Page 84 - Skd 298-2552-12
P. 84

มโจ่าวนจรวัตงต :กิ  าล                                                    คงเหลอื  ๑๔ สะพาน  ท่ีขึน้ ช่อื ทสี่ ุดคอื  ซวงเฉยี ว (Shuang
เมอื งริมน�้ำ                                                             Qiao) หรือ สะพานคู่ อายุเกือบ ๕๐๐ ปี สร้างข้ึนในช่วง
อันแสนงาม                                                                 รชั สมยั จกั รพรรดวิ า่ นล ่ี (ค.ศ. ๑๕๗๓-๑๖๑๙) สมยั ราชวงศ์
                                                                          หมงิ   นบั เปน็ ภาพลกั ษณต์ วั แทนของโจวจวงทท่ี กุ คนรจู้ กั กนั
   โจวจวงเป็นเมืองริมน้�ำแดนกังหน�ำอันงดงามและมี                          ดมี ากทสี่ ดุ  เพราะบรเิ วณนมี้ ลี ำ� คลอง ๒ สายไหลมาบรรจบ
ชอ่ื เสยี งเลอื่ งลอื คนุ้ หนู กั เดนิ ทางบา้ นเรามากทส่ี ดุ  เพราะเมอ่ื  กนั ทกี่ ลางหมบู่ า้ น  นายชา่ งทอ้ งถน่ิ จงึ ออกแบบสรา้ งสะพาน
กล่าวถึงเมืองริมน้�ำของจีนแล้ว เกือบทุกคนจะคิดไปถึง                       ขึ้นมา ๒ สะพาน  สะพานแรกเป็นสะพานโค้ง เรียกว่า
“โจวจวงและขาหมูรสอร่อย” ของฝากขึ้นชื่อของเมืองนี้                         ซื่อเต๋อเฉียว (Shide Qiao)  อีกสะพานหนึ่งตรง เรียกว่า
ก่อนเปน็ อันดบั แรก                                                       หย่งอันเฉียว (Yong-an Qiao)  ท้ังสองสะพานต้ังขวาง
                                                                          กันมองคล้ายรูปกุญแจโบราณ ชาวบ้านจึงนิยมเรียกว่า
   โจวจวงเป็นต�ำบลโบราณ มีอายุยาวนานกว่า ๙๐๐ ปี                           “สะพานกญุ แจ”
ไดร้ บั สมญานามวา่  “เมอื งรมิ นำ�้ อนั ดบั หนงึ่ ของจนี ”  ขนึ้ กบั
เมืองคุนซาน  เดิมมีช่ือว่า “เจวินเฟิงหล่ี” และ “เหยาเฉิง”                    ค่�ำวันน้ัน ณ ร้านอาหารริมสะพานคู่อันแสนคึกคัก
ต่อมาในปี ๑๐๘๖ สมัยราชวงศ์ซ่งเหนือ พุทธศาสนิกชน                           คลาคล�ำ่ ดว้ ยนักท่องเทีย่ ว พวกเราได้ลิม้ รสชาติอาหารฝีมือ
ผู้หนึ่งนาม โจวต๋ีกง บริจาคที่ดิน ๒๐๐ หมู่ (ประมาณ ๘๓                     พ่อครัวโจวจวงแท้ ๆ ด้วยเมนูขาหมูท่ีเรียกว่า “ว่านซานถี”
ไร่) เพื่อสร้างวัดเฉวียนฝู  ด้วยบุญกุศลดังกล่าว ชาวบ้าน                   (หรือขาหมูบ้านเสิ่นว่านซาน ซ่ึงได้กลายเป็นช่ือเรียกทั่วไป
จึงน�ำแซ่ของท่านมาต้ังเป็นชื่อหมู่บ้านว่า “โจวจวง” หรือ                   ของ “ขาหมแู บบโจวจวง” ไปเสยี แลว้ )  ขาหมเู นอ้ื นมุ่ หวาน
บา้ นของคนแซโ่ จว สืบเนอื่ งมาจนถงึ ปจั จุบัน                             หอม แกลม้ ดว้ ยหมา่ นโถวนง่ึ รอ้ น ๆ กบั ปลากยุ้ อวเ๋ิ นอื้ หวาน
                                                                          ก้างน้อย และน้�ำแกงไก่บ้านตุ๋นเครื่องยาจีนรสกลมกล่อม  
   ครั้นในปลายสมัยราชวงศ์หยวนถึงต้นราชวงศ์หมิง                            แลว้ ตบท้ายด้วยการจิบชาเขยี วหลงจ่งิ ฉาช้า ๆ เพื่อสูดความ
มีพ่อค้าชื่อ เสิ่นว่านซาน (Shen Wansan) ค้าขายพืชไร่                      หอมเขียวของชารสเลิศแดนกังหน�ำ พร้อมชมทิวทัศน์แสงสี
แพรไหม เครื่องเคลือบ ฯลฯ ทางเรือ ไปตามล�ำคลอง                             ยามราตรขี องสะพานคอู่ นั แสนงาม
เช่ือมต่อกับทะเลสาบไท่หู คลองต้าว่ินเหอและหลิวเหอ
ลอ้ มรอบโจวจวง  จนกจิ การคา้ รงุ่ เรอื ง ท�ำใหช้ มุ ชนโจวจวง                 หลังอาหารมื้อค่�ำแสนอร่อยน่าจดจ�ำ ผมเดินขึ้นไปบน
ขยายตัวมากขึ้นตามล�ำดับ และได้รับการจัดต้ังเป็นต�ำบล                      สะพาน เห็นจันทร์เพ็ญนวลแจ่มคืนวันวิสาขะลอยขึ้นกลาง
ในสมยั จกั รพรรดคิ ังซแี ห่งราชวงศช์ งิ                                   ทอ้ งนภาสนี ำ้� เงนิ ใส ไรเ้ มฆาและหมดู่ าว  ภาพจนั ทราทล่ี อย
                                                                          เหนือสะพานคู่ บ้านริมน�้ำ แสงไฟ โคมแดง และต้นหลิวที่
   โจวจวงเปน็ หมบู่ า้ นกลางน�้ำขนาดเลก็  มพี นื้ ทเี่ พยี ง ๐.๔          ทอดกงิ่ โน้มลงไลผ้ วิ นำ�้ อันเรียบน่ิงสะทอ้ นเงาบนผืนน�ำ้
ตารางกิโลเมตร ลักษณะคล้ายดอกบัวลอยอยู่บนผิวน้�ำ มี
ลำ� คลอง ๒ สายไหลจากเหนอื ลงใต ้ และอกี  ๒ สายไหลจาก                         ระหว่างนั่งทอดอารมณ์บนสะพาน แม้ผู้คนจะเดิน
ตะวันตกสู่ตะวันออก เป็นตารางสี่เหล่ียมคล้ายตัวอักษรจิ่ง                   ขวักไขว่ไม่ขาดสาย แต่เพลานี้...ใจผมคล้ายนิ่งสงบ อยาก
井 ลงสู่ทะเลสาบหนานหูอันกว้างใหญท่ างตอนใต้                                ดม่ื ดำ่� กบั มา่ นรตั ตกิ าลอนั แสนงามนไี้ ปจนตราบนานเทา่ นาน

