Page 190 - Skd 298-2552-12
P. 190
หากมเี วลาไมพ่ อ ขี่ม้าเทย่ี วบริเวณชมรมฯ ได้
เร่อื ง : มธุกร ทองโสภา ภาพ : วิจติ ต์ แซ่เฮง้ ขี่ม้าพนื้ ถิ่น เที่ยว
จะสนกุ แค่ไหนหนอ ถา้ เปลยี่ นมาขม่ี า้ เท่ียวแทนขับรถรา...
ท่ีชมรมอนุรักษ์ม้าพันธุ์พื้นบ้าน อ. สิรินธรแห่งน้ี นอกจาก
จะได้ขี่ม้าเท่ียวแล้ว เรายังจะได้รู้จักม้าพันธุ์พ้ืนบ้านที่ชาวบ้าน
เคยใช้เป็นพาหนะ ชมรมน้ีก่อต้ังเม่ือ พ.ศ. ๒๕๓๑ โดย ชูชาติ
วารปรดี ี ประธานชมรมฯ เปน็ ผบู้ กุ เบกิ ดว้ ยเหน็ ความสำ� คญั ของ
ม้าพื้นบ้านท่ีนับวันมีแต่จะลดน้อยสูญหายไปจากชุมชน เขาจึง
ชักชวนเพ่ือนฝูงให้มาเลี้ยงม้าพันธุ์พื้นบ้านจนสามารถรวมกลุ่ม
จัดตั้งเป็นชมรมข้ึนมา ปัจจุบันมีม้าในชมรมฯ รวมทั้งหมด ๓๔
ตัว บนพื้นที่กว้างขวางราว ๒๗ ไร่
ม้าพันธุ์พ้ืนบ้านใน อ. สิรินธร มีลักษณะเด่นคือมีความ
สงา่ งามแมต้ วั จะไมใ่ หญน่ กั แบง่ ไดเ้ ปน็ ๓ ขนาด ไดแ้ ก ่ ขนาดเลก็
ท่ีบริเวณข้อเท้าท้ังส่ีของมันมีขนยาวมองดูคล้ายกางเกงขาบาน
ขนาดกลาง และขนาดใหญ่ซึ่งมลี ักษณะเด่นคือมหี นวดยาว
ทางชมรมฯ มีกจิ กรรมขม่ี ้าเพือ่ การทอ่ งเทย่ี ว ๓ เส้นทาง
เส้นทางแรก เริ่มจากท่ีท�ำการชมรมฯ ไปจนถึงแก่งตะนะ
ระยะทางราว ๑๐ กม. ใช้เวลา ๑ วัน นักท่องเที่ยวจะได้เห็น
ธรรมชาตริ มิ ฝง่ั แมน่ ำ�้ มนู ระหวา่ งทางไปอทุ ยานแหง่ ชาตแิ กง่ ตะนะ
ไดช้ มผาผงึ้ และนำ�้ ตกรากไทร สถานทท่ี พ่ี บศลิ าจารกึ ของพระเจา้
จติ รเสน ชว่ งปลายฝนตน้ หนาวจะไดเ้ หน็ ทงุ่ ดอกไมบ้ านเตม็ ลานหนิ
194 นิตยสารสารคดี ฉบับที่ ๒๙๘ ธันวาคม ๒๕๕๒