Page 99 - Skd 298-2552-12
P. 99

แหกปากร้องขอความช่วยเหลือ  ใครก็ได้...ใครก็ได้ช่วยเพื่อน                             หนูเอง”
ผมที ไม่ว่าร้องเท่าไร ขอความช่วยเหลือจนแทบไม่มีเสียงออก                                 ๒๖ ธันวาคม ๒๕๔๙ วันสุดท้ายท่ีอิสรภาพจบส้ินลง เม่ือ
มา ก็ยังไม่มีใครย่ืนมือที่สะอาดของเขามาช่วยเหลือเลยสักคน
ความเหนอื่ ยผสมความกลวั ... วนิ าทนี นั้ ใครเปน็ ใคร ใครจะตาย                        ศาลพิพากษาหนุ่มน้อยผู้รักสถาบันว่า...มีความผิดจริงทุกข้อ
หรอื มชี วี ติ อยรู่ อดไมม่ ใี ครสนใจ ชว่ั โมงนน้ั ทง้ั สองฝา่ ยคดิ หาทาง            กล่าวหา ศาลตัดสินให้อยู่ในสถานพินิจฯ เป็นระยะเวลาข้ันต�่ำ
เอาตวั รอดดว้ ยกนั ท้งั สนิ้                                                         ๒ ป ี ขัน้ สงู  ๔ ปี

