Click here to visit the Website
เ ฮ โ ล ส า ร ะ พ า | ||
|
.....พี่มากขา... เอ๊ย ! คุณที่รัก ......ช่วงเวลาของแดดจ้าฟ้าใส ในฝรั่งเศส ที่กินเวลาตั้งแต่ ราวกลางเดือน มิถุนายน จนถึง ราวกลางเดือน กันยายน กำลังจะผ่านไปอีกครั้ง ......ทีละนิด ๆ อย่างไม่ทันรู้สึกตัวว่า จุดเริ่มต้นอยู่ที่ไหน "หมูอมตะ" ก็หลงรัก ฤดูกาลนี้ เข้าเต็มหัวใจ โธ่ ! คุณ มันไม่มีเวลาไหน ของปีอีกแล้ว ที่สาว ๆ จะแต่งตัว ด้วยเสื้อผ้าน้อยชิ้น ชวนให้ เจริญตาเจริญใจ ยิ่งนัก และถ้าคุณ เป็นผู้หนึ่ง ที่หลงใหล ดอกไม้เมืองหนาว นี่เป็นช่วงเวลา ที่ดีที่สุด เช่นกัน ในการเสพความงาม ของดอกไม้ สีสันเจิดจ้า ที่ยึดครองเมือง อยู่ตลอดฤดูกาล ......คนฝรั่งเศส ไม่ปล่อยให้ การตกแต่ง ประดับประดาเมือง ด้วยดอกไม้ สีสันสดใส ตกอยู่ในมือของทางการ แต่ฝ่ายเดียว หากเขาถือเป็น "งานแห่งความรัก" ด้วยเช่นกัน ที่ทุกคน จะขวนขวาย หาดอกไม้ นานาพันธุ์ มาตกแต่งหน้าบ้าน หรือหน้าต่าง เพื่อยังความ ชื่นตาชื่นใจ แก่ผู้อาศัย และผู้ผ่านทาง ......เมื่อหน้าร้อนมาถึง เราจึงได้เห็น ดอกไม้ ครองประเทศนี้ ชนิดที่ เดินไปทางไหน คุณจะได้เห็น สีเจิดจ้า ของดอกไม้ อยู่ในสายตาเสมอ ทั้งนี้ ไม่ต้องกล่าวถึง สวนสาธารณะ ที่เป็นแหล่ง "ของตาย" ในการได้ชื่นชม ดอกไม้ "หมูฯ" เคยอึ้งมาแล้วกับ การนำศิลปะ มารับใช้ ชีวิตประจำวัน ฝีมือนักจัดสวน ของประเทศนี้ ...คือ"หมูฯ"เห็น ไม้ใหญ่ต้นหนึ่ง แต่ไกล รู้สึก มันสวยแปลก ๆ ค่าที่มัน ให้ดอกหลากสี อย่างไม่น่าเชื่อ ต่อเมื่อเข้าใกล้ จึงรู้ว่า เขาเอาไม้ดอก หลากสี นับร้อย ๆ กระถาง เรียงต่อกัน เป็นรูปต้นไม้ใหญ่ ......สิ่งที่มาพร้อมหน้าร้อนคือ การลดราคาสินค้า ของร้านค้า ทั่วประเทศ ที่โน่น เขาลดราคากัน เป็นเรื่องเป็นราว ปีละสองครั้ง ครั้งแรก ปลายเดือนมกรา ต่อกุมภา อีกครั้ง ปลายเดือนกรกฎา ต่อสิงหา ครั้งแรก ลดเพื่อโละ สินค้าหน้าหนาว อีกครั้ง ลดเพื่อโละ สินค้าหน้าร้อน ......การลดราคาของเขา หาได้มีกลเม็ด อย่างห้างสรรพสินค้า ของเราไม่ ที่โฆษณาชวนเชื่อ ว่าลดกระหน่ำ ๕๐-๘๐ เปอร์เซ็นต์ แต่ก่อนลด ก็แอบ ขึ้นราคาสินค้าเสียก่อน ใครไม่รู้ ก็นึกว่า สินค้านั้น ลดเต็มเปอร์เซ็นต์จริง ๆ การลดราคา ของเขานั้น สามารถดูดเงิน จากกระเป๋าเรา ได้ง่ายมาก เขาแบ่งการลดราคา เป็นสองจังหวะ จังหวะแรกลดราว ๒๕-๔๐ เปอร์เซ็นต์ หากยังระบาย สินค้า ได้ไม่ดีพอ ก็ขึ้นป้ายลดราคา ครั้งที่ ๒ ครั้งนี้ ลดราว ๔๐-๘๐ เปอร์เซ็นต์ ......