปต่าง ๆ อยู่แล้ว แต่ทางที่ถูก ควรจะมีหน่วยงานใดหน่วยงานหนึ่ง ที่เกี่ยวข้องในเรื่องนี้ ให้ความรู้ที่ถูกต้อง กับประชาชนทั่วไป เพราะประชาชนส่วนใหญ่ ไม่ใช้นักประวัติศาสตร์ ไม่เข้าใจในประวัติศาสตร์ของตัวเองดีพอ การที่ลักลอบชมหนังเรื่องนี้ อาจจะเกิดการเข้าใจผิด เราต้องให้ความรู้ว่า ส่ิงที่หนังเรื่องนี้นำเสนอนั้น ส่ิงไหนเป็นเรื่องที่ถูกต้อง หรือเป็นความใจผิดของฝรั่ง ที่มองเมืองไทย ประเพณีไทย จากสายตาของคนต่างชาติ เพราะส่ิงที่เป็นจารีตประเพณีของเรา อาจจะเป็นส่ิงที่แปลกประหลาด สำหรับเขาก็ได้ คนในอีกวัฒนธรรมหนึ่ง จะมาเข้าใจ คนในอีกวัฒนธรรมหนึ่ง คงเป็นไปไม่ได้ แต่คนในสังคมนั้น ต้องทำหน้าที่ชี้แจง ให้คนสังคมเดียวกันทราบ ไม่ใช้มาถกเถียงกันว่า ควรฉายหรือไม่ควรฉาย แล้วจบ ไม่ก่อให้เกิดประโยชน์อะไร กับคนในสังคมเลย
สุวิมล วัลย์เครือ <s_wankhkrua.hotmail.com>
- Friday, May 12, 2000 at 00:49:48 (EDT)

ในกรณีที่คนทั้งประเทศไม่ได้ดู แต่คนทั้งโลกได้ดู ทั้ง ๆ ที่ผลเสียเกิดขึ้นกับ ประเทศชาติของเรา โดยที่เราไม่ได้ตอบโต้หรือมีการโต้แย้งใด ๆ เลยนั้นกระพมว่่าไม่ถูกต้อง และปิดกั้น ความเป็นนักต่อสู้ของคนไทย มาตั้งแต่โบราณ เพราะหลักการต่อสู้ต้อง รู้เขารู้เรา รบสิบครั้งชนะสิบครั้ง แต่นี่จะไปรบกับต่างชาติเขา แต่ตัวพู้นำประเทศ จังใช้ความคิดเมื่อร้อยปีที่พ่านมา ตัดสินปัญหา กระพมว่า อย่าคิดไปต่อกรกับเขาเลย แค่คิดก็อยู่ใต้อุ้ง เขาแล้วครับ ขอให้ใช้สมองคิดหน่อยครับ อย่าใช้ อวัยวะส่วนอื่นคิด ประเทศชาติจะได้มีการ พัฒนาไปกว่านี้อีกเยอะ ด้วยความรักประเทศชาติ สุเมธ มามาตย์ วิทยาลัยเทคนิคกระบี่
สุเมธ มามาตย์
- Wednesday, May 10, 2000 at 10:11:43 (EDT)

ยังไม่ได้ดู เลยยังไม่ขอสนับสนุน หรือคัดค้าน ปล่อยให้ผู้รู้ทั้งสองกลุ่ม ตกลงกันได้ก่อน
rabbit
- Wednesday, May 03, 2000 at 06:43:16 (EDT)

น่าจะให้คนไทย พิจารณาหนังเรื่อง anna & the king มิใช่ให้คนกลุ่มใดกลุ่มหนึ่ง ตัดสิน โดยอ้างถึง ความรู้ที่อาจจะมองในแง่ของ เหตุผลของคนนั้นๆ ซึ่งอาจจะเป็นเพียง ด้านเดียวหรือแคบๆ ไม่เปิดใจให้กว้าง หรืออาจจะโดยความลำเอียง ในแง่ของเนื้อเรื่อง ซึ่งเกี่ยวข้องกับ บุคคลที่คนไทยถือว่าเป็น เจ้าเหนือหัว เพราะโดยเนื้อแท้แล้ว คนไทยส่วนใหญ่ ให้ความเคารพใน สถาบันพระมหากษัตริย์ โดยไม่มีข้อกังขาอยู่แล้ว จึงไม่เห็นว่า หนังเรื่องนี้ จะสมควรได้รับการ กีดกันสิทธิในการเสนอ ต่อคนไทย เพราะanna & the king เขียนโดยนางanna leonowen ซึ่งอาจจะมีทั้ง ส่วนที่เป็นจริง และแต่งเติม โดยมุมมองของนางเอง จึงคิดว่า เราควรจะได้รับรู้หนังเรื่องนี้ จากในแง่ของ บทประพันธ์เอง และผู้ที่นำมาสร้าง เพื่อที่จะทำความเข้าใจ ให้ลึกซึ้งถึง เหตุผลที่ว่าหนังเรื่องนี้ ดีหรือไม่ดีอย่างไร ได้อย่างถ่องแท้ ซึ่งคนไทย ถ้ามีโอกาสได้ดู จะได้ตัดสินกันเอง
somsong sudsa-ard <somsong66@hotmail.com>
- Saturday, April 29, 2000 at 12:44:46 (EDT)

จะบิดเบือนผิดเพี้ยนอย่างไร คนไทยวินิจฉัยเองได้ หนังเรื่องนี้ฉายไปทั่วโลก คนไทยส่วนใหญ่กลับอดดู ก็เลยไม่มีสิทธิณู้ ว่าชาวบ้านอื่นๆ เขามองเราอย่างผิดๆ อย่างไร ต่อกรณีที่ว่าถ้าอนุญาตให้ฉายได้ ก็จะเป็นการยอมรับข้อเท็จจริง ผมว่าเป็นความคิดที่ คับแคบเกินไป ให้ตายเถอะ ในฐานะคนไทย ผมควรจะมีสิทธิรู้ว่า ฝรั่ง มันมองเราผิดอย่างไร ถ้ามีโอกาสจะแก้ไข ผมจะได้หาหนทางช่วยแก้
oscar <oscar>
- Thursday, April 27, 2000 at 04:55:26 (EDT)

ได้ดูเรื่องนี้แล้ว ไม่เห็นด้วยเลยที่จะฉาย ในประเทศไทย เพราะหนังเรื่องนี้ เป็นหนังที่ฝรั่งสร้าง ฝรั่งมันก็ยกย่องพวกเดียวกัน ซึ่งถ้าเป็นหนังคนไทย ที่คนไทยสร้าง ก็ย่อมยกย่องคนไทยด้วยกันเอง ฉะนั้น ทั้งบทและกิริยาที่ ตัวแสดงออกมา ไม่เหมาะสมมาก มันดูถูกคนไทย ไม่ให้เกีรยติคนไทย และประเทศไทย
epaw <EPAW@HOTMAIL.COM>
- Thursday, April 27, 2000 at 00:34:45 (EDT)

คัดค้านทั้งการถ่ายทำ และฉายในไทย เนื่องจากก่อนหน้าที่คณะกรรมการ จะไม่อนุญาติให้ถ่ายทำ Anna and The King ได้มีการจัดให้มี การอภิปราย มีทั้งฝ่ายสนับาสนุน, ฝ่ายคัดค้าน และบุคคลอื่น จากที่ได้ดูและฟัง จะเห็นว่า ฝ่ายคัดค้าน มีเหตุผลและยังมีหลักฐานอ้างอิง น่าเชื่อถือกว่า หนึ่งในนั้นเป็น จดหมายเหตุ ของผู้ติดตาม ซึ่งเป็นข้าราชบริพาลในรัชการที่ 5 ระบุว่า ได้ยินแอนนา พูดกับคนสนิทว่า เห็นรัชกาลที่ 5 เป็นกษัตริย์ และร่ำรวยดี จึงอยากได้ทรัพย์สินเงินทอง และนอกจากคุณเศรษฐา ศิระฉายา ก็ยังให้ความด้วยกับ ผู้คัดค้านท่านหนึ่งว่า ทางกองถ่ายภาพยนต์เรื่องนี้ ได้เตรียมสถานที่ในมาเลเซียไว้แล้ว ฉากใดที่ไทย พิจารณาไม่ให้ถ่ายทำ เขาก็สามารถไปสร้างฉากถ่ายต่อที่มาเลเซีย จนได้ตามที่เขาต้องการ ตามหลักการสร้างภาพยนต์ (ในกรณีที่ไทยอนุญาติให้ถ่ายทำ) แค่นี้ก็เพียงพอแล้วที่ ไม่ควรจะให้ภาพยนต์เรื่อง ได้ถ่ายทำ และฉายในไทยแล้ว เพราะมิฉะนั้น ประวัติศาสตร์ จะถูกบิดเบือนไปว่า ที่มีการเลิกทาส, ก่อตั้งกิจการไฟฟ้า ปะปา โทรศัพท์, ก่อตั้งการรถไฟ อันเป็นสาธารณูปโภคที่ใช้ในการ พัฒนาประเทศ เป็นเพราะผู้หญิงที่ชื่อ แอนนา คิดไม่ใช่รัชกาลที่ 5 เป็นคนคิดเอง เป็นการหมิ่นพระบรมเดชานุภาพ ถึงแม้จะอ้างว่า เป็นภาพยนต์ เพื่อความบันเทิง ก็ไม่สมควรอย่างยิ่ง ไม่เหมือนความเห็นของ NGO VS คุณปองพล อดิเรกสาร ยังเห็นไม่ชัดเจน (ไม่ทราบก็ไปหาอ่านเอาเอง) ในเรื่อง The Beach ไม่น่าเชื่อว่า พวกที่สนับสนุน (เท่าที่ดู มีการศึกษาสูงทั้งนั้น) ซึ่งมีเปอร์เซนต์อยู่มาก ไม่มีใครทราบสักคน และยังว่ามีตาและใจ เปิดกว้างกว่าคนอื่น มิน่าประเทศไทย จึงต้องคอยตามก้น ชาติตะวันตกอยู่อย่างนี้ เล่นสงกรานต์ถึงได้เพี้ยนไปขนาดนั้น แม้แต่ วันมาฆะบูชา ยังถูกวันวาเลนไทน์บดบังเลย
จิรัญ พิทยะเวสด์สุนทร <jiran819@hotmail.com>
- Tuesday, April 25, 2000 at 15:04:29 (EDT)

