Page 101 - Skd 381-2559-11
P. 101
หมายความว่า ป่าใหอ้ าหาร
อาหารต่อชีวิตเราให้ยาวขึน้
ใชม้ ดี ผา่ กลางล�ำไผใ่ ชเ้ ปน็ รอ่ งไมเ้ สยี บหมใู นเมนู “ฉตั รย”่ี ซง่ึ ทำ� จาก ชาวอาขา่ ทนี่ ที่ ำ� เกษตรแบบไรเ่ ลอื่ นลอย ปลกู ขา้ วไร ่ ขา้ วโพด
หมูห่อใบตองหมักใส่เกลือและพริกค่ัว พร้อมกับตัดใบตะไคร้ม้วน เป็นพชื หลกั ปลูกงา ขา้ วฟ่าง ถั่ว พรกิ เปน็ พืชรอง
รอบปลายไมแ้ ลว้ มดั ปม จากนน้ั จงึ นำ� ไมเ้ สยี บหมไู ปยา่ งแบบสกุ พอดี
ไม่เกรียมมาก รสชาติเผด็ นิดเคม็ หน่อยก�ำลงั ดี “ก่อนหน้าน้ีเราปลูกพืชเชิงเด่ียว สิ่งที่ตามมาคือเกิดการ
ขาดแคลนอาหาร จึงต้องกลับมาปลูกแบบหมุนเวียน เราถือว่าท่ีน่ี
สดุ พเิ ศษสำ� หรบั เมนกู ลางลำ� เนาไพรวนั นค้ี อื “นำ�้ พรกิ อาขา่ ” เป็นเหมือนซูเปอร์มาร์เกต ออกไปตลาดเราเสียเงินซ้ือเพียงเกลือ
หรือที่ชาวอาข่าเรียกว่า “น้�ำพริกสับผลิเดาะ” อามาวไม่รอช้า น�ำ และพริกค่ัว” อาหลา หม่ีโป๊ะ ชายร่างสันทัดผิวสีแทน บอกเล่าถึง
พริกท่ีเด็ดไว้ระหว่างทาง ต้นหอม มะเขือเทศเผา ปลาสด ๆ จาก วิถอี าข่าในวันที่ผนั เปลี่ยนด้วยรอยย้ิมเป่ียมสขุ
ล�ำธารย่าง ลงต�ำในถว้ ยท่ีทำ� จากไม้ไผแ่ ละสากไมจ้ ากต้นกระถินปา่
ปรงุ รสดว้ ยเกลอื กบั พรกิ ควั่ รสชาตเิ ผด็ สะใจ กลน่ิ หอมของมะเขอื เทศ พืชที่ชาวอาข่านิยมปลูกกันมากคือ ผัก พริก ถ่ัว โดยปลูก
เผาตดั กับต้นหอมลงตวั ตามรั้วบ้าน หรือบริเวณใกล้แหล่งน้�ำ เวลาต้องการผักสดก็เก็บได้
สะดวก
“อาหารในป่า ถ้าไม่ท�ำกินในป่าก็ไม่อร่อย” ชายสูงวัยเอ่ย
ก่อนจะผายมือเปน็ สญั ญาณใหพ้ วกเราล้อมวงลงมือกินกนั ได้ ระหว่างเดินเก็บยอดฟักทองที่เล้ือยเก่ียวพันตามรั้วและ
ผักสะระแหน่ หญิงอาวุโสของหมู่บ้านป่าคาสุขใจ บูยูม อาซองกู่
กล่ินหอมของฮุ้นยุ้ยจ๋ายตลบอบอวลไปท่ัว ฉันไม่รอช้า ซด วัย ๕๘ บอกเล่าถึงภูมิปัญญาชาวอาข่าเร่ืองสมุนไพรจากป่าชุมชน