และอีกสิ่งที่มาพร้อมหน้าร้อน ก็คือ การพักร้อน เดือนที่คนขี้ร้อน ต้องการพัก มากที่สุดคือ เดือนสิงหาคม ซึ่งโรงเรียน ปิดเทอมพอดี ลาได้ถึง คนละ ห้าอาทิตย์ ต่อปี แต่ในทางปฏิบัติ พี่เศส ก็ไม่อาจ ลารวดเดียวได้ เพราะเพื่อนร่วมงาน คนอื่น ก็จ้องจะลา อยู่เหมือนกัน ดังนั้น จึงต้อง พบกันครึ่งทาง คือผลัดกันลา คนละสองอาทิตย์ วันต้นเดือน กลาง และปลายเดือน การจราจรในฝรั่งเศส จึงคับคั่งมาก เพราะเป็น วันแห่งการเดินทาง ไปกลับ จากการพักผ่อน |
|
......ผู้โชคดีได้รับหนังสือ เบี้ย บาท กษาปณ์ แบงค์ เป็นของรางวัล ได้แก่ |
......พี่เศส นิยมไปพักร้อนที่ไหนกัน ?
คนฐานะดี และไม่ค่อยจะดี นิยมไปชายทะเลจ้ะ
ส่วนคนฐานะปานกลาง นิยมไปพักร้อน ตามชนบท
"หมูฯ" มีโอกาส เห็นชายทะเล ด้านทิศเหนือ
ของฝรั่งเศส แม้ไม่โด่งดัง และสวยงาม เท่าทะเล
เมดิเตอร์เรเนียน แต่คน ก็อาบแดด
และมีกิจกรรมชายหาด กันคึกคัก ก่อนไปถึง
ก็แอบจินตนาการว่า คงได้เห็น อะไรต่อมิอะไร
เกลื่อนหาด เพราะสาวยุโรป เธอเป็นต้นตำรับ
เปลือยอก อาบแดด แต่พอไปถึง กลับเห็นไม่มาก
เท่าที่คิด สงสัย ต้องกลับไปดู
ตามชายหาดเมืองไทย ที่สาวใจถึง จากยุโรป
นิยมไปกัน ......ชายหาดเป็นสถานที่อีกแห่งหนึ่ง ที่ไม่อนุญาตให้นำสุนัข เข้าไปป้วนเปี้ยนจ้ะ โดยทั่วไป คุณหมา ในฐานะเพื่อนชีวิต ของพี่เศส เธอได้รับสิทธิ ให้เพ่นพ่านได้ ในสถานที่สาธารณะ เช่น ร้านอาหาร ห้างร้านต่าง ๆ ฯลฯ แต่บางสถานที่ ที่จำกัดสิทธิดังกล่าว จะขึ้นป้าย เป็นรูป หมาห้ามเข้า ให้เห็นเด่นชัด และชายหาด ก็เป็นหนึ่ง ในสถานที่ห้ามเข้านั้น ดูเหมือนว่า ชมรมคนรักหมา ก็เห็นด้วย และยอมรับ ในสิทธิของ คนที่ไม่รักหมา ซึ่งต้องการ พักผ่อน ในสถานที่ ที่ไม่มีหมา หรือสัตว์เลี้ยงอื่น ปะปน ......การจัดการพื้นที่ชายหาดของเขา หาดทราย เป็นพื้นที่เฉพาะ สำหรับการพักผ่อน นานารูปแบบ เช่นอาบแดด นอนเขลง อ่านหนังสือ บนกองทราย วิ่งเล่น ว่ายน้ำ และเล่นกีฬาชายหาด ต่าง ๆ น่าสังเกตว่า แม้จะพักผ่อน อยู่บนหาดสาธารณะ คนฝรั่งเศส ยังต้องการ ความเป็นส่วนตัว สูงมาก เห็นได้จาก อุปกรณ์สำคัญ ในการนอนชายหาด นอกจาก ผ้าเช็ดตัวผืนใหญ่ สำหรับปูนอน หนังสือ และแว่นกันแดดแล้ว ที่มีมาก อีกอย่างคือ ม่านผ้าใบ ใช้กันตัวเอง จากสายตาคนอื่น ......