ดิฉันได้ยินเรื่องราวเกี่ยวกับ ภาพยนตร์เรื่องนี้มานานมากแล้ว แต่ว่า ยังไม่เคยได้เห็น ด้วยตาตนเอง ดังนั้น จึงไม่สามารถวิจารณ์ได้อย่างเต็มที่ แต่คิดว่า การที่ห้ามนำเข้ามาฉาย ในประเทศไทยนั้น เป็นการยั่วยุ และกระตุ้นให้คน อยากที่จะดูมากขึ้น ซึ่งจริงๆ แล้ว ถ้ามีการนำเข้ามาฉาย แล้วให้ประชาชนเป็นคนพิสูจน์ว่า เรื่องเป็นอย่างไร ถูกต้องหรือสมควรหรือไม่ ในการนำเสนอเรื่องราว น่าจะเป็นการดี (ถ้าภาพยนตร์เรื่องนี้ ไม่ดีจริงๆ แล้ว ประชาชนชาวไทยส่วนใหญ่ พร้อมใจกันไม่ดู น่าจะให้ความรู้สึกที่ สะใจมากกว่า การปิดกั้นไม่ให้รับรู้เลย จะได้รู้ว่า ภาพยนตรฅ์ต่างประเทศ ก็มีโอกาสเจ๊งได้เหมือนกัน และจะได้รู้ว่า ชาวไทย รักและเคารพบูชา พระมหากษัตริย์ของเรา มากแค่ไหน ส่วนที่มีบางท่าน ให้ความเห็นว่า ถ้านำเข้ามาฉายแล้ว อาจทำให้คนไทยเข้าใจผิดเกี่ยวกับ พระมหากษัตริย์ของเรานั้น ดิฉันยังมีความเชื่อถืออย่างยิ่งว่า อย่างไรก็ตาม สำหรับคนไทยทั้งประเทศแล้ว พระมหากษัตริย์ของเรานั้น เป็นที่เคารพบูชาอย่างสูงสุด ไม่ว่าคนนั้น จะได้รับการศึกษาหรือไม่ก็ตาม คนที่ได้รับการศึกษาดีบางคนเสียอีก ที่มีความคิดที่ไม่เข้าท่า เชื่อถือว่า ต้องต่างประเทศเท่านั้นถึงจะดีที่สุด ของไทยไม่ดี เฮ้อ สมมติว่า มีชาวต่างประเทศคนหนึ่ง ที่ได้ดูภาพยนตร์เรื่องนี้ แล้วมาถามเราว่า บ้านเมืองของคุณ เป็นอย่างนี้จริงหรือ เราจะตอบเขาได้ไหม จะอธิบายให้เขาเข้าใจได้อย่างไรว่า อะไรคือความเป็นจริง ในเมื่อเราเอง ไม่ได้รู้เรื่องราวอะไรกับเขาเลย ดิฉันมีความเห็นว่า คนต่างชาติส่วนใหญ่ ก็ไม่ได้มีความเข้าใจเกี่ยวกับ ขนบธรรมเนียมประเพณีของไทยอยู่แล้ว ถ้าเราสามารถมองเห็น ทั้งในส่วนดีส่วนเสียของเรา รู้ว่าเขามองเราอย่างไร เราน่าจะ สามารถอธิบายความจริงได้ว่า เป็นอย่างไรนะ รู้เขา รู้เรา รบร้อยครั้ง ชนะร้อยครั้ง
ต้น ศิษย์กำแพงแสน <kantiporn@rocketmail.com>
- Friday, April 21, 2000 at 10:56:21 (EDT)

เรื่องนี้ผมได้ดูแล้ว คิดว่า เป็นการสมควรอย่างยิ่งที่ไม่ได้ฉาย ในประเทศไทย โดยเนื้อเรื่อง และ Production ห่วยแตก ใช้ไม่ได้เลย ไม่สมควรที่จะ เอาสถาบันที่เรานับถือนับถือมาทำ อะไรที่มันเป็นการไม่เหมาะสมอย่างนี้
Nathan <natharino@hotmail.com>
- Friday, April 21, 2000 at 07:34:30 (EDT)

สนับสนุน.............. เพราะทุกคน มีสิทธิทางเสรีภาพเท่ากันทั่วโลก เราไม่ควรกีดกัน สิทธิเสรีภาพทางด้านจิตใจจนเกินไป
สุริยา ศักดิ์ไชยสงค์ <123@hotmail.com>
- Thursday, April 20, 2000 at 00:46:58 (EDT)

ควรให้ฉาย ถ้าไม่มีเนื้อหาที่ชัดเจนว่า ทำลายวัฒนธรรมไทย ไม่ส่งเสริมเยาวชนในทางไม่ดี และคนดู สื่อมวลชนจะวิจารณ์ วิเคราะห์ ในเนื้อหา และจะสร้างปัญญาให้เกิดขึ้นด้วยคนดูเอง
ใหม่ ล. <mai.lim@thaimail.com>
- Tuesday, April 18, 2000 at 02:57:38 (EDT)

น่าเสียดายที่หนังเรื่องนี้ ไม่ได้เข้ามาถ่ายทำในเมืองไทย ไม่เช่นนั้น เราคงแก้ข้อผิดพลาดต่างๆ ที่ปรากฎในหนัง ได้มากกว่านี้ ถึงตอนนี้ ไม่ว่าเราจะให้หนังเรื่องนี้ เข้ามาฉ่ายในประเทศไทยหรือไม่ แต่สิ่งที่ไม่ถูกต้องในหนัง ก็ปรากฎสู่สายตาชาวโลกแล้ว
ไม่ประสงค์จะออกนาม <tonkaew@hotmail.com>
- Saturday, April 15, 2000 at 11:52:41 (EDT)

ไม่ให้เข้ามาฉายนั้นดีแล้วครับ เพราะจะเป็นการทำลายสถาบันกษัตริย์ ซึ่งเป็นศูนย์รวมใจของคนในชาติ เป็นผลเสียมากกว่าผลดี โดยเฉพาะถ้าจะให้คนรุ่นใหม่ ภาคภูมิใจในความเป็นชาติไทย เราคงยอมรับว่า มุมองของหนัง อาจมีส่วนที่น่าคิด หรือมีส่วนถูกอยู่บ้าง แต่ถ้าประกาศออกมาเลยว่า เป็นหนังอิงประวัติศาสตร์ และให้เครดิตกับ แหม่มแอนนาจนเลยเถิดว่า มีส่วนในการปรับปรุง แปลี่ยนแปลง และชี้นำประวัติศาสตร์ของชาติ อย่างสำคัญ ก็เป็นเรื่องไม่ถูกต้องอย่างยิ่ง แต่ถ้าประกาศว่า หนังเรื่องนี้ เป็นเพียงนิยาย เรื่องแต่ง ที่บางส่วน อาจมีความจริงปนอยู่บ้าง ก็อาจจะยอมให้ฉายได้
ไวกูณฐ์ <rwaigoon@wu.ac.th>
- Friday, April 14, 2000 at 02:50:17 (EDT)

