Page 78 - Skd 298-2552-12
P. 78
ขณะผมน่ังเรือแจวข้ามฟากทะเลสาบหยวนเป่า และ โรงแรมท่ีพักแม้ว่าสภาพเหมือนโรงเต๊ียมโบราณ หรือ
ย่างเท้าเข้ามาถึงหมู่บ้านอูเจิ้นตะวันตกท่ีกว้างขวางกว่า ๓ เค่อจ้าน คือภายนอกเป็นสถาปัตยกรรมบ้านเรือนแบบ
ตารางกโิ ลเมตร บนพน้ื ท ่ี ๑๒ เกาะ เชอื่ มตอ่ กนั ดว้ ยสะพาน ดั้งเดิมอายุกว่า ๒๐๐-๓๐๐ ปีเช่นท่ีเห็นในภาพยนตร์จีน
ศลิ ากวา่ ๗๐ สะพาน กป็ ระหนง่ึ ตกอยใู่ นหว้ งภวงั ค ์ ยอ้ นอดตี ย้อนยุค ทว่าภายในกลับสะอาดเอ่ียม เพียบพร้อมด้วย
กลับไปในราวปลายสมัยราชวงศ์หมิงหรือต้นราชวงศ์ชิง เครอื่ งอำ� นวยความสะดวกทนั สมยั ครบครนั ระดบั สถี่ งึ หา้ ดาว
เม่อื ราว ๔๐๐ ปกี ่อนอย่างคาดไมถ่ งึ โดยเฉพาะทงอนั เคอ่ จา้ น (Tong-an Kezhan) หรอื โรงเตยี๊ ม
ทงอันท่ีพวกเราพัก ซ่ึงต้ังอยู่บนเกาะส่วนตัวของโรงแรม
หมบู่ า้ นเลก็ ๆ แหง่ น ้ี รฐั บาลจนี ไดท้ มุ่ งบประมาณหลาย ทางด้านตะวันออกสดุ ของหมู่บ้าน
รอ้ ยลา้ นหยวนบรู ณะปรบั ปรงุ เพอื่ ใหเ้ ปน็ ตน้ แบบการอนรุ กั ษ์
หมู่บ้านโบราณริมน้�ำที่มีขนาดใหญ่ท่ีสุดของประเทศ และ เดินไปตามทางเดินหินแกรนิตอันเก่าแก่บนถนนซีจ้า
เปิดให้นักท่องเท่ียวเข้าเยี่ยมชมและพักแรมเมื่อปี ๒๐๐๗ ต้าเจีย (Xizha Dajie) ถนนสายหลักของหมู่บ้านที่ขนาน
ที่ผ่านมา จึงท�ำให้หมู่บ้านท้ังหมู่บ้านคล้ายราวถูกสตัฟฟ์ ไปกบั บา้ นเรอื นและลำ� คลองซซี อ่ื เหอ (Xishi He) ความยาว
ไว้ให้เป็นพิพิธภัณฑ์มีชีวิต ไม่ว่าจะเป็นบรรยากาศ การ ๑.๘ กิโลเมตร จะเห็นงานสถาปัตยกรรมจำ� หลักไม้งดงาม
ด�ำเนินชีวิต สถาปัตยกรรมบ้านเรือน อาคารสถานที่สมัย ทง้ั ลวดลายบนประต ู หนา้ ตา่ ง คานไม ้ คนั ทวย หรอื เชงิ ชาย
ราชวงศ์หมิงและชิงบนพ้ืนที่กว่า ๒๕๐,๐๐๐ ตารางเมตร อวดฝมี อื เชงิ ชา่ งอยา่ งไมซ่ �้ำแบบ ไปจนถงึ ปา้ ยชอ่ื รา้ นคา้ เดมิ
ถนน คูคลอง และสะพานเก่าแก่ทรงคลาสสิกอีกกว่า ๑ หลากหลายทย่ี งั คงอนรุ กั ษไ์ วม้ เิ ปลย่ี นแปร ในเวลาเดยี วกนั
หม่ืนตารางเมตร ได้รับการบูรณะและอนุรักษ์ไว้ดั่งในยุค ยามทอดมองผนื นำ้� จากบนสะพานหรอื ทา่ เรอื กเ็ หน็ แตธ่ าราใส
โบราณ ไหลรินกบั ฝูงปลา มองไม่เห็นสง่ิ ปฏิกลู ในน�้ำแม้แต่น้อยนิด
ท่ีน่ีไม่มีเสียงเครื่องยนต์ใด ๆ ไม่ว่ารถยนต์ เรือยนต์ ยามคำ่� นงั่ เรอื แจวชมแสงสปี ระดบั ตามบา้ นเรอื นรมิ น้�ำ
ให้ระคายหู ไม่มีแม้กระทั่งจักรยานให้ต้องหลบหลีก การ ตน้ ไม ้ หลงั คา สะพาน หรอื ใตถ้ นุ บา้ นเหนอื ลำ� คลอง คลอเคลา้
