home
Contact Uscontact@sarakadee.com
สาระเพื่อนักเดินทาง และการท่องเที่ยว อย่างเข้าใจและรอบรู้
เที่ยวทั้วไทยกับ "นายรอบรู้" เดือนมกราคม

นายรอบรู้ชวนเที่ยว : ดูสนุก ดูที่ไหน
วันเกิดปีนี้ ไปไหว้พระธาตุตามปีเกิดกันดีกว่า

เดือนนี้ "นายรอบรู้" ยังตัดใจจากสายลมหนาว อันเย็นยะเยือกของทางเหนือไม่ลง เลยขออยู่ต้อนรับปีใหม่ ด้วยการพาไปไหว้พระธาตุประจำปีเกิด เพื่อความเป็นสิริมงคลกับชีวิตให้ก้าวเดินต่อไปด้วยความสุขตลอดปี ใครที่เคยแต่เข้าป่าหรือเที่ยววัดในเมือง ขึ้นเหนือคราวต่อไปจะได้แวะนมัสการพระธาตุประจำปีเกิดไปพร้อมกันเลย เพราะส่วนใหญ่ตั้งอยู่ในภาคเหนือ "นายรอบรู้" เชื่อว่าหลายคนคงเคยแวะเวียนมาแล้ว เพียงแต่ไม่รู้ว่าพระธาตุแห่งนั้นตรงกับคนเกิดปีใด 
การไหว้พระธาตุประจำปีเกิดเป็นความเชื่อของชาวล้านนามาแต่โบราณ ซึ่งยึดถือเอาพระธาตุเป็นที่พึ่งและคุ้มครองตน ดังนั้นการไหว้บูชาพระธาตุทุกคืนจึงเป็นสิ่งที่ขาดไม่ได้ อีกทั้งยังถือกันว่าในชีวิตหนึ่งควรได้มีโอกาส ไปสักการบูชาสักครั้งให้เกิดความเป็นสิริมงคล มีอายุมั่นขวัญยืน ทั้งยังได้บุญอานิสงส์มาก
นอกจากนี้การไหว้พระธาตุตามปีเกิด ยังสัมพันธ์กับประเพณีการขึ้นพระธาตุทุกวันเดือนแปดเพ็ง ซึ่งตรงกับวันเพ็ญเดือนหกของภาคกลาง ในวันสำคัญนี้ชาวเหนือนิยมพากันไปนมัสการพระธาตุเจดีย์ ณ สถานที่สำคัญๆ เช่น พระธาตุดอยสุเทพที่เชียงใหม่ พระธาตุหริภุญชัยที่ลำพูน พระธาตุลำปางหลวงที่ลำปาง พระธาตุดอยกองมูที่แม่ฮ่องสอน เป็นต้น รวมทั้งพระเจดีย์หรือวัดทุกหนทุกแห่งที่อยู่ใกล้บ้าน 
หลายคนอาจสงสัยว่าพระธาตุที่กล่าวถึงนี้ หมายถึงพระบรมสารีริกธาตุใช่หรือไม่ ... ถูกต้องนะคร้าบ ! แฮ่ม "นายรอบรู้" ขอยืมมุขสุดฮิตมาใช้คงไม่ว่ากัน มาเข้าเรื่องกันต่อดีกว่าว่า พระธาตุที่เราพูดๆ กันหมายความถึงพระบรมสารีริกธาตุของพระพุทธเจ้า และยังรวมถึงสถานที่หรือพระเจดีย์ที่บรรจุพระบรมธาตุด้วย ซึ่งในแต่ละแห่งมักจะมีตำนาน หรือประวัติที่เล่าถึงมูลเหตุการสร้างเอาไว้ทำนองว่า ครั้งหนึ่งพระพุทธเจ้าได้เสด็จมาโปรดสัตว์ในดินแดนต่างๆ เหล่านี้ และสถานที่ที่พระองค์เสด็จไปถึง และได้มีการสร้างพระบรมธาตุเจดีย์ขึ้นตามมานั้น มักจะกลายเป็นเมืองสำคัญในเวลาต่อมา อีกทั้งประวัติพระธาต ุหรือตำนานพระธาตุนั้น ยังอาจหมายถึงตำนาน หรือประวัติความเป็นมาของบ้านเมืองแต่ละท้องถิ่นอีกด้วย