คนไทย มีวิจารณญาณในการพิจารณาว่า เรื่องใดเป็นเรื่องจริง เรื่องใดเป็นเท็จ มากกว่าที่ คณะกรรมการ ตรวจพิจารณาภาพยนต์เข้าใจ สามารถแยกแยะได้ว่า เรื่องใดเป็นการแสดง เรื่องใดเป็นข้อเท็จจริง อย่างน้อยก็เพื่อที่จะให้คนไทย ได้รู้ถึง มุมมองและการด้อยความคิด ของคนต่างชาติที่ ดูถูก และไม่เข้าใจวัฒนธรรมไทย
นายศักดา ชนะภัย <sakda@vayu.mof.go.th>
- Wednesday, April 12, 2000 at 00:33:37 (EDT)

ประวัติศาสตร์ชองไทย เป็นประวัติศาสตร์ของเจ้านาย ประวัติของชนชั้นสูง ที่เขียนขึ้นโดย มุมมองของชนชั้นปกครอง คนไทยไม่เคยรู้เลยว่า สมัยก่อนมีการกดขี่จาก ชนชั้นศักดินาอย่างไร ไม่รู้ว่าคนธรรมดา เขาเป็นอยู่กันอย่างไร เพราะถูกบังคับ ให้เรียนประวัติศาสตร์ฉบับศักดินา ทั้งยังเป็นประวัติที่คลุมเคลือ มืดมน ทำไมเราไม่เปิดกว้างทางความคิด ยอมรับมุมมองจากที่อื่นๆ จะปิดหูปิดตากันไปถึงไหน
dummy
- Tuesday, April 11, 2000 at 23:16:24 (EDT)

อย่างน้อย ก็ทำให้เราได้ทราบถึง เรื่องราวต่างๆ และทำให้เรา เปิดกว้างมากขึ้น ในการดูภาพยนต์
s2032149 <s2032149@Hcc.ac.th>
- Tuesday, April 11, 2000 at 21:54:13 (EDT)

ไม่น่า มาเถียงกันเลยว่า ควรให้โอกาสประชาชน ได้ดูเรื่องนี้หรือไม่ เพราะว่าอะไรเป็นอะไร ใครๆ ก็รู้กันอยู่ ถึงแม้ว่าจะเป็นเรื่องของ ประวัติศาสตร์ก็ตาม คนไทยสามารถที่จะ อนุมานเอาจาก สภาพการณ์เอาได้ว่า จริงหรือไม่ มากกว่าที่จะมาเถียงกันว่า มันหมิ่นสถาบันใดๆ หรือไม่ เพราะเราก็เห็นสภาพสถาบันนั้นดีในปัจจุบัน ข้าพเจ้าคิดว่า การที่สถาบันใดๆ ก็ตาม ไม่สามารถที่จะ ทนต่อคำวิพากษ์วิจารณ์ได้ สถาบันนั้น ก็ไม่สามารถที่จะอยู่ได้ในสังคมปัจจุบัน
จอมพล
- Tuesday, April 11, 2000 at 07:44:20 (EDT)

ความจริงเราน่าจะเป็นคนสร้างเอง เพราะตัวดิฉันได้ดูเรื่องนี้แล้ว ซึ่งบิดเบือนความจริงเป็นอันมาก ทำให้ประวัติศาสตร์ไทยของเรา ผิดเพี้ยน รวมถึง หมิ่นพระบรมเดชานุภาพถึง 2 พระองค์ เป็นอันมาก คือพระบาทสมเด็จ พระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว และพระบาทสมเด็จ พระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ดูไปได้แค่ครึ่งเรื่อง ก็รู้สึกแย่มาก ทำไมเราต้องให้ฝรั่ง ดูถูกพวกเราคนไทยอย่างนี้ ถึงแม้ว่าเราไม่ได้เป็น ประเทศยิ่งใหญ่ หรือมหาอำนาจ แต่ว่า เราก็ภูมิใจในความเป็นไทยของเราเสมอ หนังเรื่องนี้ ดิฉันไม่คิดจะคัดค้าน ถ้าจะสร้าง เพียงแต่ไม่อยากให้ บิดเบือนความจริง ถึงเพียงนี้ เมื่อได้ดูแล้ว ทำให้ดิฉันเศร้าใจยิ่งนัก แล้วเราจะยอม ให้คนต่างชาติ ดูหมิ่นพระมหากษัติย์ไทย ที่เป็นที่เคารพรัก ของปวงชนชาวไทยถึง 2 พระองค์เลยหรือ ้
สิตานัน ชมภูทิพย์ <sitanan@booknet.com>
- Tuesday, April 11, 2000 at 05:32:32 (EDT)

ดูก็ดี อย่างน้อยเราก็ได้เห็นจริงๆ ว่าฟอกซ์ทำอย่างที่ว่าจริงๆ เพราะที่พูดกันแย้งกัน เรายังไม่เห็นตัวหนังเลย ดิฉันว่า คนไทย ควรมีสิทธิได้ดูอย่างแน่นอน เราจะได้รู้ว่า ฟอกซ์ เค้าทำออกมาในรูปไหน หมิ่นพระบรมเดชานุภาพหรือไม่ ทำให้ประวัติศาสตร์เพี้ยนๆ ให้ชาวโลกได้เห็นหรือไม่ หากเป็นไปได้ เราควรมองในแง่ดีว่า อย่างน้อยเราก็ได้ เห็นว่าฝรั่งคิดเช่นไร ให้คนหมู่มากได้เห็นดีกว่า เอาแต่พวกคำตัดสินของนักวิชาการ สำหรับดิฉัน หากแอนนาแย่จริงๆ ฉันซึ่งเป็นคนชอบดูหนังฝรั่ง อาจต้องคิดอีกรอบ หากจะซื้อตั๋วหนังที่ฟอกซ์สร้าง หรือ ณ จุดนี้ หากมันแย่ๆๆ สุดๆ เราจะได้มีข้ออ้างในการ บอยคอร์ด หนังจากอเมริกาซะเลยเป็นไง ฉะนั้นอย่าปิดกั้น กันดีกว่า เราเป็นประชาธิปไตยนะ แม้จะไม่เสรี ประชาธิปไตยแบบอเมริกา เราควรได้ดู การปิดกั้น ไม่สมควรยิ่งในโลกข่าวสารข้อมูล การปิดกั้นมัน ไม่ประชาธิไตยเล้ย
เล็ก วิภาวี <JazzVlek@yahoo.com>
- Tuesday, April 11, 2000 at 04:11:02 (EDT)

การนำภาพยนต์เรื่องนี้ มาฉายในไทย ก็ไม่แปลก เพราะยังไง ละครคือละคร เราไม่ครวที่จะนำมาโต้เถียงกัน และอีกอย่าง การนำเอาภาพยนต์มาฉาย ให้ประชาชนดูก็ดี ถ้าหากว่า ไม่มีการฉายภาพยนต์เรื่องนี้ ก็จะทำให้มีการซื้อขายมากขึ้น ในเมื่อประชาชนต้องการ เราควรจะสนับสนุน ในการฉายภาพยนต์เกิดขึ้น.... เพราะยังไง มันเป็นเพียงละครเท่านั้น....
tiyarat <tiyarat@hotmail.com>
- Saturday, April 08, 2000 at 10:06:46 (EDT)

การปิดหูปิดตายอมรับ หรือเชื่อสิ่งใดสิ่งหนึ่ง โดยที่ไม่ได้ใช้ ความสามารถของตน ในการพินิจพิจารณา / วินิจฉัยเรื่องราว ด้วยตนเอง คงจะไม่มีใครเรียกว่า เป็นความฉลาด และไม่ใช่สิ่งที่ดิฉันคนหนึ่งละ ต้องการให้คนไทยทุกคน สร้างมันขึ้นมาเป็นสันดาน ทำไมไม่ให้โอกาสคนไทยได้ดู และนำเอาไปคิดว่า คนต่างชาติ เขาบอกเล่าเรื่องราว ประวัติศสาตร์ของเราอย่างไร และเขาเหล่านั้น สมควรหรือไม่ ที่จะได้รับการบอกกล่าว จากเจ้าของประเทศที่มีอยู่มากกว่า 60 ล้าน! จะมีไหมสักคนในจำนวนนี้ ที่รู้ว่า ประวัติศาสตร์ช่วงนั้น เป็นอย่างไร ลุกขึ้นมาบอกกล่าว หรือเราคนไทย จะปล่อยให้เขาเข้าใจผิดไปตลอดชาติ อย่างที่เคยทำมา อย่าลืมว่าตอนนี้ เรื่องราวได้ออกสู่ สายตาของประชาชาติไปแล้ว กว่าค่อนโลก แล้วประโยชน์อะไร ที่หนึ่งชาติผู้ก่อกำเนิดเรื่องราว จะมามัวปิดหูปิดตา ไม่ยอมรับรู้ หรือแม้กระทั่ง พยายามที่จะ แก้ภาพพจน์ของตนเอง อะไรทำนองนี้ น่าจะเกิดขึ้นกับสิ่งที่ไม่มีชีวิต และหยุดคิดไปแล้ว ไปดูเรื่องนี้ที่ UK ยอมรับว่า บางส่วนบิดเบือน แต่อาจจะด้วยการ ขาดการชี้แจง หรืออะไรก็ตามแต่ แต่เรื่องราว ได้สร้างภาพพจน์ที่ดีกว่าตอนที่ ออกมาในรูปของ The King and I มากอยู่ แต่ยังอาจจะ ไม่ดีเท่ากับ ผู้รู้ด้านนี้ของไทยออกมาชี้แจง แทนการปิดหูปิดตา แล้วพูดว่า เรื่องนี้ไม่ดี ไม่มีการนำเข้าฉายในเมืองไทย ประวัติศาสตร์ คือเรื่องราวที่เกิดขึ้น และผ่านไปแล้ว แต่การทำความเข้าใจ และค้นหาข้อเท็จจริง ไม่ใช่ประวัติศาสตร์ เป็นสิ่งที่ควรกระทำอย่างยิ่ง ถ้าหากว่าจะเป็นทางที่สร้างสรร และบอกเล่าความเป็นจริง สู่นานาชาติ หรืออย่างน้อยๆ ก็เป็นการชี้แจงให้เยาวชนของชาติ เข้าใจว่า มีตอนไหน หรือส่วนใดของเรื่องนี้ ที่เป็นการเข้าใจผิด และบิดเบือน ถ้าหากว่ามีส่วนใดที่ สร้างความไม่พอใจให้ กราบขออภัยไว้ ณ ที่นี้ แต่นี่เป็นความคืดเห็นที่ดิฉัน มีสิทธื์แสดง
Oranut Naowakate <oranut@hotmail.com>
- Saturday, April 08, 2000 at 09:06:18 (EDT)