น�้ำร้อน ๆ ในหม้อก่อนเป็นกำ� ไรชีวิต เพราะมันช่างให้ความรู้สึกที่สุข และการเก็บเมล็ดพันธุ์ไว้ใช้ในฤดูกาลเพาะปลูกซ่ึงสืบทอดจากรุ่น
หอม อรอ่ ย ไปพร้อมกัน สู่รุน่
“ย่าส่า อาดือโอ่ว ฮ่อยู้ บีเหล่าโอะ” หมายความว่า ป่าให้ “เรารักษาพันธุ์พืชเพ่ือรักษาอาหาร ครัวนี้ท�ำให้ร่างกายเรา
อาหาร อาหารตอ่ ชวี ติ เราใหย้ าวขนึ้ อาปาเอย่ หลงั อาหารมอ้ื กลางวนั อมิ่ ท้อง อมิ่ ใจ”
ของเราจบลงดว้ ยรอยยิม้ ท่ีไมพ่ ออธิบายความรูส้ ึกในตอนนัน้
แสงอาทติ ยล์ อดผา่ นรอ่ งไมไ้ ผ่ เพม่ิ ความสวา่ งใหแ้ กค่ รวั ใน
อาข่าอาหาร บ้าน บูยูมเริ่มลงมือท�ำเมนูลาบสมุนไพรหรือ “ลาบอาข่า” ด้วยการ
หั่นตะไคร้ ตามด้วยผักชี พริกสด กระเทียม ส่วนกระทะกลมท่ีมี
ถัดจากหมู่บ้านหล่อโยมาเพียง ๑๐ กิโลเมตร ก็จะพบชาว หมบู ดตง้ั วางบนเตาถา่ นรอ้ นระอ ุ เธอหยบิ ผกั สมนุ ไพรมาปรงุ รสดว้ ย
อาข่าท่ีอาศัยอยู่ในหมู่บ้านป่าคาสุขใจ อ�ำเภอแม่ฟ้าหลวง จังหวัด มะนาว พรกิ คว่ั เกลอื ใสล่ งถว้ ยไมไ้ ผ ่ กลน่ิ หอมคละคลงุ้ มาจากเมนู
เชียงราย บา้ นบนเนินเขาเรียงรายเหมือนระลอกคล่ืน ตัวบ้านไมไ้ ผ่ แสนธรรมดาท่นี อ้ ยคนจะมีโอกาสได้สมั ผสั
ยกสงู จากพนื้ ดนิ สกั เมตร มบี นั ไดสามถงึ หา้ ขน้ั เสาบา้ นเปน็ ไมเ้ นอ้ื แขง็
ฝาบา้ นปดิ ฟากไมไ้ ผ่ หลงั คามงุ ตบั หญา้ คาทค่ี ลมุ ยาวลงมาจนเกอื บ “ปา่ คอื ชวี ติ ” คอื สงิ่ ทชี่ าวอาขา่ พยายามสอื่ สารแกผ่ มู้ าเยอื น
ตดิ พน้ื ไมม่ หี นา้ ตา่ ง ในบา้ นตงั้ เตาไฟสองเตาสำ� หรบั ปรงุ อาหารและ อยา่ งฉนั ตลอดการเดินทางคร้ังน้ี
ต้มน้�ำชาเลย้ี งแขก
พระอาทิตย์เริ่มลาลับดับแสง ขณะที่เสียงเหล่านกบินลัด
ขุนเขากลับถิ่นท่ีพักบ่งบอกช่วงเวลาส้ินสุดของวัน แต่ทว่าฤดูกาล
แห่งชีวิตยังคงด�ำเนินต่อไปไม่จบส้ินบนยอดเขาแห่งดอยแม่สลอง
เชน่ เดยี วกบั วถิ วี ฒั นธรรมและอาหารของชาวอาขา่ ทจี่ ะสบื ทอดสง่ ตอ่
ไปยังรุน่ ลกู ร่นุ หลาน
พฤศจิกายน ๒๕๕๙ 99