ซอกแซกประจำเดือนมิถุนายน

@พบกับ "นายรอบรู้" อีกครั้งในเดือนแห่งฤดูฝน ช่วงนี้ดอกไม้ใบหญ้าระบัดใบเขียวชอุ่ม ทำให้นึกถึงดอกเข้าพรรษาที่ย่าน อำเภอพระพุทธบาท ที่กำลังออกดอกบานสะพรั่ง ชาวบ้านเขาเก็บมาใส่บาตร จนกลายเป็นประเพณีตักบาตรดอกไม้

@นกหนูปูปลาอันเป็นสหายรอบข้างนายรอบรู้ส่งข่าวแว่วมาว่า ขณะนี้การท่องเที่ยวแบบโฮมสเตย์ หรือแบบที่นักท่องเที่ยวได้เข้าไปใช้ชีวิต เป็นส่วนหนึ่งของครอบครัวในชุมชน กำลังเดินทางสู่ห้วงเหวลึกเบื้องหน้า เพราะความไม่พร้อมของชาวบ้านเจ้าของชุมชนนั่นเอง

@อันที่จริงเรื่องอย่างนี้ "นายรอบรู้" ได้ยินมานานแล้ว อย่างบ้านคีรีวงศ์ ซึ่งเป็นชาวสวนสมรมในนครศรีธรรมราช ได้รับการส่งเสริมการท่องเที่ยวให้เป็นหมู่บ้านในรูปแบบโฮมสเตย์ดังกล่าว ข่าวกระพือตามหน้าสื่อออกไปเพียงชั่วข้ามคืน ผู้คนก็หลั่งไหลเข้าไปในชุมชน มีเงินสะพัดในชุมชน เมื่อระบบการจัดการไม่ดี ความขัดแย้งเรื่องผลประโยชน์จึงเกิดขึ้น จากชุมชนชาวสวนที่เกื้อหนุนถ้อยทีถ้อยอาศัยกัน จนมีบางคนขนานนามให้เป็น "ยูโทเปีย" เมืองในฝัน จนถึงวันนี้ไม่รู้ว่าเป็นตายร้ายดีอย่างไร แฟน ๆ "นายรอบรู้" คนใดที่รู้ดีส่งข่าวมาเล่าให้ฟังบ้าง

@ในกรณีของบ้านปลายโพรงพาง อำเภออัมพวา จังหวัดสมุทรสงคราม ก็เกิดปัญหาเช่นเดียวกับบ้านคีรีวงศ์ มีที่มาที่ไปคล้ายกัน แต่เพิ่งเกิดขึ้นเมื่อไม่นานมานี้ เงินทองอันเกิดจากการท่องเที่ยวที่ไหลมาเทมาอย่างที่ไม่เคยปรากฏมาก่อนในหมู่บ้าน เม็ดเงินแทนที่จะตกกับหมู่บ้าน กลับไปตกอยู่กับใครบางคน ปัญหาความขัดแย้งร้าวฉานจึงเกิดขึ้นในหมู่บ้าน นี่ยังไม่นับรวมถึงต้นทุนทางวัฒนธรรมที่ต้องสูญเสียไปกับการท่องเที่ยว ชาวบ้านบางคนต่อต้านกระทั่งตัดถางป่าลำพูหน้าบ้าน ซึ่งนักท่องเที่ยวสนใจมาเดินชมอยู่ทุกวัน เขาไม่รู้ว่าจะรักษาลำพูไว้เพื่อใคร รู้แต่เพียงนักท่องเที่ยวเป็นคนแปลกหน้า ที่เข้ามาสร้างปัญหา รบกวนความเป็นส่วนตัวให้หายไป

@เรื่องโฮมสเตย์กำลังเป็นปัญหาหนักอกทั้งชาวบ้านเจ้าของชุมชน และนักวิชาการที่สนใจศึกษาปัญหาชุมชน เรื่องนี้นายรอบรู้มีความเห็นว่า ปัญหาเกิดจากความไม่พร้อมในระบบการจัดการในชุมชน และนี่คือปัญหาอันเกิดจากการท่องเที่ยวอีกรูปแบบหนึ่งนั่นเอง