คนไทยควรมีสิทธิที่จะเลือกด้วยตนเอง เป็นสิทธิส่วนบุคคล ไม่ใช่หน้าที่ของรัฐที่ตัดสินใจแทน
ปาหนัน
- Thursday, April 06, 2000 at 02:58:18 (EDT)

ผมได้ดูแล้ว เนื้อเรื่องเบี่ยงเบน แสดงให้เห็นว่า ที่เมืองไทยอยู่รอดมาได้ทุกวันนี้เพราะ แหม่มแอนนาคนเดียวแท้ๆ และเป็นคนสอนให้ เจ้าฟ้าจุฬาลงกรณ์ เป็นคนดีขึ้นมาได้ น่าเชื่อมั๊ยล่ะครับ ถ้าคนดูที่ไม่ทราบประวัติศาสตร์ดูแล้ว อาจเชื่อก็ได้ ไม่ควรนำมาฉายเลยจะดีกว่า
โต้ง
- Wednesday, April 05, 2000 at 13:39:42 (EDT)

ถ้าหากเรายังหลับหูหลับตาในการรับรู้ข่าวสาร จากชาติตะวันตกว่า เขาคิดอย่างไรกับเรา มุมมองของเขาน่าสนใจหรือไม่ ซึ่งหากเป็นเรื่องดี ก็อาจจะนำพัฒนาประเทศ ในโอกาศต่อไป อีกประเด็น เราน่าหันมามองตัวเองว่า ในอดีตเกิดอะไรขึ้นกับ สยามประเทศแห่งนี้ มันตรงกับ บันทึกที่เรามีหรือไม่ ถ้าไม่ตรง มันอยู่ตรงใหน อย่าลืมว่า ประวัติศาสตร์ชาติไทย ก็บิดเบือนเหตุการณ์ต่างๆ มามากมาย จนแทบจะนับไม่ถ้วน แต่ทุกวันนี้ เรายังถือดี ไม่ยอมรับความคิดเห็นของคนอื่นเลย ลองเปิดตาเปิดใจเ ราคงได้อะไรมากกว่า ดื้อรั้นไม่ยอมให้ฉายอยู่อย่างนี้ จนลืมคำกล่าว "ดูหนัง ดูละคร แล้วย้อนดูตัวเรา"
หัสชัย <lek.8@thaimail.com>
- Wednesday, April 05, 2000 at 04:20:17 (EDT)

เห็นด้วยที่จะให้ฉายภาพยนตร์เรื่องนี้ เพราะอยากรู้ว่าหนังทำออกมาเป็นอย่างไร แล้วต่างชาติที่เป็นทั้งคนแต่งเรื่อง ทั้งที่เป็นคนสร้าง เขาคิดอย่างไรกับประเทศไทย สถาบันพระมหากษัตริย์ของเรา จะได้รู้ว่า ที่ออกมาห้ามฉาย และห้ามถ่ายทำในประเทศนั้น สมควรหรือไม่
วันเพ็ญ
- Tuesday, April 04, 2000 at 07:24:58 (EDT)

การที่หนังเรื่องนี้ถูกสั่งห้ามไม่ให้ฉายในเมืองไทย ประเด็นที่น่าสนใจควรจะเป็นว่า หนังเรื่องนี้มีมุมมองเกี่ยวกับ ประเทศไทย หรือ"ความเป็นไทย'แบบไหน,ยังไง? ดูแล้วนำมา พูดคุยถกเถียงกันให้กว้างขวาง..ไม่ใช่ให้คนที่" ทรงคุณวุฒิ " มาตัดสินแทนเราว่าไม่ดี บิดเบือน แล้ววสั่งห้าม มันไม่ใช่วัฒนธรรมที่สร้างสรรค์ในการแสวงหาความรู้ เลย...ไม่เห็นด้วยอย่างยิ่ง
นาย ชีวิน อริยะสุนทร <kratig@excite.com>
- Tuesday, April 04, 2000 at 01:40:03 (EDT)

It's should not banned. silly!!
james <jimmyjames4@excite.c0m>
- Monday, April 03, 2000 at 10:26:20 (EDT)

จริงอยู่ เรื่องนี้มันไม่ค่อยตรงกับ ประวัติศาสตร์ตจริง ๆ ของไทยเท่าไหร่ แต่ว่าเราก็คิดว่า คนไทยมีสมอง พอที่จะแยกได้ล่ะน่า ว่า ตรงไหนเรื่องจริง ตรงไหนเรื่องโม้ (ซึ่งมันก็โม้ซะเยอะ ดูมาแล้ว) ที่จริง ไม่น่าจะแบนตั้งแต่ เค้าขอมาถ่ายในเมืองไทยด้วยซ้ำ แต่ว่าน่าจะอนุญาติ พร้อมกับขอแก้ไขบท เพราะยังงัย เราไม่สามารถห้ามไม่ให้หนังเรื่องนี้ถ่ายทำ แล้วก็ฉายทั่วโลกอยู่แล้ว ไหน ๆ ก็ห้ามไม่ได้ ก็สู้อนุญาติ เพื่อให้แก้ไขได้ ไม่ดีกว่าเหรอคะ (เอ แต่ว่าบ่นไปก็เท่านั้นเนอะ หนังถ่าย จนออกฉาย จนออกจากโรงไปแล้วนิ)
a prayer <a_prayer@yahoo.com>
- Monday, April 03, 2000 at 09:53:59 (EDT)

ผมคิดว่า ถ้าไม่ได้ดูภาพยนตร์เรื่องนี้ ก็ไม่เสียหายอะไร ถ้าทุกคนคิดว่า เป็นแค่ภาพยนตร์เรื่องหนึ่ง เพราะก่อนที่ จะมีการสร้างเรื่องนี้ อยากรู้ว่ามีคนไทย สนใจอ่านหนังสือ เรื่องนี้มากแค่ไหน แต่พอมีข่าวออกมา ทุกคนก็เกิดอาการ อยากดูขึ้นมาทันที แปลกดีเหมือนกัน............
แค่คิด
- Monday, April 03, 2000 at 04:06:19 (EDT)

คนไทยมีสิทธิ์ดูหนังอะไรก็ได้ที่ต้องการดู แต่อยู่ที่วิจารณญาณของ แต่ละบุคคล ที่จะคิดอย่างไรกับหนังเรื่องนั้น ถ้าพิสูจน์แล้วว่าบางตอน หรือบางส่วนในหนังไม่ถูกต้อง ก็ต้องให้ข้อมูลที่ถูกต้องกับประชาชน ไม่ใช่เอาผ้ามาปิดตาไม่ให้ประชาชนดู
tharinee lewchalermwong <tharinee@gohip.com>
- Sunday, April 02, 2000 at 08:27:54 (EDT)

ไม่ให้ดูก็ไม่เป็นไร หนังเกี่ยวกับกษัตริย์ไม่เห็นจะน่าสนใจ ดูหนังโป๊ยังน่าตื่นเต้นกว่า
ประชาชน
- Saturday, April 01, 2000 at 14:14:41 (EST)

เป็นการแสดงที่รับไม่ได้ เกี่ยวกับการแสดงออกต่อ พระมหากษัตริย์ของนางแอนนา
นาย
- Saturday, April 01, 2000 at 07:35:26 (EST)

