Page 80 - Skd 298-2552-12
P. 80

(Shen Dehong  ค.ศ. ๑๘๙๖-๑๙๘๑) ปรมาจารยท์ างดา้ น                          เหมาต้นุ ปรมาจารยแ์ ห่งวรรณคดีจนี สมยั ใหม่
วรรณกรรมสมัยใหม่ นักหนังสือพิมพ์ นักเคลื่อนไหวทาง
วฒั นธรรมคนสำ� คญั ของจนี   เกดิ และเรยี นหนงั สอื ในวยั เยาว์            ถงหล่ ี : บา้ นริมน้ำ�  
ที่อูเจิ้น  ต้ังแต่เด็กเหมาตุ้นก็ฉายแววความฉลาดเฉลียว                     ลำ� ธารใส สะพานนอ้ ย
ให้เป็นท่ีปรากฏ โดยได้แรงบันดาลใจจากคุณตาผู้สอบได้
บณั ฑิตชัน้ ซิ่วไฉ๑ และมมี ารดาเปน็ ครสู อนหนงั สือคนแรก                     จากอเู จนิ้  เรามงุ่ หนา้ ขนึ้ ไปทางเหนอื  ตามทางดว่ นสาย
                                                                          เจียซูระยะทางประมาณ ๖๐ กิโลเมตร ถึงต�ำบลถงหล่ี
   เม่ือเหมาตุ้นส�ำเร็จการศึกษาจากมหาวิทยาลัยเป่ยจิง                      เมืองหวูเจียง ทางใต้ของมณฑลเจียงซู ซึ่งอยู่ห่างจากนคร
แล้ว ได้เป็นนักเคล่ือนไหวทางวัฒนธรรมคนส�ำคัญร่วมยุค                       ซูโจวลงมาทางใตเ้ พียงประมาณ ๑๘ กโิ ลเมตร
สมัยกบั หล่ชู วิ่นและกวอม่อรวอ่  (Guo Moruo) ท่ีสนับสนนุ
การด�ำเนินการทางการเมืองของเหมาเจ๋อตงและพรรค                                 ถงหล่ีมีประวัติการก่อต้ังมาต้ังแต่สมัยต้นราชวงศ์ถัง  
คอมมวิ นสิ ตจ์ นี มากวา่  ๖๐ ป ี  เปน็ ผผู้ ลติ วารสารวรรณกรรม            เดิมชื่อ “ฟู่ซือ” ต่อมาเปลี่ยนเป็น “ถงหล่ี” หรือหมู่บ้าน
เพ่ือชีวิตรายเดือนข้ึนเป็นคนแรก และสร้างสรรค์ผลงาน                        ทองเหลืองมาจนถึงปัจจุบัน  ภูมิประเทศล้อมรอบด้วยน�้ำ 
วรรณกรรมคู่บรรณพิภพจีนมากมายกว่า ๑๐๐ เรื่อง                               ติดทะเลสาบไท่หู-แหล่งเพาะพันธุ์ปูขนอันขึ้นช่ือ คลอง
นวนยิ ายทส่ี รา้ งชอ่ื ใหเ้ หมาตนุ้ เชน่ เรอื่ ง เทยี่ งคนื  (Midnight),
สายรุ้ง (Rainbow), ตัวไหมแห่งฤดูใบไม้ผลิ (Spring
Silkworms) เป็นต้น

   เหมาตนุ้ สรา้ งบา้ นหลงั นขี้ น้ึ ในป ี ๑๙๓๔ เพอื่ เปน็ ทพ่ี �ำนกั
ของมารดาในบั้นปลายชีวิต  กระท่ังในปี ๑๙๔๐ ภายหลัง
มารดาอนั เปน็ ทรี่ กั ยงิ่ ถงึ แกก่ รรม เหมาตนุ้ กไ็ มเ่ คยไดก้ ลบั มา
บ้านหลังนี้อีกเลย  กระท่ังอ�ำลาโลกไปอย่างสงบเมื่อวันที่
๒๗ มนี าคม ค.ศ. ๑๙๘๑ ณ กรุงเป่ยจิง

   ออกจากบ้านเหมาตุ้น สองฟากตรอกซอยเป็นร้าน
จ�ำหน่ายสินค้าท้องถ่ินข้ึนช่ือของอูเจิ้น ซึ่งนอกจากจะมีผ้า
ฝา้ ยยอ้ มบาตกิ สนี ำ้� เงนิ คราม ขนมกเู สา่ ปง่ิ  และซอี ว๊ิ หอมแลว้   
ชาวอเู จน้ิ ยงั มชี อื่ เสยี งในการกลน่ั สรุ าขาวแบบโบราณทเี่ รยี ก
ว่า ซานไป๋จิ่ว สุรา ๕๕ ดีกรีอันแสนร้อนแรงและกลิ่นหอม
นุม่ ลึกที่ว่ากันวา่  ดื่มแล้วสามวนั ยงั หอมติดปาก  

   กอ่ นออกจากหมบู่ า้ นจะเดนิ ผา่ นไฉเ่ สนิ ววาฺ น (Caishen
Wan) หรอื  โคง้ เทพแหง่ โชคลาภ  เรยี กตามชอ่ื ของศาลเจา้
ทปี่ ระดษิ ฐานอยใู่ กลเ้ คยี ง  บรเิ วณนเี้ ปน็ คงุ้ นำ้� กวา้ ง ในอดตี
เคยเป็นท่าเทียบเรือและตลาดสินค้านานาชนิด ทั้งข้าวสาร
ผา้ ไหม ป่านปอ และธัญพชื อ่ืน ๆ  

   ทางด้านตะวันตกของโค้งน�้ำ ผู้มาเยือนทุกคนจะต้อง
ขา้ มสะพานศลิ าคทู่ ส่ี รา้ งคขู่ นานใตห้ ลงั คาเดยี วกนั   ชาวอเู จนิ้
เชื่อกันว่า ใครข้ามสะพานทั้งสองนี้แล้วจะมีโชคลาภและ
สุขภาพแข็งแรง  หลายคนเดินข้ามสะพานทั้งสองไปกลับ
เพอื่ ขอพรอนั ประเสรฐิ บงั เกดิ แกช่ วี ติ  แลว้ จะไดก้ ลบั มาเยอื น
เมืองริมน้�ำในฝันแหง่ นีอ้ ีกครงั้ ในอนาคต...

๑ บัณฑิตที่สอบได้ระดับส�ำนักการศึกษา รับมอบหมายหน้าที่ราชการ
ในระดบั มณฑล

88 นิตยสารสารคดี  ฉบบั ท่ี ๒๙๘ ธันวาคม ๒๕๕๒
   75   76   77   78   79   80   81   82   83   84   85