แ ก ะ ร อ ย   ก ร ะ ซู่
นับถอยหลังวัน สูญพันธุ์ ?

.....เคยมีคนกล่าวไว้ว่า "เราสามารถ คาดประมาณ ได้อย่างใกล้เคียง ความจริงที่สุดว่า ขณะนี้โลกของเรา กำลังสูญเสีย สิ่งมีชีวิต หลายชนิดลงทุก ๆ วัน โดยเฉพาะ ในป่าเขตร้อนชื้น เพียงแห่งเดียวนั้น ก็เป็นแหล่งสูญเสีย พันธุ์สัตว์ กว่าค่อนโลกแล้ว" และยังมีการคาดเดาว่า อัตราการสูญเสีย ของสิ่งมีชีวิต จะถีบตัวสูงขึ้น เป็นการสูญเสีย หลายชนิด ต่อทุก ๆ ชั่วโมงทีเดียว
    การสูญพันธุ์ของ สัตว์ป่าหลายชนิด ในเมืองไทย เป็นผลพวง มาจากความเชื่อ งมงายไร้เหตุผล ว่าอวัยวะต่าง ๆ ของสัตว์ มีสรรพคุณวิเศษ ...ละอง ละมั่ง แรด สมัน สูญพันธุ์ไปจาก เมืองไทย โดยที่เราไม่รู้ตัว และไม่ทันรับมือ แม้ช่วงหลัง จะมีความพยายาม ในการอนุรักษ์ พันธุ์สัตว์ป่า ด้วยการจัดตั้ง องค์กรอนุรักษ์ต่าง ๆ และออก พรบ. สงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า แต่ก็ไม่อาจฉุดรั้ง ชีวิตสุดท้าย ของเผ่าพันธุ์ เอาไว้ได้ สัตว์ป่าหลายชนิด จึงเหลือไว้เพียง ภาพถ่าย และความทรงจำนั้น
    "กระซู่" สัตว์ป่ารูปร่างเทอะทะ ทว่าว่องไว และค่อนข้างฉลาด ตระกูลเดียวกับแรด ที่ปรากฏอยู่บน ปกสารคดี ฉบับนี้ เป็นกระซู่ หนึ่งในไม่กี่ตัว ที่หลุดรอด จากน้ำมือมนุษย์ มาได้ ความเชื่อที่ว่า นอแรด มีสรรพคุณ ในการเพิ่ม สมรรถภาพ ทางเพศ และรักษาโรค ได้ครอบจักรวาล ทำให้พราน ตามล่าแรด และกระซู่ เพื่อขายนอให้แก่ หมอยาจีน และหมอยาพม่า ว่ากันว่า ภายในเวลา ๓๐ ปี ราคาของนอแรด เพิ่มขึ้นถึง พันเท่าทีเดียว
    เกือบ ๒๐ ปีมาแล้ว ที่ไม่เคยมีรายงาน การพบสัตว์ชนิดนี้ ในป่าของ ประเทศไทยเลย มีแต่ การพบร่องรอยของมัน เพียงห้าหกครั้ง บริเวณ เขตรักษา พันธุ์สัตว์ป่า ภูเขียว, ป่าบาลาฮาลา จังหวัดยะลา แถบชายแดนไทย- มาเลเซีย, เทือกเขาตะนาวศรี ในเขต อุทยานแห่งชาติ แก่งกระจาน, เขตอุทยานแห่งชาติ เขาสก จังหวัดสุราษฎร์ธานี และที่เขต รักษาพันธุ์สัตว์ป่า ทุ่งใหญ่นเรศวร จังหวัดกาญจนบุรีเท่านั้น
    กระทั่งล่าสุด เมื่อปี ๒๕๔๐ ก็ยังคง พบเพียงร่องรอย การมาเยือนปลัก บริเวณ ป่าฮาลา-บาลา จังหวัดยะลา เท่านั้น คาดกันว่า ในเมืองไทย คงมีกระซู่ หลงเหลือ อยู่เพียงสามตัวเท่านั้น และที่แน่นอนที่สุดคือ มันกำลังจะสูญพันธุ์
    เรื่องราว และร่องรอย การปรากฏตัว ของกระซู่ ในเมืองไทย ยังคงเป็นปริศนาอยู่ นักนิยมไพร ทั้งชาวไทย และชาวต่างประเทศ จึงกระหายใคร่รู้ ที่จะออกติดตาม ค้นหาตัว หรือแม้แต่ ร่องรอยของมัน ในปลักโคลน ทว่าส่วนใหญ่ ไม่ประสบความสำเร็จ
    ภาพถ่ายชีวิต ตามธรรมชาติ และเรื่องราวของ สัตว์ผู้ลึกลับ ที่ตีพิมพ์ใน สารคดี ฉบับนี้ เป็นผลงานจาก การติดตาม มานานปี ของ A.J. Lynam นักสำรวจ และวิจัยด้านสัตว์ป่า ชาวออสเตรเลีย หนึ่งในผู้ริเริ่ม โครงการ ฝึกเจ้าหน้าที่อุทยาน และเขตอนุรักษ์ ของกรมป่าไม้ ในการวิจัย และอนุรักษ์สัตว์ป่า และผู้ก่อตั้ง โครงการอนุรักษ์เสือ ในประเทศไทย และประเทศใกล้เคียง
    A.J. Lynam เดินทางไป แกะรอยกระซู่ ในป่าฮาลา-บาลา บริเวณ ชายแดนไทย- มาเลเซีย แม้ไม่ได้พบเห็นตัว แต่ร่องรอยในปลักโคลน และกิ่งไม้ ที่โดนบิดจนหัก คือหลักฐานบ่งบอกว่า ยังคงมี กระซู่หลงเหลืออยู่