ถัดจากชายหาด เป็นเขื่อนลาดสูง มีบันได สำหรับเดินขึ้นลงหาด อยู่เป็นช่วง ๆ บนสันเขื่อน ทำเป็นถนน ยาวขนานกับหาด ไว้สำหรับคนเดิน และอนุญาตให้ คุณหมา และคุณสัตว์เลี้ยงอื่น ได้เดิน ออกกำลังกายด้วย ติดกับถนนคนเดิน เป็นทาง สำหรับจักรยาน ถัดจากนั้น จึงเป็น ถนนสำหรับรถยนต์ แล่นเลียบหาด ร้านอาหาร และบ้านพักตากอากาศ ......เนื่องจากชายทะเล เป็นแหล่งท่องเที่ยวสำคัญ สิ่งหนึ่ง ที่มีคู่กับเมืองเหล่านี้ คือสถานกาสิโน เนื่องจาก "หมูฯ" มีภารกิจสำคัญ ในการหาข้อมูล มาเสนอแก่คุณ ๆ ในคืนหนึ่ง จึงปรากฏร่างอ้วนใหญ่ ของ "หมูฯ" เข้าไปแสวงหาโชค เอ๊ย ! ข้อมูล ณ กาสิโนแห่งหนึ่ง ...แฮ่ ๆ เป็นครั้งแรก ในชีวิตจ้ะ ที่เดินเข้ากาสิโน อันที่จริง "หมูฯ" ไม่ชอบ การพนันทุกชนิด และไม่ชอบเสี่ยงโชคด้วย (ใครได้เป็นคู่ชีวิต รับประกันได้ว่า ไม่มีวันช้ำใจ ด้วยโรค ผีพนันเข้าสิง) แต่เพื่อ ประสบการณ์ชีวิต จึงลองเข้าสักหน่อย มีเกมพนันหลายอย่างจ้ะ "หมูฯ"เลือกเล่น สล็อตแมชีน แฮ่ม ! เล่นแล้วก็ติดใจ เหตุที่ติดใจเพราะ เล่นแล้ว ได้เงินนั่นเอง ("หมูฯ" ค่อนข้างโชคดี เรื่องเกม แต่โชคร้าย เรื่องความรัก) ทำให้ "หมูฯ" พบว่า ไม่มีเสียงใด ๆ ในโลกอีกแล้ว ที่จะไพเราะ เสนาะโสต เท่าเสียง เงินร่วงกราว ออกมาจากเครื่อง ......เฉลยปัญหา ฉบับที่ ๑๗๓ดีกว่าจ้ะ |
|
......รักคุณยิ่งกว่า แม่นากรักพ่อมาก |
||
.......ปัญหาประจำฉบับที่
๑๗๔ เดือนกันยายน ๒๕๔๒ ......."เหตุการณ์ประหลาด .......คนญี่ปุ่นสองคน ไม่เคยเห็นหน้ากันมาก่อน ได้มาพบกันที่ สถานทูตญี่ปุ่น ประจำประเทศไทย ขณะนั้น เป็นเวลาใกล้เที่ยง ทั้งคู่ จึงชวนกันไป รับประทานอาหาร ที่ร้านใกล้ ๆ .......คุณว่าเป็นไปได้ไหม ถ้า "หมูอมตะ" จะบอกว่า ชาวญี่ปุ่นคนแรก เป็นพ่อ ของลูกชายชาวญี่ปุ่นคนที่ ๒ .......รู้คำตอบแล้ว รีบเขียนคำตอบ ลงไปรษณียบัตร หรือโปสการ์ด (อย่าส่งเป็นจดหมายเลย ขี้เกียจแกะซอง) .......ส่งไปยังคอลัมน์เฮโลสาระพา ภายในวันที่ นี้
........."หมูอมตะ" และเพื่อนควบคุม |
สารบัญ | จากบรรณาธิการ | ตีนหมี | โลงศพ Gen-X | ธนบุรี | ซองคำถาม | เฮโลสาระพา Anchovies | The Legend of Mae Nak |
Feature@sarakadee.com
สำนักพิมพ์ สารคดี | สำนักพิมพ์
เมืองโบราณ | วารสาร
เมืองโบราณ | นิตยสาร
สารคดี
[ วิริยะบุคส์ | มีอะไรใหม่ | เช่าสไลด์ | ๑๐๘ ซองคำถาม | สมาชิก/สั่งซื้อหนังสือ
| WallPaper ]