 |
|
 |
|
นายรอบรู้ชวนเที่ยว : ดูสนุก ดูที่ไหน
วันเกิดปีนี้ ไปไหว้พระธาตุตามปีเกิดกันดีกว่า
|
|
|
เดือนนี้ "นายรอบรู้"
ยังตัดใจจากสายลมหนาว
อันเย็นยะเยือกของทางเหนือไม่ลง
เลยขออยู่ต้อนรับปีใหม่
ด้วยการพาไปไหว้พระธาตุประจำปีเกิด
เพื่อความเป็นสิริมงคลกับชีวิตให้ก้าวเดินต่อไปด้วยความสุขตลอดปี ใครที่เคยแต่เข้าป่าหรือเที่ยววัดในเมือง ขึ้นเหนือคราวต่อไปจะได้แวะนมัสการพระธาตุประจำปีเกิดไปพร้อมกันเลย เพราะส่วนใหญ่ตั้งอยู่ในภาคเหนือ "นายรอบรู้" เชื่อว่าหลายคนคงเคยแวะเวียนมาแล้ว เพียงแต่ไม่รู้ว่าพระธาตุแห่งนั้นตรงกับคนเกิดปีใด
การไหว้พระธาตุประจำปีเกิดเป็นความเชื่อของชาวล้านนามาแต่โบราณ ซึ่งยึดถือเอาพระธาตุเป็นที่พึ่งและคุ้มครองตน ดังนั้นการไหว้บูชาพระธาตุทุกคืนจึงเป็นสิ่งที่ขาดไม่ได้
อีกทั้งยังถือกันว่าในชีวิตหนึ่งควรได้มีโอกาส
ไปสักการบูชาสักครั้งให้เกิดความเป็นสิริมงคล มีอายุมั่นขวัญยืน ทั้งยังได้บุญอานิสงส์มาก
นอกจากนี้การไหว้พระธาตุตามปีเกิด
ยังสัมพันธ์กับประเพณีการขึ้นพระธาตุทุกวันเดือนแปดเพ็ง ซึ่งตรงกับวันเพ็ญเดือนหกของภาคกลาง ในวันสำคัญนี้ชาวเหนือนิยมพากันไปนมัสการพระธาตุเจดีย์ ณ สถานที่สำคัญๆ เช่น พระธาตุดอยสุเทพที่เชียงใหม่ พระธาตุหริภุญชัยที่ลำพูน พระธาตุลำปางหลวงที่ลำปาง พระธาตุดอยกองมูที่แม่ฮ่องสอน เป็นต้น รวมทั้งพระเจดีย์หรือวัดทุกหนทุกแห่งที่อยู่ใกล้บ้าน
หลายคนอาจสงสัยว่าพระธาตุที่กล่าวถึงนี้
หมายถึงพระบรมสารีริกธาตุใช่หรือไม่
... ถูกต้องนะคร้าบ ! แฮ่ม "นายรอบรู้" ขอยืมมุขสุดฮิตมาใช้คงไม่ว่ากัน มาเข้าเรื่องกันต่อดีกว่าว่า พระธาตุที่เราพูดๆ กันหมายความถึงพระบรมสารีริกธาตุของพระพุทธเจ้า และยังรวมถึงสถานที่หรือพระเจดีย์ที่บรรจุพระบรมธาตุด้วย
ซึ่งในแต่ละแห่งมักจะมีตำนาน
หรือประวัติที่เล่าถึงมูลเหตุการสร้างเอาไว้ทำนองว่า
ครั้งหนึ่งพระพุทธเจ้าได้เสด็จมาโปรดสัตว์ในดินแดนต่างๆ เหล่านี้
และสถานที่ที่พระองค์เสด็จไปถึง
และได้มีการสร้างพระบรมธาตุเจดีย์ขึ้นตามมานั้น มักจะกลายเป็นเมืองสำคัญในเวลาต่อมา
อีกทั้งประวัติพระธาต
ุหรือตำนานพระธาตุนั้น
ยังอาจหมายถึงตำนาน
หรือประวัติความเป็นมาของบ้านเมืองแต่ละท้องถิ่นอีกด้วย
ทีนี้มาดูหน้าตาและลักษณะของพระบรมสารีริกธาตุกันบ้าง
ในตำนานได้อธิบายรูปร่างว่า
มีลักษณะเหมือนถั่วแตก หรือข้าวสารหัก หรือเมล็ดพันธุ์ผักกาด กลมเกลี้ยงขนาดเท่าเม็ดพุทรา มีสีทอง สีแก้วผลึกหรือแก้วมุกดา สีดอกพิกุล และพระธาตุบางองค์มีรูทะลุได้
ตามปรกติพระบรมสารีริกธาตุมักถูกบรรจุไว้ใต้ฐานเจดีย์ หรือบริเวณส่วนกลางขององค์เจดีย์ที่เรียกว่าเรือนธาตุ
ดังนั้นจึงไม่สามารถนำออกมาให้ประชาชนได้เห็นเป็นบุญตา
หรือสักการบูชาองค์พระธาตุได้
