Page 77 - Skd 298-2552-12
P. 77
กลายเป็นเส้นเลือดหลักและเส้นทางคมนาคมสายส�ำคัญ เยือนเมืองริมน้�ำแดนกังหน�ำหลายแห่ง ที่แม้จะอยู่ไม่ไกล
ของประเทศ ยงั ประโยชนท์ างเศรษฐกจิ แกด่ นิ แดนเจยี งหนาน กันนัก แต่ก็มีความงามของธรรมชาติและจุดเด่นทาง
และภาคเหนอื ของจนี อยา่ งมหาศาล นบั ตงั้ แตส่ มยั ราชวงศถ์ งั วฒั นธรรมทนี่ า่ สนใจแตกตา่ งกัน...
จวบจนถึงปัจจุบัน
อูเจิน้ :
เราอาจคนุ้ เคยคำ� วา่ “เจยี งหนาน” ในสำ� เนยี งภาษาแตจ้ ว๋ิ เมอื งริมน้ำ� ในฝัน
วา่ “กงั นม้ั ” หรอื “กงั หนำ� ” จากฉากภาพยนตรท์ จ่ี กั รพรรดิ
เฉียนหลงแห่งราชวงศ์ชิงเสด็จประพาสเจียงหนาน รวมทั้ง ระหว่างเส้นทางจากนครหังโจวสู่มหานครซ่างไห่นั้นมี
นวนยิ ายกำ� ลงั ภายในชอื่ ดงั หลายเรอ่ื ง โดยสว่ นใหญก่ ลา่ วถงึ เมืองริมน้�ำต้ังอยู่หลายเมือง และเมืองท่ีมีชื่อเสียงมากท่ีสุด
แดน “กังหน�ำ” ไม่ว่าจะเป็นเรื่องคลาสสิกอย่าง มังกรหยก เมอื งหนง่ึ ทหี่ ลายคนใฝฝ่ นั วา่ สกั วนั หนง่ึ จะมโี อกาสไดไ้ ปเยอื น
ของกมิ ยง้ ทม่ี ี “ผกู้ ลา้ หาญทงั้ เจด็ แหง่ กงั หนำ� ” เปน็ อาจารย์ และพักแรม เพื่อละเลียดท่องชมความงามตามธรรมชาติ
ของก๊วยเจ๋ง หรือ มังกรคู่สู้สิบทิศ ของหวงอี้อันโด่งดังใน ของเมืองริมน�้ำในฝันทั้งในยามพลบค่�ำและรุ่งสางนั้น มีช่ือ
ยุคนี้ ก็มีพระเอกคู่คือโค่วจงและฉีจื่อหลิง ท่ีถือก�ำเนิดมา ว่า “อูเจนิ้ ” หรือ ต�ำบลสดี ำ�
จากสามัญชนชาวเมืองหยางโจวซึ่งอยู่ทางตอนเหนือของ
เจียงหนานเชน่ กัน ฯลฯ อเู จน้ิ เปน็ ตำ� บลเกา่ แก ่ มอี ายเุ กอื บ ๑,๒๐๐ ป ี มปี ระวตั ิ
ทางอารยธรรมมานานกว่า ๖,๐๐๐ ปี เป็น ๑ ใน ๑๐
แตท่ ่ีโดง่ ดังอมตะทสี่ ดุ เหน็ จะเป็นภาพยนตรจ์ นี ยอ้ นยคุ ต�ำบลวัฒนธรรมที่เปี่ยมด้วยมนต์เสน่ห์ของจีน ตั้งอยู่ใน
เร่ือง เจียงซานเหม่ยเหริน (Jiangshan Meiren) แปล เขตอ�ำเภอถงเซียง เมืองเจียซ่ิง แหล่งปลูกดอกจว๋ีฮวาหรือ
ว่า สาวงามแดนเจยี งหนาน หรอื ทร่ี จู้ กั กนั ดใี นนาม จอมใจ เก๊กฮวยขึ้นชื่ออันดับหน่ึงของประเทศ บนที่ราบอันอุดม
จักรพรรดิ นาฏกรรมรักอันลือล่ัน เรื่องราวของจักรพรรดิ สมบูรณ์ของทะเลสาบหังเจีย ทางตอนเหนือของมณฑล
เจ้าสำ� ราญแห่งราชวงศ์หมิงตอนปลายที่ปลอมพระองค์เป็น เจ้อเจียง อยู่ก่ึงกลางสามเหลี่ยมเศรษฐกิจของ ๓ นคร--
สามญั ชนเสดจ็ ประพาสดนิ แดนเจยี งหนาน แลว้ เกดิ หลงใหล ซ่างไห่ หังโจว และซูโจว และมีคลองต้าว่ินเหอไหลผ่าน
