Page 108 - Skd 298-2552-12
P. 108
โลกธรรมชาติและวิทยาการ คลน่ื ความคิด
ภซเมันาอ่ื พดวปอ็นั กรทาเี่ หก๑นฏ๗อืกพฟาร.า้ ยณอ.า่ ์ ๒วไ๕ท๕ย๒ ผลึกน้ำ� แขง็ รูปแผน่ ชอ่ื ท ่ี ๒ ของแถบแสงนค้ี อื มอ็ กซนั (mock sun)
เวลา ๑๗.๑๘ น. แปลตรงตัวว่า ดวงอาทิตย์เลียนแบบ ช่ือนี้ท�ำให้ผม
ต(ภนั าจพันท:รวก์ นั ลู เพ) ญ็ นึกถึงเพื่อนบล็อกเกอร์คนหน่ึง เขาเล่าว่าตอนเด็ก ๆ
เขาเคยเห็นจุดแสงสว่างข้างดวงอาทิตย์อีก ๒ จุด
ซ่ึงสว่างมาก ท�ำให้เห็นเสมือนว่ามีดวงอาทิตย์ถึง
๓ ดวง พอไปเล่าส่ิงท่ีเห็นให้ผู้ใหญ่ฟังก็ไม่มีใครเชื่อ
ท้ังนี้ค�ำอธิบายท่ีเป็นไปได้มากท่ีสุดก็คือ เขาได้เห็น
ปรากฏการณม์ ็อกซันน่ันเอง
สว่ นชอื่ สดุ ทา้ ยนนี่ า่ รกั ทส่ี ดุ คอื ซนั ดอ็ ก (sundog)
ซ่ึงเป็นการเปรียบเปรยว่า แถบแสงท่ีเกิดขึ้นทั้งทาง
ซ้ายและขวาน้ันเป็นเสมือนสุนัขท่ีเฝ้าติดตามเจ้านาย
ของมนั (คอื ดวงอาทติ ย)์ อยไู่ มห่ า่ งกายนน่ั เอง (แตล่ ะ
แถบแสงเรียกว่า sundog แต่ถ้าหมายถงึ แถบทง้ั สอง
ขา้ งจะเขยี นวา่ sundogs)
ผลึกน�้ำแข็งรูปแผ่นท�ำให้เกิดปรากฏการณ์
ซนั ดอ็ กไดอ้ ยา่ งไร ? กรอบดา้ นลา่ งนใ้ี หค้ �ำอธบิ ายไว้
โดยละเอียด โดยสรุปก็คือ ซันด็อกเกิดจากการที่
แสงทะลุผ่านผลึกรูปแผ่นเข้าทางผิวด้านข้าง จากนั้น
ก็หักเหภายใน แล้วทะลุออกไปทางผิวด้านข้างท่ีอยู่
ถดั ไปอีก ๒ หน้า
กลไกการเกิดซันด็อก/พาร์ฮเี ลยี /ม็อกซนั
ซนั ดอ็ กเกิดจากผลึกน้ำ� แขง็ รงั สีของแสงเบ่ยี งเบนไป ๒๒ องศา ผลึกทุกผลึกหกั เหรังสีของ
รปู แผน่ หกเหล่ยี มที่ล่องลอย หรอื มากกว่า แสงสแี ดงเบย่ี งเบน แสงอาทติ ย์ แต่เราเห็นแสง
ดอย้านู่ในกอวา้ากงอายศ่ใูโกดลย้เผควิ ียหงนแา้นวระดับ ไปน้อยท่ีสดุ ทำ� ใหแ้ ถบแสงซนั ด็อก ท่ีพุ่งเข้ามายงั ตาเราเทา่ นนั้
มขี อบดา้ นในสแี ดง ผททเมั้งำ�ล่อื มหกึ วุมมทดั ดท่ีจ๒อำ�า๒ยใกหทู่ดอ้เ่รีวกงะงศดิ ดอาแับาสท(คงหิตวเรายหือม์แลมสลา่ างูนะกเผี้ดกลยี วกึวา่ ก)ัน
รงั สีของแสงท่ที ำ� ใหเ้ กดิ มุม ๒๒ องศาหรอื มากกวา่ ผลรวมของแสงทเี่ กิดจาก
ซันดอ็ กเคลอ่ื นท่ีผา่ น ผลึกเหล่านี้ท�ำใหเ้ กดิ ซันด็อก
ผวิ หน้าผลกึ ทเี่ อยี งท�ำมมุ
๖๐ องศาซึ่งกนั และกนั
116 นิตยสารสารคดี ฉบบั ที่ ๒๙๘ ธนั วาคม ๒๕๕๒