ทีนี้มาดูหน้าตาและลักษณะของพระบรมสารีริกธาตุกันบ้าง ในตำนานได้อธิบายรูปร่างว่า มีลักษณะเหมือนถั่วแตก หรือข้าวสารหัก หรือเมล็ดพันธุ์ผักกาด กลมเกลี้ยงขนาดเท่าเม็ดพุทรา มีสีทอง สีแก้วผลึกหรือแก้วมุกดา สีดอกพิกุล และพระธาตุบางองค์มีรูทะลุได้
ตามปรกติพระบรมสารีริกธาตุมักถูกบรรจุไว้ใต้ฐานเจดีย์ หรือบริเวณส่วนกลางขององค์เจดีย์ที่เรียกว่าเรือนธาตุ ดังนั้นจึงไม่สามารถนำออกมาให้ประชาชนได้เห็นเป็นบุญตา หรือสักการบูชาองค์พระธาตุได้ แต่ก็มีข้อยกเว้นสำหรับบางสถานที่ อย่างพระธาตุศรีจอมทอง จังหวัดเชียงใหม่ ที่สามารถอัญเชิญพระบรมสารีริกธาตุ ออกมาให้พุทธศาสนิกชนได้สรงน้ำในวันขึ้น ๑๕ ค่ำ เดือน ๓ และวันขึ้น ๑๕ ค่ำ เดือน ๗ ใครที่อยากเห็นรูปร่างหน้าตาอย่างชัดๆ ก็ต้องไปนมัสการในวันนี้ นอกจากการบูชาพระบรมธาตุของพระพุทธเจ้าแล้ว ยังมีการบูชาพระธาตุของพระอรหันต์หรือพระสาวกอีกด้วย
หลังจากไหว้พระธาตุกันเรียบร้อย ก็อย่าลืมเสพความงามจากรูปแบบศิลปกรรม ของวิหารล้านนาที่ "นายรอบรู้" ได้เคยนำชมไปเมื่อสองฉบับก่อน ขอย้ำว่าการ "สังเกต" จะช่วยให้การเยือนวัดทางภาคเหนือในแต่ละครั้ง แตกต่างกันมากมายทีเดียว
เกิดปีใด ไหว้ที่ไหน
พระธาตุศรีจอมทอง (คลิกดูภาพใหญ่)ปีชวด พระธาตุประจำปีเกิด คือ พระธาตุศรีจอมทอง อ. จอมทอง จ. เชียงใหม่
ตั้งอยู่บนยอดดอยจอมทอง ประดิษฐานพระบรมธาตุส่วนพระเศียรเบื้องขวา ความพิเศษของที่นี่คือ องค์พระบรมธาตุประดิษฐานอยู่ในกู่ภายในวิหาร สามารถอัญเชิญมาสรงน้ำได้
พระธาตุลำปางหลวง (คลิกดูภาพใหญ่)ปีฉลู พระธาตุประจำปีเกิด คือ พระธาตุลำปางหลวง อ. เกาะคา จ. ลำปาง
ในตำนานเล่าถึงเมื่อครั้งที่พระพุทธเจ้า ทรงพยากรณ์ว่าจะมีนครชื่อ ลัมพาง และได้มอบพระเกศาธาตุให้นำไปประดิษฐาน ภายหลังจากที่พระพุทธเจ้าปรินิพพาน พระอรหันต์ได้นำพระธาตุหน้าผาก และพระธาตุลำคอมาประดิษฐานที่นี่
พระธาตุช่อแฮ (คลิกดูภาพใหญ่)ปีขาล พระธาตุประจำปีเกิด คือ พระธาตุช่อแฮ อ. เมือง จ. แพร่