แต่ก็มีข้อยกเว้นสำหรับบางสถานที่
อย่างพระธาตุศรีจอมทอง จังหวัดเชียงใหม่
ที่สามารถอัญเชิญพระบรมสารีริกธาตุ
ออกมาให้พุทธศาสนิกชนได้สรงน้ำในวันขึ้น ๑๕ ค่ำ เดือน ๓ และวันขึ้น ๑๕ ค่ำ เดือน ๗ ใครที่อยากเห็นรูปร่างหน้าตาอย่างชัดๆ ก็ต้องไปนมัสการในวันนี้ นอกจากการบูชาพระบรมธาตุของพระพุทธเจ้าแล้ว ยังมีการบูชาพระธาตุของพระอรหันต์หรือพระสาวกอีกด้วย
หลังจากไหว้พระธาตุกันเรียบร้อย
ก็อย่าลืมเสพความงามจากรูปแบบศิลปกรรม
ของวิหารล้านนาที่ "นายรอบรู้" ได้เคยนำชมไปเมื่อสองฉบับก่อน ขอย้ำว่าการ "สังเกต" จะช่วยให้การเยือนวัดทางภาคเหนือในแต่ละครั้ง แตกต่างกันมากมายทีเดียว |
|
|
เกิดปีใด ไหว้ที่ไหน
|
|
|
ปีชวด พระธาตุประจำปีเกิด คือ พระธาตุศรีจอมทอง อ. จอมทอง จ. เชียงใหม่
ตั้งอยู่บนยอดดอยจอมทอง ประดิษฐานพระบรมธาตุส่วนพระเศียรเบื้องขวา ความพิเศษของที่นี่คือ องค์พระบรมธาตุประดิษฐานอยู่ในกู่ภายในวิหาร สามารถอัญเชิญมาสรงน้ำได้ |
|
|
ปีฉลู พระธาตุประจำปีเกิด คือ พระธาตุลำปางหลวง อ. เกาะคา จ. ลำปาง
ในตำนานเล่าถึงเมื่อครั้งที่พระพุทธเจ้า
ทรงพยากรณ์ว่าจะมีนครชื่อ ลัมพาง และได้มอบพระเกศาธาตุให้นำไปประดิษฐาน ภายหลังจากที่พระพุทธเจ้าปรินิพพาน
พระอรหันต์ได้นำพระธาตุหน้าผาก
และพระธาตุลำคอมาประดิษฐานที่นี่ |
|
|
ปีขาล พระธาตุประจำปีเกิด คือ พระธาตุช่อแฮ อ. เมือง จ. แพร่
ตำนานพระธาตุได้เล่าไว้ว่า
พระพุทธเจ้าได้ทรงพยากรณ์ว่า
ต่อไปจะมีเมืองชื่อเมืองแพร่
พระอรหันต์และพระยาอโศก
ได้ทูลขอพระเกศาธาตุไปบรรจุโกศแก้ว นำไปไว้ที่ถ้ำด้านตะวันออกของดอยที่ประทับ
และพระพุทธเจ้าทรงมีรับสั่ง
ให้นำพระธาตุข้อศอกข้างซ้าย
มาประดิษฐานที่นี่หลังจากพระองค์ปรินิพพานแล้ว |
|
|
ปีเถาะ พระธาตุประจำปีเกิด คือ พระธาตุแช่แห้ง อ. เมือง จ. น่าน
มีเรื่องเล่าว่าเมื่อครั้งพุทธกาลพระพุทธเจ้า
ได้เสด็จโปรดสัตว์มาถึงภูเพียงแช่แห้ง
พระอานนท์จึงขอพระเกศาธาตุ
มอบให้พระอินทร์นำไปเก็บในอุโมงค์ ต่อมาราว พ.ศ. ๑๘๙๖ สมัยพระยากานเมือง
ได้พบพระเจดีย์บรรจุพระเกศาธาตุ
และพระธาตุข้อมือข้างซ้าย
พระองค์จึงให้ก่อพระเจดีย์เป็นพระธาตุแช่แห้ง
คู่เมืองมาจนทุกวันนี้ |
|
|
ปีมะโรง พระธาตุประจำปีเกิด คือ พระพุทธสิหิงค์ วัดพระสิงห์ อ. เมือง จ. เชียงใหม่
ในตำนานสิหิงคนิทาน และพงศาวดารโยนก เล่าประวัติว่า หลังจากพระพุทธเจ้าเสด็จปรินิพพานไป ๗๐๐ ปี พระเจ้าสีหลและกษัตริย์องค์อื่นใคร่ทอดพระเนตรรูปของพระพุทธเจ้า มีแต่พระยานาคที่เคยเห็นพระองค์ จึงแปลงรูปเนรมิตตนเป็นรูปพระพุทธเจ้า พระเจ้าสีหลได้บูชา ๗ วัน ๗ คืน และให้ช่างถ่ายแบบพระพุทธรูปไว้ |
|
|
ปีมะเส็ง พระธาตุประจำปีเกิด คือ พระเจดีย์ศรีมหาโพธิ ที่พุทธคยา หรือไหว้ต้นโพธิ์ตามวัดแทน