ทราบจากสื่อเกี่ยวกับหนัง ที่ทำบิดเบือนจากประวัติศาตร์ จนกระทั่งหน่วยงานราชการ ตรวจสอบแล้ว ผลสรุปออกมาว่าไม่สมควร
Mr.Bordin Khongviriyakul <parkmb@hotmail.com>
- Friday, March 31, 2000 at 10:50:02 (EST)

ต้องยอมรับว่า ภาพยนต์เรื่องนี้ สร้างจากนิยายอิงประวัติศาสตร์ มิไช่หนังประวัติบุคคลแต่ประการใด การชมภาพยนต์ จัดเป็นสิทธิพื้นฐาน ที่รัฐไม่สมควรที่จะมาหวงห้าม หรือปฏิเสธ ดังนั้นการห้ามการฉายภาพยนต์เรื่องนี้ จึงถือว่า ไม่สมเหตุสมผล ถึงแม้ว่าจะมี สถาบันพระมหากษัตริย์เข้ามาเกี่ยวข้อง แต่เชื่อเถอะว่า คนไทยที่พอจะมีเงิน และเสียเงิน 100 บาท ก็คงจะมีหัวคิด (อาจจะยกเว้นนักการเมืองบางท่าน) พอที่จะไตร่ตรองอย่างรอบคอบ ก่อนที่จะปักใจเชื่ออะไรสักอย่าง และหากเกรงว่า วัยรุ่นจะไม่เข้าใจอย่างเนื้อแท้ หรือข้อเท็จจริงแล้ว ผมก็เสียใจ เพราะมีความเชื่อมั่นมาโดยตลอดว่า คนไทยหรือเยาวชนไทยด้วยกันเอง คงไม่คิดดูถูก ภูมิปัญญาของคนที่ มีสายเลือดเดียวกันได้ลงคอ
นายจุมพล หมอยาดี <moryadeej@hotmail.com>
- Friday, March 31, 2000 at 04:13:15 (EST)

แบนเป็นสิ่งที่ถูกต้องแล้ว หนังก็คือมายา มีจริงบ้างเท็จบ้าง บางที่เอาสนุกเป็นใหญ่ เราต้องเต้นตามบริษัทสร้างหนังทำไม มาคิดดูใหม่ เราเคยคิดว่า พ่อเราเป็นคนดี เป็นผู้นำเป็นผู้ที่น่าบูชา แลัวมีใครไม่รู้ หน้าตาบ่งบอกไม่ใช้ญาติเรา มาบอกว่า พ่อเราไม่ได้เป็นอย่างที่เราคิด แล้วสิ่งที่หนังนำมาทำ ไม่ใช่แค่พ่อเรา แต่เป็นสถาบันที่อยู่เหนือสิ่งใด ดีแล้วที่แบน ไม่อยากนึกไปว่า ถ้ามีการอนุญาตให้ฉายในเมืองไทย คนไทยจะนึกอย่างไรกับสถาบัน เยาวชนที่เคยเรียนประวัติศาสตร์ จะต้องเกิดความสงสัยในตำราที่เรียน กับหนังว่า อันไหนจริงเท็จ ดีแล้วที่ไม้ให่้ฉายในไทย จะรู้สึกเสียใจมาก ถ้าหนังเรื่องนี้ ได้เงินจากคนไทยแม้แต่บาทเดียว
มาโนช ช่างปรุง <manot_c@hotmail.com>
- Wednesday, March 29, 2000 at 13:16:40 (EST)

ดิฉันได้ชมภาพยนต์เรื่องนี้จาก CD ดิฉันเห็นด้วยกับ ความเห็นของคณะกรรมการ ตรวจพิจารณาฯ ที่บอกว่า ภาพยนต์เรื่องนี้ มีความไม่เหมาะสมหลายอย่าง แต่ดิฉันก็ยังยืนยันสนับสนุน ให้มีการฉายอย่างเปิดเผย แต่ควรมีการชี้แจ้งจุดที่เห็นว่า ไม่เหมาะสมนั้น ที่เหมาะสมควรเป็นอย่างไร ดิฉันเชื่อว่า ยังมีคนไทยรุ่นที่อายุต่ำกว่า 40ปี อีกมาก ที่ยังไม่เข้าใจ ความไม่เหมาะสม ที่พวกคุณกล่าวถึง ในส่วนของเนื้อหาของหนัง เป็นหนังที่ไม่มีเนื้อหาอะไรน่าสนใจเลย ประชาชนควรไทย ควรจะได้ดู และได้ร่วมกันพิจารณาว่า เหมาะสมถูกต้องหรือไม่ เพราะประเทศไทย เป็นประชาธิปไตยแล้วมิใช่หรือ คณะกรรมการฯ ควรลดความเป็นชาตินิยม แบบล้างสมอง ลงบ้าง ลองเปิดตามองดูคนอื่นบ้าง ก่อนที่จะปิดตาคนอื่นไว้ไม่ให้เห็นอะไรเลย นอกจากสิ่งที่พวกคุณหยิบยื่นให้เท่านั้น สนับสนุนให้ประชาชน ได้มีโอกาสดู และออกความคิดเห็น
Sirilak Deesoongnorn <sirilak@ccs.sut.ac.th>
- Wednesday, March 29, 2000 at 03:32:49 (EST)

ไม่ควรฉายครับ ผมหมายถึง การยอมรับให้เข้ามาฉาย อย่างเป็นทางการในโรงภาพยนตร์ ส่วนที่เป็นซีดีเถื่อน ก็สุดแต่ความสนใจของใครครับ ด้วยเหตุผลดังนี้
1.คุณเชื่อหรือไม่ว่า สื่อมวลชนมีอิทธิพลต่อมนุษย์ ผมเชื่อ เพราะสื่อต่างๆ พยายามทำเรื่องไม่จริง หรือจริงบ้าง ไม่จริงบ้าง ให้ดูเหมือนความจริง ลองคิดดูสิครับ ครั้งหนึ่งเราเชื่อว่า เรื่องสนุกนึกนี้ เป็นเรื่องจริง แม้แต่โกโบริ ที่เราก็รู้ว่า คุณทมยันตีสร้างขึ้นมา ก็มีคนพยายาม หาตัวจริงเสียให้ได้ เป็นต้น ในสังคมมีคนหลายกลุ่มครับ แต่ต้องยอมรับว่า คนกลุ่มใหญ่ เขาไม่ได้สนใจประวัติศาสตร์ หรือเป็นนักประวัติศาสตร์ จนกระทั่งสามารถแยกแยะ ข้อมูลทางประวัติศาสตร์ได้ว่า เรื่องใดจริงหรือไม่จริง เมื่อเป็นเช่นนั้น เขาย่อมมีใจเอนในทาง เชื่อเสียก่อนว่า เรื่องที่สร้างมาแล้วนั้น เป็นเรื่องจริง โดยมิใยไพต่อข้อมูลหรอกครับ ถ้าคุณป้าข้างบ้านผม ได้ดูเรื่องนี้ แม้ว่าเธอจะสงสัยว่า ข้อมูลนั้น อาจเป็นเท็จ แต่เธอจะหาข้อมูลจากไหน มายืนยันล่ะครับ แน่ล่ะหลายคนอาจตั้งข้อสังเกตว่า เช่นนั้น เราก็ไม่ต้องดูหนังสักเรื่องหรอก เพราะหนังทุกเรื่อง ล้วนไม่มีเรื่องใดจริงเสียทั้งหมด ไม่ใช่ครับ หนังเรื่องอื่นๆ ที่มีผลต่อสังคมน้อย เราก็อาจละเลยได้ แต่เรื่องบางเรื่อง เมื่อสื่อถึงประชาชนโดยรวมแล้ว จะยังผลร้ายกว่าผลดี ก็จำเป็นต้องคัดค้านครับ
2.การคัดค้านของผม เป็นการคัดค้านการฉายในโรงภาพยนตร์ ที่ออกฉายอย่างเป็นทางการ รัฐยอมรับ และอนุญาตให้ออกฉายได้ ส่วนที่จะมีการลักลอบนั้น ก็สุดแท้ครับ เพราะผมถือว่า การที่รัฐไม่ยอมให้ออกฉาย เป็นการตอบโต้อย่างเป็นทางการ ถึงศักดิ์ที่ชาติเราควรได้รับ แต่ผมไม่เห็นด้วย ที่ห้ามขายซีดี เพราะซีดีอาจวางขายได้ เชื่อเถอะครับ มีเฉพาะคนที่เขาสนใจ เรื่องประวัติศาสตร์ และติดตามข่าวเท่านั้น ที่จะซื้อหามาดู ซึ่งนั่นเขาต้องมีเครื่องกรองมาแล้ว 1 อาจเป็นภูมิหลัง ทางประวัติศาสตร์ หรือผู้สนใจและติดตามเสมอๆ เรียกง่ายๆ ว่าโอกาสโดนหลอกก้น้อยลง
อยากให้ลองคิดดูว่า ประชาชนบางส่วน ซึ่งคงมากพอดู ยังขาดความรอบรู้ และไตร่ตรองเพียงพอ รวมถึงเยาวชนที่ยังมีมีข้อมูลที่ดี และครูที่เชี่ยวชาญคอยกำกับ การได้ชม อาจเหมือน เราเปล่าให้ลูกหลานได้ดู หนังวาบหวิว หรือหนังฆ่าล้างโคตร โดยที่พ่อแม่ไม่ได้ดูแล
ผมขอสนับสนุนให้แบนครับ