ในสาวงามแดนใต ้ ทวา่ เมอื่ เสดจ็ กลบั พระนครหลวงทเี่ ปย่ จงิ ดา้ นตะวนั ตกของต�ำบล
แล้ว พระองค์กลับหลงลืมสาวงามเจียงหนานที่ได้เชยชม
คร้ันระลึกขึ้นได้ส่งคนไปรับก็สายไปเสียแล้ว ด้วยนางซึ่ง อูเจิ้นได้รับการจัดต้ังเป็นต�ำบลเม่ือ ค.ศ. ๘๗๒ สมัย
ตรอมตรมล้มป่วยมานานได้สิ้นใจในระหว่างเดินทางเข้าสู่ ปลายราชวงศถ์ งั และนบั จากนนั้ มาตำ� บลนก้ี ไ็ มเ่ คยเปลยี่ นชอื่
พระนคร ภาพยนตรเ์ รอื่ งนม้ี บี ทเพลงไพเราะอมตะหลายบท ไมเ่ คยยา้ ยทตี่ งั้ รวมทง้ั สายน�้ำและวฒั นธรรมของผคู้ นยงั คง
ทข่ี น้ึ ชอ่ื ทส่ี ดุ เหน็ จะเปน็ “เจยี งหนานหา่ ว” หรอื “เจยี งหนาน มแิ ปรเปลยี่ นตามยคุ สมยั ทงั้ ไดร้ บั การอนรุ กั ษไ์ วใ้ หน้ กั เดนิ ทาง
แสนงาม” เปน็ ทร่ี จู้ กั ดขี องชาวจนี ทวั่ โลกมาไมต่ ำ�่ กวา่ ๔๐ ปี ต่างถ่นิ มาเยือนดว้ ยความภาคภูมใิ จ
เมืองโบราณริมน้�ำ ตัวแทนทางวัฒนธรรมของแดน ค�ำว่า “อู” ซึ่งหมายถึง สีด�ำ (อีกความหมายหน่ึงว่า
เจยี งหนาน มีอย่มู ากมายหลายแหง่ ทขี่ ึน้ ชอื่ และได้รับการ อีกา) น้ันมีหลากหลายที่มาย่ิงในทางประวัติศาสตร์ เช่น
ยกย่องเป็นมรดกทางวัฒนธรรมส�ำคัญของประเทศมีอยู่ มาจากแซ ่ “อ”ู ของผปู้ กครองทอ้ งถน่ิ เดมิ หรอื เดมิ เคยมชี อ่ื
๖ ต�ำบลใน ๒ มณฑล คือ ต�ำบลอูเจ้ิน (Wuzhen), ต�ำบล ว่า “อูถวอ” ต่อมาเปลี่ยนเป็น “อูซู่” และ “อูตุน” และ
ซีถัง (Xitang) และต�ำบลหนานสวิน (Nanxun) ในมณฑล สุดท้ายคงเหลือเฉพาะค�ำวา่ “อู” ที่ยังคงไม่เปล่ยี นแปลง
เจอ้ เจยี ง สว่ นในมณฑลเจยี งซไู ดแ้ ก ่ ตำ� บลโจวจวง (Zhou-
zhuang), ต�ำบลถงหล ี่ (Tongli) และตำ� บลลจู่ ว่อื (Luzhi) สิ่งหน่ึงที่ผู้มาเยือนสังเกตเห็นได้ในทุกวันน้ีก็คือ ชาว
อูเจิ้นมักนิยมทาน�้ำมันชักเงาสีด�ำบนฝาเรือนรวมทั้งประตู
ปลายฤดใู บไมผ้ ลทิ ผี่ า่ นมา ยามทอี่ ากาศในประเทศจนี หน้าต่างเพ่ือรักษาเนื้อไม้ให้คงทน จนเป็นอีกหน่ึงที่มาของ
ตอนกลางบริเวณแถบลุ่มแม่น้�ำฉางเจียงก่อนไหลลงสู่ ชอ่ื บา้ นนามเมอื งอันนา่ สนเทห่ ์น้ี
ทะเลจีนตะวันออก กำ� ลังสดใสเย็นสบายเอ้ืออำ� นวยต่อการ
เดินทางท่องเที่ยว ด้วยแรงบันดาลใจจากค�ำพรรณนา ภายในต�ำบลอูเจ้ินแบ่งพื้นท่ีออกเป็น ๔ เขตตามทิศ
ข้างต้น ผมและเพื่อนสมาชิกกลุ่มหน่ึงมีโอกาสเดินทางไป ทต่ี งั้ ทมี่ ชี อ่ื เสยี งคอื ดา้ นตะวนั ตก หรอื ซจี า้ (Xizha) และ
ตะวันออก หรือตงจา้ (Dongzha)
ฉบบั ที่ ๒๙๘ ธนั วาคม ๒๕๕๒ นติ ยสารสารคดี 85