Page 109 - Skd 298-2552-12
P. 109

ลองจินตนาการต่อไปว่า ส�ำหรับผลึกรูปแผ่น                                  เส้นโค้ง CZA จะเกิดขึ้นได้ก็ต่อเม่ือดวงอาทิตย์
หนึ่ง ๆ น้ัน แสงอาจมีทางเลือกเข้า-ออกได้หลาย                             มีมุมเงยสูงจากขอบฟ้าไม่เกิน ๓๒.๓ องศาเท่านั้น
ลักษณะ นั่นคือผลึกรูปแผ่นยังสามารถท�ำให้เกิด                             เพราะท่ีค่านี้เส้นโค้ง CZA จะอยู่ใกล้จุดจอมฟ้าและ
การทรงกลดไดอ้ ีกหลายรปู แบบ ท่ีควรรจู้ กั ไดแ้ ก่                        จางลงจนมองไม่เห็น  ท้ังน้ีเราจะเห็นเส้นโค้ง CZA
                                                                         ได้ชัดเจนเมื่อดวงอาทิตย์มีมุมเงยในช่วง ๑๕-๒๕
   เส้นโคง้ เซอรค์ ัมซีนทิ ลั                                            องศา และจะชดั เจนทส่ี ุดท่มี ุมเงย ๒๒ องศา

   หากแสงพุ่งเข้าผิวด้านบนแล้วหักเหภายในผลึก                                                                                             แผนภาพแสดงรงั สีของแสง
รูปแผ่นทะลุออกไปทางผิวด้านข้าง ก็จะเกิดการ                                                                                               เทซ่ที อำ� รใ์คหัม้เกฮดิอเไสรน้ซโนั คทง้ ัล
ทรงกลดรปู แบบหนง่ึ ทงี่ ดงามชวนมองอยา่ งยง่ิ  เพราะ
จะเกิดเป็นเส้นโค้งสีรุ้งอยู่เหนือดวงอาทิตย์ โดยมี
ส่วนโค้งหงายขึ้น (กลับทิศทางกับรุ้งกินน�้ำ) และ
สแี ดงอย่ดู ้านใกล้ดวงอาทติ ย์

   เส้นโค้งนี้มีลักษณะเสมือนหน่ึงเป็นส่วนโค้งของ
วงกลมท่ีอยู่รอบจุดยอดฟ้าหรือจุดจอมฟ้า (zenith)
ซงึ่ เปน็ จดุ เหนอื ศรี ษะ จงึ เรยี กวา่  เสน้ โคง้ เซอรค์ มั ซนี ทิ ลั
(circumzenithal arc)  ค�ำว่า circum มีรากศัพท์
เดียวกับ circle ท่ีแปลว่าวงกลม  เส้นโค้งน้ีมีช่ือย่อ
คือ CZA  โดยบางคนมองว่าเส้นโค้ง CZA น้ีเหมือน
ยิ้มขนาดยกั ษบ์ นทอ้ งฟา้

แผนภาพแสดงรงั สี
เขสอ้นงโแคสง้ งเทซ่ีทอรำ� ค์ใหมั ้เซกนี ิดิทลั
เส้นโค้งเซอรค์ มั ซีนิทลั

                                                                            เสน้ โคง้ เซอร์คมั ฮอไรซนั ทัล                               เส้นโคง้
                                                                                                                                         เซอรค์ ัมฮอไรซนั ทัล
                                                                            หากแสงพงุ่ เขา้ ผวิ ดา้ นขา้ ง แลว้ หกั เหภายในผลกึ
                                                                         รปู แผน่ ทะลอุ อกไปทางผวิ ดา้ นลา่ ง กจ็ ะเกดิ การทรงกลด
                                                                         อีกรูปแบบหนึ่งท่ีมีขนาดใหญ่อลังการ กล่าวคือเป็น
                                                                         แถบสรี งุ้ ทว่ี างตวั อยใู่ นแนวระดบั  (ไมโ่ คง้ ) โดยอยใู่ ต้
                                                                         ดวงอาทิตย์ลงมาราวสองฝ่ามือ (กางมือจนสุด วัด
                                                                         ระยะจากปลายนิ้วโป้งถึงปลายนิ้วก้อย)  เส้นโค้ง
                                                                         ที่เกิดข้ึนจึงเรียกว่า เส้นโค้งเซอร์คัมฮอไรซันทัล
                                                                         (circumhorizontal arc)  ค�ำว่า horizontal
                                                                         หมายถงึ  อยใู่ นแนวระดบั นนั่ เอง  การทรงกลดแบบนี้
                                                                         จะเกิดได้ก็ต่อเมื่อดวงอาทิตย์ต้องมีมุมเงยอย่างน้อย
                                                                         ๕๘ องศา

                                                                         ฉบบั ท่ี ๒๙๘ ธนั วาคม ๒๕๕๒                                      นติ ยสารสารคดี 117
   104   105   106   107   108   109   110   111   112   113   114