   เขาวิ่งหนี ว่ิง...ล้มลุกคลุกคลานเหมือนกับสุนัขท่ีตื่นผู้คน                           น้�ำตาเขาไหลรินเป็นทางอาบแก้ม หยดน�้ำตาร่วงลงบน
วิ่งขึ้นสะพานลอย ในมือยังคงถือมีดไว้แน่นด้วยความโง่เขลา                              เกา้ อ ้ี หนมุ่ นอ้ ยทรดุ ลงนง่ั อยตู่ รงหนา้ ผพู้ พิ ากษา มองหนา้ พอ่ แม่
สายตาของเขากลอกมองซา้ ยทขี วาทเี หมอื นคนขาดสต ิ หนมุ่ นอ้ ย                         ดว้ ยแววตาทเ่ี ลอื่ นลอย พยายามควบคมุ สตอิ ารมณไ์ มใ่ หฟ้ งุ้ ซา่ น
วงิ่ หนดี ว้ ยความหวาดกลวั   ตำ� รวจ สน. แหง่ หนงึ่ ยกโขยงกนั มา                     เขายกมือขวาข้ึนมาปาดน้�ำตา เดินไปหาพ่อแม่และพูดด้วย
เกอื บหมดทง้ั โรงพกั  รวมทงั้ นกั ขา่ วและผคู้ นจำ� นวนมาก เหตกุ ารณ์                น�้ำเสียงท่ีเจ็บปวดว่า “ไม่เป็นอะไรนะครับ ไม่เป็นไร พ่อกับแม่
ครง้ั นน้ั นบั ไดว้ า่ เปน็ การตกี นั ครงั้ ใหญท่ ส่ี ดุ เลยทเี ดยี ว  ทา้ ยทส่ี ดุ  อย่าร้องไหน้ ะครบั  อย่ารอ้ ง ต้มั ไม่เป็นไร”
หนมุ่ นอ้ ยกโ็ ดนจบั
                                                                                        ไมม่ เี สยี งใดๆ นอกจากเสยี งสะอน้ื ของพอ่ แม่ ทง้ั สามกอด
   หลักฐานแน่นหนาจนดิ้นไม่หลุด ต�ำรวจฝากขัง ๑ วัน                                    ให้ก�ำลังใจกันและกัน ไม่นานนักแม่ก็พูดออกมาทั้งน้�ำตาว่า
๑ คืน ภาพแรกท่ีเขาเห็นคือพ่อกับแม่เดินมายืนเกาะลูกกรง                                “อดทนไวน้ ะลูก พ่อกับแมจ่ ะไปหาหนทู กุ อาทิตย”์
ร้องไห้ ปากร้องเรียกแต่ช่ือลูก น้�ำตาของตั้มเอ่อล้นเต็มสอง
เบา้ ตา มองแมด่ ว้ ยความสงสาร พยายามฝนื กลนื ความเจบ็ ปวด                               ส้ินเสียงก็มีบุรุษแปลกหน้ามาพาตั้มไปยังรถบัสสีน�้ำเงิน
พูดกับพ่อแม่ด้วยน�้ำเสียงที่ส่ันเครือว่า...“พ่อครับ แม่ครับ ตั้ม                     ติดลูกกรง เดินทางไปยังสถานพินิจฯ แห่งหน่ึงที่เขาไม่รู้จัก
ไม่เป็นอะไร ไม่ต้องเป็นห่วงนะครับ”  ภายในจิตใต้ส�ำนึกของ                             ไมเ่ คยคิดใฝ่ฝนั หรืออยากจะไป
ตั้มหวังเพียงว่าให้ความไม่สบายใจของพ่อและแม่ลดน้อยลงไป
บ้างกย็ ังดี                                                                         รถบสั ยงั คงวงิ่ ผา่ นตกึ รามบา้ นชอ่ ง ผา่ นผคู้ นจำ� นวนมากไปอยา่ ง
                                                                                     ไมม่ ที ส่ี นิ้ สดุ  เขาเรม่ิ รสู้ กึ วา่ ตวั เองเหมอื นนกทมี่ ปี กี  แตบ่ นิ ไปไหน
   ตลอดท้ังคืนแม่กับพ่อวิ่งเต้นเดินเรื่องขอยื่นประกันตัว                             ไม่ได้ ความรู้สึกของเขาตอนนั้นไม่ต่างอะไรกับนกที่น่าสงสาร
พร้อมกับรุ่นพี่อีกจ�ำนวนหนึ่ง วงเงินประกันตัวในตอนนั้น                               เมื่อรู้ว่าอีกไม่กี่ชั่วโมงข้างหน้าน้ีอิสรภาพจะถูกกลืนหายไปเม่ือ
๑๖,๐๐๐ บาท  เขาเหน็ ถงึ ความลำ� บากตรากตรำ� ของพอ่ แม ่ เขา                          ถึงสถานพินิจฯ แห่งน้ัน เสียงหัวใจของเขาเต้นดัง...ตุบ...ตุบ...
เริ่มส�ำนึกผิดและเข้าใจว่า ความรักที่พ่อแม่มีให้ลูกน้ันไม่ว่าลูก                     ตบุ ...ดังขึ้น แรงข้นึ เรอ่ื ยๆ
จะเปน็ ใคร ทำ� ผดิ อะไร พอ่ กบั แมก่ ย็ งั รกั สดุ หวั ใจ ถงึ แมว้ า่ ลกู จะ
เปน็  “อาชญากร”                                                                         ไมว่ า่ อะไรจะเกดิ ขน้ึ  เขาบอกกบั ตวั เองตลอดทางวา่ ...เรา
                                                                                     จะตอ้ งอยรู่ อด
   แสงอาทติ ยส์ าดสอ่ งผา่ นลกู กรงเขา้ มากระทบเปลอื กตาตม้ั
แสดงวา่ เชา้ วนั ใหมค่ บื คลานเขา้ มาแลว้  เขาสะลมึ สะลอื ลมื ตาขน้ึ                    ปึง...
ชา้ ๆ มองไปรอบตวั ไมเ่ หน็ ใครนอกจากพอ่ แมข่ องตวั เอง พอ่ แม่                          ต้ัมหลุดออกมาจากห้วงความคิด รถบัสเดินทางมาถึง
ยืนรออยู่หน้าห้องขัง น�้ำตาไหลอาบแก้มด้วยความสงสารลูก                                สถานพนิ จิ ฯ หนมุ่ นอ้ ยสงั เกตเหน็ ปอ้ มยาม ภาพแรกทเ่ี หน็ ทำ� ให้
เจ้าหน้าท่ีต�ำรวจเดินมาไขกุญแจ น�ำตัวเขาไปส่งบ้านแรกรับ                              เกิดความกลัวขึ้นในใจ ก�ำแพงหนาทึบสูงประมาณตึกสองชั้น
แห่งหน่ึง กว่าพ่อกับแม่จะด�ำเนินการยื่นประกันตัวเสร็จก็ปาไป                          ภายในมีรั้วไฟฟา้ สีเทา
เกอื บคอ่ นวนั                                                                          เดินผ่านโรงอาหารท่ีผู้คุมข้างในเรียกกันว่า “โรงเลี้ยง”
                                                                                     หอนอนมีท้ังหมด ๖ หอ แต่เปิดใช้เพียง ๕ หอ ตั้มถูกส่งตัวไป
   เขาได้ออกมาสัมผัสอ้อมอกของแม่อีกครั้ง น้�ำตาของต้ัม                               ยงั หอนอนท่ี ๑  เขาเดินผา่ นผคู้ นจ�ำนวนมากตรงไปกอดเข่าอยู่
ไหลเมื่อมือของแม่สัมผัสใบหน้า แม่กระซิบข้างหูด้วยความรัก                             ท่ีมุมหลังห้อง พยายามกลืนเสียงสะอ้ืนเข้าไปข้างใน ไม่แสดง
ว่า “ไม่เป็นไรนะลูก ไม่เป็นอะไร เด๋ียวพ่อกับแม่จะคอยดูแล                             ความอ่อนแอออกมาให้ใครเห็น
                                                                                        ถึงกระน้ันน�้ำตาของเขาก็ยังคลอเบ้าและหวาดผวาด้วย

                                                                                     ฉบบั ที่ ๒๙๘ ธนั วาคม ๒๕๕๒  นติ ยสารสารคดี 107
   94   95   96   97   98   99   100   101   102   103   104