Page 114 - SKD-V0402.indd
P. 114
ไม้อ่อน
ยังดัดง่าย
ก็แก่ลงจนอุ้มไม่ไหว พ่อบอกตรง ๆ ว่าอย่าเรียนต่อเลย ฟัง สิ่งที่สมบูรณ์แล้วโดยแท้ก็มีควำมบกพร่องอยู่
แล้วเจ็บปวดมาก เหมือนชีวิตถูกพรากจากศักยภาพ เราฝัน สิ่งที่บกพร่องอยู่แท้จริงอำจสมบูรณ์แล้วในตัว
อยากเป็นหมอ และการเรียนเป็นสิ่งที่ท�าให้ภูมิใจว่าท�าได้ดี “แพรวเริ่มเห็นคุณค่าของตัวเองอีกครั้งก็เพราะได้อ่าน
ผลการสอบในโรงเรียนเซนต์จอห์นได้ที่ ๑, ๒, ๓ มาตลอด หนังสือเยอะท�าให้กลายเป็นคนรักการเขียน และเริ่มต้น
ตอนรู้ว่าจะเดินไม่ได้จึงไม่เสียใจเท่ารู้ว่าจะไม่ได้เรียน เขียนนิยายในปี ๒๕๕๑ ตอนนั้นอายุ ๒๐ ปี ครอบครัว
ที่ผ่านมามีพ่อแม่คอยช่วยเหลือจึงไม่ได้นึกถึงวันที่เขาแก่ลง เริ่มมีหนี้สินจากการรักษาแพรวนี่ละ เลยคิดอยากเขียน
แต่สุดท้ายแพรวก็เข้าใจนะ เราต้องมีส่วนร่วมรับผิดชอบ หนังสือหาเงินแบ่งเบาภาระ พ่อก�าลังป่วยเป็นโรคเบาหวาน
ตัวเอง และคิดว่าร่างกายแบบนี้เรียนต่อคงไม่ได้เอาวิชา น้องสาวก�าลังเรียนปริญญาตรีต้องใช้จ่ายค่ากิจกรรมต่าง ๆ
ไปใช้อะไร มาวันนี้รู้แล้วว่าคิดผิด พอได้รู้จักคนพิการที่มี ที่ผ่านมาเราเอาเงินเก็บที่พ่อแม่สะสมไว้ให้ในส่วนของน้อง
ความรู้ความสามารถ มีงานประจ�าท�ามากมายยิ่งเสียดาย มาซื้อเครื่องช่วยหายใจ ทุกบาททุกสตางค์ของครอบครัว
ที่เมื่อก่อนครอบครัวเราไม่รู้ว่าสังคมภายนอกเป็นอย่างไร” ใช้จ่ายไปกับค่ารักษาเราเยอะมากแล้ว เราก็โตขึ้นทุกวัน
เมื่อช่วงเวลาของเด็กหญิงสู่เด็กสาวไม่ต้องพึ่งแผน ขณะที่พ่อแม่แก่ลง ถ้าไม่เริ่มท�าอะไรสักอย่างคงน่าละอาย
112
การศึกษาในระบบ วิถีก็เปลี่ยน มากหากอนาคตน้องต้องมาท�างานหาเงินเพื่อเลี้ยงดูเราต่อ
“ตอนยังใช้มือได้วัน ๆ ก็เล่นเกม วาดรูป พอเสร็จแล้ว จากพ่อแม่อีก อย่างไรแพรวจะต้องพยายามเขียนหนังสือ
มันก็เบื่ออีก ตั้งแต่ไม่ได้ไปโรงเรียนท�าให้แพรวเริ่มเก็บตัว หาเงินจ้างพี่เลี้ยงมาดูแลตัวเอง ต้องอยู่ให้ได้ด้วยตัวเอง”
ไม่อยากออกจากบ้าน ไม่กล้าโทร.หาเพื่อนบ่อย ๆ จึงสะสม ในวันที่กล้ามเนื้อมือ-นิ้วยังพอหยิบจับได้ เธอใช้วิธี
ความเครียด เก็บกด หงุดหงิดง่าย ทะเลาะกับครอบครัวด้วย หาข้อมูลเขียนนิยายจากหนังสือ กระทั่งอ่อนแรงลงจน
ความเอาแต่ใจ ก่นด่าโชคชะตาไม่พอยังโทษกรรมพันธุ์จาก ไม่อาจถือเองจึงอาศัยค้นคว้าจากอินเทอร์เน็ตรวมถึงถาม
พ่อแม่ที่ท�าให้เราเป็นแบบนี้ มีเวลาว่างก็ฟุ้งซ่าน ดีที่ตอนนั้น จากผู้รู้เพื่อให้ได้ข้อมูลน่าเชื่อถือรอบด้านเท่าที่จะท�าได้ แล้ว
ป้าแพรวท�างานอยู่ที่จุฬาฯ จึงยืมหนังสือมาให้อ่าน กลายเป็น ใช้สันนิ้วก้อยที่ยังพอขยับได้กดแป้นพิมพ์คอมพิวเตอร์
สิ่งที่ช่วยเยียวยา แพรวชอบอ่านทุกอย่างทั้งหนังสือแต่งรถ ด้วยความตั้งใจ แต่ละวันที่ผ่านเธอพิมพ์งานได้อย่างมาก
ปริศนา แต่ติดนิยายที่สุด เวลาที่ด�าดิ่งไปกับเรื่องราวนั้น ๆ หนึ่งถึงสองหน้า สะสมจนครบปีจึงปิดต้นฉบับนิยายเรื่องแรก
จะมีความสุขมาก โลกของตัวอักษรท�าให้ลืมปัญหารอบตัว” ส�าเร็จ หลังส่งให้ส�านักพิมพ์พิจารณาแล้วจะเริ่มต้นงาน
เธอเริ่มจากแสวงหาสิ่งภายนอกเป็นเครื่องตอบแทน ชิ้นใหม่อย่างไม่รีรอ เป็นเช่นนั้นจนเสร็จสิ้นสี่เรื่อง แม้ไม่มี
ความว่างเปล่าในตนเอง ส�านักพิมพ์ใดติดต่อกลับเลย
โดยไม่รู้ว่าชีวิตที่ก�าเนิดจากเมล็ดพันธุ์ไม่สมบูรณ์ “แพรวไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากพยายามเขียนต่อไป
ก็ก�าลังรับการพัฒนารูปทรง วันหนึ่งที่ผลงานดีพอโอกาสก็คงมาถึงเรา”
กลางปี ๒๕๕๔ ธรรมชาติส่งบททดสอบท้าทายความ
แกร่งของเจ้าต้นกล้าอีกครั้ง
พ่อของเพทายป่วยหนักด้วยไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่
ไม่กี่วันต่อมาเธอก็ติดเชื้อนั้น ซ�้าร้ายยังอาการหนักกว่า
พ่อมากเพราะปอดติดเชื้อร่วมด้วยจึงต้องรักษาตัวอยู่
โรงพยาบาล ขณะที่ร่างกายแสดงผลเลวร้ายลงจนไม่
สามารถหายใจได้เอง พูดไม่มีเสียง ใบหน้าข้างซ้ายเริ่ม
ขยับยาก กินข้าวล�าบาก ดื่มน�้าก็ไหลออกมุมปาก