ตำนานพระธาตุได้เล่าไว้ว่า พระพุทธเจ้าได้ทรงพยากรณ์ว่า ต่อไปจะมีเมืองชื่อเมืองแพร่ พระอรหันต์และพระยาอโศก ได้ทูลขอพระเกศาธาตุไปบรรจุโกศแก้ว นำไปไว้ที่ถ้ำด้านตะวันออกของดอยที่ประทับ และพระพุทธเจ้าทรงมีรับสั่ง ให้นำพระธาตุข้อศอกข้างซ้าย มาประดิษฐานที่นี่หลังจากพระองค์ปรินิพพานแล้ว
พระธาตุแช่แห้ง (คลิกดูภาพใหญ่)ปีเถาะ พระธาตุประจำปีเกิด คือ พระธาตุแช่แห้ง อ. เมือง จ. น่าน
มีเรื่องเล่าว่าเมื่อครั้งพุทธกาลพระพุทธเจ้า ได้เสด็จโปรดสัตว์มาถึงภูเพียงแช่แห้ง พระอานนท์จึงขอพระเกศาธาตุ มอบให้พระอินทร์นำไปเก็บในอุโมงค์ ต่อมาราว พ.ศ. ๑๘๙๖ สมัยพระยากานเมือง ได้พบพระเจดีย์บรรจุพระเกศาธาตุ และพระธาตุข้อมือข้างซ้าย พระองค์จึงให้ก่อพระเจดีย์เป็นพระธาตุแช่แห้ง คู่เมืองมาจนทุกวันนี้
พระพุทธสิหิงค์  (คลิกดูภาพใหญ่)ปีมะโรง พระธาตุประจำปีเกิด คือ พระพุทธสิหิงค์ วัดพระสิงห์ อ. เมือง จ. เชียงใหม่ 
ในตำนานสิหิงคนิทาน และพงศาวดารโยนก เล่าประวัติว่า หลังจากพระพุทธเจ้าเสด็จปรินิพพานไป ๗๐๐ ปี พระเจ้าสีหลและกษัตริย์องค์อื่นใคร่ทอดพระเนตรรูปของพระพุทธเจ้า มีแต่พระยานาคที่เคยเห็นพระองค์ จึงแปลงรูปเนรมิตตนเป็นรูปพระพุทธเจ้า พระเจ้าสีหลได้บูชา ๗ วัน ๗ คืน และให้ช่างถ่ายแบบพระพุทธรูปไว้
พระเจดีย์ศรีมหาโพธิ (คลิกดูภาพใหญ่)ปีมะเส็ง พระธาตุประจำปีเกิด คือ พระเจดีย์ศรีมหาโพธิ ที่พุทธคยา หรือไหว้ต้นโพธิ์ตามวัดแทน
ชาวล้านนาเชื่อว่าต้นโพธิ์เป็นไม้ศักดิ์สิทธิ์ ช่วยขจัดความทุกข์ได้ จึงมีประเพณีถวายไม้ค้ำโพธิ์ การบูชาพระศรีมหาโพธิที่พุทธคยา สามารถบูชาต้นโพธิ์ที่วัดมหาโพธาราม เชียงใหม่ แทนได้ เพราะพระเจ้าติโลกราชผู้สร้างวัด ทรงนำมาจากลังกา อีกทั้งยังเป็นวัดที่ทำการสังคายนาพระไตรปิฎกครั้งที่ ๘ ของโลก
พระธาตุย่างกุ้ง (คลิกดูภาพใหญ่)ปีมะเมีย พระธาตุประจำปีเกิด คือ พระธาตุย่างกุ้ง หรือชเวดากอง ประเทศพม่า หรือไหว้พระธาตุเจดีย์ชเวดากอง วัดพระบรมธาตุ อ. บ้านตาก จ. ตาก แทน
ในตำนานพระเจ้าเลียบโลกกล่าวถึงความเป็นมาไว้ว่า พระพุทธเจ้าได้เสด็จมาเมืองตากจนมาถึงดอยมหิยังคะ และทรงมอบพระเกศาธาตุให้พระอรหันต์ พร้อมทั้งรับสั่งให้นำพระเกศาธาตุ มาบรรจุไว้ที่นี่หลังจากพระองค์เสด็จปรินิพพานแล้ว
