ชวนเที่ยวเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์
ดิฉันเป็นคน
อ. พัฒนานิคม จ. ลพบุรี ได้ติดตามผลงานของสำนักพิมพ์สารคดีเป็นครั้งแรก
คือ เที่ยวทั่วไทยไปกับ "นายรอบรู้" จ. เชียงใหม่ เพราะวางแผนกับเพื่อน
ๆ ว่าจะไปเที่ยว จ. เชียงใหม่ ในช่วงปิดเทอมของปี ๒๕๔๔
เลยเตรียมหาข้อมูลการท่องเที่ยว ได้หนังสือไม่ผิดหวังเลยค่ะ
ข้อมูลในหนังสือละเอียดดีมาก
ได้อ่านเจอตรงที่ให้เสนอข้อมูลใหม่และข้อมูลท่องเที่ยว
ก็เลยอยากจะเขียนมาค่ะ เริ่มจากที่คำขวัญท่องเที่ยวของ
จ. ลพบุรี แต่เดิม คือ"วังนารายณ์คู่บ้าน ศาลพระกาฬคู่เมือง
ปรางค์สามยอดลือเลื่อง เมืองแห่งดินสอพอง แผ่นดินทองสมเด็จพระนารายณ์"
แต่หลังจากที่ได้มีการสร้างเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ ซึ่งเป็นโครงการตามพระราชดำริ
จึงมีการแก้ไขเพิ่มเติมคำขวัญท่องเที่ยวใหม่ คือ "วังนารายณ์คู่บ้าน
ศาลพระกาฬคู่เมือง ปรางค์สามยอดลือเลื่อง เมืองแห่งดินสอพอง
เขื่อนป่าสักชลสิทธิ์เกริกก้อง แผ่นดินทองสมเด็จพระนารายณ์"
เนื่องจากบ้านของดิฉันอยู่
อ. พัฒนานิคม ซึ่งเป็นสถานที่ตั้งเขื่อนจึงอยากจะขอแนะนำการเดินทาง
ถ้าเริ่มจากสถานีขนส่ง จ. ลพบุรี สามารถเดินทางโดยรถโดยสารสายลพบุรี-วังม่วง
ค่าโดยสารคนละ ๒๘ บาท (รถโดยสารสีเขียวเป็นรถหกล้อ) ส่วนทางรถไฟจะสวยงามมาก
เพราะทางหลังเขื่อนจะมีสะพานรถไฟทอดเหนือน้ำ เป็นสะพานยาวเลยค่ะ
ความรู้สึกจะเหมือนลอยอยู่บนน้ำเลย ที่เขื่อนจะมีบริการรถลากชมเขื่อน
ค่าโดยสาร ผู้ใหญ่ ๒๐ บาท เด็ก ๑๐ บาท สามารถซื้อตั๋วได้บนที่ทำการร้านสวัสดิการ
เส้นทางจะพาวนรอบ ๆ ตัวเขื่อนและพาวิ่งชมไปบนแนวสันเขื่อน
ที่คาบต่อระหว่างเขตพื้นที่ จ. ลพบุรี และ จ. สระบุรี
ใช้เวลาประมาณ ๔๐ นาที
จุดชมวิวเขื่อนป่าสักฯ
ที่สวยงามและอยากแนะนำคือ บริเวณ อ. ท่าหลวง โดยใช้เส้นทางจาก
จ. สระบุรี มา อ. พุแค มาทางบ้านลำนารายณ์ ถึงทางแยกม่วงค่อม
เลี้ยวไปเส้นทาง อ. ท่าหลวง ก่อนถึงตัวอำเภอเราจะเจอเส้นทางที่มีจุดชมวิว
ให้จอดรถชมวิวได้ จุดนี้สวยมาก ยิ่งเวลาเย็นรอชมพระอาทิตย์ตกสวยจริง
ๆ และยังมีร้านค้าของชาวบ้านที่นำปลามาขาย สามารถซื้อเป็นของฝากกลับบ้านได้