@อีกเรื่องหนึ่งที่เป็นข่าวครึกโครมในเวลานี้ ก็เห็นจะเป็นเรื่องเมืองการค้าปลอดภาษี เดิมทีรัฐบาลทักษิณเตรียมจะประกาศให้ทั้งภูเก็ตและเชียงใหม่เป็นเมืองการค้าปลอดภาษี เพื่อหวังดึงนักท่องเที่ยวให้เข้ามาเที่ยวมากขึ้น แต่ตอนนี้เปลี่ยนใจแล้ว โดยจะอนุญาตให้เปิดร้านค้าสินค้าปลอดภาษีได้ทั่วประเทศ ...ก็ไม่ทราบว่าจะดูดเงินจากกระเป๋านักท่องเที่ยวได้กี่มากน้อย เท่าที่นกหนูปูไก่ที่คาบข่าวมาบอก "นายรอบรู้" นั้น เขาว่าหากจะเพิ่มปริมาณนักท่องเที่ยวและหาเงินจากนักท่องเที่ยว ก็ทำได้ไม่ยาก ภูเก็ตนั้นเป็นเมืองยอดนิยมของนักท่องเที่ยว แต่ขณะนี้มีเที่ยวบินที่บินตรงไปยังภูเก็ตน้อยเกินไป ทุกวันนี้มีสายการบินไทยเพียงสายการบินเดียวที่บินมายังภูเก็ตทุกชั่วโมง ถึงเที่ยงคืนก็หมดแล้ว นักท่องเที่ยวจำนวนหนึ่งที่ตั้งใจมาเกาะภูเก็ต ต้องตกค้างอยู่ที่กรุงเทพฯ ถ้าอำนวยความสะดวกในเรื่องนี้ได้ นักท่องเที่ยวก็จะมาภูเก็ตมากขึ้น เม็ดเงินก็ย่อมหลั่งไหลมาเป็นเงาตามตัว

@ที่ผ่านมานี้โชคชะตาได้พาให้ "นายรอบรู้" ได้ไปเยือนประเทศสิงคโปร์อีกครั้ง เป็นช่วงเวลาสั้น ๆ ไปคราวนี้ไม่ได้ไปทำงาน ไปชาร์จแบตให้สมองจึงพอมีเวลาที่จะเก็บตกเรื่องราวมาฝากกัน

@บ้านเมืองสิงคโปร์น่าเดินเที่ยวมากกว่าในกรุงเทพฯ บ้านเรา ตามถนนต่าง ๆ มีต้นไม้ขนาดใหญ่ยักษ์หนาแน่น มลภาวะไม่ค่อยมี รู้สึกได้ถึงความเบาสบายตัวระหว่างที่อยู่ที่นั่น เพราะเขาใช้รถมวลชนโดยเฉพาะรถไฟใต้ดินเป็นส่วนมาก รถยนต์จึงมีวิ่งบนท้องถนนน้อย การจราจรจึงไม่คับคั่ง และเมื่อรวมเอาศิลปะวัฒนธรรมของสิงคโปร์ ซึ่งถ้าจะว่าไปแล้วสู้ไทยไม่ได้เลย แต่เขาก็จัดการได้ดีอย่างมีระบบ อย่างย่านชาวอินเดีย หรือย่านชาวจีน ซึ่งคล้ายย่านเยาวราช พาหุรัดของเรา แต่ของเรามีชีวิตวิญญาณมากกว่าเขา แต่กลับดูของเขาน่าสนใจกว่า เขาจัดการตั้งชุมชนที่อยู่อาศัยมีความเป็นระเบียบ ไม่มีสายไฟระโยงระยาง จึงได้เห็นความงามของสถาปัตยกรรมตึกเก่าได้อย่างเต็มตา

@ อ้าว ! ใครอยากรู้เรื่องเกี่ยวกับวังบางขุนพรหม ฟังทางนี้ เป็นนโยบายของผู้ว่าแบงก์ชาติ หรือ ม.ร.ว. จัตุมงคล โสณกุล ซึ่งเป็นเลือดเนื้อเชื้อไขของเจ้าของวัง ซึ่งก็คือสมเด็จฯ เจ้าฟ้าบริพัตรสุขุมพันธ์ กรมพระนครสวรรค์วรพินิต หลังจากที่เปิดตำหนักใหญ่ให้ชมแล้ว คราวนี้จะเปิดตำหนักสมเด็จพระปิตุจฉาเจ้าสุขุมาลมารศรี ซึ่งเป็นพระมารดาของสมเด็จฯ เจ้าฟ้าบริพัตรสุขุมพันธ์ฯ ระหว่างวันที่ ๒๙ มิ.ย.-๒๘ ก.ค. ศกนี้ เปิดให้ชมเฉพาะวันเสาร์ ในเวลาราชการเท่านั้น แต่ถ้าใครสนใจฟังการบรรยายเรื่องราวเกี่ยวกับวังแห่งนี้ โดยผู้ทรงภูมิก็เชิญฟังได้ในวันพุธที่ ๑๑ ก.ค. สนใจ โทร. ๒๘๓-๕๒๘๖

@สุดท้ายก่อนจากกันขอให้คนไทยอย่าได้พานพบกับพิษเศรษฐกิจรอบต่อไปเลย ....สาธุ