|
|
|
วันชัย ตัน /
ภาพประกอบโดย DIN-HIN |
ทายสิว่า หากหล่อนและเขาต่างหลงทางเข้าไปในพื้นที่ที่ไม่รู้จักมาก่อน ใครจะเป็นคนนำทาง
|
|
|
เมื่อเร็ว ๆ นี้มีการศึกษาพบว่า
ผู้ชายที่หลงทางจะหาทางออกจากสถานที่ที่ไม่รู้จักได้รวดเร็ว
และง่ายดายกว่าผู้หญิง
ก่อนหน้านี้เคยมีงานวิจัยที่ชี้ว่า ผู้หญิงกับผู้ชายใช้วิธีการจำทิศทางต่างกัน
และเขาและหล่อน
ยังใช้สมองคนละส่วนในการจำทิศทางด้วย
ดร. แมตทิส ริปพ์ แห่งมหาวิทยาลัยอูลม์ในประเทศเยอรมนี ได้ทำการสแกนสมองของอาสาสมัครผู้หญิง ๑๒ คน ผู้ชาย ๑๒ คน
ในขณะเล่นเกมสามมิติ
เพื่อหาทางออกจากเขาวงกต โดยอาสาสมัครจะกดปุ่มซ้าย ขวา หรือเดินหน้า เพื่อหาทางออกจากเขาวงกต
ปรากฏว่าผู้ชายสามารถหาทางออกจากเขาวงกต
ได้โดยใช้เวลาเฉลี่ย ๒ นาที ๒๒ วินาที ส่วนผู้หญิงใช้เวลาเฉลี่ย ๓ นาที ๑๖ วินาที ซึ่งสอดคล้องกับการศึกษาชิ้นเก่า ๆ ที่ระบุว่า
ผู้ชายและสัตว์ตัวผู้
จำทิศทางในสภาพแวดล้อมที่ไม่เคยรู้จัก
ได้แม่นยำกว่าผู้หญิง
ผลการสแกนสมองพบว่า ทั้งสองเพศใช้สมองส่วนเดียวกัน แต่ก็ยังมีข้อแตกต่างกันอยู่บ้าง
ข้อแรก เกี่ยวกับสมองส่วนฮิปโปแคมปัส ซึ่งมีรูปทรงคล้ายกล้วยที่ฝังอยู่ในสมอง หน้าที่หลักของมันก็คือนำทาง เมื่อเร็ว ๆ นี้นักวิทยาศาสตร์พบว่า
ฮิปโปแคมปัสของคนขับแท็กซี่ในกรุงลอนดอน
มีการเปลี่ยนแปลงอย่างสำคัญ
ซึ่งน่าจะเป็นผลมาจากอาชีพของเขา
บังคับให้ต้องมีความเชี่ยวชาญในการนำทางมากเป็นพิเศษ
คนเราจะมีฮิปโปแคมปัสอยู่ที่สมองทั้งสองด้าน
ทั้งหญิงและชายจะใช้ฮิปโปแคมปัสที่อยู่ทางด้านขวา
ในการค้นหาทิศทาง แต่เพศชายจะใช้ฮิปโปแคมปัสที่อยู่ข้างซ้ายช่วยด้วย ในทางกลับกัน ผู้หญิงจะใช้สมองอีกส่วนคือคอร์เท็กซ์ ที่อยู่ด้านขวาสำหรับช่วยนำทาง แต่ไม่พบว่าผู้ชายใช้สมองส่วนนี้ |
|
|
นี่เป็นการชี้ให้เห็นความแตกต่างของเขาและหล่อนในการหาทางออก
งานวิจัยสมัยก่อนบอกว่า ผู้หญิงอาศัยสถานที่สำคัญเป็นเครื่องช่วยนำทาง อาทิ ถึงเซ็นเตอร์พอยต์ แล้วเลี้ยวขวา เลี้ยวซ้ายอีกทีหน้าลิโด้ ในขณะที่ผู้ชายจะใช้ทิศทางหรือลักษณะทางภูมิศาสตร์เป็นตัวกำหนดเหมือนคนที่เขียนแผนที่ เช่น ตรงไปข้างหน้าจะเป็นพิพิธภัณฑ์
สมองส่วนคอร์เท็กซ์ของผู้หญิง
น่าจะมีส่วนช่วยในการลำดับสถานที่ตามรายทางให้พวกหล่อน
ส่วนการทำงานของเจ้าฮิปโปแคมปัส
จะหนักไปในทางภูมิศาสตร์--
เป็นสมมุติฐานของนักวิจัย
ดร. ริปพ์ เจ้าของงานวิจัยชิ้นนี้ไม่สามารถบอกได้ว่า
ความแตกต่างในการใช้สมองของทั้งสองเพศ
เป็นผลมาจากการเรียนรู้ ฝึกฝน หรือเป็นไปโดยธรรมชาติ แต่เขาคาดว่าน่าจะเป็นอย่างหลังมากกว่า เพราะเขาพบความแตกต่างนี้จากการทดลองกับหนูเช่นกัน
ดร. ไดแอน ฮอลเพิร์น นักจิตวิทยาแห่งมหาวิทยาลัยแคลิฟอร์เนีย ซึ่งเชี่ยวชาญด้านความแตกต่างระหว่างเพศบอกว่า
ความแตกต่างในการทำงานของสมองระหว่างเพศหญิงกับชายนั้น
พบได้ในกิจกรรมอื่น ๆ ด้วย เช่นการอ่านหนังสือ
เธอบอกว่าสมองของผู้หญิงมีความสามารถเหนือกว่าชายในงานบางอย่าง เช่น การสร้างคำ/หาคำ ที่กำหนดอักษรขึ้นต้นมาให้ ดังนั้นจะมาสรุปง่าย ๆ ว่าผู้ชายฉลาดกว่าผู้หญิงไม่ได้
อย่างไรก็ตาม ดร. ริปพ์ได้ทิ้งท้ายไว้ว่า ปริศนาประการหนึ่งที่เขาไม่สามารถอธิบายได้ คือ ในระหว่างการเดินทาง เมื่อรู้ว่าตัวเองหลงทางแล้ว ทำไมผู้ชายถึงมีอาการปากหนัก ไม่ค่อยยอมเอ่ยปากถามใคร แต่รั้นจะหาทางเอง ซึ่งต่างจากคุณผู้หญิงที่มักเอ่ยปากถามมากกว่า
ใครทราบวานบอกที
|