เชษฐา แก้วกองศรี <dedtri@yahoo.com>
- Monday, March 27, 2000 at 08:17:35 (EST)

ผมไม่เห็นด้วย ที่จะสั่งห้ามฉายภาพยนตร์เรื่องนี้ ในประเทศไทย เพราะถ้าชาวต่างชาติ มาถามสิ่งที่เขาชมในภาพยนตร์เรื่องนี้ว่า ตอนนี้มีความเท็จจริงหรือไม่ เช่นในสมัยรัชกาลที่ 4 มีรถลากเข้ามาใช้หรือไม่ ซึ่งคนไทย ไม่สามารถตอบได้เพราะ ไม่ได้ดูหนังเรื่องดังกล่าว หากฉายในเมืองไทย แล้วกลัวว่าครูจะเหนื่อย กับคำถามที่เด็กนักเรียนจะถามครูว่า ในเรื่องมีความเท็จจริงเพียงใด แสดงว่าคนห้ามฉาย ยังเชื่อว่า ครูเป็นศูนย์กลางของการเรียนรู้ ผมคิดว่า ความเชื่อดังกล่าวเป็นสิ่งที่แย่ที่สุด เพราะระบบการศึกษาแบบ ครูเป็นศูนย์กลางของความรู้ ทำลายความคิดสร้างสรรค์ และการกล้าแสดงของคนไทย อย่างร้ายแรง ทำให้คิดไม่เป็น แก้ปัญหาไม่เป็นด้วย ผลที่ได้ก็คือ มีแต่คนคอยคัดลอก ท่องจำ เห็นได้จาก การปัญหาการละเมิดลิขสิทธื์ ในประเทศไทย อยู่ในเกณณฑ์ที่สูงมาก คนตกงานเพราะ คอยจะให้แต่มีคนจ้าง ไม่เคยคิดที่จะจ้างตัวเองทำงาน ผมคิดว่า ถ้าหนังเรื่องนี้ ได้ฉายในเมืองไทยแล้ว เด็กนักเรียนไทยถาม ครูก็ควรโยนคำถามที่เด็กถามมา ให้ลองไปศึกษา หาความรู้ด้วยตนเองเสียก่อน แล้วนำมาถกเถียงกัน ซึ่งจะเป็นการเปลี่ยน วิธีการหาความรู้จาก ครูเป็นศูนย์กลาง มาเป็นนักเรียนเป็นศูนย์กลาง
ณัฐศิระ เยาวสุต <ltpeter_y@yahoo.com>
- Friday, March 24, 2000 at 22:08:16 (EST)

ผมเป็นคนนึง ที่ต้องขอสนับสนุน การเข้าฉายของหนังเรื่องนี้ เพราะว่า ผมได้ดูแล้วคิดว่าเนื้อหา... เป็นการดูหมิ่น พระมหากษัตริย์ไทยเป็นอย่างมาก เนื้อหาที่กล่าวถึง เป็นไปในทำนองที่ ดูถูกกษัตริย์ไทย... เพราะอะไรเขาถึงคิดอย่างนั้น จริงรึเปล่าที่เป็นอย่างนั้น จริง ๆ น่าจะให้ประชาชนคนไทย ได้ดู เพื่อช่วยตัดสินใจ ว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนี้ คนต่างชาติเค้ามองคนไทย ว่าเป็นอย่างไร เมื่อเกิดแล้ว เราจะช่วยกันแก้ไข หรือปรับปรุงอย่างไรบ้าง ไม่ใช่ปิดหูปิดตาประชาชนซะทั้งหมด.... อีกหน่อย ก็ไม่ทันประเทศอื่นเค้า... พูดตามตรง CD เถื่อนแอบขายมีเยอะแยะไป...
นาวี มีบรรจง <ping.n@chaiyo.com>
- Thursday, March 23, 2000 at 20:37:34 (EST)

ได้อ่านบทสัมภาษณ์ของ รศ.ปัทมวดี จารุวร แล้วเกิดความสงสัยว่า ท่านได้ดูหนังเรื่องนี้หรือเปล่า เพราะสามารถบรรยาย ลักษณะของตัวละคร ได้อย่างเช่นลักษณะของ โจวเหวินฟะ ถ้าท่านได้ดู ขอแสดงความเห็นว่า ท่านไม่ยุติธรรมเป็นอย่างยิ่ง ไม่ให้คนไทยทั้งประเทศดู แต่ท่านกลับดูเอง เหตุผลที่ให้ อาจจะบอกว่า เพื่อนำมาวิจารณ์ คนเราเมื่อมีความอคติอยู่แล้ว ไม่ว่าจะดูอะไร ผลที่ออกมา ก็จะออกมาในทางลบ ขอให้ท่านฟังนักประวัติศาสตร์ รวมทั้งผู้เชี่ยวชาญ ในศาสตร์สาขาอื่นด้วย
ฐิระนุช ศุภนคร <stiranut@hotmail.com>
- Tuesday, March 21, 2000 at 06:11:03 (EST)

คนดูหนังมีวิจารณญาณพอ ที่จะคิดได้ว่า ส่วนไหนจริงส่วนไหนแต่ง ไม่อยากให้ กรรมการพิจารณาภาพยนตร์ของไทย เป็นคนที่มีความคิดแคบ ถ้าจัดทำในประเทศไทย เราจะได้ประโยชน์มากมาย แต่ยิ่งห้ามอย่างนี้ก็เหมือนยิ่งยุ คนก็อยากดู พอเค้าไปทำที่อื่น ออกมาไม่ดี ก็ว่า อยากให้กรรมการพิจารณาภาพยนตร์ มีคนหัวกว้างอยู่ด้วย ถ้ามีแต่คนคิดได้แค่นี้ ก็น่าสงสารคนไทยแย่
ฐิระนุช ศุภนคร <stiranut@hotmail.com>
- Tuesday, March 21, 2000 at 05:44:10 (EST)

ภาพยนต์ ก็เป็นเพียงภาพยนต์ ครับ เป็นสื่อให้ความบันเทิง ภาพยนต์เรื่องนี้ ก็ไม่ต่างจาก นวนิยายอิงประวัติศาสตร์ ก็เป็นเพียงภาพยนต์ อิงประวัติศาสตร์ ที่ให้ความบันเทิง หากนำภาพยนต์เรื่องนี้เข้ามาฉาย ทางการ หรือนักวิชาการของไทย ก็น่าจะส่งเสริมหรือให้ความรู้หรือข้อเท็จจริงตามประวัติศาสตร์ ผมชื่อว่า เราทุกคนรักสถาบันกษัตริย์ไทย การยอมรับในความคิดที่แตกต่าง ทำให้พัฒนาและสร้างสรรค์ มากกว่าที่จะมองเพียงด้านเดียว ผมอยากให้เข้ามาฉายมาก แม้ว่าผมไม่ได้เป็นนักประวัติศาสตร์ หรือผู้เกี่ยวข้องด้านนี้โดยตรง ผมอยากให้คนไทยได้รู้ว่า ฝรั่งคิดอย่างไรกับเราบ้าง จะได้รู้สึกรักชาติมากขึ้น ถ้าเราคิดว่าเขาทำไม่ถูกเราก็ต่อต้านไป ไม่ใช่ให้ชาติอื่น เขาตัดสินกันเองว่า เราเป็นอย่างไร
ดำเกิงรัตน์ ณ นคร <dnakara@zdnetonebox.com>
- Saturday, March 18, 2000 at 22:33:36 (EST)