พระธาตุดอยสุเทพ (คลิกดูภาพใหญ่)ปีมะแม พระธาตุประจำปีเกิด คือ พระธาตุดอยสุเทพ อ. เมือง จ. เชียงใหม่
ตั้งอยู่บนยอดดอยสุเทพ ในสมัยพญากือนา (พ.ศ. ๑๘๙๘-๑๙๒๘) พระสุมนเถระอัญเชิญพระบรมสารีริกธาตุ ที่พบที่เมืองปางจามาเชียงใหม่ และทำพิธีเสี่ยงทายสถานที่สำหรับประดิษฐาน โดยอัญเชิญพระบรมสารีริกธาตุสถิตเหนือช้างมงคล ซึ่งเดินมาถึงยอดดอยสุเทพ แล้วจึงขุดหลุมประดิษฐานพร้อมก่อพระเจดีย์ 
พระธาตุพนม (คลิกดูภาพใหญ่)ปีวอก พระธาตุประจำปีเกิด คือ พระธาตุพนม อ. ธาตุพนม จ. นครพนม
ตามตำนานว่าก่อสร้างโดยกษัตริย์ห้าพระองค์ ลวดลายที่เรือนธาตุตกแต่งโดยพระอินทร์และเหล่าเทวดา มีแผ่นอิฐจำหลักลวดลายฝีมือช่างพื้นบ้าน ศิลปะสมัยทวารวดี (ราวพุทธศตวรรษที่ ๑๓-๑๕) บรรจุพระอุรังคธาตุ (กระดูกส่วนหน้าอก) ของพระพุทธเจ้า ซึ่งพระมหากัสสปะเถระได้นำมาประดิษฐานไว้บนภูกำพร้า
พระธาตุหริภุญชัย (คลิกดูภาพใหญ่)ปีระกา พระธาตุประจำปีเกิด คือ พระธาตุหริภุญชัย อ. เมือง จ. ลำพูน
ตำนานเล่าว่าพระพุทธเจ้าเสด็จมายังชัยภูมิของชาวเม็ง ทรงมีพุทธพยากรณ์ว่าที่นี่ในอนาคตจะเป็น นครหริภุญชัยบุรี เป็นที่ประดิษฐานพระสุวรรณเจดีย์ ซึ่งบรรจุพระธาตุกระหม่อม พระธาตุกระดูก พระธาตุกระดูกนิ้วมือ และพระธาตุย่อยอีกเต็มบาตรหนึ่ง
พระธาตุเกศแก้วจุฬามณี (คลิกดูภาพใหญ่)ปีจอ พระธาตุประจำปีเกิด คือ พระธาตุเกศแก้วจุฬามณี บนสวรรค์ชั้นดาวดึงส์ สามารถบูชารูป หรือไปไหว้พระเจดีย์ที่วัดเกตการาม อ. เมือง จ. เชียงใหม่ แทน
กล่าวตามพุทธประวัติไว้ว่า พระธาตุเกศแก้วจุฬามณี เป็นที่ประดิษฐานพระทันตธาตุ ที่พระอินทร์นำมาจากพระบรมธาตุ ที่โทณพราหมณ์ได้แอบซ่อนไว้ เมื่อครั้งมีการแบ่งพระบรมสารีริกธาตุ ของพระพุทธเจ้าให้แก่เจ้าเมืองต่างๆ 
พระธาตุดอยตุง (คลิกดูภาพใหญ่)ปีกุน พระธาตุประจำปีเกิด คือ พระธาตุดอยตุง อ. แม่สาย จ. เชียงราย
ตั้งอยู่บนดอยสูง ตามตำนานเล่าว่าสร้างขึ้นในสมัยพระเจ้าอชุตราช ผู้ครองเมืองโยนกนาคพันธุ์ เพื่อบรรจุพระบรมสารีริกธาตุพระรากขวัญเบื้องซ้าย (กระดูกไหปลาร้า) ดังที่พระพุทธเจ้าทรงพยากรณ์ไว้
Home