อ่านต่อคลิกที่นี่

    ภาพปก : กระซู่บริเวณพุน้ำร้อน ในป่าบนเทือกเขา อูรูเซลามา รัฐเปรัก ประเทศมาเลเซีย ถ่ายเมื่อปี ๒๕๓๓

ถ่ายภาพโดย : Fletcher and Baylis

ส า ร ค ดี พิ เ ศ ษ นิติเวชศาสตร์ ความจริงเป็นสิ่งไม่ตาย
	"มันเป็นการฆ่าตัวตาย หรือฆาตกรรม"     พลันที่หนังสือพิมพ์ พาดหัวข่าว การตาย อย่างมีเงื่อนงำ ของนายห้างทอง ธรรมวัฒนะ คำถามนี้ กลายเป็น ประเด็นสาธารณะ ขึ้นมาทันที เช่นเดียวกับคำถาม ที่เกิดขึ้นกับ คดีสะเทือนขวัญอื่นๆ     นิติเวชศาสตร์ คือประตูที่นำไปสู่ การคลี่คลาย ปมปริศนา คดีสะเทือนขวัญเหล่านั้น แม้แต่เลือด เพียงหยดเดียว ก็อาจกลายเป็น กุญแจดอกสำคัญ ที่จะนำไปสู่ ความจริงได้     นี่คือเรื่องราว อันน่าพิศวง ของกระบวนการ นิติเวชศาสตร์ ในการ ค้นหาความจริง และกำลัง ทวีความสำคัญ ขึ้นทุกขณะ ในการคลี่คลายคดี อันลึกลับที่เกิดขึ้น ไม่เว้นแต่ละวัน
ผู้นำเด็กแฝด แห่งกะเหรี่ยงติดอาวุธ กองทัพพระเจ้า
	เป็นเวลา เกือบครึ่งศตวรรษแล้ว ที่ทหารพม่า พยายามกำจัด กองกำลัง กะเหรี่ยงกู้ชาติ ให้สิ้นซาก ครั้งแล้วครั้งเล่า ที่ชนกลุ่มน้อยเช่น ชาวกะเหรี่ยง ถูกปล้น ถูกข่มขืน และบางครั้ง ก็ถูกฆ่า อย่างโหดเหี้ยมที่สุด     แต่นั่นไม่ได้ทำให้ ชาวกะเหรี่ยง ยอมจำนน กลับบังคับให้พวกเขา สู้ไม่ถอย ล่าสุด กองโจรกะเหรี่ยง ติดอาวุธ กลุ่มใหม่ในชื่อ "เคอเซโด" ก็ถือกำเนิดขึ้น พวกเขาอ้างว่า มีกำลังพลอยู่ ๕๐๐ นาย ปีหนึ่ง ต่อสู้กับพม่าราว ๗๐ ครั้ง และ "เราชนะเกือบทุกครั้ง"     กองโจรกะเหรี่ยง กลุ่มนี้ คงไม่น่าสนใจอะไร ถ้าจะไม่มีผู้นำเป็น เด็กแฝด อายุเพียงเก้าขวบ !

เ ชิ ญ ร่ ว ม แ ส ด ง ค ว า ม คิ ด เ ห็ น
สนับสนุน หรือ คัดค้าน
เมื่อวิทยานิพนธ์ ถูกบังคับ ให้เขียน เป็นภาษาอังกฤษ

	Special Attractions Cover: A Sumatran rhino at Ulu Selama hotsring, Perak, Malaysia. Sumatran Rhinoceros: Ghosts of the Rainforest .....On March 27, 1997, a team of Thais, Malaysians and Americans conducting the first biological survey of the remote Balahala forest along the Thai-Malaysian border reached a deserted quarry which showed signs that the Sumatran rhino indeed persist in the mountains along Thailand’s southern border, but they are virtually extinct. It was too late to save the rhinoceros in Thailand. This story explains why and suggests how we can learn from our past mistakes. Continue: click here
	Forensic Medicine .....A tiny drop of blood at a crime scene can become crucial evidence incriminating the assassin. After many years, a semen sample from a rape and murder victim can still lead police to the perpetrator. In a plane crash, passenger bodies burned beyond recognition can be identified by forensic experts. Throughout the years, forensic medicine has developed to match the advancement of time, and its role in the courtroom has become more and more significant.
	Twin Boys Head Karen Crusaders .....Kama Plaw Camp, or Lake Field Camp, looks like any other shelter for displaced Karens spread all over the southeastern Burmese region of Tenasserim: blue plastic sheets over bamboo shanties hastily built along a muddy stream on a piece of poor land cleared in the jungle. But Luther and Johnny Htoo, 9-year-old twin brothers, bringing hope in the midst of Burmese murder, rape and looting, have created a chapter for this camp in the history of guerilla warfare. Continue: click here
	Traveling in Oman .....The Sultanate of Oman, or the land of frankincense, situated in the southeast of the Arabian Peninsula, has a history that dates back to well over a thousand years before the advent of Islam in the country. Four days on a photo journalistic trip reveal Oman today: forts, walls, and castles stand reminiscent of that long past while bustling fish markets, shopping malls, and superhighways characterize the modern state it has become under Sultan Qaboos bin Said.

เ ฮ โ ล ส า ร ะ พ า
่คำถามฉบับนี้ ชื่อจังหวัดดังต่อไปนี้... "หมูอมตะ" และ เพื่อนควบคุม