ใจเย็นๆ ครับคุณสรญา การเทิดทูนชาติ ศาสนา และพระมหากษัตริย์ เป็นสิ่งที่ดีครับ ผมเห็นด้วย แต่สิทธิและเสรีภาพของประชาชน ก็ควรได้รับการเทิดทูนเช่นเดียวกัน ไม่ใช่พูดอะไรก็หาว่าดูหมิ่น ออกความเห็นอะไรก็หาว่าลบหลู่ คุณทราบได้อย่างไรว่า เขาไม่มีความรักชาติเหมือนกับเรา เขารักชาติเหมือนกับเราครับ แต่เขารักกันด้วยการ เคารพสิทธิและเสรีภาพของคนในชาติครับ ไม่ว่าบุคคลคนนั้นจะเป็น กษัตริย์, นายก, ประธานาธิบดี แม้แต่สัตว์เขาก็ยังให้ความเคารพ เขาถึงได้ไม่มี่การปฏิวัติรัฐประหาร, วันมหาวิปโยค และพฤษภาทมิฬ เหมือนบ้านเราไงครับ หนังเรื่องนี้มันไม่ใช่หนังสาระคดี มันเป็นหนังอิงประวัติศาสตร์ พูดง่ายๆ ถ้าเป็นคนก็เหมือนลูกผสม คนทั่วๆ ไปเขาไม่ไร้สติปัญญาที่จะแยกว่า ส่วนไหนจริงส่วนไหนต่อเติม สุดท้ายอยากจะฝากไว้ว่า "คำเดียวสั้นๆ และมีความหมาย ประชาชนนั่นไง ยิ่งใหญ่ที่สุด"
คนไทยที่อยู่ไกล แต่ยังห่วงใยเมืองไทยเสมอ
- Saturday, March 18, 2000 at 06:46:19 (EST)

คนไทยควรมีสิทธิในการดูหนัง เพราะเนื้อหาในหนัง ก็เป็นส่วนหนึ่งของประวัติศาสตร์ไทย อย่างน้อยก็มีคนไทยอีกหลายคน ที่ยังไม่ทราบประวัติศาสตร์ในช่วงนั้น น่าจะเปิดโอกาสให้คนไทย ได้รับรู้ประวัติศาสตร์ที่ขาดหายไปบ้าง
เจษฎา
- Saturday, March 18, 2000 at 04:46:40 (EST)

ขอคัดค้าน ไม่ควรนำหนังเข้ามาฉายในเมืองไทย และขอประนามผู้สร้างหนังเรื่องนี้ ทำไมจะต้องมาหากินบน ความเครารพศรัทธาของคนอื่น คนไทยมีสิ่งยึดเหนียวจืตใจอยู่ 3 สถาบัน คือชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ เป็นสิ่งที่เราทูนไว้เหนือศีรษะ และเป็นสิ่งที่ยึดเหนี่ยวคนทั้งชาติ ให้อยู่ร่วมกันอย่างสงบ ร่มเย็น มาโดยตลอด คนต่างชาติมันไม่มีสำนึกในความรักชาติ ศาสนาและพระมหากษัตริย์ของมัน เพราะเป็นประเทศที่ไม่เคยมีพระมหากษัตริย์ ไม่มีความรักผูกพันต่อสถาบันชาติเหมือนคนไทย สังเกตุง่ายๆ คุณลองเดินไปตามบ้านของคนไทย ถ้าคุณเข้าไปดูในบ้าน คุณจะพบว่า แทบทุกบ้านโดยเฉพาะในชนบท จะมีหิ้งพระ ธงชาติ และพระบรมฉายาลักษณ์ ติดอยู่บนที่ที่สูงที่สุดของบ้าน ไว้สำหรับเคารพบูชา นั่นเป็นสิ่งยืยยันได้อย่างดี ว่าเราผูกพันกับ พระมหากษัตริย์ของเรามาก ในภาพยนต์ ที่อ้างอิงถึงพระมหากษัตริย์ของเรา (โดยเป็นKในราชวงศ์ปัจจุบันด้วย) ในแง่ลบ และยังมีการนำสถานที่สำคัญๆ เช่น พระที่นั่ง... หรือเหตุการณ์ต่างๆ ที่เกี่ยวกับพระราชพิธีต่างๆ มาถ่ายลงในภาพยนต์ ดิฉันเห็นในครั้งแรก รู้สึกโกรธมาก และแค้นใจ ว่าทำไมถึงทำกันถึงขนาดนี้ มาทำลายเราทางเศรษฐกิจก็แล้ว ทำลายเราทางวัฒนธรรมก็แล้ว กอบโกยผลประโยชน์จาก ทรัพยากรในประเทศไปเท่าไร เราทนได้ แต่จะมาลบหลู่พระมหากษัตริย์ของเราอย่างนี้ เรายอมไม่ได้ สำหรับคุณๆ ที่คิดว่า ต้องการอิสระเสรีทางความคิด และการตัดสินใจ ซึ่งดิฉันก็ต้องการเหมือนกัน ลองคิดดู ถ้าคุณได้เข้าไปดู หนังที่นำมาฉายแล้ว และผลการตัดสินใจของคุณพบว่า มันเป็นบวกหรือลบก็แล้วแต่ ในสุดท้าย เขาก็รับเงินของคุณไปแล้ว การนำหนังเข้ามาฉาย เหมือนการเข้ามาตีหัวกัน แล้วยังไม่พอ เรายังขอบคุณเขาด้วยการ ให้เงินเขาไปอีกเป็นกอบเป็นกำ เราไม่ได้เป็นควายนี่ เป็นคุณคุณยอมได้ไหม
สรญา <spomjan@thaimail.com>
- Saturday, March 18, 2000 at 02:40:54 (EST)

สิทธิิในการตัดสินใจ เพื่อเลือกที่จะ รับหรือไม่รับสื่อใดๆ นั้น น่าจะมาจากประชาชน มากกว่าจะให้ กลุ่มบุคคลใด มาตัดสินใจแทนเรา ว่าจะให้ดูเรื่องนี้ ไม่ให้ดูเรื่องนั้น บางทีการตัดสินใจของ กองเซ็นเซอร์ ในการอนุญาติให้ภาพยนตร์มาฉาย บางครั้งก็เกิดคำถามถึง หลักเกณฑ์ที่ใช้ ภาพยนตร์บางเรื่อง เต็มไปด้วย sex และการใช้ความรุนแรง แต่เราก็อนุญาติให้ฉายได้ในวงกว้าง และภาพยนตร์เหล่านี้เสียอีก ที่กลับจะมีผลกระทบกับประชาชนได้มากว่า เพราะว่าเป็นเรื่องที่ดูเหมือนจะ ซึมซับและเลียนแบบได้ง่าย แต่ในขณะเดียวกัน ภาพยนตร์บางเรื่องซึ่งน่าจะมีประโยชน์กว่า ดูแล้วพอจะคาดหวังได้ว่า มีอะไรให้ดูมากกว่าความรัก ลูกปืนและ แฟชั่น เราก็เมินเสีย หรือว่ากลัวว่าคนไทย จะดูภาพยนตร์ดีไม่รู้เรื่องหนอ...
ekasart sappachang <bond007@poppymail.com>
- Friday, March 17, 2000 at 00:42:44 (EST)

ผมคิดว่าการนำหนังเรื่องนี้เข้ามาฉาย จะเป็นส่งที่ดีมากเพราะ เราสามารถนำประเด็นที่เกิดขึ้น มาร่วมกันพิจารณา และ ทำให้เราได้เรียนรู้ถึง ประวัติศาสตร์(บางเรื่อง) เช่น
1. อัจฉริยะภาพของพระมหากษัตริย์ ที่มองเห็นถึงความสำคัญของ ภาษาอังกฤษ และวิทยาศาสตร์ สามารถมอง และวิเคราะห์บุคคล ได้อย่างละเอียดลึกซึ้ง
2. มุมมองของประเทศล่าอาณานิคม ที่มองประเทศไทยเป็น บ้านป่าเมืองเถื่อน เพื่อใช้ในการยึดแผ่นดินไทย ที่เราได้ได้กล่าวถึง ในการศึกษาสังคมศึกษา เป็นต้น
ควรให้ประชาชนได้ดู และวิเคราะห์ เพราะเราไม่ได้โง่ (เห็นอะไรเชื่ออย่างนั้น)

Pipat M. Imjit <p_imjit@hotmail.com>
- Thursday, March 16, 2000 at 02:28:35 (EST)

น่าจะเข้ามาฉายครับ เพราะผมอยากดู และผมมี"สิทธิ" และ"เสรีภาพ" ที่จะดู ส่วนผมจะคิดอย่างไร หรือรู้สึกอย่างไร ต่อสิ่งที่ผมได้ดู คณะกรรมการ ไม่มี "สิทธิ" มาตัดสินใจแทนผม
Flicky <flickyp@hotmail.com>
- Tuesday, March 14, 2000 at 17:05:06 (EST)

I agree with Ajarn Charnwit. People involved in this matter should respect Thai people's judgement. Let us decide if the movie presents the country's history accurately or not. Thai people should have the rights to decide if the movie is a source that we can trust or not. I am sure there are a lot of other sources regarding the Thai history that even the committee members who banned the movie are not aware of. The world has changed so much that even kids know things that adults think they do not know because they have access to various sources of information. In my view, whether the movie represents the accurate picture of the Thai history or not is not as important as whether Thai people are interested in learning about the history of our own country, and exposing ourselves to various sources (e.g., books, magazines, documentaries, movies). Importantly, we should be critical about the information that we receive. Critical thinking is the key to move us to the next level. It is unfortunate that we don’t even have a chance to see this movie and decide to agree/disagree or even defend the reputation of our country.
Nantavit P. <nicop11@hotmail.com>
- Monday, March 13, 2000 at 22:49:44 (EST)