อีกที่คือ
น้ำตกสวนมะเดื่อ ต. สวนมะเดื่อ อ. พัฒนานิคม เป็นน้ำตกที่เพิ่งเริ่มปรับปรุงเป็นแหล่งท่องเที่ยว
มีหลายชั้นด้วยกัน และยังเป็นเส้นทางศึกษาธรรมชาติอีกด้วย
บรรยากาศธรรมชาติมาก ที่ประทับใจคือ มีสุนัขนำทาง ตอนที่ดิฉันไปพอจอดรถเขาก็ตั้งหน้าตั้งตาวิ่งมาหา
เป็นสุนัขสีขาวขนปุยตัวโต แล้วก็วิ่งนำทาง พอแกล้งหยุดเดิน
เขาก็หยุดรอ น่ารักมาก พาเดินตามชั้นต่างๆ และหยุดพักกินน้ำตกรอเรา
ไปถึงก็มีพวกตามมาอีกสองสามตัว จะกลับก็มาส่งถึงรถ จึงให้ไก่ทอดเป็นรางวัลไป
ส่วนทุ่งทานตะวันของ
จ. ลพบุรี ใน อ. เมือง จะมีการจัดงานที่บริเวณเขาจันแลในช่วงต้นเดือนธันวาคม
และที่บริเวณอ่างเก็บน้ำซับเหล็ก ในส่วนของ อ. พัฒนานิคม
จะเป็นของชาวบ้านที่ปลูกและเก็บค่าเข้าชมท่านละ ๒ บาท
ข้อมูลมีเพียงเท่านี้ค่ะ
หากมีข้อมูลใหม่จะเขียนแนะนำอีก
(นิชรา ทองเย็น/ลพบุรี)
คุณนิชราอุตส่าห์เล่ามาอย่างละเอียดทั้งค่ารถและเส้นทาง
ใครยังไม่เคยคิดจะไปเที่ยวเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ ก็คงอยากไปคราวนี้
ลองไปตามที่คุณนิชราแนะนำ ได้ผลอย่างไรเขียนมาบอกเล่าเก้าสิบกัน
ส่วนใครอยากได้ข้อมูลท่องเที่ยวจังหวัดลพบุรีและสระบุรีที่ครบถ้วน
รออีกสักเดือนหนึ่ง นายรอบรู้จังหวัดลพบุรี-สระบุรี ก็จะวางจำหน่ายแล้ว
สำหรับผู้ชื่นชอบการเดินทางโดยทางรถไฟ
มีรถไฟนำเที่ยวพิเศษ ขบวนกรุงเทพฯ-เขื่อนป่าสักฯ ทุกวันเสาร์-อาทิตย์
และวันหยุดราชการ ค่าโดยสาร ๒๐๐ บาท ออกจากสถานีหัวลำโพงเวลา
๗.๓๐ น. ถึงเขื่อนป่าสักฯ เวลา ๑๒.๐๐ น. และกลับจากเขื่อนป่าสักฯ
เวลา ๑๔.๔๐ น. มาถึงหัวลำโพงเวลา ๑๘.๐๐ น.
เวลาไปยืนชมเขื่อนป่าสัก
นอกจากความสวยงามของทิวทัศน์ผืนน้ำและฟ้ากว้างแล้ว อย่าลืมนึกถึงความเป็นมาของเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์
ที่ราษฎรหลายหมู่บ้านต้องเสียสละผืนดินอันเป็นบ้านเกิด
และต้องเปลี่ยนแปลงวิถีชีวิตและความเป็นอยู่ไป เพื่อให้โครงการนี้สามารถดำเนินการได้จนสำเร็จ
บางหมู่บ้านเคยทำนา แต่เมื่ออพยพไปที่อยู่ใหม่ แม้จะได้เงินชดเชยมา
แต่ก็ไม่มีที่พอให้ทำนา ต้องเปลี่ยนวิถีชีวิตที่เคยทำมาชั่วชีวิต
ซึ่งไม่ใช่เรื่องง่ายอย่างที่หลายคนคิด
|