   ล�ำคลองท้ัง ๔ สายน้ีแบ่งพื้นท่ีโจวจวงออกเป็นหลาย                          เวลาน้ันเอง คุณลุงคุณป้าคู่หน่ึงเดินขึ้นมาบนสะพาน
เกาะ ล�ำคลองจึงเปรียบเสมือนโครงกระดูกที่ชาวโจวจวง                         คณุ ลงุ นงั่ ลงบนขอบสะพานแลว้ สซี อเออ้ ห ู คณุ ปา้ ยนื เคาะไม้
ใชส้ ญั จร  รา้ นคา้ และบา้ นเรอื นปลกู สรา้ งอยรู่ มิ น�้ำ มสี ะพาน      ขับขานบทเพลงเก่าอันแสนโรแมนติก  ท่อนหนึ่งของ
ศิลาโบราณหลากรูปทรงเชื่อมต่อบ้านเรือน ร้านค้า และ                         บทเพลงคุ้นหู “ซื่อจี้เกอ” (Siji Ge) หรือ “บทเพลงส่ีฤดู”
ถนนไดอ้ ยา่ งเหมาะเจาะ  แมจ้ ะดเู รยี บงา่ ยแตก่ ม็ ากดว้ ยลลี า          ของอดีตนักร้องหญิงอมตะ โจวเสวียน (Zhou Xuan)  
โบราณ ซงึ่ สว่ นใหญส่ รา้ งขน้ึ ในสมยั ราชวงศห์ มงิ และชงิ ทยี่ งั        น�ำ้ เสยี งของคุณปา้ ยงั คงจับจติ จับใจผมมาถงึ ทุกวนั น้.ี ..
คงอนรุ ักษไ์ วเ้ ปน็ อย่างดี

   เดมิ โจวจวงมสี ะพานศลิ ามากถงึ  ๓๐ สะพาน  ปจั จบุ นั

92 นิตยสารสารคดี  ฉบบั ที่ ๒๙๘ ธันวาคม ๒๕๕๒
   79   80   81   82   83   84   85   86   87   88   89