ชาวล้านนาเชื่อว่าต้นโพธิ์เป็นไม้ศักดิ์สิทธิ์ ช่วยขจัดความทุกข์ได้ จึงมีประเพณีถวายไม้ค้ำโพธิ์ การบูชาพระศรีมหาโพธิที่พุทธคยา สามารถบูชาต้นโพธิ์ที่วัดมหาโพธาราม เชียงใหม่ แทนได้ เพราะพระเจ้าติโลกราชผู้สร้างวัด ทรงนำมาจากลังกา อีกทั้งยังเป็นวัดที่ทำการสังคายนาพระไตรปิฎกครั้งที่ ๘ ของโลก |
|
|
ปีมะเมีย พระธาตุประจำปีเกิด คือ พระธาตุย่างกุ้ง หรือชเวดากอง ประเทศพม่า หรือไหว้พระธาตุเจดีย์ชเวดากอง วัดพระบรมธาตุ อ. บ้านตาก จ. ตาก แทน
ในตำนานพระเจ้าเลียบโลกกล่าวถึงความเป็นมาไว้ว่า พระพุทธเจ้าได้เสด็จมาเมืองตากจนมาถึงดอยมหิยังคะ และทรงมอบพระเกศาธาตุให้พระอรหันต์
พร้อมทั้งรับสั่งให้นำพระเกศาธาตุ
มาบรรจุไว้ที่นี่หลังจากพระองค์เสด็จปรินิพพานแล้ว |
|
|
ปีมะแม พระธาตุประจำปีเกิด คือ พระธาตุดอยสุเทพ อ. เมือง จ. เชียงใหม่
ตั้งอยู่บนยอดดอยสุเทพ ในสมัยพญากือนา (พ.ศ. ๑๘๙๘-๑๙๒๘)
พระสุมนเถระอัญเชิญพระบรมสารีริกธาตุ
ที่พบที่เมืองปางจามาเชียงใหม่ และทำพิธีเสี่ยงทายสถานที่สำหรับประดิษฐาน
โดยอัญเชิญพระบรมสารีริกธาตุสถิตเหนือช้างมงคล
ซึ่งเดินมาถึงยอดดอยสุเทพ แล้วจึงขุดหลุมประดิษฐานพร้อมก่อพระเจดีย์ |
|
|
ปีวอก พระธาตุประจำปีเกิด คือ พระธาตุพนม อ. ธาตุพนม จ. นครพนม
ตามตำนานว่าก่อสร้างโดยกษัตริย์ห้าพระองค์ ลวดลายที่เรือนธาตุตกแต่งโดยพระอินทร์และเหล่าเทวดา มีแผ่นอิฐจำหลักลวดลายฝีมือช่างพื้นบ้าน ศิลปะสมัยทวารวดี (ราวพุทธศตวรรษที่ ๑๓-๑๕) บรรจุพระอุรังคธาตุ (กระดูกส่วนหน้าอก) ของพระพุทธเจ้า ซึ่งพระมหากัสสปะเถระได้นำมาประดิษฐานไว้บนภูกำพร้า |
|
|
ปีระกา พระธาตุประจำปีเกิด คือ พระธาตุหริภุญชัย อ. เมือง จ. ลำพูน
ตำนานเล่าว่าพระพุทธเจ้าเสด็จมายังชัยภูมิของชาวเม็ง ทรงมีพุทธพยากรณ์ว่าที่นี่ในอนาคตจะเป็น นครหริภุญชัยบุรี เป็นที่ประดิษฐานพระสุวรรณเจดีย์ ซึ่งบรรจุพระธาตุกระหม่อม พระธาตุกระดูก พระธาตุกระดูกนิ้วมือ และพระธาตุย่อยอีกเต็มบาตรหนึ่ง |
|
|
ปีจอ พระธาตุประจำปีเกิด คือ พระธาตุเกศแก้วจุฬามณี บนสวรรค์ชั้นดาวดึงส์
สามารถบูชารูป
หรือไปไหว้พระเจดีย์ที่วัดเกตการาม อ. เมือง จ. เชียงใหม่ แทน
กล่าวตามพุทธประวัติไว้ว่า
พระธาตุเกศแก้วจุฬามณี
เป็นที่ประดิษฐานพระทันตธาตุ
ที่พระอินทร์นำมาจากพระบรมธาตุ
ที่โทณพราหมณ์ได้แอบซ่อนไว้
เมื่อครั้งมีการแบ่งพระบรมสารีริกธาตุ
ของพระพุทธเจ้าให้แก่เจ้าเมืองต่างๆ |
|
|
ปีกุน พระธาตุประจำปีเกิด คือ พระธาตุดอยตุง อ. แม่สาย จ. เชียงราย
ตั้งอยู่บนดอยสูง ตามตำนานเล่าว่าสร้างขึ้นในสมัยพระเจ้าอชุตราช ผู้ครองเมืองโยนกนาคพันธุ์ เพื่อบรรจุพระบรมสารีริกธาตุพระรากขวัญเบื้องซ้าย (กระดูกไหปลาร้า) ดังที่พระพุทธเจ้าทรงพยากรณ์ไว้ |
|