ไม่ควรนำมาฉาย เพราะคิดว่า นักเขียนที่ดี ควรจะเคารพต่อสิ่งที่นำมาเขียน ไม่ควรบิดเบือน เหมือนไม่มีจรรยาบรรณ ถึงจะมองว่าเป็นแค่นิยาย แต่ก็ทำให้เกิดความเชื่อผิดๆ ได้ ทำไมเวลาที่ฝรั่งทำภาพยนต์เรื่อง "บัญญัติ 10 ประการ" หรือ "สปาตาคัส" ทำไมถึงมีการศึกษาอย่างมาก กว่าจะสร้างได้ แสดงถึง ภาพยนต์ที่อิงประวัติศาสตร์อย่างแท้จริง ไม่เหมือนแอนนา ที่เป็นใครก็ไม่รู้ แค่เขียนหนังสือ อ่านแล้วสนุก สร้างแล้วดังได้เงิน ก็ไม่สนใจอะไร ส่วนคนที่จะแอบดูหรือไม่ก็ตาม ผมคิดว่า ไม่มีผลกับคนไทยเท่าไร เพราะส่วนใหญ่ทราบถึง ความดีของพระมหากษัตริย์ไทยดีอยู่แล้ว แต่ที่คัดค้าน ไม่ให้เข้ามาฉายที่ไทยเพราะ ไม่อยากสนับสนุนบริษัท ฟ็อกซ์ เพราะถ้าฉาย ก็จะกลายเป็นเราเห็นด้วย และยังให้เงินเขาไปสร้างเรื่องใหม่อีก (ได้ข่าวว่าจะสร้างเรื่อง "คิง นเรศวร" อีก) ถ้าเราไม่ดู เขาก็จะรู้ว่า หนังแนวนี้ไม่มีคนดู ก็คงจะไม่หน้าด้านสร้างอีกครับ เพราะสร้างแล้วไม่มีกำไร
ขอบคุณมากครับ

ปริญญา เลิศสุวรรณสิทธิ์ <nipparn@access.inet.co.th>
- Monday, March 13, 2000 at 01:30:28 (EST)

All Thais should have every right to see this movie. And then, depend on the size of your brain, judge it.
Suteera <Pirom2@aol.com>
- Sunday, March 12, 2000 at 23:26:46 (EST)

Dear Prof.PAT Ta ma wa dee, How about the whole word see that film and recived the message, but Thai people dont. What we gonna do if some foreignes come to some thai ppl and ask about the fact or opinions of the film.
I am here in LA and have seen the film and have been ask about the movie from my classmate and friends. I able to discuss and inform them, but if someone in Thailand who never have chance to see the movie. How they gonna give their openion or discuss and defence? Well, I think you also not agree with allowing the Beach filming in Thailand as well. Make sure that you understnad clearly between Romances, novels and documentary. I think in this momoent ppl in Thailand able to make up their mind and use their own judgement in some curtain levels.
Lets open youreyes widely and thing more complex.
Sincerely,
PS, I like to have the words from DR, Ni ti Ew See Wong, History Dept. ,Chiangmai U.
How about mark rate on the film like they do in others countries?

Worawudh Chotikul <Siamwoody@aol.com>
- Sunday, March 12, 2000 at 12:46:43 (EST)

ไม่ควรฉาย เพราะว่าเหตุผล ของคำว่า "ชาตินิยม"
สิทธิ <surasitd@hotmail.com>
- Friday, March 10, 2000 at 11:22:43 (EST)

เห็นใจกรรมการที่แบนหนังเรื่องนี้ หากเป็นสมัยเก่าๆ แล้วมีหนังที่ล้อเลียนพระมหากษัตริย์เช่นนี้ แล้วกรรมการปล่อยให้เข้าฉาย อาจถึงขั้น ถูกประหาร 7 ชั่วโคตร การไม่นำหนังเข้ามาฉาย ไม่มีใครได้ดู ก็ไม่เดือดร้อน ไม่ชักดิ้นชักงอ แต่ถ้ากรรมการปล่อยเข้ามา ก็ไม่แน่ สวัสดิภาพของ กรรมการ อาจเป็นอันตราย หากหนังเรื่องนี้ นำญาติ ที่คุณๆ รัก มาล้อเลียน ทำตัวซื่อๆ เซ่อๆ คุณก็อาจจะรับไม่ได้เช่นกัน และนี่เป็นถึงพระมหากษัตริย์เชียว อันนี้พูดจากมุมมอง คนที่ไม่ได้อ่าน และดูหนังเรื่องนี้ แต่โดยสิทธิ และเสรีภาพแล้ว คิดว่าควรนำมาฉาย และให้ความรู้ว่า บันเทิง ก็คือบันเทิง ไม่ใช่ประวัติศาสตร์ อีกเรื่องที่สงสัยมาก ทำไม ธุรกิจภาพยนตร์ ซึ่งเราต้องนำเข้า จากต่างประเทศ ทั้งโรงฉาย เครื่องฉาย อุปกรณ์รายรอบอื่นๆ อีกมากมายที่ต้องซื้อ เป็นการเสียเงินออกนอกประเทศ อย่างมหาศาล แต่ไม่เคยมีใคร หรือสื่อใด นึกถึง หรือตำหนิ การเสียเงิน ในภาวะเช่นนี้กันเลย
นายไร้สาระ
- Thursday, March 09, 2000 at 08:27:01 (EST)

ควรนำมาฉาย แต่ควรมีประชาสัมพันธ์ใน รายละเอียดว่า "ไม่ใช่เหตุการณ์ประวัติศาสตร์ เป็นเพียงภาพยนตร์ และควรให้ความรู้หน้าโรงว่า เหตุการณ์ใช่การปิดหูปิดตา ไม่ให้รับทราบข้อมูลข่าวสารเช่นนี้ และอีกประเด็นหนึ่ง ถ้าหากหนังเรื่องนี้ ไม่ได้ฉายในเมืองไทย ในขณะที่ทั่วโลก เขาดูกัน คนไทยไม่รับทราบว่า เขาคิดอย่างไรกับ พระมหากษัตริย์ไทยของเรา แล้วเราจะสามารถ แก้ความเข้าใจให้ถูกต้องได้อย่างไร คุณสามารถไม่ให้ฉายในเมืองไทยได้ แต่คุณสามารถ ห้ามไม่ให้เขาฉายที่อื่นหรือเปล่า ก็เปล่า เมื่อไม่รู้เขา แล้วจะรบชนะได้อย่างไร ถ้าคุณเห็นว่า หนังเรื่องนี้ ผิดไปจากประวัติศาสตร์จริง หน้าที่คุณ (หรือเรา) คือต้องพยายาม อธิบายสิ่งที่ถูก ต้องป้องกัน (ซึ่งสายเกินกว่าจะทำได้แล้ว) มองในอีกแง่มุมหนึ่ง ถามตัวเองว่า เมื่อเราดู หนังประวัติศาสตร์ของชาติอื่นสักเรื่อง เราเชื่อ 100% หรือไม่ว่า นั่นคือเรื่องจริง คงไม่มี เช่นเดียวกัน คนที่ดูหนังเรื่องนี้ ซึ่งเป็นต่างชาติ (เพราะเขาห้ามฉายในไทย ยกเว้นพวกแอบดูจาก VCD เถื่อน) เขาก็ไม่ได้คิดว่า เรื่องนี้ เป็นเรื่องจริงแน่นอน ใจกว้างหน่อยสิคะ ท่านคณะกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิทั้งหลาย
หทัย <hathaicp@cementhai.co.th>
- Wednesday, March 08, 2000 at 09:27:25 (EST)

สนับสนุน หรือ คัดค้าน สิทธิคนไทย กับการดูหนังเรื่อง Anna and the King
มหาวิทยาลัยนอกระบบ
นกปรอดหัวโขน   เสียงขับขาน จากกรงเลี้ยง

สารบัญ | จากบรรณาธิการ | Y3K จะเป็นอย่างไร
ตำนานแห่ง ไวกิ้งหญิง | ซองคำถาม | เฮโลสาระพา
Famtrip to Malaysia-Singapore
Wetlands: The "Smooth" Life at Three Hundred Peak Water Plain

สำนักพิมพ์ สารคดี | สำนักพิมพ์ เมืองโบราณ | วารสาร เมืองโบราณ | นิตยสาร สารคดี
[ วิริยะบุคส์ | มีอะไรใหม่ | เช่าสไลด์ | ๑๐๘ ซองคำถาม | สมาชิก/สั่งซื้อหนังสือ | WallPaper ]

ขึ้นข้างบน (Back to Top) นิตยสาร สารคดี (Latest issue) email