เดินทางในหมู่บ้านริมน้�ำอูเจิ้นตะวันตกอาศัยวิถีโบราณ ดว้ ยเสยี งขบั ขานเพลงหวาน ๆ จากฝแี จวรนุ่ ลายคราม ทา่ ม
โดยเรือแจว เรือพาย และการเดินเท้าบนแผ่นศิลาท่ีย่�ำเดิน กลางความสงัด มีเพียงเสียงน้�ำรินไหลกระทบไม้แจวกับ
กันมาหลายสิบช่วั คนจนเรยี บเงา เงาจนั ทรน์ วลแจม่ บนผวิ นำ้�
ร้านรวงท่ีอยู่ริมน�้ำล้วนตกแต่งบรรยากาศให้เหมือน ครน้ั พอรงุ่ สาง กอ่ นอาทติ ยแ์ รกแยม้ เดนิ ไปตามทางเดนิ
เมื่อคร้ังอดีตอันรุ่งเรือง ท้ังร้านอาหารริมนำ�้ หรือคาเฟ่เก๋ ๆ ลดั เลาะบา้ นเรอื น ขา้ มสะพานสลบั ฟนั ปลาไปมา มองไปทาง
ริมสะพานศิลาน้อย เดินลัดเลาะเข้าไปด้านในยังได้เห็น ไหนก็เห็นแต่มุมสวย ยิ่งต้องแดดละมุนยามรับอรุณ เคล้า
โรงหมักซีอ๊ิวหอมชวี่ชางที่มีช่ือเสียงมากว่า ๑๕๐ ปี โรง สายหมอกจาง ๆ บนแผ่นน้�ำ ให้บรรยากาศท่ีอบอวลด้วย
ย้อมผ้าเฉ่ามู่ สีนำ้� เงินครามลวดลายโบราณ หรือร้านขนม ความงามกับความรืน่ รมยจ์ นยากจะลืมเลอื น
ท้องถ่ินกูเส่าปิ่ง รสชาติคล้ายขนมผิงท่ียังคงผลิตด้วย
กรรมวธิ สี ตู รดง้ั เดมิ และขายใหผ้ มู้ าเยอื นดว้ ยอธั ยาศยั ไมตรี บรรยากาศของหมู่บ้านอูเจิ้นตะวันตกท่ีผมได้สัมผัสน้ี
แม้บางคนจะบอกว่าขาดชีวิตชีวาและสีสันของชนบทจีนที่
ที่กลางหมู่บ้านยังมีโบราณสถานทางวัฒนธรรมที่ จะคึกคักและไร้ระเบียบไปบ้าง เพราะถูกรัฐบาลเข้าจัดการ
อนุรักษ์ไว้อย่างเรียบง่าย เช่นโรงอุปรากรกู่ซ่ีไถ หอสมุด ไปเสียหมดทุกอย่าง แต่อย่างน้อย ความสงบเรียบง่าย
เจาหมิงซูก่วน ที่ท�ำการไปรษณีย์อูเจ้ินต้ังแต่สมัยปลาย ท่ามกลางธรรมชาติของเมืองริมน�้ำแดนกังหน�ำในอดีตที่
ราชวงศ์ชิงที่ยังคงเปิดให้บริการ โรงภาพยนตร์กลางแจ้ง ได้ซมึ ซบั นย้ี งั ดกี ว่าถูกทำ� ลายไปด้วยความร้เู ท่าไมถ่ งึ การณ์
โรงหล่อกระทะทองเหลืองอ้ีชางที่มีประวัติก่อตั้งมาต้ังแต่ปี
๑๘๖๖ หออนุสรณ์ผู้มีช่ือเสียงของท้องถิ่น เช่น ข่งหลิงจิ้ง จากเมืองริมน�้ำในฝันอูเจ้ินตะวันตก ผมข้ามฟากกลับ
(Kong Lingjing) ประพันธกรเอกร่วมยุคสมัยกับหลู่ชว่ิน มาบนฝั่ง แล้วนั่งรถยนต์เพียงประมาณ ๑๐ นาทีก็มาถึง
(Lu Xun) และเหมาตุ้น (Mao Dun) มีตลาดกลางน�้ำที่ หมู่บ้านอูเจ้ินตะวันออกที่มีสถานท่ีน่าสนใจทางวัฒนธรรม
ชาวบ้านน�ำสินค้ามาซ้ือขายแลกเปล่ียนกัน และศาลเจ้า หลายแห่งใหเ้ ขา้ เย่ยี มชม
ท้องถิน่ ทย่ี งั คงอบอวลดว้ ยเปลวเทียนกล่นิ ธปู เปน็ ต้น
อูเจิ้นตะวันออกต่างจากด้านตะวันตก เพราะหมู่บ้านนี้
ยงั คงมคี นทอ้ งถน่ิ อยอู่ าศยั แมโ้ ดยสว่ นใหญจ่ ะเปดิ เปน็ รา้ น
86 นติ ยสารสารคดี ฉบับท่ี ๒๙๘ ธนั วาคม ๒๕๕๒