Page 105 - Skd 298-2552-12
P. 105
ดร. บญั ชา ธนบญุ สมบัติ
ส�ำนักงานพฒั นาวทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยแี ห่งชาติ
อีเมล : buncha2509@gmail.com เวบ็ ไซต์ : http://portal.in.th/buncha
เกิดจากแสงอาทิตย์ซ่ึงพุ่งผ่านผลึกน้�ำแข็งแล้วหักเห สำ� หรับสีร้งุ เกดิ จากการท่แี สงสีต่าง ๆ หกั เหผ่าน ใแเกสนบา้นผรบททลวารกึงงงกนเกลดำ�้ ลมแินดขข๒ง็อ๒ทง่ทีแอส�ำงใงศหาเ้ กดิ
(เปลี่ยนแปลงทิศทาง) ไปจากเดิมเป็นมุม ๒๒ องศา ผลกึ ดว้ ยมมุ ทแี่ ตกตา่ งกนั เลก็ นอ้ ย แสงสแี ดงเบยี่ งเบน แกผารนทภรางพกแลสดดงการเกิด
โดยแสงพุ่งเข้าทางหน้าผลึกด้านข้างหน้าหนึ่ง แล้ว ไปจากแนวเดิมน้อยท่ีสุดจึงปรากฏอยู่ทางด้านใกล้ แบบวงกลม ๒๒ องศา
ออกจากหน้าผลึกด้านข้างอีกหน้าหน่ึง (โปรดดูภาพ ดวงอาทติ ย ์ (ขอบใน) สว่ นแสงสมี ว่ งเบยี่ งเบนไปมาก
ประกอบ) ทสี่ ดุ จงึ ปรากฏอยทู่ างดา้ นไกลดวงอาทติ ย ์ (ขอบนอก)
ผลกึ นำ�้ แขง็ ดงั กลา่ วนส้ี ว่ นใหญอ่ ยใู่ นเมฆระดบั สงู
ทเ่ี รยี กวา่ ซรี โ์ รสเตรตสั (cirrostratus) ซงึ่ มลี กั ษณะ
คล้ายหมอกจาง ๆ แผ่กระจายออกไปทางด้านข้าง
ในแนวระดับ แต่เน่ืองจากผลึกจ�ำนวนมหาศาลเอียง
ตวั ในทศิ ทางตา่ ง ๆ อยา่ งสมุ่ ๆ ในเมฆชนดิ น้ี ผลกค็ อื
แสงทพ่ี งุ่ ออกมาจากผลกึ (หรอื จากเมฆ เมอ่ื มองภาพ
รวม) จะเบยี่ งเบนจากแนวแสงตกกระทบเปน็ มมุ ๒๒
องศาในทศิ ทางใดกไ็ ด ้ หมายความวา่ ผสู้ งั เกตจะมอง
เห็นแสงที่หักเหมาจากทิศทางต่าง ๆ ซึ่งท�ำมุม ๒๒
องศาเทียบกับดวงอาทิตย์ นั่นคือการทรงกลดจะ
ปรากฏเปน็ รปู วงกลม
รทงัพ่ี สุง่ ขี ลองงมแาสขงนอาานทกิตันย์
ทิศทางชี้ตรงไปยังดวงอาทิต ์ย รังสตี ามแนวเดิม
รผปูลแึกทนง่�ำ้ แข็ง
รงั สีทห่ี ักเห ทตาศิ มทแานงขวเอดงมิ รงั สี
ออกไป
การเบยี่ งเบนไป
อ๒ย๒่างอนงศอ้ ยา
ผสู้ งั เกต สเกลโดยประมาณ (ไมโครเมตร)
ฉบับท่ี ๒๙๘ ธนั วาคม ๒๕๕๒ นิตยสารสารคดี 113