Page 44 - Skd 381-2559-11
P. 44

P e r s o n   	

            

     นักออกแบบฟารม์ สขุ

     หากสถาปนิกคือผู้มีส่วนชี้เป็นช้ีตายส่ิง                                เมื่อเรียนจบ  ฝ้าย-ลภัสรดา ยศฐา  จึง                หิมพานต์ ยางพารา และกฤษณา มาทดลอง
     แวดลอ้ ม                                                           กลับบ้านสานต่อฝันที่โหยหา  ชวนพ่ีชายคน                  ผลิตอาหารกินเอง  โดยใช้เมล็ดพันธุ์พ้ืนถิ่น
     ไร่อินทรีย์ Farm FamFai ต�ำบลในเวียง                               รองสมคั รโครงการ “WWOOF Japan” ซงึ่ เปดิ                และเมลด็ พนั ธจ์ุ ากญปี่ นุ่ อยา่ งผกั สลดั  ผกั กาด
     อำ� เภอเมอื งน่าน กค็ อื รูปธรรมน้ัน                               รับอาสาสมัครไปแลกเปล่ียนวัฒนธรรมกับ                     ผักโขม  วาซาบิ  หัวไชเท้าสีม่วง  พริกหนุ่ม
     ในวันที่จังหวัดน่านเต็มไปด้วยปัญหา                                 เจ้าของไรอ่ อรแ์ กนิกเปน็ เวลา ๓ เดือน                  ฟักทอง  ข้าวโพด  ถ่ัวต่าง ๆ  ไปจนผลไม้อย่าง
     กลุ่มนายทุนเข้ามาป้อนอาชีพปลูกข้าวโพด                                                                                      ขนุน  มะปราง  มัลเบอร์ รี  ฯลฯ  แปลงหนึ่งจะ
     เลี้ยงสัตว์โดยมีรัฐบาลช่วยส่งเสริม  แล้วเรา                            “ในบรรดาฟาร์มทั้งห้าเมืองท่ีเราอยู่  มี             ปลูกสามส่ีชนิด  โดยประยุกต์ระบบเกษตร 
     ก็อุดหนุนเนื้อสัตว์เหล่านั้นเป็นอาหารผ่าน                          โฮสต์คนหนึ่งท�ำเกษตรแบบ  biodynamic                     ชวี พลวตั กบั องคค์ วามรตู้ ดิ ดนิ แตอ่ นิ เตอรแ์ บบ
     ข้าวมันไก่  ขาหมู  สเต๊ก  ฯลฯ    น่ายินดีท่ีมีคน                   agriculture-เกษตรชีวพลวัต  อาศัยปฏิทิน                  เพอร์มาคัลเชอร์  (permaculture)  จัดวางรูป 
     รุ่นใหม่ให้ความรู้สึกกับเบ้ืองหลังอาหารท่ี                         เพาะปลูกหรือเก็บเกี่ยวโดยใช้หลักโคจรของ                 แบบภูมิสถาปัตย์  ใช้ทรัพยากรในพ้ืนที่ผลิต
     ไม่เป็นธรรม  โดยปรับตนเป็นผู้ผลิต  ลดการ                           ดวงตะวันและดวงจันทร์ที่เชื่อว่าอิทธิพลของ               พลงั งานเพอ่ื ลดการใชน้ ำ้�  โดยนำ� ทอ่ นซงุ  กงิ่ ไม ้
     อดุ หนุนเน้ือสัตว์                                                 เดือนมืด-เดือนหงายมีผลต่อคน  สัตว์  พืช  ซึ่ง           ใบหญ้า  กองบนฐานแปลงผัก  ปลูกผักบน 
     อาจเพราะรู้เห็นจากการเติบโตมาท่าม                                  มีน้�ำหล่อเล้ียงภายใน    อย่างเวลาคนโบราณ               เนินน้ัน  ซึ่งเธอใช้รากไม้ของต้นสักท่ีตัดขาย
     กลางธรุ กจิ ของพอ่ แมท่ ท่ี ำ� ฟารม์ ไกส่ ง่ ใหน้ ายทนุ            ตัดไม้ในป่าจะเลือกตัดวันเดือนมืดเพราะมี                 แล้วเป็นวัสดุขึ้นโครง  ปล่อยให้พืชรับสาร
     รายใหญ่                                                            แรงดึงดูดให้เกิดน้�ำน้อยกว่าเดือนหงาย  พอ               อาหาร  ความชื้น  จากอินทรียวัตถุด้านล่าง
     หรือเพราะมีปัญหาระบบย่อยอาหาร                                      ตัดปุ๊บไม้ก็แห้งเร็ว  มอดไม่กิน  และยังได ้             ตามธรรมชาติ
     กนิ เนอื้ สตั วแ์ ลว้ รสู้ กึ อดึ อดั จงึ หนั มากนิ มงั สวริ ตั ิ  ไม้แข็งอีก    หรือการปลูกผักอินทรีย์ก็ท�ำให้
     ตั้งแต่อายุ  ๑๙  ปี  เป็นเหตุให้เริ่มหาข้อมูล                      เกษตรกรได้รับพลังชีวิตต่างกัน  พืชที่ได้รับ                 “เราเข้าสวนทุกวัน  ขุดดิน  เพาะต้นกล้า
042  เกี่ยวกับวิธีปลูกผักรูปแบบต่าง ๆ  พอวันหยุด                        แสงอาทิตย์เต็มที่ย่อมท�ำให้คนกินแข็งแรง                 ดว้ ยตวั เอง เรยี นรสู้ ตู รตา่ ง ๆ จนพบวธิ ที เี่ หมาะ
                                                                        ตา่ งจากพชื ทถี่ กู เรง่ ใหเ้ ตบิ โตอยา่ งผดิ ธรรมชาติ  กับพื้นท่ี    ชีวิตแบบน้ีดีมากเลย  ครอบครัวเรา 
     ก็ออกตา่ งจงั หวดั หดั ใช้ชีวิตกบั เกษตรกร                         คนกินก็พลอยได้รับพลังชีวิตน้อยลง  น่ีเป็น               ได้กินอาหารดี ๆ  หม่าม้าได้ใช้เป็นวัตถุดิบท�ำ
     กระทั่งเม่ือเรียนสาขาสถาปัตยกรรม                                   ศาสตร์โบราณท่ีคนไทยก็รู้  แต่เกษตรกรสมัย                ขนมบริการลูกค้าที่ร้านกาแฟของครอบครัว 
     มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุร ี                             ใหม่มองข้ามเพราะเช่ือว่ายาฆ่าแมลงหรือปุ๋ย               ท่ีเหลือขายแบบผักสด  คนซ้ือจึงแน่ใจได้ว่า
     มโี อกาสฝกึ งาน ๔ เดอื นกบั บรษิ ทั รบั ออกแบบ                     เคมใี ห้ผลผลิตเรว็ กวา่ ”                               เป็นผลผลิตมาตรฐานเดียวกับที่เราผลิตให้
     ระดบั ห้าดาวในกรงุ เทพฯ รบั งานหรู ฟ่มุ เฟือย                                                                              คนในครอบครวั กิน”
     วัสดุธรรมชาติ  ทุ่มเงินเพ่ือให้ได้สิ่งที่ดีที่สุด                      หลงั หอบแรงบนั ดาลใจศาสตร-์ ศลิ ปแ์ หง่
     มาใช้  ผ่านการแปรรูป  ใช้ทรัพยากรโลกอย่าง                          กสิกรรมธรรมชาติกลับจากญ่ีปุ่น  เธอเริ่ม                     บรเิ วณเดยี วกนั ของ “Farm FamFai” ยงั  
     ส้ินเปลือง  ยิ่งตอกย�้ำให้เธอเข้าใจวิถีท่ีดีดห่าง                  ออกแบบชีวิตด้วยต้นทุนจากครอบครัว  ขอ                    จัดสรรพ้ืนที่เล้ียงสัตว์  โดยพ่ีชายอายุห่างกัน 
     จากความร้สู ึก                                                     แบ่งพื้นท่ี  ๒๐  ไร่จากทั้งหมดท่ีมีอยู่  ๖๐  กว่า       ๒ ปีเป็นผดู้ ูแล
                                                                        ไร่  ซ่ึงเป็นสวนป่าปลูกไม้สักสลับกับมะม่วง 
                                                                                                                                    “ผมเรียนจบคณะบริหารธุรกิจ  สาขา
                                                                                                                                อสงั หารมิ ทรพั ย ์ เคยทำ� งานเกยี่ วกบั โลจสิ ตกิ ส์
                                                                                                                                ถา่ นหนิ ทก่ี รงุ เทพฯ ๒ ป ี ทงั้ เครยี ดและท�ำงาน
                                                                                                                                ไมเ่ ปน็ เวลา กวา่ จะถงึ บา้ นเทย่ี งคนื  ไดเ้ งนิ เยอะ 
                                                                                                                                แต่ไมค่ ุ้มกับสขุ ภาพทเ่ี สยี ไป”

                                                                                                                                    พอน้องสาวมาบอกเล่าความฝัน เฟม-
                                                                                                                                ณัฐดนัย ยศฐา  จึงเห็นดี  ตัดสินใจลาออก 
                                                                                                                                จากงานประจ�ำเพ่ือร่วมเดินทางไปญี่ปุ่นใน 
                                                                                                                                โครงการ “WWOOF Japan” ศกึ ษาเรอื่ งเกษตร 
                                                                                                                                ที่ตงั้ ใจจะกลบั มาทำ� ดว้ ยกัน

                                                                                                                                    เมื่อความฝันเบ่งบานเต็มท่ีพร้อมความ
                                                                                                                                สะดวก สองพน่ี อ้ งจงึ เรมิ่ เนรมติ พน้ื ทมี่ รดกของ
                                                                                                                                ครอบครัว

                                                                                                                                    “ผมไม่มีความรู้เร่ืองสัตว์มาก่อน  อาศัย
                                                                                                                                ความชอบท่ีคลุกคลีกับฟาร์มไก่มาตั้งแต่เด็ก

     Living Green
   39   40   41   42   43   44   45   46   47   48   49